กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 878

บทที่ 878

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 878

ขณะที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ นางหยุดฝีเท้าลงกะทันหันและประคองคนตายผู้หนึ่งในนัันให้ลุกขึ้น

“ท่านลุงรอง ท่านลุงสาม……”

ผู้นำรองก็ถูกปาดที่คอเช่นเดียวกันโดยที่ดวงตาเบิกกว้างและแฝงด้วยความหวาดกลัว

เลือดของเขาไม่เหมือนกับของคนอื่นๆซึ่งยังคงอุ่นอยู่

เวลาที่ตายไม่น่าจะเกินครึ่งชั่วยาม

นอกจากแผลหนึ่งที่คอแล้วบนร่างของเขาก็ไม่มีรอยแผลแม้แต่น้อย และที่นี่ก็ยิ่งไร้ร่องรอยของการต่อสู้

เช่นไรลุงรองก็เป็นระดับสอง ความแข็งแกร่งในรัฐปิงก็ไม่นับว่าอ่อนแอแต่กลับไม่สามารถรับหนึ่งกระบวนท่าของคู่ต่อสู้ได้ คิดว่าผู้ที่ฆ่าเขาน่าจะเป็นยอดฝีมือสูงสุด

“ท่านพ่อ……ท่านพ่อ……”

กู้ชูหน่วนเดินโซซัดโซเซไปด้านหน้าต่อเลยที่กลัวว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นกับมู่ซิน

“ปัง……” เสียงหนึ่งได้ผลักห้องของมู่ซินออก ด้านในว่างเปล่าซึ่งไม่มีใครเลยสักคน

ในใจกู้ชูหน่วนเต้นตึกตักตึกตักแรงพร้อมกับวิ่งไปทางห้องลับอย่างมีเงื่อนไข

ระหว่างทางไปห้องลับนางเห็นศพของผู้นำสาม รวมทั้งลูกสาวของผู้นำรองและผู้นำสามซึ่งคือศพของมู่อินและมู่ซิน

ที่นี่มีร่องรอยต่อสู้อยู่ พื้นดินแตกเป็นเสี่ยงๆ แม้แต่กระเบื้องมุงหลังคาก็ถูกดาบหนึ่งผ่าออกเป็นสองท่อน

การเคลื่อนไหวหนักหน่วงนี้ผู้คนที่ซุ่มโจมตีด้านนอกกลับไม่ได้ยินเสียงเลยแม้แต่น้อย

เมื่อพิจารณาจากศพของผู้นำสาม เขาปกป้องมู่อินและมู่ซินจึงได้ถูกปาดคอแผลหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่ก็ไม่สามารถรักษาชีวิตของพวกเขาเอาไว้ได้

ความเกลียดชังของกู้ชูหน่วนทะลุถึงหัวใจ

ตระกูลมู่หนึ่งร้อยกว่าชีวิต ยกเว้นหัวหน้าตระกูลมู่กับท่านพ่อของนางได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว

“ท่านพ่อ ท่านตายไม่ได้นะ ท่านตายไม่ได้นะ…….”

ทางเข้าห้องลับติดอยู่กับก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง

เท่าที่มองเห็นด้วยตาคราบเลือดได้หยดตลอดทางไปทางห้องลับซึ่งไม่รู้ว่าไกลเพียงใด

ก้อนหินใหญ่มหึมาก้อนนี้น่าจะเป็นคนร้ายที่ฆ่าล้างตระกูลมู่ทั้งตระกูลจงใจขวาง

ประตูใหญ่ห้อลับเอาไว้

ทางเข้าห้องลับมีเพียงทายาทภรรยาเอกของตระกูลมู่เท่านั้นถึงจะรู้ นั่นจะเปิดออกก็ต่อเมื่อตระกูลมู่เกิดภยันตรายถึงตายซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะไม่เปิดออกได้ง่ายๆ

หลังจากที่กู้ชูหน่วนไล่ตามเข้าไปในห้องลับ ฉากที่นางไม่ต้องการเห็นมากที่สุดก็ได้เกิดขึ้นแล้ว

ท่านพ่อของนาง บนร่างของท่านพ่อที่โปรดปรานนางที่สุดถูกฟันเป็นจำนวนนับสิบแผล แต่ละแผลไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิตแต่ว่าทุกแผลได้ตัดเส้นเอ็นของท่านพ่อจนขาด แม้กระทั่งกระดูกทั้งร่างก็ถูกหักทีละท่อนๆทั้งเป็น

เอ็นถูกตัดกระดูกถูกตีจนแตกละเอียดไปหมด ท่านพ่อของเขาถูกทรมานอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตก่อนตาย

ท้ายที่สุดเสียเลือดมากเกินไปจนปวดตายทั้งที่ยังเป็นๆ

ลงมือช่างอำมหิตนัก กู้ชูหน่วนมองดูด้วยจิตใจที่โกรธแค้นชิงชังอย่างที่สุด

ข้างกายมู่ซินยังมีรอยมือเปื้อนเลือดรอยหนึ่ง

รอยมือเปื้อนเลือดนั้นน่าจะเป็นหลังจากที่เขาสิ้นลมแล้วฆาตกรจงใจจับมือของเขากดลงบนพื้น

“ท่านพ่อ……”

กู้ชูหน่วนกอดร่างของเขาและตะโกนร้องไม่หยุดแต่กลับไม่สามารถรอให้มู่ซินเรียกนางอย่างเมตตาว่าหน่วนเอ๋อร์ได้อีกแล้ว

“ท่านพ่อ……ท่านฟื้นสิ ท่านอย่าได้ทิ้งข้าเอาไว้ ข้านอมรับท่านเป็นพ่อได้ไม่ง่ายเลย เป็นผู้ใด……เป็นผู้ใดที่อำมหิตเช่นนั้น”

เจ็บปวดใจ

โมโห

โศกเศร้า

เคียดแค้นชิงชัง

ทุกๆรสชาติปรากฏขึ้นในใจ

นางรอไม่ไหวที่จะหั่นศพเป็นพันเป็นหมื่นแผลต่อผู้ที่ฆ่าล้างตระกูลมู่หนึ่งร้อยกว่าชีวิต

แต่นางรู้ว่าผู้นำตระกูลมู่ร่องรอยไม่ชัดแจ้งและเบื้องหน้าก็มีเลือดอยู่ด้วยเต็มพื้น

กู้ชูหน่วนวางมู่ซินลงอย่างเจ็ปวดและพยายามใช้กำลังเดินหน้าตามคราบเลือดไปต่อ

จากนั้นฉากตรงหน้าก็ยิ่งทำให้นางโมโหมากขึ้นไปอีก

ผู้นำตระกูลมู่ก็ถูกสังหารด้วย

ไม่เพียงแต่เขาสังหารเท่านั้น แม้แต่ศีรษะก็ถูกตัดขาดด้วย

บนร่างของผู้นำตระกูลมู่เต็มไปด้วยรอยแผลเลือดเนื้อแต่ละชิ้นๆถูกเฉือนออกจนกระจัดกระจายไปทั่วพื้น

บนร่างของเขาถูกฟันจนเหลือเพียงแค่โครงกระดูกเท่านั้น

หากว่าผู้ที่ขลาดกลัวเห็นเข้าเกรงว่าจะเป็นลมไปในที่นั้น

ไม่ว่าจิตใจของกู้ชูหน่วนจะเข้มแข็งเพียงใดใบหน้านั้นก็อดที่จะซีดเซียวไม่ได้พร้อมกับรูม่านตาเบิกกว้าง

นางฟื้นจากการหลับสนิทและได้กลายเป็นคุณหนูสามตระกูลมู่อย่างแปลกประหลาด แล้วยังมีท่านพ่อที่รักใคร่เอ็นดูนางผู้หนึ่ง

แม้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะแปลกหน้าเช่นนั้น แปลกหน้าเสียจนราวกับว่านางเพียงแค่ยืมใช้ร่างของคุณหนูสามตระกูลมู่ก็เท่านั้นเอง แต่ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้คือตระกูลมู่ปฏิบัติต่อนางอย่างเต็มอกเต็มใจ

รวมถึงท่านลุงรองและท่านลุงสามที่กระทำกับนางมาโดยตลอด

ในวันนั้นขณะที่นางถูกผู้คนทั้งใต้หล้าร่วมกันต่อสู้ด้วย ผู้นำรองกับผู้นำสามพยายามปกป้องนางโดยไม่สนใจสิ่งใด

ยามทุกข์ยากจึงจะเห็นความจริงใจ

ในช่วงเวลานั้นนางเพิ่งจะเปิดใจต่อผู้นำรองและผู้นำสาม แต่ยังไม่ทันที่จะพูดจาอันดีกับพวกเขาพวกเขาก็ได้ถูกดาบหนึ่งปาดลงตรงคอ

ท่านปู่แท้ๆของนางซึ่งก็คือผู้นำตระกูลมู่ แม้ว่าจะไม่ได้ลุกขึ้นมาปกป้องนางแต่นางเข้าใจดีว่า ผู้นำตระกูลมู่เป็นผู้นำของทั้งตระกูล เขาจำต้องแบกรับชีวิตความเป็นความตายของทุกคนในตระกูลมู่ หากว่าทำได้เขาก็คงจะปกป้องนางด้วยเช่นกัน

ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงท่านพ่อของนาง

ความรักใคร่เอ็นดูที่เขามีต่อนางมาจากไขกระดูก และมาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านพ้นราวกับว่ายังคงเป็นเมื่อวานนี้ และในตอนนี้ทั่วทั้งตระกูลมู่นอกจากเลือดสดๆแล้วก็เป็นซากศพ

เลือดกำลังไหลหนดอยู่ในใจของกู้ชูหน่วน

นี่เป็นครั้งแรกหลังจากตื่นแล้วที่นางเข้าใจรสชาติของความปวดใจเป็นอย่างไร

จู่ๆสาวกของสำนักไฮ่เทียนก็ได้ปรากฏตัวขึ้น เมื่อเห็นวิธีตายของผู้นำตระกูลมู่แต่ละคนก็ตกใจจนหน้าซีด

“นางปีศาจ คิดไม่ถึงว่าแม้แต่คนในตระกูลเจ้าก็ไม่ละเว้น กลับใช้วิธีการอำมหิตเช่นนี้ฆ่าล้างญาติมิตรของตนเอง เจ้ามันบ้าไปแล้วจริงๆ”

“ฮึ่ม เช่นนี้ก็ดี ตระกูลมู่แต่ละคนล้วนแต่เป็นมารปีศาจก็สมควรตายตั้งนานแล้วซึ่งก็ไม่ต้องลำบากพวกเราลงมือด้วย”

“นางปีศาจอยู่ที่นี่ ทุกคนมาฆ่านางด้วยกันเพื่อขจัดภัยให้กับใต้หล้า”

พวกเขาแต่ละคนสะบัดมีดแล่เนื้อและเหยียบอยู่บนเลือดเนื้อของตระกูลมู่

ตระกูลมู่ทั้งตระกูลถูกฆ่าล้างแล้วยังด้วยวิธีการลงมือที่อำมหิตเช่นนี้ เดิมทีกู้ชูหน่วนก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟอยู่ท่วมท้อง ในตอนนี้เห็นว่าพวกเขาไม่เคารพผู้ที่ตายไปแล้วเช่นนี้ความโกรธก็พุ่งทะยานออกมา

ใบหน้าของนางหมองหม่นพร้อมกับเม้มริมฝีปากบางเอาไว้แน่น จากนั้นก็แย่งดาบจากในมือของสาวกผู้หนึ่งโดยที่ง้างมือลงดาบอย่างไร้ความปรานีอีกต่อไป

ทุกๆดาบที่ฟันไปก็เป็นหนึ่งชีวิต

รูปร่างอันเพรียวเรียวบอบบางทะลวงอยู่ท่ามกลางสาวกนับสิบคน แม้ว่าจะถูกล้อมเอาไว้ก็ไม่ได้แสดงท่าทีพ่ายแพ้ใดๆเลย กลับสังหารจนสาวกเหล่านั้นมือไม้สั่นเทาไม่หยุด

“เป็นผู้ใดที่สังหารตระกูลมู่ทั้งตระกูล พูด……”

กู้ชูหน่วนใช้ดาบปาดคอสาวกผู้หนึ่งและตะโกนด้วยความโกรธ

ท่าทางที่โหดเหี้ยมนั้นทำให้สาวกที่เหลือกลัวจนไม่กล้าขยับไปเบื้องหน้าอีก

“เจ้ามันนางปีศาจ เจ้าฆ่าผู้บริสุทธิ์อย่างไม่เลือกหน้า เจ้าสำนักของเราจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไปเป็นแน่”

“ทุกคนจะไม่มีทางปล่อยเจ้าไป”

“ข้าไม่ได้ฆ่าพวกเจ้าพวกเจ้าปล่อยข้าไปหรือ? ปล่อยคนในตระกูลของข้าหรือ? ข้าจะถามอีกครั้งว่าเป็นผู้ใดที่ฆ่าล้างตระกูลมู่ทั้งตระกูลของข้า?”

“ตระกูลมู่ทั้งตระกูลสมควรตายทั้งสิ้น”

ประโยคหนึ่งทำให้กู้ชูหน่วนโกรธจัด

ใบหน้าเย็นชาของนางแปรเปลี่ยนร่างเป็นประกายเส้นอันตกตะลึงเส้นหนึ่งและได้สังหารพวกเขาทั้งหมดเลยโดยตรง

“ฉึก……”

ปลายดาบไหลรินลงมาด้วนเลือดอันสด

ห้องลับเลือดไหลราวกับแม่น้ำ ซากศพต่างๆผสมปนเปเข้าด้วยกัน

สาวกจากนิกายอื่นๆก็ถูกดูดเข้ามาด้วยเช่นเดียวกัน รวมถึงคนของจวนขุนนางด้วย

“นางปีศาจ เจ้ากล้าฆ่าคนตายซะเถอะ พวกเจ้ายิงธนู”

ยิงธนูเสียงหนึ่งนักธนูหลายสิบคนต่างงอคันธนูพร้อมกับดึงลูกธนู และฝนลูกธนูได้พุ่งเข้าใส่กู้ชูหน่วนราวกับอุกกาบาตมากมาย

กู้ชูหน่วนพลิกดาบยาวแยกลูกธนูที่ต่างยิงมาออกจากกัน

ลูกธนูมากเกินไปดาบยาวของนางก็กินแรง กู้ชูหน่วนหันหลังกลับอย่างสง่างามพร้อมปลดเสื้อคลุมของตนเองออกแล้วนำกำลังภายในไว้บนเสื้อ

เสื้อตัวนอกเสมือนกำแพงเหล็กซึ่งดาบและธนูไม่สามารถทะลุเข้าไปได้ ไม่เพียงแต่ลูกธนูที่ยิงมาถูกนางปัดออกเท่านั้นแล้วยังถูกสะท้อนกลับมาอีกด้วย นักธนูเหล่านั้นทั้งถูกฆ่าตายทั้งได้รับบาดเจ็บ

แทบจะในเวลาเดียวกันผู้นำแต่ละนิกายใหญ่ก็ฟาดลงมาด้วยฝ่ามืออันเหี้ยมโหดหรือใช้ค้อนเหล็กขนาดใหญ่ทุบลงมา หรือใช้อาวุธลับโจมตีดวงตาของนางและตำแหน่งด้านล่าง

กู้ชูหน่วนเลิกคิ้วอย่างเย็นชาและต่อสู้อย่างสงบ

ด้านนอกจวนมู่

เซี่ยวอวี่เซวียนมาถึงโดยที่ได้รับบาดเจ็บ

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท