หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 104 อวดความรักกับองค์ฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งประเทศ (3)

ตอนที่ 104 อวดความรักกับองค์ฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งประเทศ (3)

“เย่ว์จวิ้นอ๋อง พระชายาจวิ้นอ๋อง” หนานกงมั่วพยักหน้า เอ่ยด้วยรอยยิ้มบางๆ

เซียวเชียนเยี่ยทำตัวราวกับไม่มีข่าวลือให้รู้สึกกระอักกระอ่วน ยิ้มพลางเอ่ย “บังเอิญแล้ว นานๆ ทีข้ากับพระชายาจะได้ออกมาเดินเที่ยวชม บังเอิญได้พบกับน้องชายและคุณหนูหนานกง”

ช่างบังเอิญเสียจริง หากท่านรู้ว่าก่อนหน้านี้ข้าบังเอิญเจอใครเข้า เกรงว่าท่านคงต้องตกใจแน่

เซียวเชียนเยี่ยเงยหน้าขึ้นไปมองป้ายร้านค้าริมถนน เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “น้องชายเจ้าจะซื้อเครื่องประดับให้แม่นางหนานกงหรือ พระชายาจะเลือกดูบ้างหรือไม่”

ใบหน้าของพระชายายังซีดเซียวอยู่บ้าง ได้ยินเซียวเชียนเยี่ยถาม พระชายาจึงยิ้มตอบรับบางๆ มิได้เอ่ยรับคำ หนานกงมั่วยิ้มออกมาเล็กน้อย “น่าอายแล้ว ร้านนี้เป็นกิจการที่มารดาของหม่อมฉันทิ้งไว้ให้ หากพระชายาต้องตาชิ้นไหน ถือเสียว่าเป็นน้ำใจจากหม่อมฉันเถิด ถือเสียว่าเป็นคำอวยพรขอพระชายาคลอดซื่อจื่อน้อยอย่างดี ดีหรือไม่เพคะ” แม้จะเป็นเพราะหนานกงซูทำให้หยวนซื่อจึงไม่ชื่นชอบตระกูลหนานกงเท่าใดนัก แต่โบราณว่าไม่ยื่นมือตบหน้าคนที่ยิ้มให้ เมื่อเห็นว่าหนานกงมั่วรู้จักวางตัว ท่าทางจริงใจ หยวนซื่อจึงไม่ควรเอาความโกรธแค้นที่มีต่อตระกูลหนานกงมาลงที่นาง

“คุณหนูหนานกงเกรงใจเกินไปแล้ว” หยวนซื่อพยักหน้าตอบรับ

หนานกงมั่วยิ้ม “พระชายากล่าวเกินไปแล้ว เชิญทั้งสองท่านด้านในเจ้าค่ะ”

หอหลินหลางเป็นหนึ่งในกิจการมากมายที่เมิ่งซื่อเก็บเอาไว้ให้ ตั้งแต่เอากิจการของมารดาคืนมา หนานกงมั่วก็มอบให้ลิ่นฉังเฟิงเป็นคนจัดการดูแล สั่งให้คนตกแต่งปรับปรุงขึ้นใหม่อีกครั้ง พึ่งเปิดกิจการได้ไม่นาน หนานกงมั่วเองก็ยังไม่เคยมา เมื่อเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ก็มองเห็นการตกแต่งที่งดงามและมิได้ธรรมดาจนเกินไป ผนังสองฝั่งจัดวางเครื่องประดับมากมายหลายชนิด ชั้นวางถูกเช็ดทำความสะอาดเป็นอย่างดี ยังมีดอกดารารัตน์ตกแต่งอีกสองกระถาง อีกฝั่งเป็นเก้าอี้นั่งให้ลูกค้าได้นั่งพักตามสบาย หนานกงมั่วรู้สึกพึงพอใจ ลิ่นฉังเฟิงไม่ทำให้นางต้องผิดหวังจริงๆ นางเพียงเอ่ยประโยคสองประโยคเขาก็สามารถจัดการออกมาได้ดีถึงเพียงนี้ แม้ยามนี้หอหลินหลางจะยังห่างไกลจากหอไต้เย่ว์ของตระกูลจูอยู่มากโข แต่นางเชื่อว่าแม้นางจะไม่สามารถแซงหน้าไปได้ในทันที ทว่าก็ไม่ได้ด้อยกว่ามากอย่างแน่นอน

ตอนที่พวกเขาเดินเข้าไปนั้นกำลังมีหญิงสาวที่สวมผ้าขาวบดบังใบหน้ากำลังนั่งเลือกเครื่องประดับโดยมีสาวใช้อยู่เคียงข้าง เมื่อเห็นว่ามีคนมา ผู้จัดการร้านจึงรีบเข้ามาต้อนรับ “เชิญลูกค้าทั้งสี่ท่านด้านในเลยขอรับ ไม่รู้ว่าทั้งสี่ท่านต้องการเลือกดูสิ่งใดหรือขอรับ”

เซียวเชียนเยี่ยอดหัวเราะออกมาไม่ได้ หันกลับมาหาหนานกงมั่ว “น่าสนใจแล้ว ผู้จัดการร้านไม่รู้จักเถ้าแก่หรือ”

ผู้จัดการร้านชะงัก จากนั้นสายตามองไปยังปิ่นหยกรูปดอกบัวที่ปักบนศีรษะของหนานกงมั่ว รีบเอ่ยอย่างร้อนรน “ท่านนี้…คุณหนูใหญ่หรือขอรับ ข้าน้อยมีตาหามีแววไม่ ขอคุณหนูอย่าได้โกรธข้าน้อยเลยขอรับ” หนานกงมั่วยิ้มบางๆ “ข้าไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ผู้จัดการร้านไม่รู้จักก็ไม่แปลก มีอันใดต้องโกรธเล่า” หยิบตราประทับออกมาจากแขนเสื้อส่งไปให้ ผู้จัดการร้านก้มลงไปดู ใบหน้ายิ่งฉายแววนอบน้อมมากขึ้น “ข้าน้อยคารวะคุณหนูใหญ่ วันนี้คุณหนูใหญ่มา…”

หนานกงมั่วเอ่ย “เพียงมาเดินเล่น ผู้นี้คือเย่ว์จวิ้นอ๋อง พระชายาจวิ้นอ๋อง และผู้สืบทอดจวิ้นอ๋องแห่งจิ้งเจียง ในร้านมีสิ่งใดดีๆ รีบเอาออกมาให้พระชายาได้ดูเถิด ไม่แน่หากพระชายาต้องตา ต่อไปร้านนี้อาจได้รับรองลูกค้าสูงส่งอีกหลายท่าน”

ผู้จัดการร้านยิ้ม “ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้ คุณหนูใหญ่ ท่านอ๋อง พระชายา ซื่อจื่อเชิญนั่งด้านในก่อนขอรับ”

ร้านขายเครื่องประดับและอัญมณีเดิมก็เป็นกิจการของคนมีเงิน ดังนั้นร้านจึงได้จัดเตรียมชาชั้นดีและของว่างเลิศรสเพื่อรับรองแขกชั้นสูงอยู่เสมอ ผู้จัดการร้านเป็นคนนำของว่างและชาเหล่านั้นมาให้ด้วยตนเอง จากนั้นจึงกลับไปนำอัญมณีและเครื่องประดับงดงามออกมาให้ได้เลือกชม

เมื่อนั่งอยู่ในห้องอันโอ่อ่ากว้างขวาง เซียวเชียนเยี่ยยิ้มให้หนานกงมั่ว “คิดไม่ถึงว่าฉู่กั๋วกงจะยกกิจการหอหลินหลางให้คุณหนูใหญ่ดูแลแล้วหรือ” เซียวเชียนเยี่ยเอ่ยประโยคนี้แล้วก็รู้สึกท้อแท้อยู่ในใจ เดิมอยากแต่งหนานกงซู ใครจะรู้ว่าสุดท้ายจะออกมาเป็นเช่นนี้ ซ้ำยังพึ่งรู้ว่าตระกูลหนานกงยังมีอีกคนที่เหมาะสมมากกว่า เพียงแต่เมื่อเทียบกับหนานกงซูแล้ว หนานกงมั่วดูจะควบคุมได้ยากทีเดียว เมื่อคิดถึงจุดนี้ เซียวเชียนเยี่ยจึงรู้สึกสงบขึ้นมาบ้าง เขาไม่ต้องการสนมที่หาเรื่องปวดหัวให้เขา

หากไม่ให้สิจึงจะแปลก ใบหน้าหนานกงมั่วนิ่งลง ยิ้มบางๆ “ท่านพ่อบอกว่าไม่ช้าก็เร็วอย่างไรข้าก็ต้องเรียนรู้เรื่องพวกนี้ มิสู้ฝึกฝนเอาไว้ให้เร็วที่สุดจะดีกว่า ละอายต่อเย่ว์จวิ้นอ๋องแล้ว”

“ไม่หรอก ฉู่กั๋วกงรักบุตรีถึงเพียงนี้ สมคำร่ำลือแล้ว” เซียวเชียนเยี่ยเอ่ย

หนานกงมั่วมุมปากกระตุก ต่อให้เซียวเชียนเยี่ยโกรธหนานกงไหวเพียงใดก็ไม่ควรมาลงกับนางหรือไม่ รักบุตรีอันใดกัน…

คิ้วสวยเลิกขึ้น ยังคงยิ้มพลางตอบ “เย่ว์จวิ้นอ๋องกล่าวถูกแล้ว บิดาที่ไหนจะไม่รักบุตรีของตนบ้าง ท่านว่าใช่หรือไม่”

รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเชียนเยี่ยแข็งทื่อขึ้นมา “คุณหนูใหญ่หนานกงกล่าวถูกแล้ว”

ทั้งสองพูดคุยกันไปเรื่อย เว่ยจวินมั่วและพระชายาจวิ้นอ๋องกลับนั่งเงียบอยู่ด้านข้างไม่มีใครเอ่ยแทรก เว่ยจวินมั่วนั้นไม่สนใจ หยวนซื่อนั้นยังมีความโกรธอยู่ ไม่อยากพูดคุยอันใด แต่เซียวเชียนเยี่ยสามารถพาหยวนซื่อออกมาเดินเล่นได้ คาดว่าคงตกลงกับจวนเอ้อกั๋วกงเรียบร้อยแล้ว แต่เงื่อนไข อย่างไรเสียก็คงให้เอ้อกั๋วกงหลีกทางให้บ้าง เป็นสตรีจะเสียเปรียบก็ตรงนี้ เมื่อแต่งงานแล้ว ต่อให้สามีย่ำแย่เพียงใดแต่ก็ยังคงต้องอยู่ร่วมกันต่อไป ทำได้เพียงอดทนเอาไว้ แม้เอ้อกั๋วกงจะไม่คิดเลี้ยงบุตรีไปตลอดชีวิต ทว่าอย่างไรเขาก็ต้องคำนึงถึงความโดดเดี่ยวและจุดจบที่เศร้าโศกของบุตรีอยู่บ้าง

เซียวเชียนเยี่ยมองหยวนซื่อ เห็นว่านางไม่ยอมเอ่ยวาจา ดวงตาของเขาจึงจมลึกยิ่งขึ้น ยิ้มและหันไปเอ่ยกับหนานกงมั่ว “แม่นางหนานกง ไม่รู้ว่าซูเอ๋อร์…”

หนานกงมั่วจ้องมองเซียวเชียนเยี่ยนิ่ง ในใจนั้นอยากตบเขาสักฉาด ถามหาหญิงอื่นต่อหน้าภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ หรือเขาคิดอยากให้นางซาบซึ้งกับความรักของเขาแล้วไปขอร้องหนานกงไหวแทนเขาอย่างนั้นหรือ เซียวเชียนเยี่ยผู้นี้ภายนอกดูสุภาพบุรุษ เบื้องลึกนั้นเลวทรามเพียงใด หรือว่าชายในยุคสมัยนี้ล้วนเป็นเช่นนี้อย่างนั้นหรือ เหลือบมองเว่ยจวินมั่วที่นั่งอยู่ด้านข้างเล็กน้อย เว่ยจวินมั่วมีท่าทีสงบนิ่ง จึงหันกลับไปมองเซียวเชียนเยี่ยด้วยสายตาเย็นชา

ไม่รอให้เซียวเชียนเยี่ยได้เอ่ยจบ ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มของหนานกงมั่วก็มองมา “เย่ว์จวิ้นอ๋องถามถึงน้องรองหรือ น้องรองซนมากจนท่านพ่อโกรธ ก่อนหน้านี้พึ่งโดนโบยไปสามสิบไม้ ยามนี้กำลังสำนึกผิดอยู่ในศาลบรรพชนเจ้าค่ะ”

ใบหน้าของเซียวเชียนเยี่ยชะงักนิ่ง สีหน้ากระอักกระอ่วน “เรื่องนี้…เป็นความผิดของข้าเอง ขอคุณหนูใหญ่กลับไปได้โปรดช่วยพูดกับฉู่กั๋วกงด้วย”

หนานกงมั่วย่นคิ้ว เอ่ยออกมาด้วยท่าทางเย็นชา “เย่ว์จวิ้นอ๋องหมายถึงอย่างไรหรือ แม้จะบอกว่าไม่อยากตีเลยสักครั้ง ทว่านั่นเป็นเพราะน้องสาวไม่สามารถรักษากฎระเบียบจนเกิดเรื่องขึ้นมา เพียงแต่หนุ่มสาวใครบ้างที่ไม่มีจิตใจอ่อนไหว บางทีอาจหูเบาโดนคนอื่นหลอกก็ไม่แน่นัก ในเมื่อครั้งนี้นางทำผิด ท่านพ่อเองก็สั่งสอนไปแล้ว ต่อไปเปลี่ยนแปลงได้อาจกลายเป็นคนดีขึ้นมา อย่างไรเสีย มีใครบ้างที่ไม่เคยเจอคนเลวเมื่อครั้งอยู่ในวัยหนุ่มสาวเล่า”

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท