หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 437 สาเหตุการสิ้นพระชนม์ขององค์รัชทายาท (1)

ตอนที่ 437 สาเหตุการสิ้นพระชนม์ขององค์รัชทายาท (1)

ตอนที่ 437 สาเหตุการสิ้นพระชนม์ขององค์รัชทายาท (1)
เว่ยจวินมั่วพยักหน้า หมุนตัวเดินมุ่งหน้าออกไปด้านนอก

“นี่ เจ้าจะไปไหน แผลของเจ้ายังไม่หายดีนะ หากเจ้าออกไปแล้วเกิดอันใดขึ้น มั่วเอ๋อร์ไม่ฉีกข้าเป็นชิ้นๆ เลยหรือ” คุณชายเสียนเกอรีบตามออกไป เว่ยจวินมั่วไม่หยุดเท้าเลยแม้เพียงนิด เอ่ยเสียงเรียบ “คนของเจ้า ยาของเจ้า ไม่ต้องให้ข้าออกหน้า รอคนทั่วทั้งหลิงโจวติดเชื้อกันหมดแล้ว เช่นนั้นข้าคงได้นอนไปชั่วชีวิตแล้ว”

คุณชายเสียนเกอเคาะปลายจมูก ก็ได้ เขาเอ่ยก็มีเหตุผล

“มั่วเอ๋อร์ไปตั้งแต่เมื่อใด” เว่ยจวินมั่วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสงบ แต่ไม่รู้ทำไมจึงทำให้คนรู้สึกถึงอันตราย ทว่าคุณชายเสียนเกอกลับไม่สนใจ ยักไหล่ เอ่ย “สองวันก่อน ม้าเร็วพร้อมแซ่คาดว่าคงใกล้ถึงจินหลิงแล้ว”

“ฝัง ส่งคนไปหาจิ้นจั๋ว บอกว่าข้าขอให้เขาไปช่วยดูแลความปลอดภัยให้อู๋สยา” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเรียบ ฝังรู้สึกว่าคุณชายของตนนั้นมีความคิดแปลกประหลาด “คุณชาย หัวหน้าจิ้น…คงไม่รับปากกระมังขอรับ” จิ้นจั๋วไม่มีความเกี่ยวข้องกับพวกเขาเลยสักนิด ทว่าความโกรธแค้นกลับมีมาก เว่ยจวินมั่วมองเขาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง “บอกจิ้นจั๋ว หากอู๋สยาไม่เป็นไร หลังจากเรื่องราวจบแล้ว ข้าจะไว้ชีวิตจูชูอวี้ หากมั่วเอ๋อร์เป็นอันใดไป ข้าจะหั่นจูชูอวี้เป็นชิ้นๆ ต่อหน้าเขา”

“…” คุณชาย ท่านไม่คิดว่าจิ้นจั๋วได้ยินที่ท่านบอกแล้ว ความคิดแรกไม่ใช่การไปคุ้มกันจวิ้นจู่ แต่จะไปฆ่านางให้ตายหรือ ยามนี้ก็ไม่แน่ว่าท่านจะสู้เขาได้

“ฝัง” มองใบหน้าลูกน้องของตนด้วยท่าทางประหลาดใจ เว่ยซื่อจื่อขมวดคิ้ว เพราะอู๋สยาตัดสินใจด้วยตัวเอง อีกทั้งความบ้าคลั่งของเซียวฉุน เว่ยซื่อจื่อจึงอารมณ์ไม่ดีนัก หากไม่ใช่ตอนนี้ขาดกำลังคน เว่ยซื่อจื่อคงฟาดฝ่ามือใส่ไปสักครั้ง อู๋สยาก็ไม่อยู่แล้ว ตอนนี้แม้แต่ฟังยังฟังไม่เข้าใจอีก คนโง่เช่นนี้จะเก็บไว้ทำไม

“ขอรับ ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้ขอรับ” ฝังรีบประสานมือ ชั่วพริบตาพลันหนีหายไปไกล คุณชายดูไม่ปกติ หลายวันมานี้อยู่ให้ห่างสักหน่อยจะดีกว่า

ด้านข้าง คุณชายเสียนเกอเลิกคิ้ว เอ่ย “ว่ากันว่า หัวหน้าจิ้นผู้นั้นแตกหักกับคุณหนูใหญ่ตระกูลจูแล้วมิใช่หรือ” ความจริงคุณชายเสียนเกอนั้นพอรู้จักกับหัวหน้าจิ้นอยู่บ้าง อย่างไรก็เป็นคนในยุทธภพเหมือนกัน

เว่ยจวินมั่วหันกลับไปหาเขา เอ่ยเสียงเรียบ “อ้อ เช่นนั้นก็หั่นเขาให้เป็นชิ้นๆ”

“…”

หนานกงมั่วกลับมาถึงจินหลิงก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว ทว่าไม่ได้กลับไปถวายพระพรองค์หญิงฉังผิงที่จวนเยี่ยนอ๋อง แต่ตรงไปยังหอเทียนอี เรือนหลังหอเทียนอี ลิ่นฉังเฟิงมองหนานกงมั่วที่มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าอย่างกะทันหันด้วยใบหน้าซีดเผือด “แม่นางมั่ว เจ้ากลับมาได้เยี่ยงไร”

หนานกงมั่วหันกลับมากวาดตามองเขา เอ่ย “ท่านเป็นอันใดไป จดหมายส่งไปให้ฝ่าบาทแล้วหรือ”

ลิ่นฉังเฟิงพยักหน้า ไม่นานก็หน้าเสีย “ส่งเข้าวังไปแล้ว แต่ว่า…ฝ่าบาทจะเห็นหรือไม่ ข้าไม่กล้ารับรองได้”

“ว่าอย่างไรนะ”

ลิ่นฉังเฟิงเอ่ย “ระหว่างทางกลับมาพวกเรามีคนตามลอบสังหารหลายครั้ง โชคดีที่สุดท้ายต่างก็หนีมาได้ การคุ้มกันของพระราชวังก็เปลี่ยนไป ไม่สามารถเข้าวังได้ ข้าทำได้เพียงส่งจดหมายเข้าไปที่สำนักตรวจฎีกากลาง เมื่อคนของสำนักตรวจฎีกาเห็นแน่นอนต้องส่งต่อให้ฝ่าบาท แต่รอมากว่าสองวันแล้วก็ไม่เห็นว่าฝ่าบาทจะให้จัดการเรื่องนี้อย่างไร แม้แต่จะส่งคนไปสืบเรื่องราวที่หลิงโจวก็ไม่มี อีกทั้งจดหมายถูกส่งเข้าไปกว่าสองวันแล้ว กิจการของพวกเราในจินหลิงหลายร้านถูกคนของห้าหน่วยบัญชาการทหารสูงสุดบุกเข้าตรวจค้นหลายครั้ง โชคดีที่หลายกิจการของเรานั้นไม่มีใครรู้จักจึงได้หลุดพ้นไปได้ แต่หากเป็นฝ่าบาทล่ะก็ไม่มีความจำเป็นเลยสักนิด ดังนั้น…ข้าสงสัยว่าจดหมายจะถูกคนดักเอาไว้ จริงสิ ข้าให้คนส่งจดหมายให้เจ้า แม่นางมั่วไม่เห็นหรือ”

หนานกงมั่วส่ายหน้า คำนวณเวลาอยู่ชั่วครู่ “คิดว่าคงคลาดกัน”

มองหนานกงมั่ว ลิ่นฉังเฟิงถอนหายใจออกมา “แม้จะไม่รู้ว่าไยแม่นางมั่วจึงได้กลับจินหลิงมาคนเดียว แต่ลางสังหรณ์ของข้า คงเป็นเรื่องยุ่งยากแล้วเป็นแน่”

หนานกงมั่วมองเขา กระตุกมุมปากอย่างจนปัญญา “ยุ่งยากแล้วจริงๆ”

“ตอนนี้แม่นางมั่วคิดจะทำเช่นไร คิดจะดึงดันเข้าวังคงเป็นไปไม่ได้ ฝ่าบาท…” ลิ่นฉังเฟิงส่ายศีรษะ คงไม่ขนาดนั้นหรอกกระมัง ฝ่าบาทพระองค์นี้มิใช่ลูกพลับอ่อน คนที่หยิกเขาโดยไม่ตั้งใจนั้นล้วนตายไปนานแล้ว

หนานกงมั่วครุ่นคิด เอ่ย “เดี๋ยวข้ากลับไปพบเสด็จแม่ก่อนค่อยว่ากันเถิด”

“นั่นสิ” ลิ่นฉังเฟิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม พวกเราเข้าวังไม่ได้ แต่องค์หญิงฉังผิงจะเข้าวัง แน่นอนว่าขวางไม่ได้”

หนานกงมั่วพยักหน้า มองบาดแผลบนใบหน้าของลิ่นฉังเฟิงที่ยังไม่หายดีนัก โยนยาขวดหนึ่งไปให้เขาพลางเอ่ย “ช่วงนี้เมืองจินหลิงไม่ค่อยสงบ ท่านรีบรักษาบาดแผลเถิด” ลิ่นฉังเฟิงรับมา พยักหน้าตอบ “แม่นางมั่วระวังตัวด้วย”

หนานกงมั่วลุกขึ้นเตรียมตัวเดินออกไป ทันใดนั้นด้านนอกกลับมีเสียงระฆังดังขึ้น

สีหน้าของทั้งสองพลันเปลี่ยน เนิ่นนาน หนานกงมั่วจึงเอ่ย “ระฆังมรณะแปดเสียง…องค์รัชทายาทสิ้นพระชนม์แล้ว”

องค์รัชทายาท องค์รัชทายาทของประเทศ เชื้อพระวงศ์แห่งอาณาจักรเซี่ยที่ยิ่งใหญ่รองจากฮ่องเต้ เดิมทีควรเป็นเจ้านายคนที่สองของอาณาจักรเซี่ย ทว่ากลับสิ้นพระชนม์ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อ เขาไม่อาจขึ้นครองราชย์และอยู่ในตำแหน่งสูงสุดขั้นที่เก้านั่นแล้ว เมืองจินหลิงครึกครื้นขึ้นมาเป็นพิเศษทันใด แน่นอน ความครึกครื้นนี้ทำได้เพียงเงียบๆ อำนาจต่างๆ เริ่มเคลื่อนไหว ทว่าเบื้องหน้าต้องแสดงออกถึงความโศกเศร้าต่อการจากไปขององค์รัชทายาท

องค์รัชทายาทองค์แรกของอาณาจักรเซี่ย แม้จะไม่มีความสามารถโดดเด่น แต่กลับเป็นก้อนหินที่ถ่วงดุลความสงบสุขของอาณาจักรเซี่ยมานานหลายปี และยังเป็นเหตุผลที่ว่าไยฮ่องเต้ที่ผิดหวังต่อหลานชายมากเพียงใดแต่กลับยังสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะเขาคือองค์รัชทายาทที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมของอาณาจักรเซี่ย นับตั้งแต่อดีตเป็นต้นมาผู้สืบทอดนั้นต้องเป็นบุตรชายคนโตของเชื้อสายหลัก ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมคำนี้สำคัญมากเพียงใดทุกคนต่างรู้กันเป็นอย่างดี ขอเพียงองค์รัชทายาทยังอยู่ องค์ชายองค์อื่นๆ ไม่ว่าจะยอมหรือไม่ยอมต่างก็ต้องยอมรับ ขอเพียงองค์รัชทายาทสืบทอดราชบัลลังก์ได้โดยราบรื่น อาณาจักรเซี่ยก็จะอยู่อย่างสงบสุขไปได้อีกหลายสิบปี มีผู้ปกครองที่มีความสามารถอีกคนก็สามารถเข้าสู่ยุคเจริญรุ่งเรืองได้ ส่วนองค์ชายและอ๋ององค์อื่นๆ หากคิดมีใจไม่ซื่อสัตย์ก็ปล่อยให้ผู้คนใต้หล้านั้นทอดทิ้ง

แต่ตอนนี้ องค์รัชทายาทสิ้นพระชนม์จากไปแล้ว

องค์รัชทายาทสิ้นพระชนม์กะทันหัน ทำให้ความพยายามของฮ่องเต้ก่อนหน้านี้ไร้ซึ่งความหมาย และการแย่งชิงครั้งใหม่จะรุนแรงยิ่งขึ้น

พรวด!

ในวังหลวง ได้ยินเสียงระฆัง ฮ่องเต้ที่กำลังนั่งพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้ตกตะลึง กระอักเลือดออกมาทันใด

“ฝ่าบาท” นางกำนัลผู้คอยดูแลตื่นตกใจ รีบพุ่งเข้าไปประคองฮ่องเต้ที่เกือบศีรษะกระแทกพื้น “ฝ่าบาท ฝ่าบาทเพคะ เร็ว…รีบตามหมอหลวง”

ฮ่องเต้หลับตาลง ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เอ่ยถาม “เมื่อครู่…เมื่อครู่ได้ยินอันใด”

ขันทีผู้ดูแลปรนนิบัติคุกเข่าลงตรงหน้า ร่ำไห้ออกมา “ทูลฝ่าบาท…องค์รัชทายาท องค์รัชทายาท…สิ้นพระชนม์แล้วพ่ะย่ะค่ะ ขอแสดงความเสียพระทัยต่อฝ่าบาท”

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท