หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 35 ปฏิเสธคำขอโทษ

ตอนที่ 35 ปฏิเสธคำขอโทษ

 

ดังนั้นหญิงสาวที่อยู่ตรงนี้ซึ่งล้วนเป็นคุณหนูใหญ่เชื้อสายหลักที่ถูกเอาอกเอาใจจะให้พวกนางเรียกภรรยารองว่ามารดาเช่นนั้นหรือ อย่าว่าแต่บุตรจากภรรยาเก่าก่อนเลย แม่แต่ภรรยาที่แต่งเข้าไปใหม่ยังไม่ยินยอม เดิมทีก็ไม่อาจเทียบชั้นฐานะกับบุตรของภรรยาเก่าไม่ได้อยู่แล้ว หรือว่ายังจะให้ภรรยารองมาเหยียบหัวพวกนางอีกงั้นหรือ 

“เซี่ยเพ่ยหวน เจ้ากล้าดีนัก” หย่งชังจวิ้นจู่โกรธหน้าดำหน้าแดง จ้องหญิงสาวสองคนตรงหน้าเขม็ง รู้สึกว่ายิ่งมองก็ยิ่งขัดตา แม้นางจะเป็นจวิ้นจู่ที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นมา ทว่ากลับมาจากเชื้อสายรอง อยู่ในจวนกลับไม่ได้โดดเด่นเช่นทุกคนเห็น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ารูปลักษณ์ราชวงศ์นั้นส่วนใหญ่แล้วดูธรรมดา อีกทั้งรูปร่างของหย่งชังจวิ้นจู่นั้นเห็นได้ชัดว่าได้มาจากบิดาผู้เป็นรัชทายาท ไม่ได้มาจากมารดาผู้เลี้ยงดูแต่อย่างใด นี่ทำให้นางมีอคติต่อหญิงสาวผู้มีรูปโฉมงดงามโดยธรรมชาติ เมื่อมองจากในแง่นี้แล้ว หนานกงซูที่ทำให้หย่งชังจวิ้นจู่ชื่นชอบได้นั้นนับว่ามีความสามารถแล้ว 

เซี่ยเพ่ยหวนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หม่อมฉันสามหาวตรงไหนหรือเพคะ จวิ้นจู่ได้โปรดชี้แนะ” 

“เจ้า…เจ้า…เด็กๆ ตบหน้านางให้ข้าเดี๋ยวนี้” หย่งชังจวิ้นจู่เก็บกักความโกรธเอาไว้ไม่อยู่ กรีดร้องเสียงดังออกมา 

หญิงวัยกลางคนสองสามคนเดินเข้ามา มุ่งตรงมายังเซี่ยเพ่ยหวน ผู้คนรอบข้างเห็นดังนั้นทว่ากลับไม่มีใครมาขอร้องอ้อนวอนแทนเซี่ยเพ่ยหวน ใช่ว่าจะโกรธเกลียดเซี่ยเพ่ยหวนอะไร เพียงแต่หย่งชังจวิ้นจู่ผู้นี้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ว่าไร้ซึ่งเหตุผล หากนางไม่สนใจทำร้ายผู้ที่ขอร้องอ้อนวอนด้วย ถึงตอนนั้นคงเสียชื่อไปถึงตระกูลแล้ว 

“จวิ้นจู่ หากเพียงพอก็สมควรหยุดได้แล้ว” ใบหน้าเซี่ยเพ่ยหวนเข้มขึ้น กวาดตามองเหล่าหญิงสาวที่เดินเข้าหาตนด้วยดวงตาดุดันพลางเอ่ยเสียงเข้ม แม้ฐานะนางจะสู้หย่งชังจวิ้นจู่ไม่ได้ ทว่าเซี่ยเพ่ยหวนกลับไม่ได้มีความเกรงกลัวต่อจวิ้นจู่ผู้นี้เลย เป็นบุตรีรัชทายาทแล้วเยี่ยงไร เบื้องบนยังมีฝ่าบาทอยู่นะ ยิ่งไปกว่านั้นรัชทายาทเองคงมิกล้าท้าทายตระกูลเซี่ยเพราะเชื้อสายรองเพียงคนเดียวหรอก 

หย่งชังจวิ้นจู่กลับเข้าใจว่าเซี่ยเพ่ยหวนนั้นกลัวตนเอง เชิดหน้าขึ้นแล้วเอ่ยว่า “รู้จักเกรงกลัวก็ดี รีบรับความผิดต่อหน้าข้าเดี๋ยวนี้ ข้าจะปล่อยเจ้าไป” 

หย่งชังจวิ้นจู่ไม่รู้ว่าคำพูดนี้ของนางยิ่งทำให้เซี่ยเพ่ยหวนโกรธหนักยิ่งขึ้นไปอีก ตระกูลเซี่ยคารวะฟ้าดิน คารวะบิดามารดา นางเป็นเพียงจวิ้นจู่ มีคุณสมบัติใดถึงจะให้นางมาคารวะอ้อนวอนร้องขอ เซี่ยเพ่ยหวนเอ่ยเสียงเข้ม “จวิ้นจู่คิดจะดูหมิ่นตระกูลเซี่ยของข้างั้นหรือ” ใบหน้าหย่งชังจวิ้นจู่แข็งค้าง เสด็จพ่อปฏิบัติต่อตระกูลเซี่ยเช่นไรนางก็พอรู้อยู่บ้าง แต่ว่า…หากปล่อยเซี่ยเพ่ยหวนไปเช่นนี้ นางจะเอาหน้าไปไว้ที่ใดกัน หย่งชังจวิ้นจู่กัดฟันแน่นจากนั้นจึงเอ่ยขึ้น “เจ้าเสียมารยาทต่อจวิ้นจู่อย่างข้า ยังไม่สมควรโดนตีอีกงั้นหรือ ตบนางเดี๋ยวนี้” 

“เพคะจวิ้นจู่” 

หญิงผู้หนึ่งก้าวมาด้านหน้า สะบัดฝ่ามือใหญ่ไปที่ใบหน้าเซี่ยเพ่ยหวน หย่งชังจวิ้นจู่ที่อยู่ด้านหลังนั้นมีท่าทีพึงพอใจ 

ทว่าฝ่ามือนั้นกลับมิได้ปะทะกับใบหน้าของเซี่ยเพ่ยหวน มือเรียวสวยคว้ามือใหญ่ของหญิงผู้นั้นเอาไว้ แม้จะมีท่าทางนุ่มนวลอ่อนโยน ทว่าหญิงสาวผู้ถูกคว้าแขนเอาไว้นั้นกลับมีใบหน้าซีดเซียว ไม่สามารถเอ่ยสิ่งใดออกมาได้ 

หนานกงมั่วเงยหน้า คลี่ยิ้มให้เล็กน้อยพลางกล่าวกับหย่งชังจวิ้นจู่ “จวิ้นจู่ ได้โปรดไตร่ตรอง” 

เมื่อสบตากับนาง ไม่รู้ทำไมหย่งชังจวิ้นจู่จึงรู้สึกราวกับกำลังทำสงครามเย็น ทว่าไม่นานหย่งชังจวิ้นจู่ก็ได้สติ ความโกรธเพิ่มขึ้นในใจ นางเป็นถึงจวิ้นจู่ เพียงอยากสั่งสอนสักหน่อยแต่กลับกล้ามาขวาง ไม่เห็นนางอยู่ในสายตาแล้วหรือ 

“สั่งสอนพวกนางพร้อมกัน ข้าจะสั่งสอนหญิงชาวบ้านผู้ไม่รู้มารยาทผู้นี้แทนฉู่กั๋วกงเอง” 

คิ้วสวยของหนานกงมั่วเลิกขึ้น ยกมือผลักให้เซี่ยเพ่ยหวนมาหลบด้านหลังตนเอง นางกำนัลที่เหลือด้านหลังก้าวเข้าหาหนานกงมั่ว หนานกงมั่วผลักมือใต้แขนเสื้อสวยเบาๆ เข็มแหลมคมสะท้อนแสงวาบชั่วพริบตา ยามที่กำลังจะสั่งสอนอีกฝ่าย หางตาของหนานกงมั่วเหลือบไปยังทางเข้าสวนพฤกษาที่อยู่ไม่ไกลออกไป มุมปากยกยิ้มเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็ปล่อยมือที่คว้ามืออีกฝ่ายเอาไว้ 

นางกำนัลที่ถูกหนานกงมั่วจับเอาไว้เมื่อได้รับอิสระความโกรธเกรี้ยวก็ปะทุขึ้นจึงสะบัดมือตบลงบนใบหน้าของหนานกงมั่ว 

“บังอาจ” น้ำเสียงเยือกเย็นดังขึ้น มีเพียงสายลมพัดผ่าน สองคนที่เดิมทีมีท่าทางดุดันเตรียมเงื้อมือขึ้นตบหน้า ตอนนี้กุมมือกันล้มลงไปเสียแล้ว 

หนานกงมั่วถูกดึงเข้าสู่อ้อมแขนด้วยฝ่ามือที่เย็นเยียบ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นใบหน้าเย็นยะเยือก ดวงตาสีม่วงเต็มไปด้วยความสงสัย 

“พี่ชาย” หย่งชังจวิ้นจู่ใบหน้าถอดสี เอ่ยเสียงหลง 

เหล่าหญิงสาวที่อยู่รอบข้างต่างมีใบหน้าซีดขาว ก้าวถอยหลังราวกับเจอผีร้าย เมื่อเข้าใกล้แล้วจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ 

“หย่งชัง เจ้าทำอะไร” ด้านหลังมีเสียงเซียวเชียนเยี่ยดังขึ้น ทุกคนหันกลับไปก็เห็นว่าเซียวเชียนเยี่ยกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับคนกลุ่มหนึ่ง หนานกงไหวมากับเซียวเชียนเยี่ยด้วย เวลานี้ทั้งสามมีสีหน้าไม่ดีเท่าไรนัก ราวกับว่าสิ่งที่จวิ้นจู่เอ่ยขึ้นเมื่อครู่นั้นพวกเขาต่างก็ได้ยินกันหมดแล้ว หนานกงไหวเอ่ยเสียงเย็น “บุตรีไร้มารยาทกระหม่อมจะสั่งสอนเอง ไม่จำเป็นต้องรบกวนจวิ้นจู่” 

หย่งชังจวิ้นจู่หน้าซีดทันที หันไปมองเซียวเชียนเยี่ยอย่างขอความช่วยเหลือ ความใจร้อนเพียงชั่วครู่ทำให้ตอนนี้ต้องมาเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ แม้จะเป็นถึงจวิ้นจู่ก็ยังหวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ตระกูลเซี่ย จวนฉู่กั๋วกง องค์หญิงฉังผิง เยี่ยนอ๋อง ผู้คนเหล่านี้ไม่ใช่ผู้ที่จวิ้นจู่ที่มีเชื้อสายรองอย่างนางจะท้าทายได้ ยิ่งไปกว่านั้น ซ้ำยังเป็นยามที่จวนรัชทายาทอยากดึงจวนฉู่กั๋วกงและตระกูลเซี่ยเข้ามาร่วมด้วย 

ดวงตาของเซียวเชียนเยี่ยดุดันขึ้น ราวกับมองไม่เห็นการร้องขอจากหย่งชังจวิ้นจู่ กลับเดินเข้าไปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแทน “คุณหนูหนานกง คุณหนูเซี่ย หย่งชังเสียมารยาท กลับไปข้าจะรายงานแก่มารดาให้สั่งสอนนางเอง ขอทั้งสองท่านโปรดอภัย” 

หนานกงมั่วถอยออกมาจากอ้อมแขนของเว่ยจวินมั่วแล้ว แม้จะมีการหมั้นหมายทว่าต่อหน้าผู้คนหมู่มากยิ่งต้องวางตัว นางหันกลับไปมองเซี่ยเพ่ยหวนที่ยืนอยู่ด้านหลังตนเอง เห็นเพียงเซี่ยเพ่ยหวนก้มหน้ายิ้มหัวเราะเบาๆ อยู่ “เย่ว์จวิ้นอ๋องไว้หน้าเกินไปแล้ว จวิ้นจู่สูงส่ง หม่อมฉันเป็นบ่าว หากจวิ้นจู่อยากให้หม่อมฉันตาย หม่อมฉันก็คงมิกล้าขัด เพียงแต่ ต่อไปขอจวิ้นจู่ทำร้ายข้าเพียงผู้เดียวก็พอแล้ว เซี่ยเพ่ยหวนยอมตายดีกว่าทำให้สกุลเซี่ยต้องอับอาย” 

สีหน้าเซียวเชียนเยี่ยเปลี่ยนสีเล็กน้อย ยิ้มขื่นออกมา “คุณหนูเซี่ยกล่าวเกินไปแล้ว เรื่องวันนี้เป็นการเข้าใจผิด ข้ากลับไปจะสั่งสอนน้องสาวให้ดี หย่งชัง ยังไม่ขอโทษคุณหนูเซี่ยและคุณหนูหนานกงอีก” 

สีหน้าหย่งชังจวิ้นจู่เปลี่ยนไปอย่างมาก นางเป็นถึงจวิ้นจู่ไยต้องไปกล่าวขอโทษข้าราชบริพาร ต่อไปนางจะมีหน้าไปเจอใครได้อย่างไร 

“เสด็จพี่…” 

“ขอโทษ!” เซียวเชียนเยี่ยเอ่ยสั่งเสียงเข้ม 

หย่งชังจวิ้นจู่กัดริมฝีปากแน่นไม่ยอมเอ่ยปาก แววตานั้นราวกับอยากแทงเซี่ยเพ่ยหวนและหนานกงมั่วให้ทะลุเป็นพรุน 

“คุณหนูเซี่ยกล่าวได้ไม่เลว จะกล้าให้จวิ้นจู่ต้องขอโทษได้เยี่ยงไร เรื่องนี้…ปล่อยมันไปเถิด” หนานกงมั่วที่ยืนเงียบอยู่นานเอ่ยขึ้น 

เซียวเชียนเยี่ยขมวดคิ้ว “ทำผิดย่อมต้องขอโทษ หย่งชัง…” 

หย่งชังจวิ้นจู่ใบหน้าถอดสี จ้องหนานกงมั่วเขม็ง เอ่ยว่า “ใครขอให้เจ้ามาช่วย ข้าเป็นถึงจวิ้นจู่ ข้าเป็นธิดาของรัชทายาท หลานของฝ่าบาท ตบพวกเจ้าสองคนแล้วเยี่ยงไรเล่า พวกเจ้า…” 

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท