หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 474 ไว้หน้าแล้วกลับไม่รับ (2)

ตอนที่ 474 ไว้หน้าแล้วกลับไม่รับ (2)

ตอนที่ 474 ไว้หน้าแล้วกลับไม่รับ (2)
เมื่อได้ยินคำตอบของนายท่านฉิน หนานกงมั่วก็โล่งใจเช่นกัน มิใช่ว่านางมองบุรุษสูงศักดิ์ในแง่ร้าย ทว่าเซียวฉุนและเซียวเชียนเยี่ยไม่น่าไว้วางใจจริงๆ หากพวกเขาคนใดคนหนึ่งไม่คำนึงถึงชาวเมืองในหลิงโจวแล้วต่อกรกับเว่ยจวินมั่ว เว่ยจวินมั่วและศิษย์พี่จะต้องประสบกับความวุ่นวายครั้งใหญ่ในหลิงโจวแน่ ยามนี้ตระกูลฉินรับปากว่าจะช่วยเหลือ ทำให้จัดการเรื่องราวได้ง่ายขึ้นมาก หลังจากตระกูลเซี่ยแล้ว ตระกูลฉินก็เหมือนจะกลายเป็นผู้นำของตระกูลขุนนางในจินหลิง ตราบใดที่ตระกูลฉินเห็นด้วย ตระกูลอื่นย่อมไม่ขัด

นายท่านฉินมองหนานกงมั่ว เอ่ย “แม้จะเห็นด้วย แต่ก็มีบางเรื่องที่ข้าช่วยอันใดมิได้ หวังว่าจวิ้นจู่คงจะเข้าใจ ที่เขาว่ากันว่าทีใครทีมัน ไม่ใช่เพียงเรื่องขุนนางในราชสำนักเท่านั้น แต่ตระกูลขุนนางอย่างพวกเราก็ด้วย เมื่อก่อนจวิ้นจู่คงคิดว่าพวกเราตระกูลขุนนางในจินหลิงสามัคคีกันดี แต่มิรู้ว่านั่นก็เพราะไร้ซึ่งทางเลือก ยามนี้ฮ่องเต้พระองค์ใหม่จะขึ้นครองราชย์และยังไม่มีท่าทีจะเล่นงานตระกูลขุนนาง หากวันเวลาผ่านไป เกรงว่าความสัมพันธ์อันเป็นกลุ่มเป็นก้อนอย่างทุกวันนี้อาจจะเริ่มไม่ปลอดภัยเช่นกัน”

ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้คงหนีไม่พ้นคำว่าผลประโยชน์ ระหว่างตระกูลขุนนางในจินหลิงเหล่านี้เองก็มีการแก่งแย่งผลประโยชน์เช่นกัน ผู้มีอำนาจแข็งแกร่งย่อมต้องการแข็งแกร่งมากขึ้น ต้องการรักษาตำแหน่งของตนไว้ ผู้ที่อ่อนแอกว่าก็ต้องเหยียบคนข้างหน้าเพื่อปีนขึ้นไป ฮ่องเต้พระองค์ก่อนมีบุคลิกแข็งกร้าวดุดัน ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายไม่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้เลย ฉะนั้นตระกูลขุนนางจึงรวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับราชวงศ์เท่านั้น ทว่านิสัยของฮ่องเต้พระองค์ใหม่นั้นแตกต่างจากฮ่องเต้พระองค์ก่อนอย่างสิ้นเชิง เกรงว่าคงไม่ลงมือต่อตระกูลขุนนางง่ายๆ แม้การรับมือกับอำนาจฮ่องเต้นับว่าเป็นเรื่องยาก แต่หากยอมถอยก่อนหนึ่งก้าวก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด เช่นนั้นจึงมีผู้คนมากมายเริ่มคิดวางแผนรับมือต่อฮ่องเต้พระองค์ใหม่แล้ว

“จะว่าไป เซี่ยโหวก็มองได้ขาด ข้าเองก็นับถือเช่นกัน” นายท่านฉินเอ่ยพลางถอนหายใจ

หนานกงมั่วพยักหน้าและเอ่ยว่า “ข้าไม่ปล่อยให้ตระกูลฉินต้องเผชิญหน้ากับฮ่องเต้อย่างเปิดเผยแน่นอน” ไม่ว่าหนานกงมั่วจะมั่นใจเพียงใดก็ไม่คิดจะโน้มน้าวให้นายท่านฉินเอาทั้งตระกูลไปเดิมพันสู้กับเซียวฉุนและเซียวเชียนเยี่ย มิใช่ว่านางโน้มน้าวไม่เก่ง แต่ในมือนางไม่มีหมากให้เล่นมากนัก ยิ่งไปกว่านั้น นางและเว่ยจวินมั่วมิได้วางแผนแย่งชิงบัลลังก์ จะให้ตระกูลฉินลงมืออย่างโจ่งแจ้งไปเพื่ออันใดกัน

นายท่านฉินมองไปยังหนานกงมั่วด้วยความชื่นชม เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ซิงเฉิงจวิ้นจู่ช่างเป็นหญิงที่แตกต่างจริงๆ จื่อซวี่ยังต้องฝึกอีกมาก”

ฉินจื่อซวีลูบจมูกตาใส พยักหน้าและกล่าวว่า “ท่านพ่อพูดถูกแล้ว ลูกจะจำไว้ขอรับ”

นายท่านฉินยกมือขึ้นส่ายไปมา พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ช่างเถิด ในเมื่อตระกูลฉินรับปากจวิ้นจู่แล้วก็จะพยายามอย่างเต็มที่ จวิ้นจู่สบายใจได้ เรื่องนี้จะยกให้จื่อซวี่เป็นคนจัดการ จวิ้นจู่วางใจหรือไม่” หนานกงมั่วยกมือคารวะ เอ่ย “ขอบคุณตระกูลฉินมาก ข้าย่อมต้องวางใจคุณชายตระกูลฉินอย่างแน่นอน” นายท่านฉินพยักหน้าแล้วเอ่ย “ดีแล้ว”

เรื่องที่ควรเอ่ยก็เอ่ยจนหมดแล้ว หนานกงมั่วลุกขึ้นกล่าวอำลาอย่างระมัดระวัง “เช่นนั้น ข้าขอลาแล้ว”

“จวิ้นจู่เดินทางปลอดภัย” นายท่านฉินเอ่ย “จื่อซวี่ ไปส่งจวิ้นจู่ด้วย”

“ขอรับ ท่านพ่อ”

มองตามหนานกงมั่วและฉินจื่อซวี่เดินออกจากห้องหนังสือไป สีหน้าของนายท่านฉินก็ค่อยๆ ตึงเครียดขึ้น หลังจากนั้นสักพักก็ถอนหายใจเล็กน้อย ฉู่กั๋วกงทหารนักรบ ไม่คิดเลยว่าเขาจะสามารถเลี้ยงดูบุตรีให้กล้าหาญและเฉลียวฉลาดเช่นนี้ได้ หากซิงเฉิงจวิ้นจู่เกิดในตระกูลฉิน แม้จะเป็นบุตรี… นายท่านฉินส่ายหัวและอดหัวเราะไม่ได้

หลังออกจากประตูห้องหนังสือแล้ว หนานกงมั่วและฉินจื่อซวี่ก็เดินไปตามทาง ฉินจื่อซวี่เดินตามหลังมาอยู่ครึ่งก้าว เขาเหลือบมองหนานกงมั่วด้วยสายตาสงสัยอยู่เป็นระยะ หนานกงมั่วสังเกตเห็นสีหน้าท่าทางของฉินจื่อซวี่จึงยิ้มบางๆ เอ่ย “คุณชายใหญ่มีอันใดจะเอ่ยหรือไม่” ฉินจื่อซวี่ส่ายหน้าพลางเอ่ย “จวิ้นจู่…ทำเรื่องเหล่านี้ เว่ยซื่อจื่อรู้หรือไม่”

หนานกงมั่วกล่าวว่า “เขาอยู่ที่หลิงโจว แน่นอนว่าไม่รู้”

ฉินจื่อซวี่เอ่ย “แล้วเว่ยซื่อจื่อ…” มีความลังเลบางอย่างในคำพูดของเขา แต่หนานกงมั่วก็สามารถเข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อได้ หนานกงมั่วเป็นหญิง แม้นางจะมีฐานะเป็นจวิ้นจู่ องค์หญิงฉังผิงเองก็โอบอ้อมอารีต่อนาง แต่อย่างไรโลกนี้ก็มีข้อกำหนดมากมายสำหรับสตรี สิ่งต่างๆ ที่หนานกงมั่วทำในจินหลิงนั้นมีไม่น้อย ยามนี้เว่ยจวินมั่วไม่ได้อยู่ในจินหลิง แต่หนานกงมั่วได้ให้คำมั่นสัญญากับตระกูลฉินเอง วันข้างหน้าเว่ยซื่อจื่อล่วงรู้ความจริงก็อาจไม่พอใจได้ ฉินจื่อซวี่ถึงขั้นนึกสงสัยว่าไยบิดาของตนถึงยอมเชื่อหนานกงมั่ว คำพูดของซิงเฉิงจวิ้นจู่สามารถแทนคำพูดของเว่ยซื่อจื่อได้ด้วยหรือ

หนานกงมั่วยิ้มอ่อน มิได้เอ่ยอันใด แน่นอนว่านายท่านฉินไม่ได้เชื่อทั้งหมดว่านางจะเป็นตัวแทนของเว่ยจวินมั่วได้ ในฐานะหัวหน้าตระกูล นายท่านฉินมิได้ไร้เดียงสาเพียงนั้น เพียงแต่เรื่องที่หนานกงมั่วเอ่ย สิ่งที่ต้องการนั้น สำหรับตระกูลฉินแล้วราคาที่ต้องจ่ายกับสิ่งที่ได้รับมีสัดส่วนพอดีกัน โดยที่ตระกูลฉินไม่ต้องลงแรงมากเกินไป แต่พวกเขาก็ยังได้รับชื่อเสียงที่ดี เว่ยจวินมั่วมีความสัมพันธ์อันดีกับเยี่ยนอ๋องและฉีอ๋อง บางทีคงเป็นความสบายใจของตัวเองด้วย เรื่องยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวเช่นนี้ ไม่แปลกที่นายท่านฉินจะรับปาก

หนานกงมั่วต้องการเอ่ยบางอย่าง แต่ชายที่ดูคล้ายพ่อบ้านผู้หนึ่งที่อยู่ไม่ไกลรีบวิ่งเข้ามาเสียก่อน “คุณชายใหญ่! คุณชายใหญ่! แย่แล้ว!”

ฉินจื่อซวี่ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “เกิดอันใดขึ้น!” กฎของตระกูลฉินไม่เคยหละหลวม บ่าวรับใช้ไม่มีทางเสียมารยาทเช่นนี้ เว้นแต่เป็นเรื่องเร่งด่วนจริงๆ อย่างไรก็ตามการเสียมารยาทต่อแขกก็ไม่ดีนัก พ่อบ้านสูดหายใจเข้าลึก แล้วเอ่ยด้วยอาการหอบเล็กน้อย “จวิ้นจู่ คุณชายจิ้นที่ติดตามจวิ้นจู่มาด้วยทะเลาะกับคนอื่นอยู่ขอรับ”

“ว่าอย่างไรนะ” ฉินจื่อซวี่ตกใจ รู้สึกเพียงลมพัดผ่านรอบกาย มองดูก็เห็นเพียงเงาของหนานกงมั่วเดินลิ่วไป ฉินจื่อซวี่ไม่มีทางเลือก ลูบจมูกแล้วเอ่ยถาม “เกิดอันใด เล่าให้ละเอียด”

พ่อบ้านเล่าว่า “เมื่อสักครู่ ซั่นจยาเซี่ยนจู่พาคนมาเยี่ยมจวน ฮูหยินของท่านต้อนรับเซี่ยนจู่ในห้องโถง ไม่รู้เพราะเหตุใด คุณชายจิ้นถึงได้มีเรื่องมีราวกับคนของซั่นจยาเซี่ยนจู่ได้”

“ซั่นจยาเซี่ยนจู่หรือ” ฉินจื่อซวี่เลิกคิ้วขึ้น “คุณหนูใหญ่ตระกูลจูหรือ” เดิมทีจูชูอวี้ไม่มีคุณสมบัติและไม่ได้รับเชิญให้มาเยี่ยมตระกูลฉินด้วยซ้ำ เพียงแต่ตอนนี้ตระกูลจูมีอำนาจเปี่ยมล้นและมีฐานะเป็นถึงเซี่ยนจู่ ตระกูลฉินจึงต้องรักษาหน้านางไว้บ้าง

“นางพาใครมาด้วย” ฉินจื่อซวี่เอ่ยถาม พ่อบ้านเอ่ยตอบ “มี…องครักษ์สองสามนาย แล้วก็หร่วนอวี้จือ คุณชายหร่วนขอรับ”

ได้ฟังแล้วฉินจื่อซวี่ก็จ้องไปที่พ่อบ้านอย่างไม่สบอารมณ์ เอ่ยว่า “เหตุใดไม่บอกให้เร็วกว่านี้!” เอ่ยจบก็รีบเดินไปห้องโถงทันที ความประทับใจต่อจูชูอวี้ก็ลดน้อยลงไปอีกในเวลาเดียวกัน มิใช่ว่าจูชูอวี้จะไม่รู้เรื่องความขัดแย้งระหว่างตระกูลฉินและหร่วนอวี้จือ แรกเริ่มที่รับหร่วนอวี้จือมาเลี้ยงดูก็ทำให้ตระกูลฉินไม่พอใจอยู่ก่อนแล้ว ยามนี้ยังกล้าพาหร่วนอวี้จือมาที่นี่ ช่างไม่เห็นตระกูลฉินอยู่ในสายตาเลยจริงๆ

ในห้องโถงของจวนตระกูลฉิน ใบหน้าของฉินฮูหยินที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีกลับซีดเผือด ยิ่งมองไปยังจูชูอวี้สีหน้าก็ยิ่งแย่ลง ฉินซีนั่งอยู่ด้านข้างนาง เอ่ยกระซิบปลอบมารดา จูชูอวี้มีท่าทีเฉยเมยอย่างมาก เพียงแต่สายตาที่มองจิ้นจั๋วซึ่งยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นยังแฝงด้วยความโกรธและไม่พอใจอยู่

ทางด้านข้างไม่ไกลนัก ใบหน้าหมดจดของหร่วนอวี้จือปรากฏรอยช้ำเขียวม่วง ตาข้างหนึ่งบวมและฟันหายไปสองซี่ ด้านนอกประตู องครักษ์สองสามนายที่จูชูอวี้พามาด้วยนอนส่งเสียงโอดครวญอยู่บนพื้น ผ่านไปนานสองนานก็ยังลุกขึ้นมาไม่ได้

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน