กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 227

บทที่ 227

กู้ชูหน่วนและคนอื่น ๆ เดินไปตามช่องลม เดิมทีพวกเขาคิดว่าจะหาทางออกได้ในไม่ช้า แต่หลังจากผ่านไปหลายชั่วยาม พวกเขาก็ยังออกไปไม่ได้

ในขณะที่นางกำลังจะด่า นางก็ได้ยินเยี่ยเฟิงกล่าวว่า “ข้างหน้ามีแสงสว่าง และมีทางออกอยู่ข้างหน้า”

ทั้งสามคนเดินอยู่ในถ้ำเกือบหนึ่งคืนสองวันกว่าที่จะออกไปได้

หลังจากนั้นก็อยู่บนภูเขาอีกสองวันกว่าที่จะมาถึงในเมือง

นอกประตูเมือง ทั้งสามคนมองดูคำสามคำบนกำแพงเมือง และต่างตกตะลึง

“เมืองชิงหง?”

กู้ชูหน่วนไม่เคยได้ยินชื่อเมืองนี้มาก่อน และไม่มีความทรงจำใด ๆ แต่ดูเหมือนว่าเมืองที่อยู่ใกล้เมืองหลวงจะไม่มีชื่อนี้

ฝูกวงและเยี่ยเฟิงงุนงง

เมืองชิงหงอยู่ที่ชายแดนของรัฐเยี่ย ถัดไปจากเมืองเล็ก ๆ นอกด่านก็จะออกไปนอกชายแดน เรียกว่าหุบเขากลืนวิญญาณ เป็นดินแดนที่ไม่มีใครควบคุมดูแล

หุบเขากลืนวิญญาณกับหุบเขาพิศวิญญาณแตกต่างกันเพียงแค่คำเดียว และห่างกันหนึ่งแสนแปดพันลี้

พวกเขาเดินอยู่ในถ้ำหลายวันแล้ว ทำไมถึงมาโผล่ที่เมืองชิงหง?

เป็นไปได้หรือไม่ที่ถ้ำนั้นจะเป็นอุโมงค์ระหว่างหุบเขากับหุบเขา?

“พวกเจ้าไปหาโรงเตี๊ยมและพักผ่อนก่อนเถอะ ข้าจะกลับไปที่หมู่บ้านเสี่ยวเหอก่อน”

ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เยี่ยเฟิงเป็นห่วงท่านยายเยี่ยที่อยู่ในหมู่บ้านเสี่ยวเหอมาโดยตลอด และไม่อยากให้พวกนางเป็นกังวล แต่เขาไม่ได้แสดงออกมา

ตอนนี้ออกมาจากอุโมงค์แล้ว เขาจึงแทบรอไม่ไหวที่จะกลับไปดูในทันที

“คนของเผ่าปีศาจตามเจ้าไม่ทัน พวกเขาจะต้องไปดักรอเจ้าที่หมู่บ้านเสี่ยวเหออย่างแน่นอน หากเจ้ากลับไป ก็เท่ากับไปติดกับดักด้วยตัวเอง” กู้ชูหน่วนห้ามเขาไว้

เยี่ยเฟิงฝืนยิ้ม ความโศกเศร้าแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขา “บางทีนี่อาจเป็นชะตากรรมของข้า ท่านยายมีบุญคุณกับข้ามาก ข้าไม่สามารถปล่อยให้นางเป็นอะไรได้”

“อีกแล้วหรือ ชะตากรรมของข้าขึ้นอยู่กับข้า และชะตากรรมของเจ้าก็ต้องอยู่ในมือของเจ้าเช่นกัน ตอนที่พวกเราจากไป เซี่ยวอวี่เซวียนยังอยู่ในหมู่บ้านเสี่ยวเหอ เขาน่าจะช่วยพาท่านยายเยี่ยของเจ้าไปยังที่ปลอดภัยแล้ว เจ้าอย่ากังวลไปเลย”

“ข้ายังไม่วางใจ”

กู้ชูหน่วนพยายามทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่สามารถรั้งเยี่ยเฟิงไว้ได้

นี่เป็นครั้งแรกที่นางพบว่าแท้จริงแล้วเยี่ยเฟิงมีนิสัยดื้อรั้นมาก

ในท้ายที่สุดแล้ว กู้ชูหน่วนก็ทำได้เพียงกล่าวว่า “เจ้ารอข้าอีกสักหนึ่ง ข้าจะไปทำธุระที่หุบเขากลืนวิญญาณ เมื่อทำธุระเสร็จแล้ว ข้าจะกลับไปกับเจ้า”

“ท่านจะไปทำอะไรที่หุบเขากลืนวิญญาณ?ที่นั่นเป็นเขตแดนที่ไม่มีใครควบคุมดูแล และพวกคนชั่วช้าสามานย์ทั้งหมดก็รวมตัวกันอยู่ที่นั่น”

ทันใดนั้น เยี่ยเฟิงก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ เขาเงยหน้าขึ้นในทันที “ท่านจะไปหาหญ้านรก?”

“ในเมื่อมาถึงเมืองชิงหงแล้ว อย่างไรก็ต้องเข้าไปหา บางทีอาจจะเจอหญ้านรกก็ได้” กู้ชูหน่วนหาวและเดินกะเผลกไปหาโรงเตี๊ยมเพื่อพักผ่อน

นางอยู่ในถ้ำนานเกินไป และเมื่อออกมาเสื้อผ้าของนางก็ขาดเป็นรู ทั้งสกปรกและขาดวิ่น ราวกับขอทานขาเป๋

เมืองชิงหงไม่ใหญ่มากนัก แต่คึกคักมาก สองข้างทางเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าที่ตะโกนขายของ และมีพ่อค้าต่างถิ่นทยอยกันมาอย่างไม่ขาดสาย

กู้ชูหน่วนมองไปที่โรงเตี๊ยมอันเงียบสงบข้างหน้า และรอยยิ้มที่สบายอกสบายใจก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของนาง

“ฝูกวง เอาเงินมาให้ข้าหน่อย ข้าจะเปิดห้องพักดี ๆ สักสองสามห้อง กินให้อิ่มท้องเสียก่อนแล้วค่อยไปนอนพักผ่อนให้สบาย”

ฝูกวงตกตะลึงและกล่าวอย่างลำบากใจ “นายท่าน ข้าน้อยไม่มีเงิน”

“สักตำลึงเดียวก็ไม่มีเลยหรือ?”

“แม้แต่อีแปะเดียวก็ไม่มีขอรับ”

กู้ชูหน่วนเหงื่อตก “ปกติเวลาออกไปข้างนอก เจ้าไม่พกเงินมาด้วยหรือ?”

“โดยปกติแล้วไม่มีพกขอรับ”

“เช่นนั้นเจ้ากินอะไรและพักที่ไหน?”

“ข้าน้อยเป็นผู้คุ้มกัน จุดประสงค์ก็คือเพื่ออารักขานายท่าน ดังนั้นปกติแล้วจะซ่อนตัวอยู่ในที่มืด ไม่มีที่นอนที่ดี ส่วนอาหารก็เท่าที่มี”

“……”

กู้ชูหน่วนถอนหายใจ “ต่อไปเจ้าไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวอยู่ในที่มืดแล้ว คอยติดตามอยู่ข้างกายข้า”

“ขอรับ”

กู้ชูหน่วนยื่นมือไปทางเยี่ยเฟิง “เจ้ามีเงินหรือไม่ เอามาให้ข้ายืมก่อน แล้ววันหลังข้าจะคืนให้เจ้า”

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท