“เพียงแค่คุณรับปากก็ดีแล้ว”
ปีศาจขาวยิ้มเยาะ ในแววตาแสดงความเย้ยหยัน เขามองว่า ที่ฉินเทียนพูดอ้อมค้อมขนาดนี้ ก็เพื่อจะไว้หน้าเท่านั้น
ในความเป็นจริง ก็ยอมศิโรราบให้กับอำนาจของตนแล้ว
ในใจเขาคิดว่า ไอ้สารเลว ปล่อยให้มึงมีชีวิตอยู่ต่ออีกสักหน่อย รอให้หัวหน้าตระกูลหยางขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำเสียก่อน ถึงเวลานั้น ก็คือวันตายของมึง!
“จำคำของคุณเอาไว้”
“หากคุณผิดคำพูด ได้ตายอย่างอนาถแน่!”
เขาพูดด้วยความเย็นชา และเขม่นตามองไปที่หม่าหงเทาอีกครั้ง ก่อนหันหลังเดินกลับออกไป
หม่าหงเทาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พี่เทียน พี่คงไม่สนับสนุนให้หยางหยวนชิ่งเป็นผู้นำจริงๆ ใช่ไหม?”
“ฉันว่านะ หยางหยวนชิ่งนั้นเป็นคนอกตัญญู เขาคิดจะหลอกให้ได้รับการสนับสนุนจากพวกเรา พอได้ตามหวังสมใจแล้ว ค่อยจัดการกับพวกเราต่อ”
ฉินเทียนหัวเราะและตอบว่า “ทำไมฉันจะไม่รู้หล่ะ”
“หยางหยวนชิ่งไอ้จิ้งจอกเฒ่า สิ่งที่เขาต้องการคือ สิ่งที่อยู่เบื้องหลังฉัน สองคะแนนเสียงจากนายท่านอานกับตระกูลจ้าวต่างหาก”
“ฉันพูดอย่างชัดเจนแล้วว่า ฉันเป็นแค่ตัวแทนในส่วนของฉันเท่านั้น ถึงเวลานั้น หากนายท่านอานกับตระกูลจ้าวไม่ยินยอมที่จะลงคะแนนเสียงให้กับเขา ฉันเองก็จนปัญญา”
หม่าหงเทาตกใจไปชั่วขณะ ก่อนที่จะอดหัวเราะออกมาไม่ได้
ถงชวนเกาหัวหยิกๆ และตอบกลับว่า “พี่เทียน หมายความว่ายังไงนะ? ฉันไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรเลย?”
“นายท่านอานกับจ้าวเทียนเผิง พวกเขาล้วนแต่เชื่อฟังพี่อยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”
ปรากฏหงเทาตอบอย่างยิ้มๆ ว่า “น้องถงชวน ทำไมนายถึงได้ซื่อแบบนี้ ฟังไม่ออกหรือว่า พี่เทียนเขากำลังใช้คำเล่นเกมกับหยางหยวนชิ่งอยู่?”
“พี่เทียนสนับสนุนหยางหยวนชิ่งด้วยวาจา แต่ไม่มีสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงเอง เขาก็แค่พูดไปอย่างงั้น”
“พอถึงเวลานั้น เพียงแค่ให้นายท่านอานกับจ้าวเทียนเผิง ‘ทำเป็นไม่เชื่อฟัง’ ยังไงก็จะเลือกพี่เทียน พี่เทียนเองก็จนปัญญาอยู่ดี”
ถงชวนตอบกลับอย่างตื่นเต้นว่า “พูดแบบนี้ พวกเราก็ได้หีบล้ำค่ามาอย่างฟรีๆ เลยหรือ?”
“หยางหยวนชิ่งช่างกล้าหาญมากเสียจริง หีบเงินหีบทองใบใหญ่เลยหล่ะ!”
