หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 428 หน่วยกล้าตายของผู้ใด (3)

ตอนที่ 428 หน่วยกล้าตายของผู้ใด (3)

ตอนที่ 428 หน่วยกล้าตายของผู้ใด (3)
ชวีเหลียนซิงครุ่นคิด พยักหน้า เอ่ย “จะว่าอย่างนั้นก็ถูกเจ้าค่ะ หากถูกคนบีบบังคับ ข้าอาจจะไปฆ่าคน แต่ว่า…ต่อให้ถูกคนบังคับ การสังหารคนนับพันเพียงโบกมือ เรื่องเช่นนี้…คงมีไม่กี่คนที่จะทำได้” สังหารศัตรูและสังหารประชาชนธรรมดานั้นเป็นคนละเรื่อง เมื่อสังหารศัตรูนั้นอาศัยความโกรธแค้น สถานการณ์ในตอนนั้น และอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน แต่การไปสังหารประชาชนธรรมดาที่ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับตนเอง เช่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ชวีเหลียนซิงคิดว่าหากตนเองไปสังหารคนตายมากเพียงนั้น ถัดมาคนที่นางจะฆ่าให้ตายก็คงเป็นตัวนางเอง

หนานกงมั่วถอนหายใจ เอ่ย “ดังนั้นข้าจึงไม่ชอบหน่วยกล้าตาย แม้จะมีความภักดีเป็นเรื่องธรรมชาติ ยากที่จะควบคุมความคิด แต่อย่างน้อยก็ยังเป็นคน เมื่อเทียบกับผีดีบแล้วข้าชอบคุยกับคนมากกว่า”

ชวีเหลียนซิงยิ้มบาง เอ่ย “จวิ้นจู่เป็นคนดีคนหนึ่งเลยเจ้าค่ะ”

หนานกงมั่วร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก “แม้ว่าเจ้าจะไม่ใช่คนแรกที่บอกว่าข้าเป็นคนดี แต่ข้ายังรู้สึกว่าประโยคนี้ฟังดูแล้ว…” แทบกระอักกระอ่วนเลยรู้หรือไม่ คนเยี่ยงนางเรียกว่าคนดีได้ เช่นนั้นแล้วชาวบ้านทั่วไปที่ไม่ทำร้ายและไม่ทำลายคนอื่นเล่า เทพเจ้าหรือ

“เย่ว์จวิ้นอ๋อง หยุดก่อน” ด้านนอกมีเสียงไม่พอใจของหลิ่วดังขึ้น รวมไปถึงเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นต่อเนื่อง หนานกงมั่วลุกขึ้น ออกคำสั่งกับชวีเหลียนซิง “อย่าออกมา หาที่ที่ปลอดภัยอยู่ไปก่อน” เซียวเชียนเยี่ยบุกเข้ามาต่อหน้าผู้คนมากมาย เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ไม่ดีนัก ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่กงอวี้เฉินใช้นางหลอกล่อหนานกงมั่ว ชวีเหลียนซิงก็ไม่กล้าดึงดันที่จะติดตามหนานกงมั่วอีก นางเพิ่งเข้าสำนักมา ไม่มีความสามารถในการต่อสู้ใดๆ อยู่ข้างๆ จวิ้นจู่จะเป็นตัวถ่วงเสียเปล่า ชวีเหลียนซิงพยักหน้า เอ่ย “จวิ้นจู่ระวังด้วยนะเจ้าคะ”

หนานกงมั่วเดินย่างกรายออกไป เรือนด้านนั้นมีคนของวังจื่อเซียวกำลังจ้องเขม็งกันอยู่กับกลุ่มคนที่เซียวเชียนเยี่ยพามา

มองเห็นหนานกงมั่วออกมา ความโกรธบนใบหน้าของเซียวเชียนเยี่ยยิ่งเด่นชัดขึ้น “จวิ้นจู่ ข้านึกว่าเราทำข้อตกลงกันดีแล้ว”

หนานกงมั่วเลิกคิ้ว เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “จวิ้นอ๋องกำลังเอ่ยอันใดอยู่หรือ หม่อมฉันไปทำอันใดไยพระองค์จึงพาผู้คนมากมายมาบุกที่อยู่ของหม่อมฉันเล่า”

เซียวเชียนเยี่ยแค้นเสียงเย็น “ในเมื่อจวิ้นจู่สัญญาแล้ว่าจะไม่ยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องนี้ ไยจึงต้องจับคนของข้า”

หนานกงมั่วเอ่ย “จวิ้นอ๋องหมายถึง…” ใบหน้าของเซียวเชียนเยี่ยทะมึนขึ้น เอ่ยเสียงเย็น “จวิ้นจู่รู้อยู่แก่ใจ” หนานกงมั่วถอนหายใจ เอ่ย “จวิ้นอ๋อง ไม่รู้สึกว่าตนเองลงมือโหดเหี้ยมเกินไปหรือ”

เซียวเชียนเยี่ยเอ่ย “ข้าไม่เข้าใจความหมายของจวิ้นจู่ ที่ผ่านมาเมื่อเกิดโรคระบาดราชสำนักต่างก็จัดการเช่นนี้กันทั้งนั้น ไยเมื่อมาถึงข้าจึงดูโหดเหี้ยมกันเล่า” หนานกงมั่วยิ้มบาง “หากข้าบอกว่าข้ามียารักษาโรคระบาดครั้งนี้เล่า จวิ้นอ๋องยังยืนยันจะทำเช่นนั้นอยู่หรือไม่” เซียวเชียนเยี่ยตกใจ เอ่ย “จวิ้นจู่มีวิธีรักษาอย่างนั้นหรือ”

“ไม่มี” หนานกงมั่วเอ่ย

“เจ้าหลอกข้า” เซียวเชียนเยี่ยกัดฟันขึ้นมา

หนานกงมั่วถอนหายใจ เอ่ย “ขอจวิ้นอ๋องได้ไตร่ตรอง เรื่องในครั้งนี้…เป็นความคิดของท่านหรือเป็นความคิดของผู้อื่น ท่านอ๋องคิดดีแล้วใช่หรือไม่ อีกอย่าง…พระองค์กล่าวไม่ผิด การจัดการเช่นนั้นเป็นเรื่องปกติของราชสำนัก แต่ท่านอ๋องอย่าลืมเล่า ก่อนหน้านั้นราชสำนักยังส่งหมอหลวงมารักษา วินิจฉัยโรคให้ชัดเจน จัดการเพื่อป้องกันไม่ให้มีครั้งต่อไป แต่ครั้งนี้ จวิ้นอ๋องได้ทำแล้วหรือไม่ จวิ้นอ๋องปิดบังข่าวคราว คิดจัดการคนเหล่านั้นในทันที ต่อหน้าฝ่าบาทแน่นอนท่านอ๋องจะบอกว่าว่าเป็นเวลายากลำบากก็ได้ ฝ่าบาทไม่เพียงไม่กล่าวโทษพระองค์ ไม่แน่อาจชื่นชมว่าพระองค์มีความเด็ดเดี่ยว แต่ว่าพระองค์คิดว่าเฉิงจวิ้นอ๋องและอันจวิ้นอ๋องจะเชื่อพระองค์หรือเพคะ พวกเขาจะไม่สืบจริงๆ น่ะหรือ เพียงพวกเขาสืบเจออันใดบางอย่าง ท่านอ๋อง ท่านก็จะไม่ใช่คนจัดการเรื่องโรคระบาดแล้ว แต่เป็นการฆ่าคนปิดปาก กระทั่งพวกเขาอาจคิดว่าเดิมทีเขาลั่วหยางอาจไม่มีโรคระบาดอันใดด้วยซ้ำ ทุกๆ เรื่องล้วนเป็นคำแก้ตัวที่เย่ว์จวิ้นอ๋องหามาแก้ตัวให้ตนเอง หวงจั่งซุนที่เพื่อปิดบังความผิดของตนเอง ต้องสังหารผู้คนนับพัน…”

สีหน้าของเซียวเชียนเยี่ยเดี๋ยวเขียวเดียวซีด เขาไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสิ่งที่หนานกงมั่วพูดนั้นอาจจะเป็นเรื่องจริงขึ้นมา แต่เขาทำอันใดไม่ได้ นับตั้งแต่โรคระบาดบนเขาลั่วหยางไม่อาจควบคุมได้เขาก็เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว

“ท่านอ๋อง” จูชูอวี้ก้าวขึ้นมาด้านหน้าหนึ่งก้าว เอ่ยเสียงเบา

เซียวเชียนเยี่ยหัวใจกระตุก ทันใดนั้นเหงื่อก็ผุดขึ้นเป็นเม็ดๆ จ้องเขม็งไปยังหนานกงมั่ว เขาโอนอ่อนไปกับคำพูดของสตรีเพียงผู้เดียว กระทั่งคิดตามในสิ่งที่นางพูด

หนานกงมั่วกลอกตาอยู่ในใจ ตนเองจิตใจไม่มั่นคงยังจะโทษนางอีกหรือ นางยังมิได้ใช้วิชามารอันใดเกลี้ยกล่อมเลยด้วยซ้ำ

จูชูอวี้ถอนหายใจ เอ่ยเสียงเบา “จวิ้นจู่ได้โปรดอภัย ยามนี้เย่ว์จวิ้นอ๋องเองก็ไม่อาจควบคุมตนเองได้ เรื่องในครั้งนี้…ความจริงเป็นความต้องการของข้าเอง ขอจวิ้นจู่เห็นแก่หน้าของคุณหนูรองหนานกง เปิดทางด้วยเถิดเจ้าค่ะ” หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “ข้ายังยืนยันคำเดิม เย่ว์จวิ้นอ๋อง เรื่องนี้เป็นความคิดของพระองค์จริงหรือเพคะ”

เซียวเชียนเยี่ยตกตะลึง เอ่ยถามเสียงเย็น “จวิ้นจู่รู้อันใดอีกเล่า”

หนานกงมั่วเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม “อย่างน้อยข้าก็รู้ว่า หน่วยกล้าตายไม่กี่คนนั้น ไม่ใช่คนของเย่ว์จวิ้นอ๋อง ยาพิษเหล่านั้นก็น่าจะไม่ใช่พระองค์เป็นคนเตรียม แต่ว่า…ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป สุดท้ายคนที่ต้องรับผิดชอบก็คือเย่ว์จวิ้นอ๋องนะเพคะ ท่านมั่นใจว่าท่านยังจะทำต่อหรือ” พวกเซียวเชียนเยี่ยมองสบตากัน สีหน้าไม่ดีนัก หนานกงมั่วรู้ว่าความจริงคงยิ่งกว่าสิ่งที่พวกเขาคาดเดาเอาไว้มากทีเดียว

เซียวเชียนเยี่ยกัดฟัน “จวิ้นจู่รู้มากเกินไปแล้ว”

หนานกงมั่วกะพริบตาปริบ มองเขาด้วยสายตาไร้เดียงสา

“หรือว่าจวิ้นจู่ไม่เคยได้ยิน ว่าคนที่รู้มากเกินไปมักจะอายุสั้นหรือ”

ได้ยินเช่นนั้น ไม่เพียงฝังที่มองเซียวเชียนเยี่ยด้วยความระแวดระวังมากขึ้น แม้กระทั่งสีหน้าของจูชูอวี้เองก็แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เย่ว์จวิ้นอ๋อง”

“หุบปาก” เซียวเชียนเยี่ยเอ่ย ดวงตาจับจ้องอยู่ที่หนานกงมั่วเขม็ง เอ่ย “ข้าคิดมาตลอดว่าซิงเฉิงจวิ้นจู่เป็นคนฉลาด แต่ว่า…บางทีอาจเพราะเจ้าฉลาดเกินไป จึงทำให้คนเกลียดเช่นนี้” หนานกงมั่วถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เอ่ย “เย่ว์จวิ้นอ๋อง พระองค์อยากสังหารหม่อมฉันอย่างนั้นหรือ” สีหน้าเซียวเชียนเยี่ยเปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่นานจึงเอ่ยเสียงเย็น “เมื่อก่อนข้ากลัวว่าจะทำให้เว่ยจวินมั่วและหนานกงไหวโกรธ แต่ว่า…ต่อให้ข้าฆ่าเจ้าจริงๆ เว่ยจวินมั่วกล้าแตะต้องข้าหรือ นอกเสียจากเขาจะไม่ต้องการชีวิตขององค์หญิงฉังผิงแล้ว นอกจากนี้คุณหนูใหญ่หนานกงร่วมมือกับวังจื่อเซียววางแผนสังหารข้า เหตุผลนี้จวิ้นจู่คิดว่าอย่างไร”

หนานกงมั่วกลอกตา “ไม่อย่างไร ในเมื่อรู้ว่าคนของวังจื่อเซียวอยู่ ใครให้ความมั่นใจกับพระองค์ว่าจะฆ่าข้าได้”

“ฮ่าๆ แล้วถ้ามีข้าเพิ่มเข้ามาด้วยเล่า” เสียงดังเข้ามาจากด้านนอก ไม่นานเรือนเล็กๆ ก็ถูกล้อมเอาไว้เรียบร้อย เพียงได้ยินเสียงเท้าก็รู้แล้วว่าล้วนเป็นทหารที่ถูกฝึกมาอย่างดี เห็นเพียงชายวัยกลางคนอายุราวๆ ห้าสิบปีเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว รูปร่างหน้าตาธรรมดา บวกกับรอยย่นบนใบหน้ายิ่งทำให้ดูเหมือนชายชราฐานะร่ำรวยที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี แต่ว่า ดวงตาคู่นั้นของเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและไม่เป็นมิตร ทำให้คนรับรู้ถึงความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาโดยไม่อาจห้ามได้

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท