ตอนที่ 196 จิตวิญญาณถูกซัดกระหน่ำ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นแค่นยิ้มมองไปยังหูซ่าน
หูซ่านจ้องมองเขา เอาอีกแล้วๆ ชอบทำหน้าตาสูงส่ง ไม่พอใจจะร่วมเสวให้นาเปรอะเปื้อนไปกับพวกเขา น่าโมโหจริงๆ
แต่ท่านพ่อเขาเอาแต่บอกว่าเซี่นอั้นโส่วผู้นี้ฉลาดหลักแหลม ให้เขาเรียนรู้จากเขา เมื่อก่อนเขามีความตั้งใจจะอยู่ร่วมกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่างสงบ แต่ทุกครั้งที่เห็นท่าทางอย่างนี้ของเขา ความโมโหก็อัดแน่นเต็มท้อง
หูซ่านผุดลุกขึ้นยืนทันที ใจคิดจะจากไป
ลู่เจียวยกชาเข้ามา กล่าวอย่างนุ่มนวลว่า “คุณชายหู เชิญดื่มน้ำชา”
อย่างไรคนเขาก็มาแล้ว ดื่มชาสักแก้วค่อยกลับดีไหม
หูซ่านเห็นลู่เจียว คิดถึงว่าลู่เหนียงจื่อผู้นี้ช่วยชีวิตภรรยาและลูกเขาไว้ ก็นั่งลงต่อ
ลู่เจียวยกน้ำชา หูซ่านรับชาไปค่อยๆ ดื่มไปคำหนึ่ง ความขุ่นข้องในใจก็เจือจางลงไปไม่ได้น้อย
เขาเงยหน้ามองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่น กล่าวเน้นย้ำหนักแน่น “พี่อวิ๋นจิ่น ข้าขอเตือนพี่สักคำ นิสัยของพี่วันหน้าแม้สอบติดก็ไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้อื่น”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นตอกกลับอย่างไม่รีบไม่ร้อนว่า “หูซ่าน ข้าขอเตือนเจ้าคำหนึ่ง สายตามองคนไม่แหลมคมของเจ้า แม้เป็นขุนนางก็เป็นขุนนางที่ดีไม่ได้ อย่าเข้าสอบเคอจวี่เลยดีกว่า”
หูซ่านเป็นคนไม่เลว แต่กลุ่มคนสอพลอเขาพวกนั้น ส่วนใหญ่เป็นคุณชายเสเพล คนพวกนั้นทำอะไรก็จะดึงหูซ่านไปด้วย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ช้าเร็วสักวันเขาต้องถูกทำลายไปด้วย น่าเสียดายที่เขาไม่รู้ตัวสักนิด
“จิตใจไม่สัมพันธ์ คุยไม่ถูกจริต ก็เงียบเสียดีกว่า พี่อวิ๋นจิ่นรักษาสุขภาพด้วย”
หูซ่านวางถ้วยชาลงแล้วเดินออกไป ไม่คิดจะคุยกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นอีก คนดื้อด้านอย่างเจ้า ช้าเร็วย่อมมีคนสั่งสอนเจ้าให้รู้ความเป็นจริง
สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นเย็นชามองหูซ่านจากไป ลู่เจียวรีบออกไปส่งพวกเขา
ในเรือนนอนตะวันออก ฉีเหล่ยตามลู่เจียวออกไป ทั้งสองคนเดินไปคุยไป สีหน้าท่าทางเหมือนสนิทสนมกว่าผู้อื่นมาก
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นแล้วก็ขมวดคิ้วอย่างไม่เป็นที่สังเกต เขามักรู้สึกว่าลู่เจียวปฏิบัติต่อหมอฉีดีกว่าคนอื่นอยู่สักหน่อย
เรื่องนี้ทำให้เขาไม่พอใจ แม้ว่าหมอฉีผ่าตัดให้เขา แต่ไม่จำเป็นต้องยกให้เป็นกรณีพิเศษ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นตัดสินใจว่าอีกสักครู่ลู่เจียวเข้ามาก็จะตำหนินาง
เพียงแต่ลู่เจียวเพิ่งส่งหูซ่านกับฉีเหล่ยขึ้นรถม้าจากไป ก็เห็นหร่วนซื่อเดินมาบ้านนาง
ยามนี้หร่วนซื่อไม่เพียงแต่ผอมโกรก ยังแก่ชราลงเหมือนยายแก่หกสิบเจ็ดสิบปี เห็นสภาพนางเช่นนี้ ในที่สุดลู่เจียวก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเซี่ยเหล่าเกินเป็นตายอย่างไรก็เอาแต่ลุ่มหลงแม่หม้ายหวัง หร่วนซื่อเช่นนี้จะสู้แม่หม้ายหวังที่อายุน้อยกว่าได้อย่างไร
หร่วนซื่อเห็นลู่เจียว สายตาก็ราวกับหมาป่าดุร้าย “แววตาเจ้านั่นมันอะไร เห็นแม่สามีมา ไม่เรียกสักคำ?”
ลู่เจียวมองนางเย็นชา ถามว่า “ท่านแม่มาทำอะไร ที่บ้านจัดการเรียบร้อยดีแล้วหรือ”
คำพูดนี้แทงใจดำหร่วนซื่อเข้าอย่างจัง นางมองลู่เจียวด้วยสีหน้าแค้นใจ “หุบปาก”
กล่าวจบก็หันเดินเข้าบ้านลู่เจียว ลู่เจียวหันเดินตามนางมา เสียงเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ดังตามมาด้านหลัง
ตอนนี้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เริ่มมีสายสัมพันธ์กับคนในหมู่บ้านแล้ว ยามไม่มีอะไรก็จะไปเล่นบ้านโก่วเซิ่งกับเถี่ยตั้น
เช้าวันนี้ลู่เจียวอนุญาตให้พวกเขาไปเล่นบ้านเถี่ยตั้น ตอนนี้เพิ่งจะกลับมา
“ท่านแม่ ฮูหยินผู้เฒ่าสามว่าบ้านเรามีแขกมา จริงหรือ”
ลู่เจียวพยักหน้าเล็กน้อยกล่าวว่า “ใช่ สหายร่วมชั้นเรียนท่านพ่อ แต่เขาไปแล้ว”
“อ้อ” เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไม่ได้รู้สึกสนใจสหายร่วมชั้นเรียนของเซี่ยอวิ๋นจิ่น เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เดินตามลู่เจียวเข้ามาในลานบ้าน ก็เห็นหร่วนซื่อเดินเข้าไปในห้องโถงบ้านพวกเขา
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่สีหน้าไม่ดีนัก ต้าเป่าเงยหน้ามองลู่เจียว “ท่านย่ามาทำอะไรอีก”
ทุกครั้งที่มาไม่เคยมีเรื่องดี ทำไมพวกเขาต้องมามีย่าเช่นนี้ด้วย โชคร้ายจริงๆ
เอ้อร์เป่าสีหน้าแปรเปลี่ยน รีบวิ่งเข้าไปในห้องโถง “นางต้องมารังแกท่านพ่อแน่เลย”
เอ้อร์เป่ากล่าวจบ ทั้งสี่คนก็รีบวิ่งเข้าบ้านไป กลัวว่าท่านพ่อพวกเขาจะเสียเปรียบ
ลู่เจียวเบ้ปากไร้วาจาจะกล่าว ท่านพ่อเจ้าขาใกล้หายแล้ว ตอนนี้ยังจะมีใครรังแกเขาได้อีก
ลู่เจียวคิดไปก็เดินเข้ามาในห้องโถง ในเรือนนอนตะวันออก เสียงร้องไห้โหยหวนของหร่วนซื่อดังขึ้น
“เจ้าสาม วันหน้าแม่จะมาอยู่กับเจ้า”
ลู่เจียวอึ้งไปทันที จากนั้นมุมปากก็รอยยิ้มหัวเราะเยาะขึ้น ตอนนี้เพิ่งมาคิดถึงลูกชายสามได้ น่าเสียดาย สายไปแล้ว
ในเรือนนอนตะวันออกเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ได้ฟังคำพูดหร่วนซื่อก็รีบถามว่า “ท่ายย่า ท่านมีบ้านไม่ใช่หรือ จะมาอยู่บ้านข้าทำไมกัน บ้านข้าคับแคบ ไม่มีที่นอน”
“ท่านก็ไม่ได้ชอบพวกเรา ทำไมต้องการมาอยู่กับพวกเราล่ะ”
“ท่านไม่ได้ชอบท่านอาสี่กับอาห้าที่สุดหรือ ไม่ไปอยู่กับพวกเขาล่ะ”
“พวกเขาไม่ต้องการท่านหรือ ดังนั้นท่านเลยจะมาอยู่บ้านข้า”
ซื่อเป่ากล่าวประโยคสุดท้ายราวกับจิตวิญญาณถูกซัดกระหน่ำ หร่วนซื่อโงนเงนแทบล้มลงพื้น
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้หมดสติไป เพียงแต่เอาแต่ถลึงตาจ้องมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่อย่างดุร้าย
เจ้าหนูพวกนี้ตอนแรกยังรู้สึกกลัว แต่ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้อยู่บ้านตัวเอง พวกเขามีท่านพ่อท่านแม่ปกป้อง ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกลัว
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ยืดอกทำท่าทางราวกับพวกเราไม่กลัวเจ้า
หร่วนซื่อทนทรมานมาหลายวันติดกัน ยามนี้ไร้เรี่ยวแรงจะโวยวายแล้ว นางหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นร้องไห้ดังกล่าวว่า “เจ้าสาม วันหน้าแม่จะมาอยู่กับเจ้า”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นสีหน้าเย็นเยียบ ถามหร่วนซื่อเนิบนาบไม่ใส่ใจว่า “ท่านแม่ตั้งใจจะยกท่านพ่อให้คนอื่นแล้วหรือ”
หากเป็นเมื่อก่อน เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวเช่นนี้ หร่วนซื่อคงสู้ตายกับเขาแล้ว แต่ตอนนี้นางเกลียดเซี่ยเหล่าเกินที่แล้งน้ำใจอย่างมาก พอได้ฟังคำพูดเซี่ยอวิ๋นจิ่น นางก็กล่าวอย่างเจ็บแค้นใจว่า “ข้าไม่ต้องการเขาแล้ว เขาอยากจะจมปลักกับนางแพศยาหวังนั่น ก็ให้เขาไปจมปลักไป ข้าจะดูซิว่า สุดท้ายเขาจะมีจุดจบเช่นไร”
“นางแพศยาหวังคิดว่าติดตามเขาจะสุขสบาย ข้าจะดูซิว่านางจะได้เสพสุขอะไร เจ้าเป็นลูกชายข้าควรเป็นข้าที่ได้เสวยสุข ไม่มีทางตกถึงมือนางแน่”
มุมปากเซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ่งมีรอยเยาะมากขึ้น ที่แท้มาบ้านเขาก็เพราะไม่ยอมให้แม่หม้ายหวังแย่งวาสนาสุขของนางไป แต่คิดว่าเขาจะให้นางอยู่หรือไง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกำลังจะพูด เซี่ยต้าเฉียงก็รีบเดินข้ามาจากนอกห้องโถง
“ท่านแม่ ท่านมาบ้านน้องสามทำไมกัน ไยไม่อยู่บ้านดีๆ มาที่นี่ทำไมกัน”
เซี่ยต้าเฉียงกลัวเซี่ยอวิ๋นจิ่นเอาเรื่องที่เขาไปข้องแวะกับแม่หม้ายหวังไปบอกท่านพ่อ ดังนั้นพอรู้ว่า หร่วนซื่อแล่นมาบ้านเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็รีบตามมา
หร่วนซื่อเห็นเซี่ยต้าเฉียงก็โมโหด่าทอ “เจ้าขี้ขลาด ข้าไม่อยากเห็นเจ้า วันหน้าข้าจะอยู่กับน้องสามเจ้า พวกเจ้าคอยดูนะ สักวันพวกเจ้าจะต้องเสียใจที่ทำกับข้าเช่นนี้ รอให้น้องสามเจ้าได้เป็นขุนนาง ก็จะแต่งตั้งข้าเป็นอะไรฮูๆ นะ พวกเจ้าอย่าคิดมาเกาะไปด้วยเลย”
เซี่ยต้าเฉียงได้ฟังหร่วนซื่อ ก็มองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นทันที อยากดูว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นด้วยที่จะให้ท่านแม่อยู่ไหม
แต่พอเขาเงยหน้าก็เห็นแววตาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็งของเซี่ยอวิ๋นจิ่น ในแววตานั้นยังเหมือนเตือนเขา
เซี่ยต้าเฉียงสะดุ้งตกใจ อยากจะด่าท่านแม่ตน เจ้าสามหน้าตาอย่างนี้เหมือนคนยอมให้ท่านเสวยสุขของเขาหรือไง
“ท่านแม่กลับกันเถอะ พวกเรากลับเถอะ”
———————————————-
[1] คำเรียกถงเซิงที่สอบได้ซิ่วไฉอันดับหนึ่ง