ฉินเทียนยิ้มและพูดว่า “ยกขึ้นไปเถอะ ถ้าเป็นไปตามคาดล่ะก็ นี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น”
“เพื่อเป็นการหาเสียง ตระกูลอื่นๆ ที่เหลือคงไม่เฝ้าดูอยู่เฉยๆ หรอก พวกเรารอรับของกำนัลเลยแล้วกัน”
“จริงสิ โทรศัพท์หานายท่านอานกับจ้าวเทียนเผิงดีกว่า ไม่ต้องให้พวกเขารีบร้อนมาที่นี่”
“พวกเขาไม่มาหรอก ฉันเป็นโฆษกของพวกเขา วิธีนี้เท่านั้น ถึงจะได้รับของกำนัลไงหล่ะ”
ทุกคนต่างคาดไม่ถึงว่าฉินเทียนจะเลวร้ายได้ขนาดนี้ นั่งรอรับผลประโยชน์ ก็อดที่จะหัวเราะเสียงดังไม่ได้
……
ปีศาจขาวเสร็จสิ้นภารกิจ หลังจากขึ้นรถ ก็รีบโทรศัพท์รายงานหยางหยวนชิ่งทันที
หยางหยวนชิ่งได้ยินดังนั้นก็ดีใจมาก ถ้าได้รับการสนับสนุนจากฉินเทียน ก็เท่ากับว่าเขาได้รับสองคะแนนเสียงจากอานกั๋วกับตระกูลจ้าวแล้วอย่างแน่นอน รวมกับหนึ่งคะแนนเสียงของตัวเขาเองและ หนึ่งคะแนนเสียงจากตระกูลหม่า ยังมีอีกหนึ่งคะแนนเสียงจากตระกูลลิ
เขาก็มีห้าคะแนนเสียงแล้ว เกือบจะครึ่งหนึ่งของทั้งหมดแล้ว
จากนั้น เพียงแค่ดึงเอาตระกูลไหนก็ได้มาเป็นพวกอีกหนึ่งตระกูล ตำแหน่งผู้นำก็จะเป็นของเขาหยางหยวนชิ่งแล้ว!
“ปีศาจขาวนายรีบกลับมาให้เร็ว ฉันยังมีภารกิจสำคัญรอมอบให้นายอยู่!”
หยางหยวนชิ่งเดินไปเดินมาอยู่ในห้องอย่างตื่นเต้น เขากำลังคิดว่า ต่อไปอีกหนึ่งคะแนนเสียงที่จะต้องดึงมานั้น จะไปหาผู้รับผิดชอบสมาคมจากเมืองไหนต่อดี
เป่ยเจียงไม่ได้แล้ว เพราะว่ายู่หลิงหลงแห่งเป่ยเจียง เป็นศัตรูคู่อาฆาตของฉินเทียน
ในเมื่อเขาดึงเอาฉินเทียนมาเป็นพวกแล้ว ถ้านั้นยู่หลิงหลงจะต้องอยู่ฝ่ายตรงข้ามเขาแน่ๆ
ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงที่เหลือนั้นตระกูลเฉินกับตระกูลเจี่ยงก็เป็นพวกเดียวกัน จะดึงให้มาเป็นพวกเราด้วยกันก็คงไม่ได้
ถ้างั้นก็เหลือแต่ตระกูลจี้แห่งเมืองซื่อไห่ หลินตงแห่งเมืองตงหัว รวมทั้งเหยียนซิวแห่งเมืองฝูหลิง
ศักยภาพของ ตระกูลจี้คงไม่น้อยหน้าไปกว่าพวกเขา ยากที่จะจัดการ ดังนั้น ก็เหลือแต่เหยียนซิวแห่ง เมืองฝูหลิงแล้วหล่ะ
ทั้งสองตระกูลแม้ว่าจะมีความสามารถไม่ธรรมดา แต่ขอแค่ปีศาจขาวออกโรง ไปพร้อมกับของขวัญ กับกลวิธี “พระเดชพระคุณ” มันจะต้องสำเร็จแน่นอน!
ปีศาจขาวรู้สึกพอใจมาก แต่ไม่ทันสังเกตว่า ตั้งแต่ตอนที่เขาออกมาจากโรงแรม ก็ถูกสะกดรอยตามโดยคนบนรถคันหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามไกลกันออกไป
บนรถเป็นวัยรุ่นชุดดำสองคน พวกเขาเห็นปีศาจขาวขึ้นรถออกไปแล้ว ก็รีบโทรศัพท์รายงานผู้บังคับบัญชาทันที
หลังจากได้รับคำสั่งแล้ว ก็สตาร์ทรถ และรีบตามหลังรถของปีศาจขาวไปอย่างไม่ให้คลาดสายตา
เวลายี่สิบสองนาฬิกา รถบนท้องถนนก็น้อยลงบ้างแล้ว
พอมาถึงถนนสายเปลี่ยวเส้นหนึ่ง ห่างจากคฤหาสน์ของตระกูลหยาง ราวๆ สักประมาณห้ากิโล รถยนต์ไม่มีป้ายทะเบียนที่อยู่ด้านหลังก็เร่งความเร็วขึ้น จนแซงและมาหยุดอยู่ข้างหน้ารถคันที่ปีศาจขาวนั่งอยู่
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?” คนขับตกใจ
ปรากฏพูดอย่างอารมณ์เสียว่า “จะกลัวอะไร!”
“ในเมืองจิ่นหู จะมีคนกล้าแตะต้องพวกเราด้วยหรือไง?”
“อย่าลืมสิ ว่าฉันอยู่ที่นี่”
“ลงไปดูสิ!”
เขาพูดจบ ก็มีคนชุดดำลงมาจากรถคันข้างหน้า
“ปีศาจขาว พี่เทียนของพวกเราบอกว่าจู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่า มีบางเรื่องที่ยังบอกแกไม่ชัดเจน”
“เขารอคุณอยู่ในป่าข้างๆ นี้ เชิญแกไปพบสักหน่อยเถอะ”
“ฉินเทียน?” พอได้ยินคำพูดของคนชุดดำแล้ว ปีศาจขาวก็ขมวดคิ้ว เขามองไปยังป่าที่มืดครึ้มไกลๆ นั้น และถามด้วยความสงสัยว่า “ฉันพึ่งจะเจอเขาเมื่อครู่นี้ เขาอยู่ที่โรงแรมไม่ใช่หรือ? ทำไมจู่ๆ ถึงมาโผล่ที่นี่ได้?”
“เขามีธุระอะไรกับฉัน?”
คนชุดดำตอบอย่างเรียบเฉยว่า “พี่เทียนบอกว่า ที่โรงแรมคนพลุกพล่าน ความจริงเรื่องเกี่ยวกับการตายอย่างอนาถของน้องชายแก มันเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก เขาเลยรีบร้อนนั่งรถมารอพบแกก่อนที่นี่”
“ปีศาจขาว ไม่ใช่ว่าแกไม่กล้าไปพบพี่เทียนหรอกใช่ไหม?”
“ไอ้สารเลว!” ปีศาจขาวพลิกฝ่ามืออย่างแรง ลมหายใจระลอกหนึ่งราวกับปะทะเข้ากับหน้าอกของคนชุดดำนั้น
คนชุดดำร้องด้วยความเจ็บปวด กระอักเลือดออกมาทางปาก หยดลงบนพื้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
ปีศาจขาวลงจากรถ พูดอย่างเย้ยหยันว่า “ไอ้เจ้าหนูฉินเทียน นึกจะเล่นเกมอะไร!”
เขาพูดกับคนขับรถว่า “พวกแกรอฉันอยู่ที่นี่”
จากนั้นก็เดินมุ่งตรงเข้าป่านั้นไปเพียงลำพัง
ป่าอันเขียวชอุ่ม มีพื้นที่โล่งตรงกลาง มีหลุมฝังศพอันโดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางผืนหญ้าอันรกร้าง
ท่ามกลางความมืด มีบรรยากาศอันแปลกประหลาด แต่กลับไม่มีเงาคน
“ฉินเทียน โผล่หัวออกมาได้แล้ว!”
“น้องชายของฉันตายยังไงกันแน่ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ!” ปีศาจขาวตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ
รอบข้าง ยังคงเงียบสงัด ไม่มีเสียงตอบกลับ
ปีศาจขาวรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติ กำลังเตรียมตัวจะหนีกลับออกไป ทันทีที่หันหลัง จู่ๆ ก็รู้สึกถึงความผิดปกตินั้นทันที
“ใครหน่ะ?” เขาหันหลังอย่างพรวดพราด
มองเห็นด้านหลังของต้นไม้รอบๆ มีคนเดินออกมาสามคน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
ทั้งสามคนนั้นหน้าตาคล้ายคลึงกันมาก แม้กระทั่งดาบในมือของพวกเขาก็ยังเหมือนกัน สันของดาบมีหัวปีศาจรูปร่างประหลาด บนดาบนั้น มีลวดลายวิญญาณร้ายสีชาดแดงมองเห็นอย่างสะดุดตา
“พญายมสามตา!”
“เป็นพวกแกนั่นเอง!”
จำได้ว่า ทั้งสามคนนี้ เป็นผู้มีฝีมือที่ตระกูลเฉินเลี้ยงดูมา ปีศาจขาวก็ตื่นตระหนกตกใจ
พญายมสามตา เป็นสามพี่น้องท้องเดียวกัน
พี่ใหญ่พูดอย่างเรียบเฉยว่า “ปีศาจขาว หัวหน้าตระกูลเฉินของพวกเราชื่นชมแกมาก เขาให้พวกเรามาบอกแกว่า อยากให้แกออกห่างจากตระกูลหยาง และมาเข้าร่วมกับเขา”
“ค่าตอบแทนจ่ายให้เป็นสองเท่าที่ตระกูลหยางให้แก แกคิดว่ายังไง?”
ปรากฏตั้งสติและตอบอย่างยิ้มๆ ว่า “พวกเราต่างก็เป็นคนมีวิทยายุทธ รับเงินจากใคร ก็ทำงานให้คนนั้น แกคิดว่า ฉันจะทรยศอย่างงั้นหรือ?”
พี่ใหญ่พูดอย่างใจเย็นว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นพวกเราก็เป็นนายของตัวเองเหมือนกัน”
“ขอโทษด้วยนะ วันนี้แกต้องตายอยู่ที่นี่แล้วหล่ะ”