หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 589 อิจฉาเพื่อนร่วมอาชีพ (1)

ตอนที่ 589 อิจฉาเพื่อนร่วมอาชีพ (1)

“ขอบคุณเจ้ามาก แม่นาง” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมา เมื่อใส่ยาที่แผลไปแล้วรู้สึกว่าไม่ได้เจ็บมากเช่นก่อนหน้านี้แล้ว มองไปยังหนานกงมั่วแล้วจึงเอ่ยถาม “ไม่รู้ว่าแม่นาง…แซ่ใดหรือ” 

 

 

หนานกงมั่วเหลืบตามองเขาเล็กน้อย “เว่ย ท่านอยู่ที่นี่ไปก่อน เดี๋ยวอีกสักพักจะมีคนมาพาท่านกลับไป” 

 

 

เอ่ยจบ หนานกงมั่วจึงลุกขึ้นและนำเอาตะกร้ายาแบกขึ้นหลังเดินออกไป ใบหน้าของชายหนุ่มแสดงความเสียดายออกมา เว่ยหรือ เว่ยตัวอักษรตัวใดกัน 

 

 

ห่างออกไปไม่ไกล ติงเสียวเถี่ยก็เดินนำคนสองคนวิ่งกลับมาอย่างรวดเร็ว “ฮูหยิน ข้ากลับมาแล้วขอรับ ผู้บังคับการกองร้อยบอกให้พาเขากลับไปส่งขอรับ” 

 

 

สองคนที่เดินตามหลังติงเสียวเถี่ยมานั้นเป็นนายทหารในกองร้อยของเว่ยจวินมั่ว หนานกงมั่วเอ่ยถาม “ไม่รบกวนเวลางานของพวกเจ้าใช่หรือไม่” 

 

 

นายทหารเอ่ย “ฮูหยินไม่ต้องกังวล เดิมยามนี้ก็ไม่มีสิ่งใดให้ทำมากมาย เพียงได้รับอนุญาตจากผู้บังคับการกองร้อยก็สามารถออกไปได้แล้วขอรับ” 

 

 

“เช่นนั้นก็ดี” หนานกงมั่วพยักหน้า ชี้ไปยังคนด้านหลัง “ส่งเขากลับไปเถิด” 

 

 

“ขอรับ” 

 

 

ชายหนุ่มคนนั้นถูกนายทหารประคองซ้ายขวา ยังไม่ลืมเอ่ย “แม่นาง ขอบคุณเจ้าที่ช่วยเหลือ ต่อไปหากเจ้ามาซื้อยาข้าจะลดราคาให้” 

 

 

“ยาของเจ้าไม่มีคุณภาพ” หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเรียบ 

 

 

“…” 

 

 

มองนายทหารทั้งสองพาชายหนุ่มกลับไปส่ง เดินออกไปไกลแล้วชายหนุ่มผู้นั้นยังไม่ลืมหันกลับมาเอ่ยกับหนานกงมั่ว “แม่นาง ขอบคุณเจ้าที่ช่วยเหลือ ข้าชื่อจางจวีอาน จวีอานที่มีความหมายว่าระแวดระวังอันตรายในยามที่เงียบสงบ” ติงเสียวเถี่ยที่ยืนอยู่ด้านหลังหนานกงมั่วตาค้าง คนอื่นนั้นมีแต่กลัวติดหนี้บุญคุณ คนผู้นี้กลับซื่อตรง เพียงแต่…เขาเพียงกระดูกหักเท่านั้น ต่อให้ฮูหยินไม่ช่วยเขาก็คงไม่ตายหรอกกระมัง จะเรียกว่าบุญคุณที่ช่วยชีวิตได้เยี่ยงไร 

 

 

มองไปยังทั้งสามที่หายลับไป ติงเสียวเถี่ยจึงเอ่ยถาม “ฮูหยิน พวกเรากลับกันหรือไม่ขอรับ” 

 

 

หนานกงมั่วเลิกคิ้วเอ่ย “กลับไปทำไม รีบไปเก็บสมุนไพรสิ” 

 

 

“อ้อ” ติงเสียวเถี่ยเป็นเด็กที่เชื่อฟัง ได้ยินหนานกงมั่วเอ่ยเช่นนั้นจึงรีบเก็บตะกร้าที่โยนทิ้งไปกลับมามุ่งหน้าขึ้นเขาไปเก็บยาต่อ หนานกงมั่วเดินตามเขาไปอย่างเชื่องช้า มองติงเสียวเถี่ยย่อตัวลงไปเก็บต้นตี้อวี๋สดๆ ใส่ลงในตะกร้า หนานกงมั่วลอบพยักหน้าอย่างพึงพอใจอยู่ด้านหลัง ชี้นิ้วออกไป เอ่ยเพียงไม่กี่ประโยค แม้จะเป็นการขึ้นเขามาเก็บสมุนไพรครั้งแรก แต่ติงเสียวเถี่ยนั้นเกิดมาจากครอบครัวชาวนา แข็งแรงกว่าจางจวีอานเจ้าของร้านยาผู้นั้นอยู่มาก คนผู้นั้นไม่รู้ไปเล่าเรียนกับหมอที่ไหน ยาที่ขายอย่างน้อยมีถึงสามส่วนที่ไม่อาจใช้ได้ 

 

 

ในขณะที่ติงเสียวเถี่ยกำลังเก็บสมุนไพรด้วยรอยยิ้มร่ามีความสุข กระต่ายสีเทาหนึ่งตัวพลันกระโดดผ่านหน้าเขาไป ติงเสียวอวี้ตะโกนขึ้นมา “โอ้ กระต่าย” ว่าแล้วกำลังจะลุกขึ้นไปจับ ได้ยินเพียงเสียง ฟิ้ว ผ่านหน้าไป จากนั้นกระต่ายสีเทาที่วิ่งเร็วราวกับลูกธนูก็ล้มลงไปไม่ขยับ ที่หัวยังมีรอยเลือด ติงเสียวเถี่ยนิ่งอึ้ง หันกลับมามองหนานกงมั่วที่อยู่ด้านหลังช้าๆ  

 

 

หนานกงมั่วกุมขมับ มองไปที่เขา ขยับปลายคางชี้ไปพลางเอ่ยอย่างเบื่อหน่าย “ยังไม่ไปเก็บอีก” 

 

 

ดวงตาของติงเสียวเถี่ยเป็นประกาย “ฮูหยิน เป็นท่าน…เป็นท่านจริงๆ หรือ” ที่นี่มีเพียงพวกเขาสองคน มิใช่ฮูหยินแล้วจะเป็นใคร เพียงแต่เขาไม่อยากจะเชื่อก็เท่านั้น นี่ร้ายกาจเสียยิ่งกว่าได้ยินว่าหัวหน้ากองธงเผิงฆ่าหมูป่าเสียอีก ฮูหยินแม้แต่ขยับก็ไม่ได้ขยับ ธนูก็ไม่ได้ใช้ รีบวิ่งไปเก็บกระต่ายกลับมา เห็นที่ศีรษะของกระต่ายมีร่องรอยเลือดเล็กๆ หนึ่งจุดเพียงเท่านั้น ด้านในยังมีก้อนหินหนึ่งก้อน ติงเสียวเถี่ยถือกระต่าย มองไปยังหนานกงมั่วด้วยสายตาพราวระยับ “ฮูหยิน ให้ท่านขอรับ” 

 

 

หนานกงมั่วกระตุกมุมปาก เอ่ย “เจ้าเก็บไปเถิด” 

 

 

“ขอรับ” ติงเสียวเถี่ยเอ่ยตอบด้วยความดีใจ “ฮูหยิน พวกเราเดินไปดูอีกเถิด ไม่แน่ว่าอาจจะล่ากระต่ายได้อีกก็เป็นได้นะขอรับ” 

 

 

หนานกงมั่วเองก็ไม่ขัดเขา หากมีกระต่ายป่ามากมายป่าจะสงบเงียบได้เพียงนี้หรือ มีค่ายทหารที่มีนายทหารนับหมื่นอยู่ไม่ไกล หากมีจริงคนถูกคนพวกนั้นล่าจนไม่เหลือแล้ว เพียงแต่ทำลายความตั้งใจของเด็กมิใช่เรื่องดี หนานกงมั่วไม่เอ่ยสิ่งใด เพียงเดินตามเขาที่เดินเก็บสมุนไพรไปพลาง เดินตรงเข้าไปในป่า เกือบสองชั่วยามต่อมาทั้งสองก็ได้สมุนไพรมากว่าครึ่งตะกร้า กระต่ายป่าสองตัวและไก่ป่าอีกหนึ่งตัว 

 

 

เมื่อทั้งสองออกมาจากในป่าก็มองเห็นเว่ยจวินมั่วที่ยืนรออยู่ไกลๆ ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว ความมืดเข้าปกคลุม ไกลออกไปมีเพียงเว่ยจวินมั่วที่กำลังยืนรอพวกเขาอยู่ 

 

 

ติงเสียวเถี่ยคิดว่าตั้งแต่เข้าเข้ามาอยู่ในกองทัพ วันนี้เป็นวันที่เขามีความสุขที่สุด ฮูหยินเป็นคนที่ฉลาดและเก่งกาจที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา ไม่เพียงรู้จักสมุนไพรทั้งยังล่าสัตว์ได้ ยังลอยได้อีกด้วย อาหารเที่ยงของพวกเขาคือผลไม้ปลายฤดูหนาวมี่ฮูหยินลอยขึ้นไปเก็บอยู่บนปลายไม้สูง 

 

 

“จวินมั่ว” มองเห็นเว่ยจวินมั่วรออยู่ตรงนั้น หนานกงมั่วจึงวิ่งเข้าไปหาด้วยรอยยิ้มอย่างอดไม่ได้ เว่ยจวินมั่วมองนาง เอ่ยเสียงเบา “ไยจึงกลับมาเอาป่านนี้” 

 

 

หนานกงมั่วยักไหล เอ่ย “เดินเข้าไปไกลเกินไป ในป่ามีสมุนไพรมากมายที่ข้าต้องการ จึงกลับมาช้าสักหน่อย ท่านมารอข้าอยู่ที่นี่หรือ” 

 

 

ติงเสียวเถี่ยหดลำคอ หลบอยู่หลังหนานกงมั่วไม่กล้ามองสบตาคุณชายเว่ย แม้ผู้บังคับการกองร้อยเว่ยจะหล่อเหลาทว่าเย็นชาเกินไป เว่ยจวินมั่วมองสมุนไพรในตะกร้าของเขา จากนั้นมองสัตว์ป่าที่อยู่ในมือจึงพยักหน้าเบาๆ ยื่นมือไปถือตะกร้า เอ่ย “กลับกันเถิด” มือข้างหนึ่งจูงมือหนานกงมั่ว เดินตรงกลับไปยังค่ายทหาร 

 

 

กลับมาถึงเขตกองทัพ กำลังจะเข้าไปด้านในพลันหันมามองเห็นติงเสียวเถี่ยยังคงเดินตามอยู่ เว่ยจวินมั่วหันกลับมากวาดตามองเขา “ยังไม่กลับไปอีกหรือ” 

 

 

ติงเสียวเถี่ยรีบยกของในมือขึ้นมา “สิ่งนี้…” 

 

 

เว่ยจวินมั่วก้มหน้าลงมามองหนานกงมั่ว หนานกงมั่วส่ายหน้า นางไม่มีความสนใจต่อสิ่งเหล่านี้ เพียงเห็นว่าติงเสียวเถี่ยสนใจนางจึงล่ามา อาหารในกองทัพนางเองก็รู้ ยากที่จะกินอิ่ม สิบวันยังยากจะได้เห็นเนื้อสักครั้ง ไม่แปลกที่เด็กคนนี้จะหิวขนาดนั้น 

 

 

“เอาไปเถิด” เว่ยจวินมั่วเอ่ยบอก จูงมือหนานกงมั่วเข้าไปด้านใน 

 

 

ติงเสียวเถี่ยมองประตูที่ปิดแน่นนิ่งอยู่นาน จากนั้นมองกระต่ายสองตัวและไก่ป่าหนึ่งตัวในมือ กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว พึ่งจะผ่านฤดูหนาวไป สัตว์ในป่านั้นหิวจนผอมแล้ว แต่ต่อให้จะเป็นเช่นนั้นอย่างไรนี่ก็ยังเป็นเนื้อนะ 

 

 

ติงเสียวเถี่ยถือกลับไปยังที่พักของตนเอง ฉับพลันก็ถูกล้อมรอบไปด้วยผู้คนที่จ้องตาเป็นมัน ด้านหลังยังมีเผิงซิ่นและจินซานที่ตามกลิ่นสัตว์ป่ามา กระโจมที่พักบวกกับติงเสียวเถี่ยรวมแล้วสิบคน บวกกับสองคนด้านหลังนั้นเป็นสิบสอง ดวงตาสิบเอ็ดคู่จับจ้องมายัง…ของในมือของจินเสียวเถี่ย 

 

 

“หัว…หัวหน้ากองธงเผิง พวกท่าน…” ติงเสียวเถี่ยตกใจ เอ่ยตะกุกตะกัก 

 

 

จินซานอดไม่ได้เลียรอบริมฝีปาก รอยยิ้มเบิกบาน เอ่ย “เสียวเถี่ย นี่เจ้า…” น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ดูจิตใจดี ใบหน้าบิดเบี้ยวทำให้เด็กน้อยตกใจจนก้าวถอยหลังสองก้าว 

 

 

ติงเสียวเถี่ยไม่รังเกียจที่จะเปื้อนเลือด รีบกอดของในมือเอาไว้ “นี่คือ…ของที่ฮูหยินให้ข้า” 

 

 

“ฮูหยินหรือ” ทุกคนชะงัก แน่นอนพวกเขารู้ว่าติงเสียวเถี่ยถูกเว่ยจวินมั่วสั่งให้เขาไปตามดูแลฮูหยิน วันนี้ตลอดบ่ายทั้งสองวิ่งเข้าป่าไปแล้ว ดูไม่ออกเลยว่าเจ้าเด็กนี่…จะเก่งกาจเพียงนี้ 

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท