หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 228 ติดอยู่ในภูเขา ความโกรธของจวินมั่ว (4)

ตอนที่ 228 ติดอยู่ในภูเขา ความโกรธของจวินมั่ว (4)

เนี่ยนหยวนยิ้ม “ตั้งแต่จำความได้อาตมาก็อยู่ที่วัดต้ากวงหมิงมาโดยตลอด วัดต้ากวงหมิงเป็นบ้านของอาตมา ไม่ว่าอาตมาจะไปที่ไหน สุดท้ายก็จะกลับมา”

“ไต้ซือไม่เหมือนพระเลยจริงๆ” หนานกงมั่วเอ่ย พระผู้ใหญ่ทั่วไปคงไม่สนใจว่าตนจะไปที่ไหนหรือตายที่ไหน เมื่อมีวาสนาแล้วที่ใดบ้างปฏิบัติธรรมมิได้

เนี่ยนหย่วนพยักหน้า เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อืม ก่อนท่านอาจารย์จะจากไปก็บอกเช่นนี้เหมือนกัน อาตมามีใจผูกพันจึงไม่สำเร็จ”

หนานกงมั่วโยนผลไม้ในมือทิ้ง ลุกขึ้นปัดมือทำความสะอาด “ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครมาตามฆ่าพวกเราแล้ว ไต้ซือ พวกเราควรออกเดินทางได้แล้ว รีบไปกันเถิด”

เนี่ยนหย่วนลุกตามมา อาการบาดเจ็บภายในทำให้เขาขมวดคิ้วโดยไม่ตั้งใจ หนานกงมั่วรีบเข้าไปพยุงเขา ถอนหายใจ “ครั้งนี้ ข้าต้องขอโทษไต้ซือจริงๆ เจ้าค่ะ” หากไม่ใช่เพราะนาง ป่านนี้พระรูปนี้คงกำลังนั่งจิบชาอยู่ที่ป่าไผ่ ดีดฉินใคร่ครวญถึงชีวิตอยู่ เนี่ยนหย่วนยิ้ม “เมื่อพานพบนับว่าเป็นลิขิตสวรรค์ ไยต้องโทษตนเอง”

ที่เขาหลังวัดต้ากวงหมิง เว่ยจวินมั่วยืนอยู่ในป่าบนเขานิ่งไม่เอ่ยสิ่งใด แม้จะยืนเฉยๆ แต่ในบริเวณสิบก้าวรอบๆ นั้นไม่มีใครเลย แม้กระทั่งลิ่นฉังเฟิงที่มีความกล้ายังยืนอยู่ห่างเขาคอยสังเกตด้วยความระมัดระวัง แม้จะรู้ว่าเว่ยจวินมั่วนั้นเป็นคนมีเหตุผล น้อยครั้งจะมีสถานการณ์เสียการควบคุมแต่ก็ไม่กล้าเข้าใกล้ มักรู้สึกอยู่เสมอว่าอีกสักครู่คนตรงหน้าจะระเบิดออกมา ลิ่นฉังเฟิงเช็ดเหงื่อที่ซึมออกมาบนใบหน้า ลอบถอนหายใจ ชีวิตของเขาไยจึงขมขื่นถึงเพียงนี้ ไม่ง่ายเลยกว่าจะหาใครสักคนที่อยากจะแต่งงานด้วย หลังจากแต่งงานแล้วคนโชคร้ายทั้งสองก็จะได้ช่วยกันแบ่งเบาได้แล้ว ทว่าเจ้าสาวกลับมาหายตัวไป

ลิ่นฉังเฟิงมองเส้นผมยาวที่พัดปลิวเพราะสายลมพัดผ่าน ร่างที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ท่าทางน่าสะพรึงกลัวราวกับถูกมนต์สะกด กระแอมไอชั่วครู่พลางเอ่ยขึ้น “จวินมั่ว…คนชุดดำเมื่อคืน เหมือนจะเป็นคนของหอธารา นอกจากนี้…คนที่ถูกส่งออกไปตามหากลับมารายงานว่าภูเขานี้คล้ายกับมีค่ายกล หลายกลุ่มหลงทาง ในนั้นยังมีกองกำลังของเราสองกลุ่มที่ติดอยู่ยังออกมาไม่ได้ ส่วนอีกสองกลุ่มถอยออกมาแล้ว”

“หอธาราหรือ” เสียงทุ้มของเว่ยจวินมั่วเอ่ยขึ้น “จับตัวได้หรือไม่”

ลิ่นฉังเฟิงพยักหน้ารัวเร็ว ส่งสัญญาณมือให้คนเอาตัวเข้ามา ชายหนุ่มสองคนลากชายชุดดำคนหนึ่งเข้ามา ออกแรงผลักจนชายคนนั้นล้มลงไปอยู่ตรงหน้าเว่ยจวินมั่ว ชายชุดดำผู้นั้นหัวใจกระตุกวูบ เมื่อได้รับอิสระจึงรีบลุกขึ้นพยายามหนีเอาตัวรอด ไม่แม้แต่จะสกัดจุดเขาไว้เพราะรู้ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางหนีออกไปได้ เป็นดังนั้นจริง ขณะที่ชายผู้นั้นพึ่งจะลุกขึ้นก็มีแสงสีเงินสว่างวาบผ่านไป ชายผู้นั้นล้มลงไปกองกับพื้นร้องโอดครวญออกมา สองมือและสองเท้าที่โผล่ออกมาด้านนอกปรากฏให้เห็นรอยเลือดยาวเป็นทาง สองมือทิ้งลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง เห็นได้ชัดว่าเส้นเอ็นนั้นถูกตัดขาด

เว่ยจวินมั่วก้มหน้าลงไป ใบหน้าเรียบนิ่งมองชายชุดดำที่นอนหมอบอยู่บนพื้น เอ่ยถาม “กงอวี้เฉินอยู่ที่ใด”

ชายชุดดำกัดฟันไม่เอ่ยวาจา เว่ยจวินมั่วยกเท้าเหยียบลงไปบนหลังมือของเขา เอ่ยถามเสียงเนิบนาบ “ข้าถามว่ากงอวี้เฉินอยู่ที่ใด”

“อ๊ากกก” แม้มือจะถูกตัดเส้นเอ็นขาดแล้ว ทว่าไม่ได้หมายถึงมือนั้นจะไม่เจ็บปวด ชายชุดดำร้องเสียงดัง “ข้า…ข้าไม่รู้”

“ไม่รู้หรือ” ลงน้ำหนักไปที่เท้า กระดูกที่มือร้าวแตกเป็นผุยผง ทั่วทั้งป่าเต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวนอย่างน่าอนาถของชายชุดดำ “ข้า…ข้าไม่รู้จริงๆ…พวกเราได้รับคำสั่ง มีคนจ่ายเงินเพื่อเอาชีวิตหนานกงมั่ว อ๊ากกก”

เว่ยจวินมั่วเอ่ยถามเสียงเรียบ “ใครต้องการเอาชีวิตอู๋สยา”

ชายชุดดำชะงักไปครู่หนึ่ง มองสบกับดวงตาเย็นยะเยือกของเว่ยจวินมั่ว ตัวสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว รีบเอ่ยตอบ “ข้าไม่รู้…รู้ รู้เพียงว่าเป็นผู้มีอำนาจในจินหลิง…ไม่ใช่ข้า ไม่ใช่ข้าที่ไปรับงาน” เว่ยจวินมั่วพยักหน้า เอ่ยถาม “เจ้ายังมีสิ่งใดอยากเอ่ยอีกหรือไม่”

ชายชุดดำชะงัก ไม่นานจึงเข้าใจความหมายของเว่ยจวินมั่ว รีบเอ่ย “มี เจ้าสำนัก…เจ้าสำนักก็มีคำสั่ง เจ้าสำนักบอกว่าห้ามพวกเราสังหารคุณหนูใหญ่หนานกงจริงๆ ขอเพียง ขอเพียงกลับไปไม่ทันงานพิธีก็พอแล้ว เพียงแต่เมื่อคืนเกินอุบัติเหตุ…คุณชายได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย”

“ข้ารู้แล้ว” เว่ยจวินมั่วเอ่ย “ลิ่นฉังเฟิง เอาเขาไปโยนลงเขา”

ลิ่นฉังเฟิงแปลกใจ “นี่ จะปล่อยเขาไปจริงๆ หรือ” แม้จะไม่เป็นการดีหากสังหารคนในร่มพระพุทธศาสนา แต่ไม่คิดว่าเว่ยจวินมั่วจะมีใจเมตตา เว่ยจวินมั่วส่งเสียงหยันยกเท้ากระทืบไปยังร่างชายชุดดำ “อ๊ากกก”

ลิ่นฉังเฟิงถูจมูกเบาๆ สงบปากสงบคำ

เจ้าสังหารเขาเถิด คนที่สูญเสียมือและเท้า คนที่แม้แต่สันหลังยังถูกกระทืบจนหักจะใช้ชีวิตต่อไปได้เช่นไร เขารู้หรือไม่ว่าเซียนซิ่วสุ่ยที่ถูกตัดมือยามนี้ใช้ชีวิตอันเลวร้ายเทียบกับหมาตกน้ำไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่แน่หากวันไหนโชคร้ายหน่อยก็คงถูกศัตรูกำจัดเสีย

ลิ่นฉังเฟิงมองใครบางคนที่เดินจากไป ลังเลอยู่ชั่วครู่จึงกลืนคำพูดนั้นลงคอ โบกมือออกคำสั่งให้คนด้านข้างไปจัดการ เจ้าคนน่าสงสาร ใครใช้ให้เจ้าไปทำให้เว่ยจวินมั่วขุ่นเคืองกันเล่า คนที่คุณชายเว่ยเกลียดจะยิ่งมีชีวิตยืนยาว เพราะความตายนั้นนับว่าเป็นความปรานีและเห็นใจจากคุณชายเว่ยน่ะสิ

ลิ่นฉังเฟิงสาวเท้าเดินตามเว่ยจวินมั่ว เอ่ยถามด้วยความกังวล “จวินมั่ว ตอนนี้จะทำเช่นไรดี ค่ายกลนั่น…พวกเราไม่มีใครเชี่ยวชาญเรื่องค่ายกลเลย เดิมเนี่ยนหย่วนนั่นยังพอได้ แต่ตอนนี้…” เนี่ยนหย่วนก็หายตัวไปไร้ร่องรอย

เว่ยจวินมั่วเอ่ยตอบเสียงเรียบ “ส่งคนออกตามหาต่อไป ทำลายค่ายกลไม่ได้ก็รื้อเสีย”

“เจ้ากำลังล้อเล่นใช่หรือไม่” ลิ่นฉังเฟิงเอ่ย “นั่นเป็นค่ายกลธรรมชาติไม่ใช่ใครโยนหินใส่ไม่กี่ก้อนก็ทำลายได้นะ” ค่ายกลที่ก่อตัวครอบคลุมไปทั่วยอดเขาหลายลูก มันรื้อได้ง่ายเพียงนั้นเลยหรือ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาจะเคลื่อนไหวกองกำลังมากมายไม่ได้ มิฉะนั้นต่อให้หาแม่นางมั่วเจอ พวกเขาคงต้องพบกับความวุ่นวายไม่น้อยเลย ดังนั้น…จึงได้บอกว่าในโลกนี้ไม่มีที่ใดน่าอึดอัดเท่ากับจินหลิงอีกแล้ว มังกรเฝ้าหาดทรายไง ที่ว่ามานี้ก็หมายถึงสถานการณ์ในยามนี้นั่นเอง

เสียงทุ้มของเว่ยจวินมั่วเอ่ย “ไปพาตัวซุนเทียนเฉิงแห่งสำนักดาราศาสตร์มาให้ข้า”

“เจ้าว่าอะไรนะ” ลิ่นฉังเฟิงใกล้จะเป็นบ้าเต็มที ซุนเทียนเฉิงเป็นหัวหน้าสำนักดาราศาสตร์นะ หากจับเขามาแล้วฝ่าบาทรู้ตัวจะทำเช่นไร

เว่ยจวินมั่วยังคงนิ่ง “บอกเขาไปว่าข้าเชิญเขามาดื่มชา หากเขาไม่ยอมมา…”

“เข้าใจแล้ว” ลิ่นฉังเฟิงตอบรับด้วยใบหน้ายับยุ่ง “เชิญมาได้จะเป็นการดีที่สุด ถ้าเขาไม่ยอมก็ลักพาตัวมา” เว่ยจวินมั่วพยักหน้าพึงพอใจ เอ่ยต่อ “นอกจากนี้ส่งคนออกไปค้นหาในบริเวณโดยรอบระยะหนึ่งร้อยลี้เงียบๆ อู๋สยาอาจหาทางกลับออกมาทางอื่น”

ลิ่นฉังเฟิงมองเว่ยจวินมั่วด้วยความกังวล เอ่ยถาม “แล้วเจ้าเล่า เจ้าจะทำอันใด” อย่าบอกว่าจะออกตามหาด้วยตนเองนะ ในป่าลึกแห่งนี้ต่อให้ตามหาสิบวันหรือครึ่งเดือนก็ใช่ว่าจะออกมาได้ อย่าได้ตามหากันไปมาจนวุ่นวาย

เว่ยจวินมั่วเหลือบมองเขา เอ่ยตอบเสียงเรียบ “เตรียมพิธีแต่งงาน”

ท่านช่างมีความมุ่งมั่น ยามนี้ยังคิดถึงพิธีแต่งงานได้อีกหรือ ตอนนี้ต้องคิดว่าหากหนานกงมั่วกลับออกมาไม่ทันแล้วจะทำเช่นไรมิใช่หรือ

“ข้าน้อยคารวะซื่อจื่อ” ชายคนหนึ่งที่มีลักษณะท่าทางคล้ายองครักษ์จวิ้นอ๋องวิ่งเข้ามาอย่างรีบเร่ง เอ่ยด้วยท่าทีนอบน้อม ดวงตากวาดมองไปยังด้านหลังของเว่ยจวินมั่ว มองรอยเลือดและคนที่ถูกลากออกไปไม่ไกล ชายคนนั้นหลุบตาลงราวกับมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท