ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 95 ผู้ติดตาม (กลาง)

ตอนที่ 95 ผู้ติดตาม (กลาง)

ป้าเถาเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม มีสมุดบัญชีหลายเล่มอยู่ในมือ

นางย่อเขาคำนับสืออีเหนียง“ฮูหยินเจ้าค่ะ” สีหน้าดูสงบเป็นอย่างมาก

สืออีเหนียงพยักหน้า ให้สาวใช้ยกเก้าอี้เล็กมาให้นาง

ป้าเถานั่งลง สาวใช้น้อยยกชามาให้ นางนำสมุดบัญชีในมือส่งให้สืออีเหนียง “นี่คือสมุดบัญชีที่ไท่ฮูหยินมอบให้บ่าวดูแลหลังจากที่คุณหนูใหญ่เสียชีวิตแล้ว ในตอนนี้เมื่อท่านมาแล้วจึงขอมอบให้แก่ท่าน ขอให้ท่านเปิดดูสักหน่อยเจ้าค่ะ”

สืออีเหนียงไม่ได้รับสมุดบัญชีมา ยิ้มแล้วพูดว่า“ในเมื่อไท่ฮูหยินมอบให้เจ้าดูแล เจ้าก็ช่วยข้าดูแลไปก่อนชั่วคราวเถิด”

ป้าเถาประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจความหมายของสืออีเหนียง

นางไม่อยากเข้ามายุ่งเรื่องของจุนเกอ

ป้าเถาโกรธจนหน้าแดง ตัวสั่นไปทั้งตัว แต่ไม่กล้าฉีกหน้านาง จึงทำได้เพียงพูดว่า “ฮูหยินสี่ อย่างไรเสียบ่าวก็เป็นข้ารับใช้ หากจะให้ดูแลสิ่งของที่คุณหนูใหญ่เหลือไว้เกรงว่าจะไม่สมเหตุสมผล ไม่เหมือนท่านที่เป็นเจ้านาย แค่คำพูดประโยคเดียวของท่านก็มีอำนาจมากกว่าคำพูดของพวกเราสิบประโยค…”

หยวนเหนียงได้เสียชีวิตมาหนึ่งปีกว่าแล้ว ตัวเองก็ได้แต่งเข้ามาแล้ว เดิมทีสืออีเหนียงสงสัยอยู่แล้วว่าป้าเถาควบคุมคนใต้บังคับบัญชาไม่อยู่ ตอนนี้ยิ่งได้มาฟังประโยคนี้ก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม

นางยิ้มแล้วพูดว่า “เป็นเพราะว่าจะมีคนเอาไปนินทา หรือเป็นเพราะว่ามีคนไม่ยอม”

ป้าเถาตกตะลึงมองไปที่สืออีเหนียง

นายหญิงใหญ่บอกว่านางอายุยังน้อยไม่ใช่หรือ ไม่ค่อยเข้าใจอะไรทั้งนั้น ตัวเองแค่เกลี้ยงกล่อมนางด้วยคำพูดดีๆ ก็พอแล้วไม่ใช่หรือ แต่ทำไมดูเหมือนว่านางจะรู้ทุกอย่าง หรือว่ามีใครคอยสั่งสอนนาง เป็นไปไม่ได้ นายหญิงใหญ่ได้ป้องกันพวกท่านป้าที่ไม่รู้จักขอบเขตไว้หมดแล้ว คนพวกนี้อาศัยความอายุเยอะและรู้เรื่องมากมายเพื่อคอยสนับสนุนสืออีเหนียง ดังนั้นจึงไม่มีผู้ติดตามเป็นท่านป้าทั้งหลาย…หรือว่านายหญิงใหญ่มองผิดไป

ในใจนางสับสนวุ่นวาย เห็นสืออีเหนียงยกถ้วยชาขึ้นมาจิบด้วยท่าทางใจเย็น

ถึงแม้ว่าท่าทางจะสง่างาม ดูสบายๆ เป็นอย่างมาก แต่เมื่อป้าเถาได้เห็น ในใจก็รู้สึกเป็นกังวลยิ่งกว่าเดิม

เห็นได้ชัดว่าคุณหนูสิบเอ็ดต้องการจะเล่นสงครามเวลากับนาง ดูจากท่าทางนางแล้วคงพอจะรู้อะไรมาอยู่บ้าง

แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับไม่เป็นใจให้นาง สืออีเหนียงสามารถยึดทรัพย์สินที่หยวนเหนียงเหลือไว้ได้ตลอดเวลา อย่างไรเสียของก็อยู่ในมือตนเอง หากเกิดเรื่องก็เป็นเรื่องของตนเอง แต่ตนเองกลับรอไม่ได้…สาวใช้หว่านเซียงผู้นั้นก็เอาแต่เร่งรัด คนใต้บังคับบัญชานางก็ช่วยกันกดดัน หากเป็นเช่นนี้ต่อไปทำให้ไท่ฮูหยินกังวลใจถือเป็นเรื่องเล็ก หากฮูหยินสามรู้เข้าแล้วถูกนางหัวเราะเยาะก็ถือว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่เกรงว่านางจะใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้เพื่อโจมตีคนที่เคยติดตามคุณหนูใหญ่

อย่างไรก็ตามคนที่อยู่เบื้องหลังสืออีเหนียงยังมีนายหญิงใหญ่…

เมื่อความคิดวาบผ่านเข้ามาในหัว ป้าเถาก็ได้ทำการตัดสินใจ

“ฮูหยินมองได้เฉียบคมเสียจริงเจ้าค่ะ” นางยิ้มราวกับประจบประแจงเล็กน้อย “ท่านพึ่งจะเข้ามา หากดูตามเหตุผลแล้วบ่าวไม่ควรรบกวนท่านด้วยเรื่องเหล่านี้เร็วเช่นนี้ แต่ว่าบ่าวถูกหว่านเซียงผู้นั้นกดดันจนหมดหนทาง จึงทำได้เพียงมาขอร้องท่าน”

แบบนี้ค่อยดีขึ้นหน่อย

สืออีเหนียงแอบคิดในใจ

ก่อนแต่งเข้ามานางเคยไปสืบมาว่าตอนที่หยวนเหนียงแต่งเข้ามามีสาวใช้ใหญ่สี่คน ท่านป้าสองคน ผู้ติดตามสี่คน จวนสองจวน ที่ดินสองแปลง สาวใช้สี่คนนั้นได้แต่งงานไปนานแล้ว หนึ่งในนั้นมีคนหนึ่งชื่อว่าหว่านเซียง เป็นคนที่หยวนเหนียงโปรดปรานมากที่สุดจึงได้แต่งกับคนรับใช้สกุลสวีชื่อว่าเฉินซวี่ที่ไม่มีพ่อมีแม่ สองสามีภรรยาเป็นคนดูแลห้องครัว เฉินซวี่รับผิดชอบเรื่องการซื้อวัตถุดิบ หว่านเซียงดูแลเรื่องงานในครัว ในบรรดาท่านป้าทั้งสอง คนหนึ่งคือป้าเถา นางเป็นแม่นมของหยวนเหนียง อีกคนหนึ่งได้เสียชีวิตไปเมื่อสิบปีก่อนแล้ว จวนทั้งสองของหยวนเหนียงเป็นเรือนสามหลัง จวนหนึ่งอยู่ที่ตรอกซื่อเถียว อีกจวนหนึ่งอยู่ที่ตรอกสือเปย ทั้งสองจวนอยู่รอบๆ ลิ่วปู้ เก็บค่าเช่ารายปีได้สองร้อยกว่าตำลึง ที่ดินทั้งสองแปลงอยู่ที่มณฑลต้าซิ่ง แปลงหนึ่งมีพื้นที่หกพันหมู่ อีกแปลงหนึ่งมีพื้นที่สองพันหมู่ แปลงที่มีพื้นที่หกพันหมู่มีบุตรชายของป้าเถาชื่อว่าเถาเฉิงเป็นคนดูแล แปลงที่มีพื้นที่สองพันหมู่มีผู้ติดตามอย่างเกาเหนี่ยนเป็นคนดูแล

ดูแล้วหว่านเซียงกับเกาเหนี่ยนจะไม่พอใจสองแม่ลูกสกุลเถาที่ดูแลทรัพย์สินของหยวนเหนียงโดยไม่ให้ผลประโยชน์แก่พวกเขา

นางพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “เจ้าลองเล่ามาสิว่ามันเป็นเรื่องอะไร”

ป้าเถาเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้สืออีเหนียงฟังอย่างละเอียด

เป็นอย่างที่สืออีเหนียงคาดเดาไว้ ตั้งแต่ที่ฮูหยินสามได้เป็นคนดูแลเรือน ครั้งที่แล้วก็อ้างเรื่องปลาตะลุมพุกเพื่อเปลี่ยนตัวเฉิงซวี่ จากนั้นจึงได้ปลดลูกชายคนโตของเกาเหนี่ยนชื่อว่าเกาผานที่ทำหน้าที่แผนกซื้อขายเนื่องจากว่าเขาจัดหาดอกไม้และธูปเทียนมาใช้ในงานไว้อาลัยของหยวนเหนียงได้ไม่เพียงพอ ส่วนคนอื่นๆ ที่มีหน้าที่เฝ้าเวรยามประตูใหญ่ ยืนเวรตอนกลางคืน และดูแลสวนดอกไม้ก็ถูกถอดถอนออกไปเยอะแล้ว แต่กลับไม่ได้มายุ่งกับสองแม่ลูกสกุลเถา หว่านเซียงจึงไปรวมพลกับคนเหล่านี้ วันๆ เอาแต่โวยวายเพื่อต้องการพบสืออีเหนียง

สืออีเหนียงยิ้มแล้วกล่าวว่า “ในเมื่ออยากเจอข้าก็ให้พวกเขาเข้ามาเถิด”

ป้าเถายิ้มแล้วพูดว่า “หากดูตามเหตุผลแล้วพวกเขาก็ควรจะมาคารวะท่าน เพียงแต่ว่ามีสองสามเรื่องที่บ่าวต้องเรียนท่านก่อน ท่านจะได้ไม่เสียเปรียบพวกเขา”

“ท่านป้าเชิญพูดมาได้เลย” สืออีเหนียงยิ้ม

“บ่าวคิดว่าหว่านเซียง เกาผานและกลุ่มคนพวกนั้นคงจะตัดสินใจให้ท่านช่วยเรื่องบางอย่าง ท่านต้องหนักแน่น จะตอบตกลงไม่ได้เด็ดขาดนะเจ้าคะ”

คำพูดของป้าเถาทำให้สืออีเหนียงประหลาดใจเล็กน้อย นางคิดว่าป้าเถาจะลองพูดเกลี้ยกล่อมให้นางช่วยออกหน้าให้คนพวกนั้น

“รายได้จากสินเดิมส่วนใหญ่ของคุณหนูใหญ่ คนอยู่ที่ไร่นาที่เถาเฉิงเป็นคนดูแล ต่อให้คนพวกนั้นจะโวยวายแค่ไหนก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ท่านพึ่งจะเข้ามา หากไท่ฮูหยินไม่ได้เป็นคนสั่งแล้วท่านไปต่อกรกับฮูหยินสาม ถ้าหากท่านชนะ คนอื่นก็จะคิดว่าเป็นเรื่องที่สมควรแล้วเพราะท่านเป็นถึงฮูหยินของท่านโหว แต่หากท่านแพ้ คนอื่นก็จะหัวเราะเยาะเอาได้” พูดไปก็รู้สึกว่าตัวเองเสียมารยาทจึงยิ้มแล้วพูดว่า “บ่าวไม่ได้จะบอกว่าท่านจะแพ้ บ่าวแค่จะบอกว่าหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากท่านโหวหรือการเห็นด้วยจากไท่ฮูหยิน ก็เป็นไปได้ยากที่ท่านจะชนะเจ้าค่ะ”

“ที่ท่านป้าพูดก็มีเหตุผล”

“ดังนั้นสิ่งที่ท่านควรทำในตอนนี้ก็คือการดูแลรับใช้ท่านโหวและไท่ฮูหยินให้ดี ส่วนเรื่องอื่นค่อยๆ วางแผนอีกครั้งก็ยังไม่สาย”

สมกับเป็นท่านป้ามือขวาของหยวนเหนียง ความคิดละเอียดอ่อน พิจารณาได้รอบคอบเป็นอย่างมาก

มีความชื่นชมเปล่งประกายออกมาจากแววตาของสืออีเหนียง “เช่นนั้นก็ทำตามที่ท่านป้าพูดเถิด”

นางสังเกตได้ว่าป้าเถาดูผ่อนคลายลงเป็นอย่างมาก

“เช่นนั้นบ่าวจะให้หว่านเซียงและคนอื่นๆ เข้ามาคารวะท่านเจ้าค่ะ”

สืออีเหนียงตอบตกลง

ป้าเถาเหลือสมุดบัญชีทิ้งไว้ “นี่คือรายชื่อคนของคุณหนูใหญ่กับสมุดบัญชีที่บ่าวดูแลมาตลอดหนึ่งปีนี้”

สืออีเหนียงให้สาวใช้น้อยไปเรียกหู่พั่วมา ตัวเองหยิบสมุดบัญชีขึ้นมาเปิดดู

รายมือเหมือนกันหมด มองดูก็รู้ว่าถูกคัดลอกขึ้นมาใหม่

หู่พั่วเข้ามาพอดี นางนำสมุดบัญชีส่งให้หู่พั่ว “เจ้าดูให้ละเอียด เจ้าจงจำชื่อคนพวกนี้และความสัมพันธ์ระหว่างกันไว้ให้ดี เมื่อถึงตอนนั้นมาดูกันว่าจะมีใครสามารถรับผิดชอบงานใหญ่ได้บ้าง”

หู่พั่วตอบรับแล้วรับสมุดบัญชีไป

สืออีเหนียงจมอยู่กับความครุ่นคิด

หากพูดอย่างไม่ลำเอียง หลายปีมานี้ที่หยวนเหนียงดูแลกิจการถือว่าทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว บรรดาผู้ติดตามต่างก็ได้แต่งงานกับผู้ดูแลที่ค่อนข้างเก่าแก่ในสกุลสวีอยู่บ้าง พ่อค้าที่มีระดับก็เป็นคนของนางทั้งหมด แม้แต่เสมียนบัญชีนางก็ได้แต่งตั้งเข้าไปถึงสองคน…หากเป็นตัวเองก็อาจจะทำได้ไม่ดีเท่านาง

ผ่านไปสักพักป้าเถาก็พาสตรีห้าหกคนและบุรุษอีกสองคนเข้ามา

นางแนะนำสตรีที่ท่าทางฉลาดคนหนึ่ง “นี่เป็นคนในครอบครัวเฉินซวี่ชื่อว่าหว่างเซียง ตอนนี้เป็นผู้ดูแลห้องครัว” แล้วชี้ไปที่บุรุษผอมสูง “คนนี้คือเกาผาน เดิมอยู่แผนกซื้อขายเชี่ยวชาญเรื่องธูปเทียนและถ่าน”

จะบอกว่าตอนนี้ไม่มีงานให้ทำแล้วใช่หรือไม่

สืออีเหนียงครุ่นคิด

ป้าเถาได้แนะนำคนอื่นๆ ให้นางอีกสองสามคน เดิมทีพวกเขาเคยรับผิดชอบด้านใดด้านหนึ่งแต่ตอนนี้ต่างก็พากันว่างไม่มีอะไรทำ

หลังจากคำนับสืออีเหนียง เกาผานผู้นั้นรอไม่ไหวจึงรีบพูดกับสืออีเหนียงว่า “ฮูหยิน ท่านต้องช่วยพวกเรานะขอรับ พวกเราเป็นคนสกุลหลัวมาตลอดชีวิต แต่ตอนนี้ได้ถูกฮูหยินสามเปลี่ยนตำแหน่งอย่างง่ายดาย ทำแบบนี้ก็เหมือนกับหักหน้าคุณหนูใหญ่ที่เสียชีวิตไป แล้วก็เท่ากับหักหน้าท่านด้วย”

คนอื่นๆ ก็พากันเห็นด้วย กลุ่มคนเริ่มฮึกเหิมขึ้นมา

สืออีเหนียงสังเกตเห็นว่าชายที่ชื่อว่าหยางฮุยจู่กับหญิงที่ถูกเรียกว่าสะใภ้เหวยลู่พากันเงียบไม่พูดอะไร ตามที่ป้าเถาแนะนำเมื่อครู่ หยางฮุยจู่ผู้นี้อายุสิบกว่าปีก็ต้องตามหยวนเหนียงมาที่จวนสกุลสวี เดิมทีอยู่แผนกซื้อขายเชี่ยวชาญเรื่องผงชาดของสาวใช้ และเสื้อผ้าสี่ฤดู ส่วนเหวยลู่รับผิดชอบประตูทุกบานของเรือนในตอนกลางคืน

สืออีเหนียงพูดปลอบใจคนเหล่านั้นสองสามประโยค บอกว่าตัวเองพึ่งจะเข้ามา มีบางเรื่องที่ยังไม่เข้าใจ รอให้เข้าใจสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยว่ากัน จากนั้นก็ให้พวกเขาออกไป ใบหน้าของคนเหล่านั้นเผยให้เห็นถึงความผิดหวัง

สืออีเหนียงและป้าเถาไปยังจวนของหยวนเหนียง

ทุกคนทำราวกับว่านางยังคงอยู่ที่นั่น ทุกอย่างยังคงสภาพเดิม

ดูแล้วคงจะเป็นฝีมือของป้าเถา

นางให้หู่พั่วเรียกคนตามรายชื่อในสมุดบัญชีของป้าเถา

เยียนหง ลี่ว์เอ้อร์ เจี้ยงจื่อ เป่าหลานที่เป็นสาวใช้ใหญ่ทั้งสี่คน เหมยชิ่น จู๋ซิ่ว กุ้ยเฟิน สุ่ยจือที่เป็นสาวใช้ระดับสองสี่คน แล้วยังมีฟางเฟย เถาหรุ่ยและคนอื่นๆ อีกยี่สิบกว่าคนเป็นสาวใช้ระดับสาม ระดับสี่ สตรีที่แต่งงานแล้วอีกสิบกว่าคน ทั้งหมดทั้งมวลรวมกันเป็นสี่สิบกว่าคน

สืออีเหนียงหันไปปรึกษาป้าเถา “เยียนหงและสาวใช้ใหญ่คนอื่นๆ เจ้าช่วยหาครอบครัวดีๆ ให้พวกนางเถิด แล้วเหลือสักสองสามคนที่ฉลาดและมีความสามารถเอาไว้ช่วยดูแลจวน อย่าให้ที่นี่ถูกปล่อยร้าง ”

ป้าเถาพยักหน้า พอคิดถึงหยวนเหนียงที่จากไปก็น้ำตาซึม

สืออีเหนียงเห็นว่าเวลาล่วงเลยมานานแล้วจึงได้ไปหาไท่ฮูหยิน ฮูหยินสามกับฮูหยินห้าก็อยู่ที่นั่น

คนหนึ่งกำลังจัดตะเกียบอยู่กับสาวใช้ อีกคนหนึ่งกำลังพูดคุยอยู่กับไท่ฮูหยินอย่างสนิทสนมบนตั่ง

เมื่อเห็นสืออีเหนียงเข้ามา ทั้งสองคนก็พากันทักทายนาง ไท่ฮูหยินชี้ไปที่ตั่งฝั่งตรงข้าม “ได้ยินมาว่าเจ้ายุ่งมาตลอดช่วงเช้า คงจะเหนื่อยแล้ว รีบนั่งพักก่อนเถิด”

ได้ยินมา…ได้ยินใครพูดมา

สืออีเหนียงสังเกตเห็นว่าฮูหยินสามเผยอรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก

นางยิ้มแล้วคำนับไท่ฮูหยิน จากนั้นก็ไปนั่งที่ตั่ง บอกแผนการจัดการของตัวเองแก่ไท่ฮูหยิน “…เยียนหงกับลี่ว์เอ้อร์ก็อายุไม่น้อยแล้ว จึงอยากจะมาถามความเห็นของท่าน ท่านคิดว่าทำเช่นนี้ได้หรือไม่”

“นี่เป็นเรื่องดีเชียวล่ะ” ไท่ฮูหยินยิ้มแล้วพูดต่อว่า “ทำอย่างที่เจ้าว่าเถิด”

สืออีเหนียงตอบรับ “เจ้าค่ะ” ฮูหยินสามได้จัดตะเกียบเรียบร้อยแล้ว

ไท่ฮูหยินไม่ได้ถือกฎเกณฑ์กับลูกสะใภ้ ให้เหยาหวงไปเรียกจุนเกอกับเจินเจี่ยเอ๋อร์มา รอให้ทั้งสองคนคำนับผู้อาวุโส จากนั้นทั้งหมดก็นั่งทานข้าวกลางวันด้วยกัน

ไท่ฮูหยินและเด็กๆ ไปนอนกลางวัน ลูกสะใภ้ทั้งสามจึงพากันกลับเรือน

ฮูหยินห้าคล้องแขนสืออีเหนียง “ตอนกลางวันพวกเรามาเล่นไพ่นกกระจอกกับไท่ฮูหยินเถิด”

ตอนเช้าไท่ฮูหยินก็พูดเรื่องเล่นไพ่นกกระจอก ดูแล้วไท่ฮูหยินคงจะหาคนเล่นไพ่นกกระจอกตอนกลางวันอยู่บ่อยๆ…

ฮูหยินสามกลับปฏิเสธอย่างอ้อมค้อม “ข้าไม่ได้มีโชคขนาดนั้น ยังมีงานรอให้ข้าไปจัดการอีกเป็นกอง”

ฮูหยินห้ายิ้มแล้วมองไปยังสืออีเหนียง “ไม่เป็นไร ข้าจะสอนเจ้าเอง”

สืออีเหนียงยิ้มตอบ จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไป

ระหว่างทาง สืออีเหนียงกำชับหู่พั่วว่า “ว่างๆ เจ้าก็ไปเดินกับป้าเถาสักหน่อย ดูว่าคนเหล่านั้นทำอะไรกันบ้าง จะได้ถือโอกาสนี้ดูว่าพวกเขาเป็นคนเยี่ยงไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าต้องการให้เจ้าไปสืบมาว่าหลังจากที่หยางฮุยจู่กับภรรยาเหวยลู่ออกจากเรือนพวกเราไปแล้วพวกเขาไปทำสิ่งใด”

หู่พั่วจดจำแล้วพยักหน้าตอบ

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท