หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 191 คืนแต่งงานของหนานกงซู (3)

ตอนที่ 191 คืนแต่งงานของหนานกงซู (3)

“คุณหนู วันนี้ท่านยังมิได้ทานอะไรมาทั้งวันแล้วนะเจ้าคะ ทานสักหน่อยเถิดเจ้าค่ะ” ด้านข้าง สาวใช้ที่ติดตามมากจากจวนฉู่กั๋วกงเอ่ยเกลี้ยกล่อมเบาๆ แม้อนุภรรยาจะไม่สามารถมีสินเจ้าสาวได้ ทว่าฐานะของหนานกงซูนั้นแตกต่าง เรื่องนี้พระชายาจวิ้นอ๋องจำเป็นต้องให้เกียรติ ดังนั้นจึงยอมให้สาวใช้ที่เติบโตมาด้วยกันสองคนติดตามมาด้วย

หนานกงซูมองขนมในมือของสาวใช้ ส่ายหน้า กัดฟันเอ่ย “เซียวหลางกลับมาแล้วหรือ”

สาวใช้ถอนหายใจ เอ่ยเสียงเบา “จวิ้นอ๋องกลับมาตั้งนานแล้วเจ้าค่ะ เพียงแต่อยู่กับพระชายา คิดว่าคงมีธุระเจ้าค่ะ” หากมิใช่เพราะเย่ว์จวิ้นอ๋องมีหรือคุณหนูของนางจะตกต่ำถึงเพียงนี้ แต่จนถึงตอนนี้เย่ว์จวิ้นอ๋องก็ยังไม่มาหาคุณหนู ในจวนก็ไม่เห็นจะจัดงานรื่นเริงใดๆ เพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าเย่ว์จวิ้นอ๋องมิได้ใส่ใจคุณหนูเท่าใดนัก แต่นางกลับไม่กล้าเอ่ยต่อหน้าหนานกงซู ทำได้เพียงเอ่ยว่า “วันนี้ท่านอ๋องพึ่งกลับมาถึง ได้ยินมาว่าฝ่าบาทประทานรางวัลยกใหญ่ แม้แต่นายท่านและคุณหนูใหญ่…”

“หนานกงมั่วงั้นหรือ” หนานกงซูชะงัก คว้ามือไปจับสาวใช้เอาไว้แน่น เอ่ยถาม “หนานกงมั่วทำไม ฝ่าบาทประทานรางวัลให้นางหรือ”

สาวใช้พูดไม่ออก ลอบเสียใจอยู่ในใจที่ตนไม่รู้จักคิดจึงหลุดปากไปเช่นนั้น จึงได้เอ่ยติดๆ ขัดๆ ตอบว่า “ตอบคุณหนู บ่าวได้ยินคนด้านนอกพูดกันว่า คุณหนูใหญ่ได้รับการแต่งตั้งเป็นจวิ้นจู่ นามว่าซิงเฉิงเจ้าค่ะ”

“ว่าไงนะ” ดวงตาหนานกงซูดำทะมึนขึ้นมา ร่างกายตลอดหลายวันมานี้ก็ไม่ดีเท่าใดนัก บวกกับวันนี้ทั้งวันยังไม่มีอาหารตกถึงท้อง จึงเกือบเป็นลมล้มพับไป สาวใช้ด้านข้างรีบเข้ามาช่วยประคอง เอ่ยอย่างร้อนใจ “คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ ท่านเป็นอะไรเจ้าคะ เดี๋ยวบ่าวจะไปตามหมอให้เดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ”

“ไม่ต้องหรอก” หนานกงซูส่ายหน้า ลุกกลับมานั่งลงอีกครั้ง กัดริมฝีปากแน่น “วันนี้เป็นวันแต่งงานของข้ากับเซียวหลาง มัวเสียเวลาไม่ได้”

สาวใช้ร้อนใจยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา “คุณหนู ไยท่านจึงต้องลำบากเช่นนี้…” พวกนางเกิดในจวนฉู่กั๋วกง เป็นคนของฮูหยินและคุณหนู หากคุณหนูเป็นอะไรไป พวกนางเองก็กินไม่ได้นอนไม่หลับไปด้วย

หนานกงซูพิงหัวเตียงน้ำตาหลั่งริน เอ่ยอย่างโกรธแค้น “ข้าไม่ยอม…ทำไม…ทำไมต้องเป็นหนานกงมั่ว เรื่องดีๆ ทุกอย่างต้องตกเป็นของนาง ข้าก็เป็นบุตรีของท่านพ่อ ข้าก็เป็นคุณหนูจวนฉู่กั๋วกงเช่นกันนะ” สาวใช้ทั้งสองมองสบตากันอย่างไม่รู้จะปลอบใจคุณหนูเช่นไร เรื่องมาถึงจุดนี้ได้ เอ่ยตามตรงก็เพราะคุณหนูทำตัวเองทั้งนั้น หากทำตัวเป็นคุณหนูจวนฉู่กั๋วกงดีๆ อนาคตไม่ว่าจะแต่งกับใครก็ได้เป็นเชื้อสายหลักทั้งนั้น ไม่ใช่อย่างเช่นตอนนี้ที่แม้แต่เชื้อสายรองยังยากที่จะนับว่าเป็นได้ พวกนางเอง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร การเป็นอนุนั้นไม่ง่าย การเป็นสาวใช้ของอนุเองก็ไม่น่าสบายเท่าใดนักหรอก

จากนั้นไม่นาน หนานกงซูก็เอ่ยขึ้นทั้งที่ใบหน้ายังคงมีคราบน้ำตาอยู่ “ข้าไม่ยอมแพ้หรอก ข้าไม่มีทางแพ้หนานกงมั่ว นางเป็นจวิ้นจู่แล้วอย่างไร เว่ยจวินมั่วก็ยังเป็นสัตว์ประหลาดที่มีชาติกำเนิดไม่ชัดเจน จะสู้เซียวเชียนเยี่ยที่มีฐานะสูงส่งได้เช่นไร พวกเจ้าไปดูให้ข้าหน่อย เซียวหลางมาแล้วหรือไม่”

เห็นนางเป็นเช่นนี้ สาวใช้จึงได้แต่ถอนหายใจอยู่ในใจ เอ่ยตอบรับคำกลับไป

เปลวเทียนสีแดงกำลังลุกโชนส่องสว่าง น้ำตาเทียนละลายไหลลงมายังเชิงเทียน ในห้องหนังสือของเย่ว์จวิ้นอ๋อง เซียวเชียนเยี่ยนั่งอยู่ด้วยท่วงท่าสง่างาม ฟังผู้ใต้บัญชากำลังรายงานบางอย่างอยู่ ลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็น ‘คืนส่งตัวเข้าหอ’ ของตน

“ช่วงนี้ท่านอ๋องใจร้อนเกินไป เลี่ยงไม่ได้ที่จะเสียเปรียบ วันนี้ฝ่าบาทได้ตักเตือนท่านอ๋อง ต่อไปท่านอ๋องต้องอ่อนลงบ้าง” ชายวัยกลางคนในชุดนักปราชญ์ โบกสะบัดพัดในมือเบาๆ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เซียวเชียนเยี่ยพยักหน้า “เรื่องนี้ข้าเองก็เข้าใจ แต่ว่า…เสด็จพ่อ…เสด็จปู่เตรียมหนังสือแต่งตั้งพี่ใหญ่และน้องสามแล้ว ต่อไปพวกเขาก็จะเป็นจวิ้นอ๋องเหมือนข้า ในใจข้าตอนนี้นั้น…”

ชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้น “ท่านอ๋องคิดมากไปแล้ว ท่านอ๋องเป็นเชื้อสายหลักของรัชทายาท เรียกได้ว่าเป็นเชื้อสายอย่างแท้จริงตามกำเนิด จะยกเอาเชื้อสายรองมาเทียบได้เช่นไร หากรัชทายาทปฏิเสธคุณสมบัติของท่านอ๋อง เช่นนั้นก็เป็นการปฏิเสธคุณสมบัติของเขาเองเช่นกัน รัชทายาทไม่มีทางทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน อย่างน้อยในยามที่ฝ่าบาทยังอยู่ ท่านอ๋องมิต้องกลัวไปหรอกว่าจะถูกคุณชายใหญ่และคุณชายสามกดศีรษะได้” ยิ่งไปกว่านั้น หากพูดตามธรรมเนียมแล้วรัชทายาทยังไม่สู้เย่ว์จวิ้นอ๋อง เย่ว์จวิ้นอ๋องเป็นเชื้อสายหลักของรัชทายาท แต่ในใจของทุกคนย่อมเข้าใจดีว่ารัชทายาทนั้นมิใช่โอรสเชื้อสายหลักจากฮองเฮาองค์ก่อน ฮองเฮาองค์ก่อนได้รับบาดเจ็บหนักเมื่อยังเยาว์จึงไม่สามารถทรงพระครรภ์ได้ เมื่อรัชทายาทกำเนิดขึ้นมาจึงถูกเลี้ยงดูอยู่เคียงข้างมารดาเชื้อสายหลัก เมื่อฝ่าบาทขึ้นครองราชย์จึงได้กลายเป็นโอรสของฮองเฮาไป หากเพียงรัชทายาทปฏิเสธการสืบทอดบัลลังก์โดยเชื้อสายหลัก เช่นนั้นองค์ชายคนอื่นๆ เกรงว่าคงนั่งไม่ติด โดยเฉพาะโจวอ๋อง จิ้นอ๋อง เยี่ยนอ๋อง ฉู่อ๋องเหล่านั้น ล้วนแล้วแต่เติบโตและถูกเลี้ยงดูมาโดยฮองเฮาองค์ก่อนด้วยกันทั้งนั้น เรียกได้ว่าเป็นเชื้อสายหลักไปแล้วครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับรัชทายาทแล้วมิได้แตกต่างกันมากเท่าใดนัก

เซียวเชียนเยี่ยนวดหัวคิ้ว เอ่ย “ขอบคุณท่านอาจารย์ที่เตือนสติ หลายวันมานี้ข้าร้อนใจเกินไป โชคดี…เสด็จปู่มิได้โกรธเคืองอันใด มิเช่นนั้น…” นึกถึงสิ่งที่ตนเองทำในช่วงหลายวันมานี้ล้วนแล้วแต่อยู่ในสายตาของเสด็จปู่ เซียวเชียนเยี่ยตกใจจนเหงื่อตก หากเสด็จปู่เข้าใจว่าเขาคิดการร้ายเพราะการกระทำเช่นนี้ ไม่อยากจินตนาการถึงผลที่จะตามมา…

ชายวัยกลางคนพยักหน้า “ท่านอ๋องเข้าใจก็ดีแล้ว ต่อไปพระองค์รับผิดชอบในสิ่งที่ฝ่าบาทรับสั่งให้ดีเป็นพอ แสดงความกตัญญูต่อหน้าฝ่าบาท ฝ่าบาทอายุมากแล้ว แน่นอนต้องชอบหลานที่ว่านอนสอนง่าย นอกจากนี้…เรื่องของฉู่กั๋วกง หากท่านอ๋องเห็นสมควรก็ควรชดเชยสักหน่อย หนานกงไหวเป็นวีรบุรุษผู้ก่อตั้งประเทศที่อายุน้อยที่สุดที่ยังอยู่ เมื่อครั้งยังหนุ่มก็โดดเด่นเรื่องการรบ เมื่อก่อตั้งประเทศแล้วยังหลีกเลี่ยงความสงสัยของฝ่าบาทได้ และยังยึดครองอำนาจจนมาถึงทุกวันนี้ คงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน หากเลี่ยงได้ไม่ทำให้ขุ่นเคืองใจจะดีที่สุด” ยามนี้ฝ่าบาทยังอยู่ พระองค์ทำให้หนานกงไหวขุ่นเคืองใจนั้นมิเป็นไร แต่เมื่อรอถึงรัชทายาทขึ้นครองราชย์เมื่อใด การแก่งแย่งของบรรดาหลานฮ่องเต้ทั้งหลายจะยิ่งดุเดือดขึ้นไปอีก ถึงตอนนั้นหากมีศัตรูที่เก่งกาจอย่างหนานกงไหวอีก เช่นนั้นคงเป็นปัญหาใหญ่เสียแล้ว

“คุณหนูรองจวนฉู่กั๋วกงผู้นั้น…ท่านอ๋องอย่าละเลยนางมากเกินไปเป็นพอ แม้หนานกงไหวจะไม่สนใจบุตรีผู้นี้แล้ว แต่อย่างไรก็ยังเป็นสายเลือด…จะไม่สนใจไยดีเลยได้เช่นไร”

เซียวเชียนเยี่ยพยักหน้า นึกขึ้นได้ว่าพระชายาเอ่ยบอกว่าวันนี้เป็นวันที่หนานกงซูเข้าจวนมาแล้ว สินเจ้าสาวที่ตระกูลหนานกงเตรียมมาให้นั้นไม่มีเสียยังจะดีกว่า ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว สำหรับหนานกงซู เขามีความรู้สึกดีๆ ให้อยู่บ้าง อย่างไรเป็นบุรุษก็ต้องชื่นชอบหญิงงาม ความงดงามของหนานกงซูเรียกได้ว่าไม่เลว มีนิสัยอ่อนหวานแบบที่เขาชอบ เมื่อรวมกับฐานะคุณหนูจวนฉู่กั๋วกงแล้ว เขาจึงเลือกเข้าใกล้หนานกงซูทั้งๆ ที่รู้ว่าหนานกงไหวอาจไม่พอใจ ใครจะรู้…เซียวเชียนเยี่ยกลับมีความรู้สึกบางอย่าง ความซวยเริ่มตั้งแต่ที่มีคนมาพบเขากับหนานกงซูเข้า เมื่อนึกถึงหนานกงซูที่นอกจากร้องไห้งอแงแล้วก็ไร้ประโยชน์ นึกไปถึงหนานกงมั่วที่บุกเดี่ยวเข้าไปในสนามรบ ตัดเอาศีรษะของศัตรูกลับมา ยามนี้ยังถูกแต่งตั้งให้เป็นจวิ้นจู่ ความสงสารที่เซียวเชียนเยี่ยมีต่อหนานกงซูก็ยิ่งลดน้อยถอยลงไป

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน