บทที่ 98 ยานจิงเกิดโกลาหล (2)
ส่วนในห้องโถงของตระกูลเอียน เอียนหม่านชวนพ่อของเอียนชิงเฉิงมองไปยังเอียนอานฉง พ่อของตนเองด้วยความเป็นกังวล: “คุณพ่อ ผมได้รับข่าวสารมาว่า ที่ยานจิงมีคนเริ่มที่จะลงมือกับชิงเฉิงแล้ว หรือว่าให้ผมไปตามตัวหล่อนกลับมาดีไหม! ”
เอียนอานฉงสีหน้าท่าทางเฉยชา: “ไม่เป็นไร ฉันได้ยินข่าวแล้วว่า พวกคนเหล่านั้นได้ถูกยอดฝีมือลึกลับคนหนึ่งสังหารทิ้งจนไม่เหลือแล้ว แม้แต่นักบู๊แดนในชั้นสูงสุดอย่างผางซื่อหยวนก็ถูกสังหารด้วยเช่นกัน ชิงเฉิงที่อยู่กับเฉินโม่นั้น ปลอดภัยเป็นอย่างมาก”
“อะไรนะ! ” เอียนหม่านชวนหน้าตาตื่นตะลึง: “ผางซื่อหยวนนั้นในช่วงสิบปีก่อนหน้านี้ก็เก่งกาจมีชื่อเสียงไปทั่วตะวันตกเฉียงเหนือแล้ว ยังสามารถสังหารเขาลงได้ด้วย หรือว่าข้างกายของเฉินโม่นั่น มีปรมาจารย์คนหนึ่งติดตามอยู่! ”
เอียนอานฉงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์: “สามารถที่จะสอนให้เด็กอายุสิบแปดปีกลายเป็นนักบู๊แดนในได้นั้น นอกจากปรมาจารย์บู๊แล้ว ยังจะมีใครอีกล่ะ? ดูเหมือนว่าศักยภาพของเฉินโม่ จะมากกว่าที่ฉันคาดคิดเอาไว้เสียอีก เขาคงจะเข้าไปเป็นศิษย์ในสำนักโบราณที่มีการสืบทอดมาอย่างยาวนานที่ไหนสักแห่งเป็นแน่ โดยปล่อยให้ชิงเฉิงอยู่กับเขาเพื่อกระชับความสัมพันธ์ ฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี”
……
เฉินโม่กับซังซังไม่ง่ายเลยที่จะผ่านพ้นสองค่ำคืนนี้ไปได้อย่างเงียบสงบ ส่วนค่ายกลรวมพลังทิพย์ของเฉินโม่นั้น ได้หมดฤทธิ์ลงไปแล้ว เป็นเพราะพลังทิพย์ในหินหยกสูญสิ้นไปจนหมดแล้ว
โดยที่เฉินโม่อยู่ห่างจากการบรรลุเข้าสู่ชั้นสองแดนรวมพลังนั้น ก็แค่เพียงอีกไม่กี่วันในไม่ช้าแล้ว แต่เงื่อนไขสำคัญก็คือจะต้องรีบตามหาหินหยกให้ได้โดยเร็ว เพื่อจัดวางค่ายกลรวมพลังทิพย์ขึ้นใหม่
วันนี้ คือวันเสาร์ เฉินโม่เตรียมตัวที่จะไปหาเฉินซงจื่อ จากนั้นก็จะไปที่บ่อนพนันหินเพื่อเสี่ยงโชค
เมื่อรู้ว่าเฉินโม่กำลังจะออกไปด้านนอก ซังซังจึงพยายามที่จะลากเอียนชิงเฉิงให้ติดตามไปกับเฉินโม่ด้วย หมดหนทาง เฉินโม่จึงต้องพาพวกเธอไปด้วย
ตั้งแต่ที่เฉินโม่ใช้หมัดเทพเทียนเสวียน กระบวนท่าที่ฟาดฟันผางซื่อหยวนขาดออกเป็นสองท่อนแล้ว สายตาของซังซังที่มองไปยังเฉินโม่นั้น ก็พลันเพิ่มความเคารพมากเพิ่มขึ้นอีก
เฉินโม่รู้ดีว่า ซังซังได้นับถือว่าตัวเขาเองเป็นปรมาจารย์บู๊คนหนึ่งแล้ว
เฉินโม่ไม่ได้ไปอธิบายชี้แจงอะไร ปรมาจารย์บู๊น่ะเหรอ? เหอะเหอะ!
เอียนชิงเฉิงพูดบ่นขึ้นเล็กน้อย เพราะเดิมทีวันนี้เธอไม่อยากที่จะออกไปเดินเล่น แต่กลับถูกซังซังลากตัวให้ติดตามเฉินโม่ออกมาด้วย: “ซังซัง เธอทำไมต้องให้ฉันติดตามไอ้คนแข็งทื่อนี้ด้วยล่ะ เธอรู้ไหมว่าเมื่ออยู่กับเขาเป็นเวลานานแล้ว ฉันอาจจะเกิดความเบื่อหน่ายจนเจ็บป่วยไม่สบายขึ้นได้นะ! ”
ซังซังมองไปยังเฉินโม่ที่เดินอยู่ด้านหน้าอย่างเป็นกังวล แล้วก็ทำมือแสดงท่าทางให้หยุดพูด: “คุณหนู คุณหนูพูดเสียงเบาหน่อยได้ไหม อย่าให้เขาได้ยินเลยเชียวล่ะ! ”
เอียนชิงเฉิงแปลกใจมากขึ้นไปอีก และสอบถามขึ้นว่า: “ซังซัง ช่วงนี้ทำไมเธอจึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยล่ะ? ฉันจำได้ว่าตอนที่เธอเพิ่งมาถึงนั้น ไม่ค่อยจะชอบหน้าเขาเลย! ตอนนี้ทำไมรู้สึกเหมือนว่าเธอจะเกรงกลัวเขาอย่างไรอย่างนั้น? บอกฉันมานะว่า เขารังแกเธอแล้วใช่ไหม? ”
ซังซังพลันตื่นตระหนกตกใจขึ้น กลัวว่าเฉินโม่จะโมโห: “เปล่าเลย ไม่ใช่แบบที่คุณหนูคิดสักหน่อย สรุปว่าต่อไปคุณหนูอย่าได้ไปล่วงเกินเขาอีกก็แล้วกัน สำหรับเหตุผลที่แท้จริงนั้นฉันไม่สามารถอธิบายให้คุณหนูฟังได้ แต่ครั้งนี้คุณหนูจะต้องเชื่อฟังคำของฉัน” ซังซังพูดเกลี้ยกล่อมไม่ยอมหยุด
เอียนชิงเฉิงเป็นเพียงคนธรรมดา แม้ว่าจะเคยได้ยินเรื่องราวของโลกฝึกบู๊มาบ้าง แต่สิ่งที่รับรู้นั้นมีขีดกำจัด ซึ่งไม่สามารถเข้าใจอะไรได้มากมายเท่ากับซังซังที่เป็นคนในโลกฝึกบู๊
ในใจของซังซังนั้น นับตั้งแต่ที่เฉินโม่ลงมือสังหารผางซื่อหยวน ก็ยืนยันหนักแน่นว่าเฉินโม่ก็คือปรมาจารย์แดนแปรภาพวิชาบู๊ขั้นสูงสุด
โลกฝึกบู๊มีคำพูดอยู่คำหนึ่งว่า ปรมาจารย์ เหยียดหยามไม่ได้!
ปรมาจารย์ เป็นเสมือนตัวแทนขั้นสูงสุดของโลกฝึกบู๊ทั้งหมด ถ้าหากในโลกมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นปรมาจารย์คนใดก็สามารถที่จะก่อตั้งตระกูลขนาดใหญ่ที่ไม่ด้อยไปกว่าตระกูลเอียนได้โดยง่าย เอียนชิงเฉิงกล้าดูถูกเหยียดหยามเฉินโม่ ในสายตาของซังซังแล้ว ก็เท่ากับว่าเป็นการยั่วยุสร้างความโมโหต่อปรมาจารย์ท่านหนึ่ง
ซังซังไม่ทราบว่าเฉินโม่คิดอย่างไรกับเอียนชิงเฉิง กังวลว่าหากเอียนชิงเฉิงยั่วยุให้เฉินโม่โมโหขึ้นแล้ว จะถูกเขาสังหารทิ้ง
แม้ว่าเอียนชิงเฉิงจะไม่เข้าใจว่าทำไมซังซังอยู่ดี ๆ ก็เกรงกลัวเฉินโม่มากขนาดนี้ แต่เธอรู้ดีว่าซังซังนั้นไม่เคยโกหกเธอ เลยทำได้เพียงพยักหน้าอย่างไม่ค่อยเต็มใจ: “พอเถอะ ฉันรู้แล้ว ต่อไปจะพยายามไม่ดุด่าเขาแล้ว”
ซังซังจึงเบาใจลงได้บ้าง
ผ่านไปไม่นานนัก ทั้งสามคนก็มาถึงหน้าประตูที่พักของเฉินซงจื่อ
เฉินโม่พูดขึ้นว่า: “มาถึงแล้ว! ”
จากนั้น ก็เคาะประตูบ้าน
บทที่ 97 ยานจิงเกิดโกลาหล (1)
บทที่ 99 พนันหิน(1)