หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 141 ปัญญาของเมิ่งเย่ว์ (4)

ตอนที่ 141 ปัญญาของเมิ่งเย่ว์ (4)

ด้านนอก

“เมิ่งเย่ว์ ช้าก่อน” หนานกงมั่วพึ่งจะเดินออกจากโรงน้ำชาก็ได้ยินเสียงเรียกของหญิงสาวดังตามหลังมา หนานกงมั่วหยุดยืนหันกลับไป มองหญิงสาวทั้งสองที่เดินตามมา “ศิษย์พี่…อย่า อย่าหาเรื่องเลย…ระวังท่านอาจารย์จะโกรธเอาได้” หญิงสาวคนหนึ่งกำลังดึงยื้อหญิงสาวอีกคนที่กำลังกรุ่นโกรธเอาไว้ เอ่ยบอกเสียงเบา หญิงสาวคนนั้นส่งเสียงหึเบาๆ สะบัดออกจนศิษย์น้องกระเด็นมาอยู่ตรงหน้าหนานกงมั่ว “เมิ่งเย่ว์ อย่าคิดว่าท่านอาจารย์ให้ความสำคัญกับเจ้าแล้วจะทำตัวยโสโอหัง…”

เสียงชิ้งดังเบาๆ กระบี่ชิงหมิงปรากฏขึ้นในมือของหนานกงมั่ว กระบี่ยาวชักออกจากฝัก ปลายแหลมพุ่งเข้าหาหญิงสาว หญิงสาวตื่นตระหนก คิดเบี่ยงตัวหลบทว่าไม่คิดว่าปลายแหลมนั้นราวกับมีตา ไม่ว่านางจะหลบอย่างไรปลายแหลมนั่นก็ยังจ่ออยู่ที่ลำคอของนาง ห่างไปเพียงหนึ่งชุ่น ไม่ว่าจะผ่านไปกี่กระบวนท่าก็ไม่สามารถหลีกหนีมันได้ ปลายแหลมคมสัมผัสเข้ากับผิวที่ลำคอของนาง ความเย็นของกระบี่ชิงหมิงทำให้ขนที่ลำคอขาวดั่งหยกของนางต้องลุกชัน

“เจ้า…เจ้าคิดจะทำอันใด”

หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเย็น “อย่าท้าทายข้า แม้ข้าจะเห็นแก่หน้าเจ้าสำนักจินไม่ฆ่าเจ้า แต่ว่า…หากขีดรอยกระบี่สักเส้นบนใบหน้าของเจ้า เจ้าว่าเจ้าสำนักจะโทษข้าหรือไม่”

“เจ้า…เจ้า…” ใบหน้าหญิงสาวขาวซีด สำหรับสตรีแล้วใบหน้าที่งดงามนั้นเป็นเรื่องสำคัญถึงชีวิต หนานกงมั่วมองนางด้วยสายตาเย็นเยียบ จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป

มองร่างบางเดินหายไป กงอวี้เฉินที่อยู่ชั้นสองของโรงน้ำชาจึงยิ้มออกมา “เจ้าสำนักจินสายตาแหลมคม แม่นางเมิ่งผู้นี้มิธรรมดาจริงๆ”

จินผิงอี้ยิ้มแห้งเบาๆ สองครั้ง “เพราะข้าสั่งสอนศิษย์ไม่ดีทำให้แม่นางเมิ่งต้องโกรธ ยอดฝีมือ…ย่อมหลีกเลี่ยงทะนงตนไม่ได้ ไม่มีอันใด”

“เป็นดังนั้น…” กงอวี้เฉินเอ่ยยิ้มๆ

เมื่อหลุดออกจากช่วงสายตาของกงอวี้เฉิน หนานกงมั่วจึงถอนหายใจเบาๆ นางเคยเจอกับกงอวี้เฉินเพียงครั้งเดียว นางมั่นใจแปดส่วนว่ากงอวี้เฉินจำนางมิได้ แต่ต้องหาทางเลี่ยงไว้จะดีที่สุด ไม่รู้ทำไม เขาทำให้นางรู้สึกถึงความอันตรายเกินไป ดีที่ไม่พาฝังและเวยมาเฉินโจวด้วย มิเช่นนั้น…นางก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าเจ้าสำนักธาราอย่างกงอวี้เฉินจะจำพวกเขาไม่ได้

เดินอยู่บนถนนในเมือง แม้ร้านรวงมากมายจะยังคงเปิดทำการ ทว่าผู้คนบนถนนกลับมีเพียงไม่กี่คน แน่นอนลูกค้าของร้านต่างๆ ก็ลดน้อยลงไปด้วย กวาดตามองไปด้านหลัง หนานกงมั่วหมุนตัวเข้าไปยังร้านผลไม้เชื่อม เพียงเดินเข้าไปก็ต้องตกใจเล็กน้อย ในร้านมีคนอยู่ มีผู้อารักขากว่าเจ็ดแปดคนล้อมรอบหญิงสาวในอาภรณ์สีเขียวที่กำลังเลือกผลไม้เชื่อม เมื่อเห็นหนานกงมั่วเดินเข้ามาก็มองมาที่นางอย่างระมัดระวัง

หญิงสาวผู้นั้นเงยหน้าขึ้นมามองหนานกงมั่ว ชะงักไปเล็กน้อย ไม่นานจึงกลับมามีท่าทีอ่อนหวานเช่นเดิม เอ่ยทักทาย “แม่นาง พบกันอีกแล้ว”

หนานกงมั่วพยักหน้าเบาๆ เลิกคิ้วพลางเอ่ย “คุณหนูจัง ยินดีที่ได้พบ”

หญิงสาวชุดเขียวก็คือคนที่นั่งอยู่ข้างจังติ้งฟังในงานเลี้ยงเมื่อคืน จังอู๋ซิน

จังอู๋ซินมองชั้นผลไม้เชื่อมจากนั้นหันมามองหญิงสาวผู้มีใบหน้าเฉยชาและสวมชุดดำไปทั้งตัว ยิ้มพลางเอ่ย “แม่นางก็ชอบกินผลไม้เชื่อมหรือ”

หนานกงมั่วตอบรับเสียงเบา คล้ายกับรู้สึกว่าไม่ค่อยดีนักจึงเอ่ยเสริมขึ้นอีกหน่อย “ก็ดี” จังอู๋ซินปิดปากยิ้ม “แม่นางนับว่ามาถูกที่แล้ว ในเมืองเฉินโจว ผลไม้เชื่อมร้านนี้อร่อยที่สุดในเฉินโจวแล้ว แม่นางมาดูสิ”

หนานกงมั่วเดินเข้าไปเงียบๆ เลือกผลไม้เชื่อมอย่างตั้งใจ หลายวันมานี้กิจการของร้านย่ำแย่ไม่น้อย ผู้จัดการร้านขมวดคิ้วคร่ำเครียดอยู่ทั้งวัน ในที่สุดวันนี้ก็มีลูกค้ามาถึงสองคน เพียงมองดูก็รู้ว่าคงมีกำลังจ่ายได้ไม่น้อย พลันขยับเข้าไปนำเสนอผลไม้เชื่อมในร้านของตนให้แก่หนานกงมั่ว

หนานกงมั่วหยิบลูกเหมยเชื่อมเข้าปากไปหนึ่งลูก ขมวดคิ้วเบาๆ อดไม่ได้ส่งอีกลูกเข้าปากไปอีกครั้ง เอ่ยเสียงเรียบ “ไม่เลว เอาอันนี้ให้ข้า แล้วก็อันนี้…” เห็นท่าทางการเลือกที่จริงจังของนาง จังอู๋ซินจึงอดไม่ได้แนะนำผลไม้เชื่อมที่ตนเองชอบ หนานกงมั่วลังเลเล็กน้อยทว่าก็ตกลงซื้อมาด้วย ใช้เวลาไม่นานก็ได้ผลไม้เชื่อมมากว่าสี่ชนิด

จังอู๋ซินเท้าคางกับชั้นวางผลไม้เชื่อม เอียงศีรษะมองสำรวจนางด้วยรอยยิ้ม หนานกงมั่วยืนรอเจ้าของร้านห่อผลไม้ให้ หันกลับไปเอ่ยถามเสียงเรียบ “มองอะไร”

จังอู๋ซินถอนหายใจ เอ่ย “ข้าอิจฉาความอิสระแบบนี้ของพี่สาวจริงๆ เลย จริงสิ ยังไม่รู้ชื่อของพี่สาวเลย” หากพูดถึงอายุ หนานกงมั่วอาจไม่ได้มากกว่าจังอู๋ซินมาก แต่การแต่งตัวและท่าทางของนาง ดูเหมือนจะมีอายุมากกว่าจังอู๋ซินสองสามปีได้ มิน่าจังอู๋ซินจึงเอ่ยปากเรียกนางว่าพี่สาว

