หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 110 คลื่นลมไม่สงบ (4)

ตอนที่ 110 คลื่นลมไม่สงบ (4)

“เจ้าวางใจ พี่ชายรู้แล้วว่าต้องทำเช่นไร” หนานกงฮุยตอบด้วยท่าทางเศร้าสลด

มองหนานกงฮุยก้มหน้าเดินออกไป หนานกงมั่วจึงถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา แม่นมหลานส่งน้ำชาที่เปลี่ยนมาใหม่สู่มือของนาง เอ่ยเสียงเบา “คุณหนูใหญ่กังวลเพราะคุณชายรองหรือเจ้าคะ”

หนานกงมั่วส่ายหน้า “คนนิสัยเยี่ยงพี่รองนั้นหาได้ยาก ท่านแม่มิได้ดูแลเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่ยังเด็ก เติบโตมาเช่นนี้ได้นับว่าไม่ง่ายเลย” เพียงแต่นิสัยเช่นนี้ หากอยู่ในจวนฉู่กั๋วกงแล้วคงลำบาก เกรงว่าหากมิใช่เพราะมีพี่ใหญ่ปกป้อง ก็ไม่รู้ว่าจะถูกเจิ้งซื่อวางแผนทำลายไปอย่างไรบ้างแล้ว นิสัยของหนานกงฮุยแสดงละครไม่เป็น แม้ว่าเขาจะเรียกเจิ้งซื่อว่าท่านแม่เหมือนหนานกงชวี่ แต่เมื่อเจิ้งซื่อมีสิ่งใดไม่ดี ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐาน แม้แต่จะไตร่ตรองยังไม่มีสักนิด ล้วนตัดสินไปแล้ว เช่นนั้นจึงเห็นได้ชัดเจนว่าตั้งแต่แรกเริ่มเขาก็ไม่เคยคิดว่าเจิ้งซื่อเป็นมารดาของตน หรือภรรยาของบิดาเลย

แม่นมหลานมองนางด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูใหญ่เอ่ยเช่นนี้ ไม่เหมือนน้องสาวของคุณชายรองเลย แต่เหมือนพี่สาวของคุณชายรองมากกว่าเจ้าค่ะ”

หนานกงมั่วยิ้มทว่าไม่เอ่ยสิ่งใด หากนับตามอายุภายใน นางก็คือพี่สาวของหนานกงฮุยจริงๆ เมื่อคิดเช่นนี้ เมื่อนึกถึงเว่ยจวินมั่วที่พึ่งยี่สิบสอง หนานกงมั่วปิดหน้า วาดฝันงดงามเกินไป นางไม่กล้าคิด…

โคแก่กินยาอ่อนอันใดกัน…น่าเกลียดเกินไปแล้ว

“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ แล้วฮูหยินน้อย…” แม่นมหลายเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางลังเล แม้หลินซื่อจะไม่มีระเบียบแบบแผน แต่อย่างไรเสียคุณหนูใหญ่ก็เป็นเพียงน้องสามี หากเข้าไปยุ่งเรื่องของครอบครัวพี่ชาย เมื่อถูกแพร่งพรายออกไปแล้วคงไม่น่าฟัง หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “ข้าเองก็ไม่ต้องการให้จวนฉู่กั๋วกงต้องการความช่วยเหลือจากข้า อย่างไรเสีย…จวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องก็เป็นเพียงจวนจวิ้นอ๋องเท่านั้น แต่ก็ไม่ต้องการให้บ้านข้ากลายเป็นฝ่ายที่จะแทงข้างหลังข้าเมื่อใดก็ได้ หากหลินซื่อฉลาดขึ้นมาสักหน่อย นางทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่างเถิด ถึงอย่างไร นางก็ยังไม่ฉลาดพอ”

หากหลินซื่อฉลาดสักนิด ต่อให้เกลียดนางมากเพียงใดนางก็จะรู้ว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ หลินซื่อผู้ไม่ฉลาดทว่าเอาแต่คิดว่าตนเองนั้นฉลาด คนเช่นนี้ เป็นเหมือนไข่เน่าที่พร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ ไม่สามารถฆ่าเจ้าให้ตายได้ก็จริง ทว่ากลับทำให้เหม็นไปทั้งตัวได้

แม่นมหลานถอนหายใจ “เพราะแผนการร้ายของเจิ้งซื่อเพียงผู้เดียว…”

หนานกงมั่วยังคงยิ้ม แม้จะเป็นเพราะแผนการของเจิ้งซื่อ แต่ก็มีคำกล่าวที่ดี คนน่าสงสารต้องมีจุดที่น่าโกรธแค้น

เรือนลี่ฉิน

“เจ้ากลับไปเถิด ข้ารู้แล้ว” หนานกงชวี่มองน้องชายที่เต็มไปด้วยความโกรธตรงหน้า เอ่ยเสียงเข้ม

หนานกงฮุยขมวดคิ้ว เอ่ยขึ้นน้ำเสียงแสดงออกถึงความโกรธ “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้เป็นอันใดกันแน่ นางไม่ช่วยมั่วเอ๋อร์ก็ช่างสิ ทำเช่นนี้หมายความเช่นไร หลายปีมานี้เจิ้งซื่อให้อะไรกับนางหรือ หรือนางคิดว่าเจิ้งซื่อเป็นแม่สามีจริงๆ เสียแล้ว ทนไม่ไหวต้องคอยปรนนิบัติรับใช้นางหรือ”

“ฮุยเอ๋อร์” หนานกงชวี่กดเสียงต่ำ เอ่ยเสียงเข้มขึ้น “ระวังวาจาของเจ้าด้วย ตอนนี้เจิ้งซื่อเป็นนายหญิงจัดการดูแลเรือน”

หนานกงฮุยแสยะยิ้ม “เช่นนั้นแล้วอย่างไร ต่อไปจวนฉู่กั๋วกงก็เป็นของพี่ใหญ่ หรือว่าถึงตอนนั้นยังต้องให้เจิ้งซื่อมาคอยดูแลเรื่องในจวนอีกหรือ เรื่องพี่สะใภ้ พี่ใหญ่ก็ต้องคอยสั่งสอนนางบ้าง ไม่รู้กาลเทศะ น่าเสียดายที่ถูกตบแต่งเข้ามา อย่าต้องให้เหมือนเจิ้งซื่อที่เชิดหน้าชูตาไม่ได้”

“ฮุยเอ๋อร์” น้ำเสียงของหนานกงชวี่มีความโกรธขึ้นมา หนานกงฮุยมองใบหน้าทะมึนของพี่ชาย รู้สึกเสียใจขึ้นมา การแต่งงานกับหลินซื่อนั้นพี่ใหญ่ก็มิได้มีความสุข เขาเอ่ยเช่นนี้เป็นการซ้ำเติมบาดแผลของพี่ใหญ่หรือไม่ ยกมือกุมขมับด้วยท่าทางสับสน หนานกงฮุยเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด “พี่ใหญ่ เมื่อก่อนข้าคิดมาตลอดว่านอกจากเรื่องที่มั่วเอ๋อร์กลับจวนไม่ได้ อย่างอื่นบ้านเราล้วนดีมาก ทำไมตอนนี้ถึงพบว่าความจริงแล้วมันถึงไม่ปกติไปหมด”

หนานกงชวี่มุมปากยกขึ้น ยังคงเอ่ยอย่างสงบ “คิดได้เช่นนี้แสดงว่าเจ้าโตแล้ว เอาล่ะ เจ้ากลับไปก่อน เรื่องพี่สะใภ้ของเจ้า ข้าจะจัดการเอง”

หนานกงฮุยส่ายหน้า “ข้าไม่เข้าใจว่าพวกท่านกำลังคิดอันใดอยู่ ท่านพ่อก็เช่นกัน ท่านก็ด้วย ยังมีมั่วเอ๋อร์อีก…” หรือว่าเขาโง่เกินไปหรือ ก็พ่อแม่เดียวกันทั้งนั้น ความแตกต่างจำเป็นต้องมากเพียงนี้เลยหรือ

หนานกงชวี่ถอนหายใจเบาๆ “ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น เจ้าคอยดูมั่วเอ๋อร์ไว้ อีกไม่กี่เดือนนางก็ต้องแต่งออกเรือนแล้ว แต่ว่าเจ้า…อายุก็ไม่น้อยแล้ว…” ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ทว่าในที่สุดหนานกงชวี่ก็ล้มเลิกที่จะเอ่ยถึงหัวข้อนี้ “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง หากเจ้าว่างก็ลองคิดดูว่าตนเองอยากทำสิ่งใด ฮุยเอ๋อร์ เจ้าโตแล้ว ควรคิดถึงอนาคตแล้ว”

หนานกงฮุยพยักหน้า เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดเลยว่ามีเรื่องใดไม่ดี ตอนนี้แม้แต่อยากช่วยน้องสาวยังเอ่ยปากไม่ได้ด้วยซ้ำ หนานกงฮุยจึงรู้ว่าไม่ว่าอย่างไรตนก็ต้องมีความสามารถจึงจะดี บิดาเก่งกาจเพียงใด เมื่อใดที่เขาไม่คิดยืนข้างเจ้า เจ้าก็จะไม่เหลืออะไรทั้งนั้น

ส่งหนานกงฮุยกลับไปแล้ว ความอ่อนโยนบนใบหน้าของหนานกงชวี่ก็หายไป “ไปเชิญฮูหยินน้อยมา”

สองวันมานี้หลินซื่อยังอยู่ในอารมณ์เบิกบานใจ เจิ้งซื่อและหนานกงซูถูกขังเอาไว้ หนานกงมั่วก็ดูคล้ายไม่สนใจสิ่งใด ในจวนฉู่กั๋วกงจึงมีนางเป็นใหญ่เพียงผู้เดียวแล้ว หลินซื่อไม่เคยได้ลิ้มลองรสชาติของอำนาจมาก่อนทำให้มัวเมาราวกับคนบ้ากำลังลุ่มหลง วาดฝันยิ่งใหญ่ไปจนถึงขั้นคิดจะปรับเปลี่ยนไปทั้งจวนฉู่กั๋วกง มองเห็นทรัพย์สมบัติมากมายกองเท่าภูเขาในคลังจวน หลินซื่อแทบอยากจะย้ายมันมาอยู่ที่ห้องของตน ในใจเฝ้าฝันถึงวันที่หนานกงชวี่รับตำแหน่งและตนเองกลายเป็นฮูหยินของจวนฉู่กั๋วกง

บิดผ้าในมือเล่นด้วยความสุขใจ หลินซื่อพลันขมวดคิ้ว นึกถึงสมบัติมากมายหลายกล่องในเรือนจี้ชั่ง คิดถึงว่าสุดท้ายมันต้องถูกย้ายตามหนานกงมั่วไปยังจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋อง หลินซื่ออดปวดใจขึ้นมาไม่ได้ รู้สึกเสียดายที่ความคิดชั่ววูบทำให้นางปฏิเสธที่จะช่วยหนานกงมั่วจัดเตรียมสินเจ้าสาว

“ฮูหยินน้อยขอรับ คุณชายใหญ่ให้มาเชิญขอรับ” ที่ด้านนอก บ่าวรับใช้ของหนานกงชวี่รายงานด้วยท่าทางนอบน้อม

หลินซื่อชะงัก “คุณชายใหญ่…เรียกข้ามีเรื่องอันใด” หนานกงชวี่ไม่เคยให้นางเข้าไปยุ่งวุ่นวายในห้องหนังสือ วันนี้กลับให้คนมาตามนางไปพบ มีเรื่องใดงั้นหรือ

“บ่าวไม่ทราบขอรับ” บ่าวรับใช้ก้มหน้าเอ่ยตอบ

หลินซื่อพยักหน้า “ข้ารู้แล้ว เดี๋ยวตามไป”

เมื่อเดินเข้ามาในห้องหนังสือ มองเห็นหนานกงชวี่กำลังเปิดหนังสืออ่านอยู่หลังโต๊ะหนังสือ หลินซื่อยิ้มหวาน “ท่านพี่ มีเรื่องใดหรือเจ้าคะ”

หนานกงชวี่เงยหน้า สายตาเย็นชามองมาที่นาง หลินซื่อชะงัก รู้สึกอึดอัดอยู่ในใจ ฝืนยิ้ม “ท่านพี่…ข้าทำผิดอันใดหรือไม่เจ้าคะ”

“ปิ่นปักผมบนศีรษะของเจ้า เอามาจากที่ใด” หนานกงชวี่เอ่ยถาม

หลินซื่อยกมือขึ้นจับเบาๆ ที่แท้คือปิ่นปักผมสีทองที่นางหยิบมาจากคลังจวน เอ่ยด้วยความกระดากอาย “ข้า…ข้าถูกใจปิ่นชิ้นนี้เมื่อครั้งเข้าไปในคลังจวน จึงเอามาใช้ ท่านพี่…ข้าเอามาไม่ได้หรือเจ้าคะ” หลินซื่อไม่พอใจ เมื่อครั้งเจิ้งซื่อดูแลนางใช้ของมากมาย แล้วไยนางจะใช้บ้างไม่ได้

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท