หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 534 พวกเขาดูไม่สบายนัก ข้าก็สบายใจแล้ว (1)

ตอนที่ 534 พวกเขาดูไม่สบายนัก ข้าก็สบายใจแล้ว (1)

ตอนที่ 534 พวกเขาดูไม่สบายนัก ข้าก็สบายใจแล้ว (1)

เสียงร้องวิงวอนดังออกมาจากห้องขัง ยื่นทั้งสองมือผ่านรั้วห้องขังออกมาเพื่อคว้าตัวคนที่เดินผ่านไปมา

“จวิ้นจู่ คุกหลวงนั้นบรรยากาศไม่ดีลำบากจวิ้นจู่แล้ว ได้โปรดอภัยด้วยขอรับ” ผู้คุมที่เดินนำอยู่ด้านหน้าเอ่ยขอโทษหนานกงมั่ว

หนานกงมั่วเลิกคิ้ว “ทุกๆ ปี จินหลิงมีนักโทษที่ต้องจัดการจำนวนมากเพียงนี้เลยหรือ”

“ไม่ใช่เพียงจินหลิงหรอกขอรับ รวมไปถึงคนร้ายบริเวณรอบๆ จินหลิงก็ถูกส่งมายังคุกหลวงเช่นกันขอรับ” ฮ่องเต้อื่นต่างก็หวังว่าจะได้ประหารผู้คนน้อยลงในทุกๆ ปีเพื่อแสดงให้เห็นถึงการปกครองที่สงบสุขของตน ทว่าฮ่องเต้ของอาณาจักรเซี่ยที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้กลับคิดว่าสังหารน้อยนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้ประชาชนหวาดกลัวได้ ไม่เพียงแต่นักโทษประหารรอบๆ จินหลิงที่ถูกส่งมาจัดการที่นี่ โทษของจินหลิงเองก็รุนแรงเช่นกัน

“จวิ้นจู่ ถึงแล้วขอรับ ฉู่… หนานกงไหวและคนตระกูลหนานกงล้วนอยู่ที่นี่ จวิ้นจู่เชิญตามสบายเถิดขอรับ” ผู้คุมเอ่ยบอก

หนานกงมั่วพยักหน้า “รบกวนใต้เท้าแล้ว”

“มิกล้า ข้าน้อยขอตัวแล้ว”

จิ้นจั๋วนั้นรออยู่หน้าประตู มีเพียงหนานกงมั่วคนเดียวที่เดินเข้าไปในห้องขัง เอ่ยตามตรง เมื่อเทียบกับคุกด้านนอก การดูแลของหนานกงไหวนับว่าไม่เลว อย่างน้อยห้องขังก็ไม่เล็ก อีกทั้งยังดูสะอาดสะอ้าน คนที่ถูกขังอยู่ด้านในก็มีไม่มาก มีเพียงหนานกงชวี่ หนานกงไหว เฉียวเฟยเยียน เฉียวเชียนหนิง และเฉียวเย่ว์อู่ อีกทั้งหลินซื่อ ส่วนบ่าวไพร่ในจวนฉู่กั๋วกงแน่นอนว่าถูกแยกห้องขังไปอยู่ที่อื่น

คิดว่าผู้คุมคุกหลวงเองคงได้รับคำสั่งจากใครสักคนมา หนานกงชวี่และหลินซื่อจึงถูกแยกขังอีกห้อง ส่วนหนานกงไหว เฉียวเฟยเยียนสามแม่ลูกนั้นถูกแยกขังไว้อีกห้อง ดังนั้นจึงเอะอะโวยวายแทบสะเทือนดิน ทว่าห้องขังของหนานกงชวี่และหลินซื่อกลับเงียบสงบ หนานกงชวี่นั่งหลับตาอยู่มุมห้องตามลำพัง หลินซื่อนั่งอยู่อีกฝั่งด้วยท่าทีหวาดกลัวไม่เอ่ยวาจา ราวกับไม่ได้ยินเสียงที่ดังอยู่ด้านนอก กระทั่งได้ยินเสียงประตูใหญ่ถูกเปิดออก เงยหน้าขึ้นมาเห็นหนานกงมั่วกำลังเดินเข้ามาจึงรีบลุกขึ้นยืน เอ่ยด้วยความยินดี “น้องสาว เจ้ามาช่วยพวกเราหรือ รีบช่วยพวกเราออกไปเถิด ข้ากับท่านพี่เป็นผู้บริสุทธิ์นะ”

หนานกงมั่วลอบถอนหายใจอยู่ภายใน ไม่ได้ตอบคำถามนาง ทว่าเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าหนานกงชวี่ เอ่ยถาม “พี่ใหญ่ สบายดีหรือไม่เจ้าคะ”

หนากงชวี่ลืมตาขึ้นมา ดวงตาไร้ซึ่งความโศกเศร้าไร้ซึ่งความยินดี “มาทำอันใดที่นี่”

หนานกงมั่วเอ่ย “ดูเหมือนจะไม่มีใครทำให้ท่านต้องลำบาก”

หนานกงชวี่แค่นเสียงหยัน เอ่ย “ฝ่าบาทยังไม่มีรับสั่ง คงไม่มีใครไร้สมองกล้าทำอันใดวู่วามหรอก” หนานกงมั่วพยักหน้า ส่งห่อผ้าในมือเข้าไปให้ เอ่ย “ตอนนี้อากาศเย็น ร่างกายของท่านไม่แข็งแรงนัก” หนานกงชวี่จ้องมองหนานกงมั่วเนิ่นนาน ก่อนจะเปิดห่อผ้าออก

อีกด้านฝั่งเฉียวเฟยเยียนที่กำลังวุ่นวายแน่นอนว่ามองเห็นหนานกงมั่วแล้ว ดวงตาทะมึนของหนานกงไหวจ้องมองหนานกงมั่วเขม็ง หนานกงมั่วเองไม่ใส่ใจ ยกยิ้มมุมปาก เอ่ยถาม “ท่านพ่อ ท่านสบายดีหรือไม่”

หนานกงไหวยิ้มเย็น เอ่ย “แน่นอนว่าไม่สบายเท่าเจ้าหรอก เจ้ามาเย้ยหยันข้าหรือ”

หนานกงมั่วมองสำรวจใบหน้าเหนื่อยล้าของหนานกงไหว เอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ “ท่านพ่อคิดว่า…ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำ สำหรับข้าเพียงเย้ยหยันแล้วก็จบอย่างนั้นหรือ”

“เอ่ยเช่นนี้ เจ้ามาแก้แค้นอย่างนั้นหรือ อยากให้ข้าตายเหมือนลูกชายสารเลวนี่หรือ” หนานกงไหวเอ่ยเสียงดัง สายตาที่มองไปยังหนานกงชวี่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น เห็นได้ว่าจนถึงตอนนี้หนานกงไหวยังไม่อาจรับได้ว่าบุตรชายของตนทำเรื่องมากมายเพื่อหักหลังเขา แม้ว่าการพ่ายแพ้ของเขาในครั้งนี้หนานกงชวี่จะไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริง แต่ความรู้สึกผู้เป็นบิดาที่ถูกบุตรชายหักหลังนั้นชัดเจนและฝังลึก

หนานกงมั่วถอนหายใจ “จนกระทั่งตอนนี้ ท่านไม่เคยสำนึกเลยว่าตนเองทำผิดอันใดอย่างนั้นหรือ จนตอนนี้ที่บุตรชายของท่านยอมตายเพื่อที่จะดึงท่านให้ตายไปด้วยกันอย่างนี้น่ะหรือ”

หนานกงไหวยิ้มเย็น “ข้าผิดอันใด คนไม่ทำเพื่อตนเอง ฟ้าดินลงทัณฑ์”

หนานกงมั่วมองสำรวจหนานกงไหวอยู่ชั่วครู่ สุดท้ายจึงพยักหน้า เอ่ย “ท่านพ่อกล่าวไม่ผิดเลย เช่นนั้น…สำหรับข้าผู้เป็นคนดูอยู่ข้างๆ ท่านพ่อคงจะไม่มีวาจาคับแค้นใจจึงจะถูก อย่างไรเสีย…ก็รู้อยู่แล้วว่าท่านต้องตายสถานเดียว ไยข้าต้องเอาตนเองเข้าไปช่วยท่านด้วยเล่า” หนานกงไหวใบหน้าทะมึนขึ้นมาพูดไม่ออกทันใด

“หนานกงมั่ว” เฉียวเย่ว์อู่พุ่งเข้ามาเกาะราวกั้น มือข้างหนึ่งจับราวเอาไว้ อีกมือพยายามคว้าอาภรณ์ของหนานกงมั่ว “ปล่อยข้าออกไป ปล่อยข้าออกไป”

หนานกงมั่วมองลึกเข้าไปเห็นทั้งสี่คนในห้องขัง เฉียวเชียนหนิงนั่งกอดเข่าอยู่คนเดียวที่มุมมุมหนึ่งไม่รู้กำลังคิดอันใดอยู่ เฉียวเย่ว์อู่ท่าทางราวกับคนบ้า พยายามคว้าจับและแยกเขี้ยวใส่หนานกงมั่ว แต่เฉียวเฟยเยียนดูเหมือนจะน่าเวทนากว่าเฉียวเย่ว์อู่ที่ถูกหนานกงซูทรมานอยู่มาก ก่อนหน้านี้สวมอาภรณ์สีขาวยามนี้จึงสกปรกจนดูไม่ออกว่ามันเป็นสีใด เดิมทีอากาศในคุกนั้นเย็นเยียบอยู่แล้ว ใบหน้าน่าสงสารหนาวเหน็บจนขึ้นสีม่วง ทว่าคนที่อยู่รอบกายนางไม่ว่าจะเป็นหนานกงไหว เฉียวเย่ว์อู่ หรือว่าเฉียวเชียนหนิงต่างก็ไม่มีใครคิดจะสละเสื้อผ้าให้นางเพื่อกันความหนาว

สตรีที่พึ่งแท้งต้องมาเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ ต่อให้อนาคตสามารถออกไปได้ก็คงเจ็บป่วย ยิ่งไปกว่านั้น…โอกาสที่เฉียวเฟยเยียนจะได้ออกไปนั้น หนานกงมั่วคิดว่ามันมีไม่มากนัก

“เจ้า…เจ้า…มาหาข้าหรือ” เฉียวเฟยเยียนมองหนานกงมั่วที่ยืนจ้องตนเองอยู่หน้าห้องขังอยู่นาน

หนานกงมั่วเลิกคิ้ว “ดูเหมือนเฉียวฮูหยินเองก็รู้ว่าข้ามาหาท่านเพราะเรื่องอันใด”

ใบหน้าของเฉียวเฟยเยียนแสดงความโกรธแค้นออกมา เอ่ยเสียงเย็น “ตอนนี้ข้ายังน่าเวทนาไม่พอหรือ ต่อให้ข้าเคยทำอันใด พี่ชายที่แสนดีของเจ้าคนนั้นก็แก้แค้นแทนเจ้าแล้วมิใช่หรือ เขาฆ่าลูกของข้า”

หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกของท่าน เฉียวเย่ว์อู่ต่างหากล่ะที่สังหาร อีกอย่าง…ต่อให้แก้แค้น ข้าก็ชอบลงมือด้วยตนเอง เอ่ยเช่นนี้ ท่านยอมรับแล้วว่าครั้งนั้นท่านส่งคนไปทำร้ายข้าที่ตานหยางแล้วน่ะสิ”

“น่าเสียดาย…เจ้าโชคดีหนีรอดไปได้” เฉียวเฟยเยียนกัดฟันเอ่ยด้วยรอยยิ้มเย็น

หนานกงมั่วพยักหน้าพึงพอใจ “ดีมาก เอ่ยเช่นนี้ท่านไม่มีอันใดจะแก้ตัวแล้วใช่หรือไม่ ท่านวางใจ ข้าไม่สังหารใคร” หนานกงมั่วยิ้มใจดี ทว่าในสายตาของเฉียวเฟยเยียนมันไม่ใช่เรื่องดีแน่ หนานกงมั่วใช่ว่าจะไม่สังหารใคร นางเพียงไม่ชอบสังหารคนต่อหน้าคนอื่นเพียงเท่านั้น

ความน่ากลัวที่มาอย่างกะทันหันทำให้เฉียวเฟยเยียนก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว มองหนานกงมั่วอย่างระแวดระวัง “เจ้าคิดจะทำอันใด”

หนานกงมั่วยิ้มบางๆ “สภาพของท่านตอนนี้ ข้ายังจำเป็นต้องทำอันใดอีกหรือ”

แม้หนานกงมั่วจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่ากลับไม่อาจทำให้เฉียวเฟยเยียนผ่อนคลายลงได้ หนานกงมั่วเห็นใจท่าทางน่าเวทนาของนางอยู่บ้าง ถอนหายในออกมาอย่างอดไม่ได้ มองท่าทางระแวดระวังของนางพลันรู้สึกตลกขบขันขึ้นมา “ต่อให้ตอนนี้ข้าอยากทำอันใดท่าน แล้วท่านจะทำอันใดได้ เฉียวฮูหยิน เป็นสตรีเช่นท่าน นับว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าใช่หรือไม่”

เฉียวเฟยเยียนจ้องมองนาง “เจ้าอยากเอ่ยสิ่งใด”

หนานกงมั่วยิ้มตอบ “ท่านริษยาท่านแม่ อยากแย่งทุกอย่างไปจากนาง ตอนนี้ ท่านคิดว่าท่านแย่งไปได้แล้วหรือไม่”

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน