กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 855
ภายในถ้ำเงียบสงบ นานมาแล้วเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กับเจ้าเสือน้อยก็ยังไม่กลับ และไม่รู้ว่าได้ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามสีมาหรือไม่
บุรุษรูปงามสามคนที่นอนเรียงกันอยู่บนพื้นพูดเพ้อด้วยทุกข์ใจเป็นครั้งคราว
“อาหน่วน อย่าไปจากข้า ข้าไม่อาจขาดเจ้าได้…..”
“ทำไม ทำไมเจ้าต้องฆ่าท่านพ่อของข้า ทำไมต้องฆ่าล้างตระกูลของข้า ทำไม…..”
“แม่สาวอัปลักษณ์ แม่สาวอัปลักษณ์…..”
กู้ชูหน่วนมองนั่นมองนี่ และท้ายที่สุดก็มองขึ้นไปที่พระจันทร์บนท้องฟ้า จากนั้นก็ถอนหายใจ
ทุกคนล้วนแต่มีความกังวลใจและอดีต
และนาง สำหรับนางแล้วอดีตก็เป็นเหมือนกระดาษเปล่า
เห็นได้ชัดว่าหัวใจของนางหนักอึ้ง และมักจะรู้สึกว่าตัวเองลืมบางสิ่งบางอย่างไป แต่ก็นึกอะไรไม่ออก
“อาหน่วน…..”
ไม่รู้ว่าเยี่ยจิ่งหานฝันถึงอะไร จู่ ๆ เขาก็ตะโกนด้วยความตกใจ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเสียงของเขาดังเกินไป หรือว่าเป็นเพราะเขาตะโกนคำว่าอาหน่วน หเหวินเส่าอี๋และเซี่ยวอวี่เซวียนก็ฟื้นขึ้นมาด้วยความงุนงง
เมื่อลืมตาขึ้นมา เยี่ยจิ่งหานและเหวินเส่าอี๋ก็แทบจะอยากจะสลบไปอีกครั้ง
ทำไมถึงเป็นหญิงผู้นี้อีกแล้ว วิญญาณของนางยังไม่สลายไปอีกหรือ?
จากนั้นพวกเขาก็เห็นสถานการณ์ของตัวเอง
เยี่ยจิ่งหานนอนอยู่ทางด้านซ้าย เหวินเส่าอี๋อยู่ตรงกลาง และเซี่ยวอวี่เซวียนนอนอยู่ทางด้านขวา ซึ่งพวกเขาอยู่ห่างกันเพียงแค่สิบเซนติเมตรเท่านั้น
เยี่ยจิ่งหานโกรธ
เหวินเส่าอี๋และเซี่ยวอวี่เซวียนเป็นศัตรูที่ได้พบกัน นัยน์ตาก็แดงก่ำด้วยความโกรธ
แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส เหวินเส่าอี๋และเซี่ยวอวี่เซวียนก็พยายามที่จะฆ่ากัน แต่น่าเสียดายที่พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสมากเกินไป ยังไม่ทันจะได้แตะต้องอีกฝ่ายก็อ่อนนแรงเสียก่อน เขากุมหน้าอกไว้ด้วยความเจ็บปวดและหายใจหอบ
“เหวินเส่าอี๋ เจ้ามาที่ดินแดนวิญญาณเยือกแข็งจริง ๆ ข้าจะฆ่าเจ้า”
หางตาของเซียวอวี่เซวียนยกขึ้น และเขาพยายามที่จะชกต่อย
เขาคิดว่าตัวเองใช้พละกำลังมาก แต่กลับเป็นเพียงแค่ละอองฝน และไม่มีพลังเลยแม้แต่น้อย
เหวินเส่าอี๋ถีบเขาอย่างแรง เขายังคิดว่าตัวเองก็คิดว่าพละกำลังมากเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่เหมือนกับเหยียบฝ้าย และไม่สามารถทำอะไรเซี่ยวอวี่เซวียนได้มากนัก
หลังจากการโจมตีครั้งแรกไม่สำเร็จ ทั้งสองก็ทะเลาะกัน ราวกับพวกอันธพาลในตลาด
“เฮ้ พวกเจ้าสองคนทำอะไรกัน?หยุดเดี๋ยวนี้ หากยังไม่หยุดชีวิตน้อย ๆ ของพวกเจ้าคงยากที่จะรักษาไว้ได้”
กู้ชูหน่วนห้าม แต่พวกเขาก็ไม่มีใครยอมปล่อย และต่อสู้กันอย่างดุเดือดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ร่างกายที่บาดเจ็บของพวกเขามีเลือดไหล
ที่แย่ไปกว่านั้นคือเยี่ยจิ่งหานก็เข้าไปร่วมด้วย
เขากับเซี่ยวอวี่เซวียนยืนอยู่ในแนวเดียวกัน และแทบจะลอกเลียนแบบวิธีการของเหวินเส่าอี๋
“เจ้าเด็กโสโครก เป็นเขาที่ส่งคนมาตามฆ่าพวกเรา เจ้าช่วยข้าฆ่าเขา”
“อะไรนะ?ยอดฝีมือระดับห้าเหล่านั้นถูกเขาส่งมา?”
“ใช่”
กู้ชูหน่วนพยายามแยกพวกเขา เพื่อไม่ให้เหวินเส่าอี๋ถูกรัดคอตาย
เซียวอวี่เซวียนหมดแรง เขากุมบาดแผลและหอบหายใจ แม้แต่จะพูดอะไรสักคำก็ยากลำบาก
กู้ชูหน่วนจ้องมองไปที่เหวินเส่าอี๋
“ทำไมเจ้าถึงส่งคนไปตามฆ่าเซียวอวี่เซวียน?”
เหวินเส่าอี๋โกรธแต่กลับยิ้ม “เหอะ เขาสังหารคนนับหมื่นในเผ่าของข้า แม้แต่คนชรา สตรี และเด็กก็ไม่ละเว้น ข้าไม่ควรจะฆ่าเขาหรือ?”
เมื่อนึกถึงเรื่องที่เผ่าเพลิงฟ้าถูกล้มล้าง เหวินเส่าอี๋ก็ตัวสั่นไปทั้งตัว เขากัดฟันแน่น ไม่รู้ว่าเขาโกรธหรือว่าโศกเศร้า
คำพูดนี้ทำให้จิตใจของกู้ชูหน่วนสับสน
ในความทรงจำของนาง เซียวอวี่เซวียนไม่ใช่คนที่ฆ่าใครง่าย ๆ
เขาจะฆ่าคน สตรี และเด็กได้อย่างไร
“เสี่ยวเซวียนเซวียน สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงหรือไม่?”
เซียวอวี่เซวียนเบือนหน้าหนี และไม่ตอบคำพูดของกู้ชูหน่วน เขาเพียงพูดเบา ๆ ว่า “คนในเผ่าของเขาฆ่าคนในตระกูลของข้าไปมากกว่าสามร้อยชีวิต ข้าไม่ควรจะแก้แค้นหรือ?”
“ใครก่อหนี้เอาไว้ก็ให้ผู้นั้นมารับผิดชอบ ใครฆ่าคนในตระกูลของเจ้า เจ้าก็ไปแก้แค้นกับคนผู้นั้น แต่เจ้ากลับฆ่าผู้บริสุทธิ์นับหมื่นชีวิตในเผ่าของข้าอย่างโหดเหี้ยม มันยุติธรรมแล้วหรือ?”
“ยุติธรรม?เหวินเส่าอี๋ เจ้าพูดถึงความเป็นธรรมกับข้า?ตระกูลเซี่ยวของเราจงรักภักดีมาหลายชั่วอายุคน และคนกว่าสามร้ายชีวิตในตระกูลก็ไม่เคยทำเรื่องเลวร้ายแม้แต่ครั้งเดียว แต่กลับถูกพวกเจ้าฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แม้แต่สัตว์ก็หนีไม่พ้น พวกเจ้ายุติธรรมกับพวกเขาแล้วหรือ?เผ่าเพลิงฟ้าสาปแช่งเผ่าหยกอย่างโหดร้าย และต้องอดทนต่อความเจ็บปวดจากคำสาปโลหิตจากรุ่นสู่รุ่น พวกเจ้ายุติธรรมกับเผ่าหยกแล้วหรือ?”