หนานกงมั่วตอบ “เมิ่งเย่ว์”

“พี่เมิ่ง” จังอู๋ซินเอ่ย “หากอู๋ซินมีวรยุทธ์ ก็คงจะไปท่องยุทธภพเหมือนพี่สาว อยากไปไหนก็ไป อยากทำอะไรก็ทำ มีความสุขมากเลย ไม่เหมือนตอนนี้…” หนานกงมั่วนึกถึงฐานะของหญิงสาว บุตรบุญธรรมของจังติ้งฟัง ใครตัดหัวหนานกงไหวได้ก็ยกให้แต่งกับผู้นั้น หากเป็นจอมยุทธ์หนุ่มหรือจินผิงอี้ก็นับว่ายังดี หากเป็นชายแก่หยาบคาย นั่นเรียกได้ว่าถูกทำลายไปชั่วชีวิตเลยก็ว่าได้ น่าเสียดาย…จังติ้งฟังไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของบุตรบุญธรรมเลย เพียงแต่…หนานกงไหวเองก็ไม่ได้ดูจะตายง่ายดายขนาดนั้น ดังนั้นจังอู๋ซินจะได้แต่งออกไปหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง

หนานกงมั่วเอ่ย “ออกเดินทางไปในยุทธภพก็มีความยากลำบากของมัน คุณหนูจังสูงส่งดั่งหยก เกรงว่าคงทนกับความลำบากเช่นนั้นไม่ได้”

จังอู๋ซินส่ายหน้า “นั่นไม่เป็นไร ขอเพียงมีความสุข ได้อยู่กับคนที่ตนเองรัก ต่อให้อดอยากก็มีความสุข” เอื้อนเอ่ยสองประโยคหลังออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทว่าหนานกงมั่วกลับได้ยินมันชัดเจน แม้จะเป็นเช่นนั้นนางกลับไม่คิดจะคุยเรื่องนี้กับจังอู๋ซิน เดิมทีก็มิใช่คนรู้จักมักคุ้น ปัญหาของจังอู๋ซินเป็นเรื่องส่วนตัว และนางยังมีเรื่องสำคัญให้ต้องจัดการ

เจ้าของร้านห่อผลไม้อย่างรวดเร็ว หนานกงมั่ววางเงินลงไป รอจนผู้จัดการร้านทอนเงินให้จึงหยิบของ หันไปพยักหน้าในจังอู๋ซินเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวเตรียมเดินออกไป

จังอู๋ซินเดินตามนางออกมาด้านนอก ด้านหลังมีคนช่วยถือข้าวของที่นางซื้อเอาไว้ “พี่เมิ่ง ข้าไปเล่นกับท่านได้หรือไม่”

หนานกงมั่วหันกลับมามองนาง “ข้าพักที่โรงเตี๊ยม สถานที่เช่นนั้นอันตราย ทางที่ดีแม่นางอย่าได้เที่ยวเล่นไปทั่วจะดีกว่า”

จังอู๋ซินท่าทางผิดหวังเล็กน้อย เอ่ย “ตั้งแต่มาที่เฉินโจว ข้าไม่รู้จักใครเลยสักคน พ่อบุญธรรมก็ยุ่งอยู่กับเรื่องของตนเองทุกวัน ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มีคนติดตามมากมาย…”

สาวใช้ข้างกายรีบเอ่ยปลอบ “คุณหนู ท่านแม่ทัพทำเพื่อความปลอดภัยของคุณหนูนะเจ้าคะ”

“ข้ารู้…” จังอู๋ซินตอบด้วยท่าทางเศร้าสร้อย เงยหน้าขึ้นมามองหนานกงมั่ว “พี่เมิ่ง ท่านท่องอยู่ในยุทธภพคงเจอคนมาไม่น้อย ข้าอยากถามถึงใครบางคนกับท่าน ไม่รู้ว่าท่านพอรู้จักบ้างหรือไม่”

หนานกงมั่วเลิกคิ้ว ใบหน้าเล็กๆ อันงดงามของจังอู๋ซินมีท่าทีเขินอาย จากนั้นจึงเอ่ยเสียงเบา “ได้ยินพี่กงบอกว่าเขามีชื่อเสียงในยุทธภพมาก เขาชื่อ…เสียนเกอ พี่เมิ่ง ท่านรู้จักเขาหรือไม่”

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท