หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 239 พิธีแต่งงาน แขกผู้มาเยือนที่ไม่คาดคิด (1)

ตอนที่ 239 พิธีแต่งงาน แขกผู้มาเยือนที่ไม่คาดคิด (1)

หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่มีวรยุทธ์ สัมผัสไม่ได้”

แน่นอนว่าหนานกงเจียวไม่เชื่อ คิดเพียงว่าหนานกงมั่วใจแคบไม่ยอมให้นางสัมผัส หนานกงเจียวไม่ใช่คนสุขุมอะไร ในใจคิดเช่นไรก็แสดงออกมาทางสีหน้าเช่นนั้น หนานกงมั่วยิ้มเย็น ยื่นมือขึ้นไปถอดปิ่นปักผมสีทองออกมา เขี่ยลูกแก้วสีแดงเล่น ชั่วพริบตาปลายแหลมของปิ่นทองพลันหลอมละลาย หนานกงเจียวใบหน้าซีดขาว รีบก้าวถอยหลัง

หนานกงมั่วคร้านจะสนใจหนานกงเจียว เอ่ยเสียงเรียบ “เจียวเอ๋อร์ ข้ามีเรื่องต้องคุยกับศิษย์พี่ เจ้ากลับไปก่อนเถิด”

หนานกงเจียวมองไปยังคุณชายเสียนเกอผู้สง่างามที่นั่งสีหน้าเรียบนิ่งอยู่ด้านข้าง ลังเลอยู่ชั่วครู่ เอ่ย “พี่สาว…แม้ท่านกำลังจะออกเรือน แต่ว่าชายหญิงอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง…คงไม่ดีต่อชื่อเสียงของพี่สาวนะเจ้าคะ” หนานกงมั่วเอ่ย “ขอบคุณน้องสาวที่เป็นห่วง เดี๋ยวข้าเรียกจือซูมาอยู่ด้วย” หนานกงเจียวรีบโบกมือ ฝืนยิ้มออกมา “พวกจือซูคงกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมงานวันพรุ่งนี้ ให้เจียวเอ๋อร์อยู่เป็นเพื่อนพี่สาวเถิดเจ้าค่ะ”

เสียนเกอมองทั้งสองด้วยรอยยิ้ม คิ้วคมเลิกขึ้น เอ่ยขึ้น “ไม่มีเรื่องอันใดหรอก มั่วเอ๋อร์เตรียมตัวเถิด เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าจะไปยังจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋อง จริงสิ…วันนี้ข้าเจอท่านอาจารย์ เขาบอกว่าติดธุระ พรุ่งนี้จึงจะมาถึง”

“…” ศิษย์พี่ ข่าวนี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดหรอกหรือ

เสียนเกอโบกมือพร้อมทั้งเดินออกไป

หนานกงเจียวอ้าปากราวกับอยากเอ่ยบางสิ่งออกมา ทว่าทำได้เพียงมองคุณชายเสียนเกอเดินกลับออกไป หนานกงมั่วหันกลับมา กวาดตามองนางเล็กน้อย ทำได้เพียงทำเป็นมองไม่เห็นท่าทางขวัญหนีดีฝ่อของนาง จับพู่กันขึ้นมาฝึกคัดตัวอักษรต่อไป

อาจารย์อาก็จะมาด้วย เยี่ยมไปเลย

เช้าตรู่ ผู้คนมากมายเดินทางเข้ามายังจวนฉู่กั๋วกง เรือนจี้ชั่งที่ถูกปิดเอาไว้เสมอมาวันนี้ถูกเปิดออก บ่าวรับใช้พากันเดินเข้าออกวุ่นวายด้วยใบหน้าชื่นมื่น

หนานกงมั่วถูกปลุกให้ลุกขึ้นมาจากเตียงมานั่งอยู่ในห้อง ปล่อยให้สาวใช้ช่วยกันแต่งหน้าแต่งตา ยามนี้นางเปลี่ยนมาอยู่ในอาภรณ์สีแดงสะดุดตา ยิ่งทำให้ดูสดใสสวยงาม เซี่ยฮูหยินพาเซี่ยฮูหยินน้อยมาช่วยตั้งแต่เช้า ทำให้คนที่ยังรู้สึกไม่สบายใจมีความมั่นใจมากขึ้น เจิ้งซื่อไม่สามารถมาปรากฏตัวได้ มารดาของหนานกงเจียวแม้จะมีฐานะเป็นอาสะใภ้ของหนานกงมั่ว แต่อย่างไรนางก็เป็นเพียงภรรยาของขุนนางขั้นห้าเท่านั้น ไม่เคยพบปะผู้คนมากมายอะไร เมื่อถึงเวลาจริงๆ จึงวางตัวไม่ถูก

โชคดีที่ตระกูลเซี่ยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลเมิ่ง นายหญิงใหญ่เซี่ยจึงส่งลูกสะใภ้และหลานสะใภ้มาช่วยตั้งแต่รุ่งเช้า มิฉะนั้นหนานกงมั่วคงมิได้นั่งสบายอยู่ในห้องเช่นนี้เป็นแน่ ใครใช้ให้สตรีตระกูลหนานกงล้วนไม่สามารถเยินยอออกหน้าได้กันเล่า สิ่งที่ทำให้หนานกงมั่วเสียดายก็คือเซี่ยเพ่ยหวนไม่ได้มาด้วย แม้เซี่ยเพ่ยหวนจะยังไม่ออกเรือน แต่มีเรื่องขององค์ชายสิบเก้า ในสายตาของคนภายนอกนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก แน่นอนว่าไม่สามารถมาปรากฏตัวในงานพิธีเช่นนี้ได้ แม้หนานกงมั่วไม่ใส่ใจ แต่ตระกูลเซี่ยนั้นแตกต่าง หนานกงมั่วลองคิดทบทวนดูอีกครั้ง เซี่ยเพ่ยหวนอายุมากกว่าตนเองเล็กน้อย หากต้องมาอยู่ในงานพิธีเช่นนี้คงรู้สึกสะเทือนใจไม่น้อย จึงทำได้เพียงปล่อยผ่านไป

เซี่ยฮูหยินน้อยปักปิ่นหงส์ทองประดับอัญมณีลงมาบนศีรษะของนาง เอ่ยเสียงเบา “พวกเรารู้ดีว่าอู๋สยาไม่ถือ แต่โลกใบนี้ก็เป็นเช่นนี้ ไยต้องเพิ่มคำครหา แม้น้องสามจะมาไม่ได้ แต่นางฝากพวกเราให้ช่วยอวยพรแทนนางด้วย” หนานกงมั่วส่ายศีรษะ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบ ลำบากพี่ซูแล้ว”

เซี่ยฮูหยินน้อยยังคงยิ้ม มองหนานกงมั่วผ่านกระจกทองเหลือง ส่งยิ้มให้หนานกงมั่ว “ข้าช่างชอบความเปิดเผยและไม่สนใจโลกของเจ้าเหลือเกิน ราวกับเทพเซียนที่ลงมาจากสวรรค์ เว่ยซื่อจื่อช่างโชคดี”

“พี่ซู…” หนานกงมั่วจนปัญญา ใบหน้าเล็กขึ้นสีแดงบางๆ สองข้างแก้มแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย มีเสน่ห์อย่างหาที่เปรียบมิได้

เซี่ยฮูหยินนั่งดื่มชาอยู่กับหนานกงซื่อ หนานกงเจียว และสตรีในตระกูลคนอื่นๆ เองก็นั่งพูดคุยกันสนุกสนานอยู่ด้านนอก หนานกงมั่วไม่คุ้นเคยกับบรรดาคุณหนูในจินหลิงมากนัก เมื่อเซี่ยเพ่ยหวนไม่มาจึงมิได้เชิญคุณหนูคนใดมาด้วย ดังนั้นในห้องจึงมีเพียงหนานกงเจียวและญาติที่ไม่เคยพบหน้ามาก่อน

เซี่ยฮูหยินหันกลับไปมองสำรวจหนานกงมั่ว จากนั้นหันกลับไปเอ่ยกับเซี่ยฮูหยินน้อยด้วยรอยยิ้ม “ซิงเฉิงจวิ้นจู่ช่างงดงามเรียบร้อยกว่าเจ้ายิ่งนัก หากเดินออกไปเช่นนี้ผู้คนคงได้ตกตะลึง” เซี่ยฮูหยินน้อยเองก็เห็นด้วย เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้ารู้อยู่แล้วว่าเมื่อมารดาเห็นอู๋สยาแล้วต้องรังเกียจข้าเป็นแน่”

“ไม่รังเกียจ” เซี่ยฮูหยินเอ่ยด้วยเสียงหัวเราะ “อย่างไรลูกชายคนนั้นของข้าก็มิได้รูปงามเช่นเว่ยซื่อจื่อ เช่นนี้จึงจะเรียกว่ากิ่งทองใบหยก” เซี่ยฮูหยินนั้นพึงพอใจต่อลูกสะใภ้ของตนอยู่มาก แน่นอนว่าต้องไม่ยอมให้นางไม่สบายใจ เซี่ยฮูหยินน้อยถอนหายใจ มองไปยังหนานกงมั่ว “เห็นแล้วหรือไม่ มารดามิได้รังเกียจเพียงลูกสะใภ้ ยามนี้แม้แต่บุตรชายก็รังเกียจไปด้วยแล้ว”

หนานกงมั่วอดไม่ได้ยกมือขึ้นป้องปากกลั้นเสียงหัวเราะ ความสัมพันธ์แม่สามีและลูกสะใภ้ที่ดีเช่นนี้นั้นเห็นได้ไม่มากนัก แต่ตระกูลเซี่ยนั้นเป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร นายหญิงใหญ่เซี่ยเองก็มีเมตตาต่อลูกสะใภ้เป็นอย่างยิ่ง เมื่อนึกถึงองค์หญิงฉังผิง หนานกงมั่วก็คิดว่าอนาคตตนเองคงไม่มีปัญหากับแม่สามีเหมือนเช่นนี้ใช่หรือไม่

“อนุภรรยาเย่ว์จวิ้นอ๋องและฮูหยินน้อยมาเจ้าค่ะ” มีเสียงสาวใช้รายงานขึ้นด้านนอก

เซี่ยฮูหยินขมวดคิ้ว มองหนานกงมั่วจากนั้นถอนหายใจออกมา “ช่างเถิด อย่างไรก็เป็นน้องสาวและพี่สะใภ้ของอู๋สยา” แม้จะบอกว่าเป็นพี่น้อง แต่อย่างไรก็เป็นเชื้อสายรอง อีกทั้งยังเป็นน้องสาวเชื้อสายรองที่เป็นอนุภรรยา เวลานี้จะมาที่ห้องของเจ้าสาวได้เยี่ยงไร จวนฉู่กั๋วกงช่างไม่ใส่ใจอะไรเลยจริงๆ ผู้ที่จะเข้าพบเจ้าสาวได้ต้องตรวจตราพิถีพิถัน เหตุที่ตระกูลเซี่ยไม่ให้เซี่ยเพ่ยหวนมา เป็นเพราะตระกูลเซี่ยเชื่อว่าสตรีที่ไว้ทุกข์นั้นไม่เป็นมงคล ถือเป็นลางไม่ดี ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสิ่งที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ ขณะเดียวกันก็นับเป็นการให้เกียรติและอวยพรแก่เจ้าสาวด้วย

ด้านนอก หลินซื่อและหนานกงซูเดินตามกันเข้ามา เพราะวันนี้เป็นวันมงคล ทั้งสองจึงเปลี่ยนมาอยู่ในอาภรณ์สีสันสดใส หนานกงซูอยู่ในอาภรณ์สีส้ม ผมถูกม้วนเป็นมวยและตกแต่งด้วยเครื่องประดับสีทองระย้าซึ่งแกว่งไกวไปตามการเคลื่อนไหว หากไม่รู้คงนึกว่านางไม่ใช่อนุภรรยาของจวนเย่ว์จวิ้นอ๋อง แต่เป็นชายาเอกของจวนเย่ว์จวิ้นอ๋อง

“พี่สะใภ้ น้องสาว” หนานกงมั่วเอ่ยขึ้น

หลินซื่อรู้สึกเขินอายเล็กน้อย งานแต่งงานของหนานกงมั่วแต่นางกลับมิได้ยื่นมือเข้าไปมีส่วนร่วมเลยสักนิด ความจริงมิใช่เพราะนางไม่อยากยุ่งทว่าเป็นหนานกงชวี่ที่ไม่ยอมให้นางยื่นมือเข้ามายุ่ง เหลือบไปมองเซี่ยฮูหยินและเซี่ยฮูหยินน้อยที่นั่งอยู่ด้านข้าง หลินซื่อยิ้มเจื่อนออกมาพลางพยักหน้า เอ่ย “น้องสาว ยินดีด้วย”

“ขอบคุณพี่สะใภ้เจ้าค่ะ พี่สะใภ้ไยจึงมีเวลาว่างมาได้เล่า”

หลินซื่อเหลือบมองหนานกงซูเล็กน้อย “น้องรองตั้งใจกลับมาเพื่อมาส่งน้องสาว ข้าจึงมาเป็นเพื่อนนาง”

เซี่ยฮูหยินยืนขึ้น “พวกเจ้าพี่น้องคงอยากพูดคุยกัน พวกเราออกไปนั่งข้างนอกกันเถิด” เซี่ยฮูหยินน้อยพยักหน้า ประคองเซี่ยฮูหยินแล้วหันมาขยิบตาให้หนานกงมั่ว จากนั้นจึงหมุนตัวเดินออกไป เซี่ยฮูหยินออกไปกันแล้ว ทว่าไม่นานจือซูและหมิงฉินก็ปรากฏตัวที่หน้าประตู

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท