“เร็วเพียงนี้” หนานกงมั่วไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่พลันเข้าใจทันใด เอ้อกั๋วกงเข้าร่วมสงครามถือว่าไปช่วยกอบกู้ เซียวเชียนเยี่ยยังอยู่ในสนามรบอ้างว่าร่วมมือกับเอ้อกั๋วกงกอบกู้ประเทศ อาศัยจังหวะกอบกู้ชื่อเสียงหาความดีความชอบให้ตนเอง อย่างไรเสียในเมื่อเอ้อกั๋วกงเป็นผู้บัญชาการกองทัพ เซียวเชียนเยี่ยจะมีความดีความชอบมากเพียงใดนั้นก็ย่อมขึ้นอยู่กับเอ้อกั๋วกง เพียงแต่…หากเอ้อกั๋วกงคิดให้เซียวเชียนเยี่ยใช้เส้นสายนี้ ต่อไปเซียวเชียนเยี่ยคงต้องตอบแทน ชีวิตของหนานกงซูเกรงว่าคงจะไม่ดีเสียแล้ว ฤกษ์ยามพาเข้าเรือนใช่ว่าจะไม่สำคัญ หนานกงซูเป็นถึงคุณหนูจวนฉู่กั๋วกง มีฐานะรองจากหนานกงมั่ว พระชายาจวิ้นอ๋องกลับพยายามรับนางเข้าจวนก่อนงานพิธีของหนานกงมั่ว นี่เป็นเพียงการย้ำเตือนให้ทุกคนได้เห็นถึงสถานะและความอับอายของหนานกงซูเพียงเท่านั้น
การรีบร้อนเช่นนี้จะทำให้ผู้คนคิดสงสัยว่าหนานกงซูตั้งครรภ์แล้วหรือไม่ ถึงได้รีรอให้ผู้เป็นพี่ออกเรือนก่อนมิได้ทั้งๆ ที่รอเวลาอีกเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น
หนานกงมั่วถอนหายใจเบาๆ แล้วจึงลุกขึ้น “ไปดูสักหน่อยเถิด”
พระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องเดินทางมาเยือน แน่นอนหากหนานกงไหวและหนานกงชวี่ซึ่งเป็นบุรุษเป็นผู้ออกหน้าต้อนรับคงจะไม่ดีเท่าไรนัก จึงต้องยกหน้าที่ให้เจิ้งซื่อ หลินซื่อคอยต้อนรับแทน หลินซื่อพึ่งตกเป็นรองเจิ้งซื่อเมื่อไม่นานมานี้ อารมณ์ไม่ดี ยิ่งไปกว่านั้นการหักหน้าระหว่างนางและเจิ้งซื่อทำให้ความสัมพันธ์ของนางและหนานกงซูไม่ดีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว พระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องมาแล้วเกี่ยวอันใดกับนางเล่า ดังนั้นนางจึงทำเพียงนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ด้านข้าง ไม่ว่าพระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องและเจิ้งซื่อจะคุยเรื่องใด นางเพียงทำหน้าซื่อตาใสราวกับไม่เข้าใจ
ในศาลาดอกไม้ หยวนซื่อเม้มริมฝีปากจิบชาพลางมองสำรวจหนานกงซูที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังเจิ้งซื่อด้วยสีหน้าไม่พอใจ เมื่อเกิดนึกถึงหน้าสามีของตนขึ้นมาจึงส่งเสียงหยันออกมาแผ่วเบา นอกจากใบหน้าอันงดงามแล้ว หยวนซื่อได้บอกตนเองว่าไม่มีสิ่งใดที่นางจะด้อยไปกว่าหนานกงซู แต่เพราะใบหน้าน่าสงสาร ทำอันใดไม่เป็น ได้แต่เฝ้ามองบุรุษด้วยสายตายั่วยวนเช่นนี้ ที่ทำให้สามีของนางไม่ไว้หน้านางเลยสักนิด กระทั่งว่าหากบิดาของนางมิใช่เอ้อกั๋วกง หรือบิดาของนางใจอ่อนลงอีกสักนิด ยามนี้ไม่รู้ว่าตัวนางเองต้องไปหลบมุมร้องห่มร้องไห้อยู่ที่ใด หลายวันมานี้ต้องเฝ้าดูแลครรภ์อยู่ในเรือน หยวนซื่อเริ่มเข้าใจในหลายๆ เรื่อง หากนางยังมีความหวังต่อสามี เวลานี้นางคงทำได้เพียงหวังว่าตนจะสามารถให้กำเนิดทารกออกมาและใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ทำหน้าที่เป็นพระชายาที่ดีของหวงจั่งซุน
“พระชายา…” พูดคุยกันมาชั่วครู่พลันเกิดความเงียบน่าอึดอัดขึ้นมา เจิ้งซื่อยิ้มกระอักกระอ่วน เอ่ยถาม “ไม่ทราบว่า…วันนี้พระชายามาเยี่ยมเยียน มีเรื่องชี้แนะอันใดหรือเพคะ”
หยวนซื่อวางถ้วยชาลง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีเรื่องชี้แนะอันใดหรอก ข้าได้รับข่าวมาว่าอีกสองวันจวิ้นอ๋องจะกลับถึงจินหลิงแล้ว” มองเห็นความดีอกดีใจในดวงตาของหนานกงซู ดวงตาของหยวนซื่อจึงฉายแววเย้ยหยันขึ้นมา แล้วเอ่ยต่อไปว่า “ข้ากับเสด็จแม่ได้พูดคุยกันว่าเย่ว์จวิ้นอ๋องได้รับชัยชนะกลับมานับว่าเป็นเรื่องน่ายินดี ดังนั้น…ตั้งใจว่าจะมารับคุณหนูรองเข้าจวนในอีกสองวันข้างหน้า ขอให้ฮูหยินเจิ้งได้เตรียมตัวเอาไว้ วันมะรืนก็ส่งคุณหนูรองไปยังจวนเย่ว์จวิ้นอ๋องแต่เช้าเถิด ท่านอ๋องคงจะมาถึงในช่วงพลบค่ำ พอดีมาทันเข้าหอ”
หยวนซื่อเอ่ยออกมาตรงๆ เห็นได้ชัดว่าไม่คิดไว้หน้าหนานกงซูเลยสักนิด เจิ้งซื่อสีหน้าแดงก่ำเมื่อได้ยินเช่นนั้น เมื่อได้สติกลับมาจึงเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ “วันมะรืน ไม่เร็วไปหรือ พวกเรายัง…ยังไม่ทันได้เตรียมอันใดเลย”
ดวงตาหยวนซื่อเย็นชา เอ่ยเสียงเรียบ “มีอันใดต้องเตรียมหรือ”
“เอ่อ…” เจิ้งซื่อเป็นใบ้ขึ้นมาทันใด หนานกงซูเป็นเพียงเชื้อสายรอง พูดง่ายๆ คืออนุที่มีฐานะสูงขึ้นมาหน่อยก็เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอันใด หากเย่ว์จวิ้นอ๋องให้ความสำคัญกับหนานกงซู อย่างมากก็คงจัดโต๊ะไหว้ง่ายๆ ภายในจวน เชิญสหายที่สนิทสนมมาดื่มกินก็เท่านั้น ทว่าไม่สามารถจัดพิธียิ่งใหญ่โจ่งแจ้งได้ แต่เห็นท่าทีเช่นนี้แล้ว เกรงว่าเย่ว์จวิ้นอ๋องคงมิได้คิดทำสิ่งใดเหล่านั้นเป็นแน่ เมื่อเป็นเช่นนี้ หนานกงซูก็คล้ายจะเป็นเพียงของเล่นปลอบประโลมหลังจากเย่ว์จวิ้นอ๋องต้องลำบาก ณ แดนไกลเพียงเท่านั้น
หยวนซื่อปรายตามองหนานกงซู “ในเมื่อคุณหนูรองหนานกงและท่านอ๋องมีความรักใคร่ชอบพอต่อกัน ข้าเองก็มิใช่คนใจร้ายอันใด ต่อไปเข้าไปอยู่ในจวน คุณหนูรองคอยปรนนิบัติท่านอ๋องให้ดีก็เพียงพอแล้ว ฮูหยินเจิ้ง ท่านคิดเห็นเช่นไร”
นึกถึงสิ่งที่บุตรีของตนทำเอาไว้ เจิ้งซื่อก็ละอายจนพูดไม่ออก กำผ้าเช็ดหน้าในมือเนิ่นนาน ก่อนจะกัดฟันเอ่ยขึ้น “พระชายา คงไม่เหมาะเท่าใดนัก เดือนหน้าก็เป็นพิธีแต่งงานของคุณหนูใหญ่แล้ว ซูเอ๋อร์อายุน้อยกว่าจะออกเรือนไปก่อนพี่สาวได้เช่นไรเพคะ”
หยวนซื่อยิ้มหยัน เอ่ย “ฮูหยินเจิ้งกำลังล้อข้าเล่นหรือไม่ พิธีแต่งงานของคุณหนูใหญ่หนานกงนั้นมีขึ้นเพราะเป็นสมรสพระราชทานจากฝ่าบาท แต่งเป็นพระชายาของผู้สืบทอดจวิ้นอ๋องแห่งจิ้งเจียง และเป็นเพราะเสด็จอากังวลต่อพิธีแต่งงานของน้องชายจึงได้เร่งรีบ หากฝ่าบาทกำหนดวันแต่งงานเป็นปีสองปีหลังจากนี้ เช่นนั้นจวนเย่ว์จวิ้นอ๋องของเราก็ต้องรอปีสองปีตามไปด้วยหรือ หรือต่อให้ข้ารอได้…บุตรีท่านเล่า จะรอได้หรือ”
“ท่าน!” ครั้งนี้เจิ้งซื่อโกรธจนเลือดขึ้นหน้า กัดฟันเอ่ย “พระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋อง อย่างไรพอสมควรก็หยุดได้แล้วเพคะ”
หยวนซื่อยังคงนิ่ง “กล่าวเช่นนี้…ฮูหยินเจิ้งไม่เห็นด้วยกับการประทานสมรสของฝ่าบาท ไม่ยินยอมให้คุณหนูรองออกเรือนเช่นนั้นหรือ”
“ข้า…”
“เจิ้งซื่อเอ่ยพลาดไป ขอพระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องโปรดอภัยด้วยเพคะ” ด้านนอก น้ำเสียงอ่อนหวานของหนานกงมั่วดังเข้ามา หยวนซื่อหันกลับไป มองเห็นหนานกงมั่วในอาภรณ์สีขาวนวลกำลังเดินเข้ามา ใบหน้างดงามมีรอยยิ้มปรากฏอยู่ ทว่ากลับให้ความรู้สึกกดดันขึ้นมา
หยวนซื่อเลิกคิ้ว เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูหนานกง ครั้งที่แล้วรีบร้อนไม่ทันร่ำลา วันนี้ได้พบเจอข้ารู้สึกยินดียิ่งนัก”
หนานกงมั่วยิ้มบางๆ “ได้พบกับพระชายาอีกครั้ง หนานกงมั่วนับว่าเป็นวาสนาอย่างยิ่งแล้วเพคะ ขอแสดงความยินดีกับพระชายาที่ทรงครรภ์ด้วยเพคะ”
หยวนซื่อเอ่ยด้วยเสียงหัวเราะ “ยังเร็วไป ได้ข่าวว่าคุณหนูใหญ่หนานกงพึ่งกลับมาถึงวันนี้ ข้ามารบกวนคงต้องขออภัยด้วย”
“พระชายากล่าวเกินไปแล้วเพคะ” หนานกงมั่วนั่งลงด้านข้าง ยิ้มบางๆ
หยวนซื่อยิ้มตอบ เอ่ยขึ้น “ที่ข้ามาวันนี้คิดว่าคุณหนูหนานกงคงพอรู้ได้ เรื่องรับคุณหนูรองเข้าจวน ทว่าฮูหยินเจิ้งคล้ายจะไม่เห็นด้วย ข้าเองไม่สะดวกพบกับฉู่กั๋วกง ขอคุณหนูใหญ่ช่วยพูดคุยกับฉู่กั๋วกงแทนข้าและเสด็จแม่ได้หรือไม่” หนานกงมั่วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อพระชายารัชทายาทและพระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องเห็นสมควรเช่นนี้แล้ว แน่นอนว่าคงต้องปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระชายารัชทายาท จวนฉู่กั๋วกงย่อมไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เพคะ”
“คุณหนูใหญ่!” เจิ้งซื่อเอ่ยขึ้นเสียงดังด้วยโทสะ
หนานกงมั่วเหลือบตามอง กวาดสายตาเย็นยะเยือกมองเจิ้งซื่อ เจิ้งซื่อกลับรู้สึกเพียงมีมีดแหลมคมเย็นเฉียบวาดผ่านตัวนางไป ทำได้เพียงถลึงตามองหนานกงมั่วอยู่เงียบๆ หนานกงมั่วหันกลับไปยิ้มให้หยวนซื่อ เอ่ยตอบ “เจิ้งซื่อเป็นมารดาของน้องสาว นางเสียมารยาทเพราะความรักในตัวบุตรีจนเกินไป ขอพระชายาอย่าได้ใส่ใจเลยเพคะ”
รอยยิ้มบนใบหน้าพระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องยิ่งกว้างมากขึ้น เอ่ย “ดี เช่นนั้นเรื่องนี้…คุณหนูใหญ่ตัดสินใจได้หรือไม่”
หนานกงมั่วหันกลับไปออกคำสั่ง “จือซู รายงานพระประสงค์ของพระชายารัชทายาทและพระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องต่อท่านพ่อ ว่าท่านมีความคิดเห็นเช่นไรกับเรื่องนี้” หนานกงมั่วเน้นย้ำคำว่าพระชายารัชทายาทอย่างชัดถ้อยชัดคำ