กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 137

บทที่ 137

เจียงซวี่กล่าวว่า“ประมุขชิง นี่ท่านปล่อยให้ลูกน้องทำผิดโดยไม่ห้ามปรามขัดขวางอย่างนี้นะหรือ?”

ประมุขชิงเล่นขลุ่ยหยกอยู่ ในขณะที่เล่นนัยน์ตาแฝงไปด้วยความเย็นชาที่พินิจพิจารณา น้ำเสียงของเขาไพเราะ ราวกับน้ำพุที่หยดลง แต่พอกล่าวพูดออกมา กลับทำให้เจียงซวี่โมโหจนจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด

“ลูกน้องของข้าตรงไปตรงมาและจริงใจ แต่พวกเขาไม่เหมือนบางคนที่เป็นจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือ ข่มเหงคน ปรมาจารย์เจียงคิดว่าเขาจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไร?”

“ท่าน……นิกายเทพอสูรของพวกท่านไม่ง่ายที่จะต่อกรยั่วยุ เผ่าปีศาจของพวกข้าก็เช่นกัน หากจะต้องต่อสู้กันจนตกตายไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย พวกเจ้าก็ไม่ได้รับผลดี”

“อย่างท่าน?จะตายมันเร็วเกินไป บางสิ่งบางอย่างแม้แต่ดอกผลยังต้องคืน”

“หมายความว่าอย่างไร?”

“ความหมายตามตัว”

ไม่รอให้เจียงซวี่ตอบสนองมีปฏิกิริยากลับมา ค้อนขนาดใหญ่หนักกว่าหนึ่งร้อยชั่งของเริ่นหู่ได้มาทักทายเขาแล้ว

หากไม่ใช่เพราะคนชราสองคนข้างเจียงซวี่ที่มีไหวพริบและตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เกรงว่าเจียงซวี่จะถูกทุบจนตายด้วยค้อนแล้ว

ทั้งสองด้านเริ่มต่อสู้กันขึ้น

เดิมทีน่าหวาดกลัว คนของเผ่าปีศาจซึ่งมีศิลปะการต่อสู้ที่ลึกล้ำเหนือกำหนดหยั่งรู้ เผชิญหน้ากับผู้คนจากนิกายเทพอสูรนั้นแล้วเกือบจะถูกจับมัดห้อยและเฆี่ยนตี

เริ่นหู่กับฝูกวงนำกลุ่มผู้มีฝีมือสูงของนิกายเทพอสูร เพื่อบดขยี้เผ่าปีศาจและคนอื่น ๆ ด้วยกำลังเด็ดขาด

และตั้งแต่ต้นจนจบริมฝีปากของประมุขชิงยิ้มเลือนราง ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่ได้ลงมือ เลยมองขอบเขตของศิลปะการต่อสู้ไม่ออก

เซี่ยวอวี่เซวียนกลืนน้ำลายลงคอ บ่นพึมพำขึ้นว่า“ศิลปะการต่อสู้ของเผ่าปีศาจเก่งกล้าแล้ว คิดไม่ถึงว่าศิลปะการต่อสู้ของนิกายเทพอสูรจะยิ่งน่าตื่นตะลึง แม่สาวอัปลักษณ์ หากพวกเขาทำเพื่อจะแย่งชิงระฆังวิญญาณสะบั้น ข้าว่าพวกเรามอบมันให้กับพวกเขาเถิด พวกเราสองคนดูแล้วสู้พวกเขาไม่ไหวหรอก”

กู้ชูหน่วนค้ำคางมองการต่อสู้อย่างสบายใจ

“เอาให้พวกเขาหรือ?”

เหตุใดนางถึงรู้สึกว่านิกายเทพอสูรไม่ได้สนใจระฆังวิญญาณสะบั้น?

นักฆ่ากลุ่มก่อนหน้านี้ แววตาต่างจ้องมองไปที่ระฆังวิญญาณสะบั้นในอ้อมแขนของนาง เต็มไปด้วยความโลภ แต่ผู้คนในนิกายเทพอสูรไม่ได้มุ่งความสนใจไปที่ระฆังวิญญาณสะบั้นในอ้อมแขนของนางตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ส่วนใหญ่สนใจบนไหล่ที่บาดเจ็บของนางกัน

และมองเริ่นหู่กับฝูกวง พวกเขาอายุไม่มาก แต่ทว่าการเคลื่อนไหวเหี้ยมโหดคล่องตัว โดยเฉพาะฝูกวงซึ่งมีความเร็วที่น่ากลัวและไร้ความปรานีแม้แต่นางยังสู้ไม่ได้จริงๆ

คนของนิกายเทพอสูร ค่อนข้างมีความสามารถ

“ปังๆๆๆๆ….”

ผู้มีฝีมือระดับสูงที่เจียงซวี่พามาตายหมด คนชราสองคนก็ได้รับบาดเจ็บหนัก เจียงซวี่ก็ถูกห้อยแขวนและเฆี่ยน

เพียงแค่กระพริบตาก็มีรอยแผลแล้ว

เริ่นหู่อยากจะทุบเจียงซวี่ให้ตายด้วยค้อน แต่ทว่าประมุขชิงกลับเอื้อนเอ่ยขึ้นว่า“กลับไปบอก ผู้นำกองธงกล้วยไม้ด้วย มีบางสิ่ง ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะสัมผัสก็สามารถสัมผัสมันได้”

เจียงซวี่ทั้งตะลึงทั้งโมโห แต่ทว่าไม่กล้าตอบโต้ ทำได้พวกพาคนชราสองคนจากไป ไม่ได้มีความยโสโอหังอย่างเมื่อครู่แล้ว

เริ่นหู่กล่าวอย่างไม่พอใจว่า“ประมุข เหตุใดพวกเราจะต้องปล่อยพวกเขาด้วย?คนแซ่เจียงผู้นั้นมันไม่ใช่คนดีอะไรเลย”

ประมุขชิงขว้างกริชไป เริ่นหู่ถึงได้ถอยออก เพียงแต่ปากยังคงบ่นด่าพึมพำอย่างแผ่วเบา

ประมุขชิงยิ้มอ่อน สาวเท้าก้าวเดินไปหากู้ชูหน่วน

เซี่ยวอวี่เซวียนอดทนความเจ็บปวดขวางอยู่ด้านหน้าของกู้ชูหน่วน กล่าวด้วยเสียงสั่นเทาว่า“พวกเจ้าคิดจะทำอะไร?”

กู้ชูหน่วนกรอกตาขาวมองบนใส่เขา เดินผ่านเขามาอยู่ตรงหน้าประมุขชิง จากนั้นยิ้มและกล่าวว่า“พ่อรูปหล่อ ขลุ่ยหยกอันนั้นของท่านสวยมาก ให้ข้าได้หรือไม่?”

เซี่ยวอวี่เซวียนมึนงง

นี่มันเวลาไหนแล้ว นางยังอยากยั่วยวนผู้ชาย อีกสักครู่อย่าให้คนตบตายล่ะ

ประมุขชิงก้มศีรษะลง เหลือบมองขลุ่ยหยกในมือ ริมฝีปากกระตุกยิ้มอย่างอ่อนโยนขึ้น

“ยากที่คุณหนูสามตระกูลกู้จะชื่นชอบ เป็นความโชคดีของขลุ่ยหยกนี้มาก อ่ะ ข้าให้”

เซี่ยวอวี่เซวียนตะลึงงัน

ให้จริงหรือ?

กู้ชูหน่วนยังรับมาอย่างไม่เกรงอกเกรงใจอีก ซ้ำยังกล่าวยกยอปอปั้นว่า“ทุกส่วนของขลุ่ยหยกนี้ ผ่องใสลื่นเงา เป็นขลุ่ยที่ดี”

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท