ตอนที่ 173 อาบน้ำ
หลังออกมาจากร้านอาหาร ฟางจั๋วหรานก็จูงมือหลินม่ายเดินไปหาห้องพักตามโรงแรม
จักรยานคันหนึ่งพุ่งตรงมาหาพวกเขา แต่ทั้งสองสามารถเบี่ยงตัวหลบได้อย่างรวดเร็ว
ก่อนที่จักรยานคันนั้นจะขับฉิวออกไปด้านข้างของหลินม่าย
จนกระทั่งจักรยานขับแซงเธอไป ผู้ชายที่นั่งซ้อนท้ายจักรยานคันนั้นก็เอื้อมมือไปกระชากสายกระเป๋าสะพายข้างของเธออย่างแรง และขโมยกระเป๋าใบนั้นไป
หลินม่ายร้องตะโกนด้วยความตื่นตระหนก “โจร! ใครก็ได้ช่วยจับโจรที!”
เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นตามท้องถนนในกว่างโจวบ่อยครั้ง จนผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ
หลินม่ายตะโกนจนเสียงแหบเสียงแห้ง ทว่าผู้คนที่เดินผ่านไปมากลับยังเพิกเฉย
หลินม่ายและฟางจั๋วหรานวิ่งไล่ตามไปได้ระยะหนึ่ง คนที่กระชากกระเป๋าของเธอก็หลบหนีไปอย่างไร้ร่องรอยเสียแล้ว
ทั้งสองชำเลืองมองกันและกันด้วยความหงุดหงิด แต่แล้วก็ยอมเดินกลับมา จนเจอโรงแรมขนาดเล็กที่ดำเนินกิจการโดยรัฐ
พอเข้าไปในห้องพักแล้ว สีหน้าของเธอกลับดูเศร้าสร้อย แต่ยังส่งยิ้มให้อีกฝ่ายพร้อมพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าโจรพวกนั้นจะรู้สึกยังไง ถ้ารู้ว่าสิ่งที่อยู่ในนั้นเป็นแค่กระดาษหนังสือพิมพ์ปึกใหญ่เท่านั้น”
โจรสองสามคนที่กระชากกระเป๋าของเธอได้สำเร็จ เร่งรุดกลับไปยังรังโจรเก่า ๆ ของตัวเองด้วยความตื่นเต้น สิ่งแรกที่ทำคือปิดประตูให้มิดชิด แล้วแบ่งสันปันส่วนของที่ขโมยมา
คนที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าหยิบของในกระเป๋าออกมา แสดงสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส “คืนนี้เราโชคดีมาก ได้ลาภใหญ่เชียวล่ะ”
คนอื่น ๆ พยักหน้าหงึกหงัก “ในนั้นต้องมีเงินไม่น้อยเลยแน่ ๆ ฉันเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นไม่เคยวางกระเป๋าทิ้งไว้เลย เอาแต่สะพายติดตัวตลอดเวลาแม้แต่ตอนที่เข้าห้องน้ำ”
หลังจากดึงเสื้อผ้าเก่า ๆ สองสามตัวที่อัดไว้ด้านบนออกมาแล้ว หัวหน้าโจรก็หยิบวัตถุทรงลูกบาศก์หลายอันที่ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์อีกชั้นหนึ่งอย่างเรียบร้อยออกมา
แววตาของสมุนโจรคนอื่น ๆ สว่างวาบราวกับเปิดไฟ กะประมาณจากรูปร่างของมันแล้ว เงินสดที่ถูกห่ออยู่ในหนังสือพิมพ์คงมีมูลค่ารวมกันไม่น้อยเลย อย่างต่ำคงหลายหมื่นหยวน
สมุนโจรคนหนึ่งร้องตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “คราวนี้พวกเราจะรวยกันแล้ว!”
หัวหน้าโจรตบกบาลเขาฉาดใหญ่ “นายจะตะโกนเสียงดังทำไม อยากล่อให้ตำรวจมาจับเราเรอะ?”
พวกเขาช่วยกันคนละไม้ละมือคลี่หนังสือพิมพ์ที่ห่อชั้นนอกออกอย่างอดรนทนไม่ไหว แต่เมื่อพวกเขาเปิดออกแล้วก็ต้องตะลึงงัน
ภายในนั้นเป็นกระดาษหนังสือพิมพ์ไม่ต่างจากกระดาษห่อชั้นนอก เพียงแต่เป็นหนังสือพิมพ์ที่ถูกตัดให้มีขนาดเท่ากับธนบัตรแล้ววางซ้อนกัน
กลุ่มโจรโกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้า
หัวหน้าโจรใช้หมัดทุบโต๊ะเสียงดังปัง “อย่าให้ฉันเจอชายหญิงสารเลวคู่นั้นอีกนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้พวกมันกินเดินไม่ได้!”
ภายในโรงแรมขนาดเล็กของรัฐ ฟางจั๋วหรานเหลือบมองหน้าอกของหลินม่ายซึ่งมีขนาดอวบอิ่มกว่าปกติ “คุณรีบเข้าไปอาบน้ำก่อนเถอะ ถ้าคุณไม่รีบอาบ เงินที่ซ่อนอยู่ในชุดชั้นในของคุณคงเปียกชื้นเหงื่อซะหมด”
เงินจำนวนมากแบบนี้ ซ่อนไว้ที่ไหนไม่ได้นอกจากซ่อนไว้กับตัว
แต่ในวันที่อากาศร้อนแบบนี้ เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ก็บางมาก ไม่มีตรงไหนที่จะซ่อนเงินแล้วไม่เป็นที่สะดุดตา ถ้าไม่ให้พับซ่อนไว้ในชุดชั้นใน แล้วจะให้ซ่อนไว้ที่ไหนได้อีก?
ว่าแต่ผู้ชายคนนี้รู้ได้อย่างไรกัน? เธอไม่ได้บอกเขาเสียหน่อย…
ใบหน้าของหลินม่ายเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ มองไปยังชายตรงหน้าด้วยความสับสนงุนงง ถามเขาอย่างตะกุกตะกัก “คุณ… คุณรู้ได้ยังไงคะ ว่าฉันซ่อนเงินไว้ตรงไหน…”
ฟางจั๋วหรานโบกมือ “ปกติหน้าอกคุณไม่ได้ใหญ่ขนาดนี้นี่…”
หลินม่ายหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม เธอรีบหยิบเสื้อผ้าของตัวเองออกมาจากกระเป๋าเป้แล้วกระโดดเข้าไปในห้องน้ำขนาดเล็กซึ่งอยู่ในห้องพัก
โชคดีที่เธอยังเหลือเสื้อผ้าสองชุดไว้ในกระเป๋าเป้ ไม่อย่างนั้นคืนนี้คงไม่มีเสื้อผ้าสำหรับผลัดเปลี่ยน
ห้องน้ำที่นี่ค่อนข้างคับแคบ หลินม่ายยังพอทนได้ แต่ความสะอาดที่ไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่ เธอพยายามทำใจอดทนกับมัน
ถึงอย่างไรตอนนี้ก็คือช่วงทศวรรษ 1980 สำหรับโรงแรมขนาดเล็กที่ดำเนินกิจการโดยรัฐแล้ว มาตรฐานการบริการคงไม่สูงมากนัก
แต่การที่ภายในห้องน้ำยังมีฝักบัวน้ำเย็นแค่อย่างเดียว นี่เป็นสิ่งที่เธอยอมทนไม่ได้จริง ๆ
บางทีชาวกว่างโจวอาจจะคุ้นชินกับการอาบน้ำเย็น แต่หลินม่ายเป็นคนต่างพื้นที่ ดังนั้นจะให้เธอทำใจอาบน้ำเย็นได้อย่างไร
วันที่อากาศร้อนแบบนี้ยิ่งต้องอาบน้ำร้อนถึงจะดี เพื่อให้รูขุมขนขยายกว้าง การอาบน้ำชำระร่างกายจึงจะสะอาดและสบายตัว
เอาเถอะ อยู่ต่างบ้านต่างเมืองแบบนี้อย่ามัวถืออะไรแบบนั้นเลย อาบ ๆ ไปเสียให้สิ้นเรื่อง
อาบน้ำเย็นก็ยังดีกว่าไม่อาบน้ำเลยแหละน่า
ถึงอย่างนั้นหลินม่ายกลับยังยืนนิ่งอยู่ในห้องน้ำ ไม่ขยับตัวเป็นเวลานาน
ฟางจั๋วหรานเริ่มเป็นกังวล จึงเคาะประตู “ม่ายจื่อ คุณมัวทำอะไรอยู่ข้างในน่ะ ผมไม่ได้ยินเสียงน้ำเลย”
หลินม่ายกวาดสายตามองขึ้นลงอยู่ในห้องน้ำ “น้ำฝักบัวไม่ไหลค่ะ…”
ไม่มีน้ำร้อนยังพอทำใจ นี่แม้แต่น้ำเย็นยังไม่มี
ฝักบัวที่เปิดอยู่ส่งเสียงโครกครากสองสามครั้ง ราวกับมันกำลังจะตายเพราะกระหายน้ำ ต่อจากนั้นก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้น
ฟางจั๋วหรานถามจากด้านนอกด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ “ผมขอเข้าไปข้างในได้ไหม?”
หลินม่ายตอบกลับ “ได้ค่ะ”
เธอยังไม่ทันได้ถอดเสื้อผ้า จึงอนุญาตให้เขาเข้ามา
ฟางจั๋วหรานผลักประตูเปิดเข้าไป ทันใดนั้นก็ค้นพบสาเหตุที่น้ำไม่ไหลอย่างรวดเร็ว
ไม่รู้ว่าเป็นความผิดพลาดโดยไม่ได้เจตนาของพนักงานทำความสะอาดของทางโรงแรม หรือเป็นเพราะผู้เข้าพักคนก่อนหน้าเล่นแผลง ๆ กันแน่ เพราะวาล์วน้ำเข้าที่ติดตั้งไว้ใต้มุมผนังปิดอยู่ เป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำไม่ไหลออกจากฝักบัว
ฟางจั๋วหรานก้มลงเปิดวาล์วน้ำเข้า ทันใดนั้นน้ำประปาก็ไหลซู่ออกมาจากฝักบัวทันที
เขาขมวดคิ้ว “มีแค่น้ำเย็นหรือ?”
พูดพลางหันมองไปรอบห้องน้ำ เห็นว่ามีแต่น้ำอุณหภูมิปกติ
คิ้วเข้มอันหล่อเหลาของเขาจึงขมวดเข้าหากันแน่นยิ่งขึ้น “ไม่มีน้ำร้อนแล้วคุณจะอาบน้ำได้ยังไง?”
หลินม่ายรีบพูด “อาบแค่แป๊บเดียวเอง ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
ฟางจั๋วหรานเริ่มอธิบายให้เธอฟังอย่างจริงจัง “ไม่เป็นไรงั้นหรือ? คุณคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายเหมือนผมที่จะอาบน้ำเย็นก็ได้หรือไง? สำหรับผู้หญิงแล้ว การอาบน้ำเย็นเป็นอะไรที่อันตรายมากเลยนะ อาจส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ อวัยวะภายในเย็นตัวลง หรือแม้แต่โรคไขข้อ ล้วนแล้วแต่จะทำให้สุขภาพคุณย่ำแย่ คุณอยากเป็นเหมือนนางพญางูขาวที่ดื่มเหล้าสยงหวง(1) เอาแต่กลิ้งทุรนทุรายไปมาบนเตียงทุกครั้งที่มีประจำเดือนหรือไง?”
หลินม่ายได้ยินสิ่งที่เขาพูด หยดเหงื่อเย็นเฉียบก็เริ่มผุดซึมออกมาจากร่างกาย รีบส่ายหน้ารัว ๆ “ไม่อยาก…”
ก่อนจะพูดต่อว่า “แต่ที่นี่ไม่มีน้ำร้อนนี่คะ…”
ฟางจั๋วหรานมองหน้าเธออย่างไร้คำพูด สีหน้าของเขาเหมือนเขียนคำว่า ‘เด็กน้อยไม่รู้ความเอ๊ย’ เอาไว้ “ไม่มีน้ำร้อนก็จริง แต่คุณไม่คิดจะออกไปขอน้ำร้อนสักสองขวดจากบริกรหรือยังไง?”
หลินม่ายรู้สึกอายเล็กน้อย
ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอเอง เธอเคยชินแต่การอดทนต่อความยากลำบาก ทำให้หลงลืมคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปเสียสนิท
“เดี๋ยวฉันจะออกไปหาบริกรแล้วขอน้ำร้อนมาสักสองขวดค่ะ” พูดจบแล้วเธอก็รีบวิ่งออกจากห้องไป
โรงแรมของรัฐแห่งนี้ไม่มีบริกรที่เข้างานกะกลางคืน มีเพียงพนักงานประจำแผนกต้อนรับสองคนเท่านั้น
หลินม่ายตรงไปหาพนักงานประจำแผนกต้อนรับสองคนนั้นเพื่อขอน้ำร้อน แต่หนึ่งในพนักงานกลับตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาด้วยภาษาจีนกลางสำเนียงกวางตุ้งว่า “อากาศร้อนขนาดนี้ยังจะอาบน้ำร้อนอีก บ้านนอกจริง ๆ เลย!”
กว่างโจวในยุคสมัยนี้ทั้งเจริญรุ่งเรืองและเต็มไปด้วยชีวิตชีวามากกว่าเมืองอื่น ๆ ในประเทศเดียวกัน
เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชาวเมืองจะดูถูกเหยียดหยามคนที่มาจากต่างถิ่น แต่ก็ขึ้นอยู่กับนิสัยส่วนตัวของบางคนด้วย
หลินม่ายแอบยิ้มเย้ยอยู่ภายในใจ พวกหล่อนก็เป็นแค่พนักงานแผนกต้อนรับเหมือนกันนั่นแหละ ทำตัวอวดดีไปได้!
เมื่อฟางจั๋วหรานเห็นว่าเธอกลับมามือเปล่า เขาจึงถามด้วยความสงสัย “ไม่ได้น้ำร้อนมาหรือ?”
หลินม่ายส่ายหน้า “ไม่รู้สิคะ ดูเหมือนพวกหล่อนไม่ค่อยเต็มใจให้บริการเท่าไหร่”
ฟางจั๋วหรานวางหนังสือเกี่ยวกับความรู้ทางการแพทย์ที่กำลังอ่านอยู่ลงทันที “ผมจะลองไปขอดู”
อาจเป็นเพราะความหล่อเหลาของเขาที่ทำให้คู่สนทนาไม่กล้าปฏิเสธ เขาแค่พูดกับพนักงานประจำแผนกต้อนรับสองคนนั้นว่า “รบกวนขอน้ำร้อนให้ผมสักสองขวดหน่อยได้ไหมครับ?”
หญิงสาวตัวเล็กสองคนหน้าแดงเห่อขึ้นมาทันที รีบกระวีกระวาดเตรียมต้มน้ำร้อนให้เขา แถมยังบริการขึ้นไปส่งให้เขาถึงห้องด้วยความเอาใจใส่
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป พนักงานสาวเห็นว่าภายในห้องของเขามีหลินม่ายนั่งอยู่ด้วย สีหน้าที่ยิ้มแย้มพลันเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งอย่างน่าเกลียด
พวกหล่อนยินดีให้บริการชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าตัวเองจะเต็มใจให้บริการหลินม่ายเสียหน่อย
ก่อนที่พนักงานสาวทั้งสองจะจากไป พวกหล่อนยังไม่วายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น “ถ้าพวกคุณสองคนยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จะเข้าพักห้องเดียวกันไม่ได้นะคะ”
ฟางจั๋วหรานส่งยิ้มให้พวกหล่อน “พอดีเราเปิดห้องไว้สองห้องน่ะครับ”
พนักงานสาวสองคนไม่รู้จะพูดอะไรอีก จึงหันหลังกลับแล้วเดินออกไปทางฝั่งซ้าย
ฟางจั๋วหรานค่อย ๆ รินน้ำร้อนทั้งสองขวดลงในอ่าง ก่อนจะเติมน้ำเย็นตามลงไปในปริมาณที่พอเหมาะ
ในที่สุดหลินม่ายก็ได้อาบน้ำอุ่นอย่างสบายเนื้อสบายตัวสมใจ
เขาคือความรักครั้งแรกในชีวิตของเธอ อีกทั้งยังเป็นความรักครั้งแรกที่เธอได้รับการดูแลเอาใจใส่จากแฟนหนุ่มเป็นอย่างดี
ระหว่างที่กำลังอาบน้ำ เธอให้คำสาบานกับตัวเองภายในใจ ว่าจะพยายามรักษาความสัมพันธ์กับฟางจั๋วหรานเอาไว้ให้นานที่สุด
…………………………………………………………………………………………………………..
(1)เหล้าสยงหวง เป็นเหล้าผสมกำมะถัน เป็นสารมีพิษ แต่มีฤทธิ์สามารถใช้ต้านพิษและฆ่าเชื้อโรคได้ วิธีปรุงค่อนข้างซับซ้อน ถ้าทำไม่ดีดื่มแล้วอาจถึงตาย ต้องมีขั้นตอนฆ่าฤทธิ์ยาพิษให้หมดเสียก่อน จึงจะนำมาใช้ดื่มได้ ในเรื่องตำนานนางพญางูขาว เหล้านี้มีผลต่อร่างกายของปีศาจงูอย่างไป๋ซู่เจิน เมื่อกินเข้าไปแล้วจะทำให้ทรมานทุรนทุรายจนต้องแสดงร่างจริงออกมา
สารจากผู้แปล
แผนเอากระดาษหนังสือพิมพ์มาตัดใส่เป็นเงินนี้เริดมากค่ะม่ายจื่อ ขอซื้อเลย
เป็นเราเราก็ไม่อาบน้ำร้อนในวันอากาศร้อนนะคะ แต่ไม่แน่ว่าน้ำประปาที่จีนอาจจะยังเย็นเจี๊ยบแม้ยามหน้าร้อนก็ได้
ไหหม่า(海馬)