ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 174 มาเยือน (ปลาย)

ตอนที่ 174 มาเยือน (ปลาย)

​“​ฮ่องเต้​ทรง​เงียบ​ไป​สักพัก​หนึ่ง​ ​แต่​ข้า​ทูล​ขอลา​ออก​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ ​สุดท้าย​เขา​ก็​ตอบ​ตกลง​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​สีหน้า​นิ่งเฉย​ ​“​แล้วยัง​ทรง​กล่าวว่า​ ​ในเมื่อ​พี่​สาม​อยาก​จะ​แยก​ออก​ไป​อยู่​ข้างนอก​ ​ตำแหน่ง​ของ​เขา​ก็​ไม่​ควร​ต่ำ​เกินไป​ ​ให้​ไปรับ​ตำแหน่ง​ขุนนาง​ข้าหลวง​ที่​เจ้อ​เจียง​ดี​หรือไม่​ ​ข้า​บอกว่า​ ​การ​รับ​ตำแหน่ง​ขุนนาง​ไม่ใช่​เรื่องสำคัญ​ ​ขอ​แค่​ทุกคน​แยกกัน​อยู่​อย่าง​มีความสุข​ก็​พอ​ ​ไปรับ​ตำแหน่ง​ขุนนาง​ข้าหลวง​ที่​เจ้อ​เจียง​ ​เกรง​ว่า​อาจจะ​ทำให้​ตุลาการ​ไม่พอใจ​ ​แค่​รับ​ตำแหน่ง​นายอำเภอ​ที่​มณฑล​เล็ก​ๆ​ ​ก็​พอแล้ว​ ​ฮ่องเต้​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ไม่​ตรัส​อะไร​ ​ดูเหมือน​เขา​จะ​ไม่​คัดค้าน​ ​เรื่อง​นี้​น่าจะ​สำเร็จ​”

แต่​เช่นนี้​ ​ก็​ถือว่า​ฮ่องเต้​ทรง​ตอบ​ตกลง​ยอมให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลาออก​อย่าง​อ้อม​ๆ

​ขณะที่​กำลัง​ครุ่นคิด​ก็​มีสาว​ใช้​เข้า​รายงาน​ ​“​คุณชาย​ห้ามา​ขอ​พบ​เจ้าค่ะ​!​”

​“​เขา​มาทำ​อะไร​ตอนนี้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ​ ​จากนั้น​ก็​ขมวดคิ้ว​แล้ว​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ช่วงนี้​เขา​อยู่​แต่​ที่​จวน​ไม่ได้​ออก​ไป​ที่ใด​ใช่​หรือไม่​”

คุณชาย​ห้า​ผู้​น่าสงสาร​ ​แม้แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ยัง​มี​ปฏิกิริยา​เช่นนี้​ ​สิ่ง​แรก​ที่​คิดถึง​ก็​คือ​เขา​ก่อปัญหา​ ​แต่​เมื่อ​นึกถึง​ปฏิกิริยา​แปลก​ๆ​ ​ของ​คุณชาย​ห้า​ตอนที่​คนเล​่​นพิ​ณมา​ขอ​พบ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​อด​คิดถึง​เรื่อง​นั้น​ไม่ได้

​นาง​รีบ​เล่าเรื่อง​นั้น​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​ ​“​…​ไม่รู้​ว่าที่​เขา​มาหา​ท่าน​เป็น​เพราะ​เรื่อง​นี้​หรือไม่​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พลัน​หน้าซีด​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ไป​ที่​เรือน​ปีก​ทาง​ทิศตะวันตก

​สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​นอน​ที่นี่​หรือไม่​ ​นาง​ครุ่นคิด​ ​แต่​ก็​ยัง​จัด​เตียง​เหมือนเดิม​ ​หลังจากที่​จัด​เสร็จ​แล้ว​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​เดิน​เข้ามา​ด้วย​ความโมโห

​“​คุย​กัน​เสร็จ​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​!​”​ ​นาง​แสร้งทำ​เป็น​มองไม่เห็น​ ​ยิ้ม​แล้ว​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ให้​ข้า​รับใช้​ท่าน​ล้างหน้าล้างตา​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่พูดไม่จา​ ​แต่​เขา​กลับ​เดิน​ไปร​อบ​ๆ​ ​ห้อง

​“​คน​ไร้​สมอง​ ​ไม่รู้​ว่า​เมื่อไร​จะ​โต​!​”

​สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​เขา​กำลัง​พูดถึง​คุณชาย​ห้า​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​โหวก​็​เหมือนกัน​ ​เมื่อ​ครู่​ยัง​พูดถึง​จุน​เกอ​ ​บอกว่า​ท่าน​เอาแต่​สู้รบ​อยู่​ข้างนอก​ ​ต่อมา​ก็​ยุ่ง​เรื่อง​บ้านเมือง​ ​จึง​ละเลย​เขา​ ​เขา​ถึง​ได้​มีนิ​สัย​เช่นนี้​ ​คุณชาย​ห้า​ก็​เหมือนกัน​เจ้าค่ะ​ ​ท่าน​พ่อ​ของ​เขา​เสียชีวิต​ไป​ตั้งแต่​เด็ก​ ​พวก​พี่​ๆ​ ​ก็​ยุ่ง​เรื่อง​ของ​ตัวเอง​ ​จึง​ไม่มีใคร​คอย​สั่งสอน​เขา​ ​ท่าน​โหว​จะ​ลาออก​แล้ว​ ​ต่อไป​ก็​คงอยู่​ที่​จวน​บ่อย​ขึ้น​ ​เหตุใด​ท่าน​ไม่​ถือโอกาส​นี้​พูดคุย​กับ​คุณชาย​ห้า​ล่ะ​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​เจอ​เขา​ก็​ทำ​หน้า​เคร่งเครียด​ใส่​เขา​เช่นนี้​ ​เขา​มีเรื่อง​ทีไร​จึง​ไม่กล้า​คุย​กับ​ท่าน​ ​เมื่อ​เกิดเรื่อง​ขึ้น​แล้ว​ ​ท่าน​ก็​ต้อง​ไป​จัดการ​ทีหลัง​ ​ไม่​สู้​เป็นมิตร​กัน​ดีกว่า​ ​มีเรื่อง​อะไร​ก็​สามารถ​มาบ​อก​ท่าน​ได้​ทันเวลา​ ​ท่าน​ก็​สามารถ​แนะนำ​เขา​ได้​ทันเวลา​ ​หาก​เขา​รู้​ว่า​เรื่อง​ใด​ควร​ทำ​ ​เรื่อง​ใด​ไม่​ควร​ทำ​แล้ว​ ​ประเดี๋ยว​มัน​ก็​จะ​ค่อยๆ​ ​ดีขึ้น​เอง​เจ้าค่ะ​!​”

​“​เขา​อายุ​เท่าไร​แล้ว​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อด​ไม่ได้​ที่จะ​โมโห​ ​“​ยัง​ต้อง​ให้​ข้า​บอก​เขา​ว่า​ต้อง​ทำ​เช่นไร​ ​ตอนที่​ข้า​อายุ​เท่า​เขา​ข้า​ออก​ไป​อยู่​ที่เ​เคว​้น​เหมียว​เจียง​ตั้ง​นาน​แล้ว​!​ ​อยู่​กับ​เหล่า​แม่ทัพ​ที่​มีประสบการณ์​มากกว่า​สิบ​นาย​ ​ข้า​ไม่เข้าใจ​อะไร​ทั้งสิ้น​ ​แต่​ก็​ไม่กล้า​พูด​อะไร​ต่อหน้า​พวกเขา​ ​แอบ​เดินตาม​พวก​ทหาร​ตอนกลางคืน​ ​เพื่อที่จะ​เรียนรู้​การ​เคลื่อน​กองทัพ​ ​ตื่นขึ้น​มาตอน​เช้า​ก็​ไปรั​บมื​อกับ​เรื่องเล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ของ​วัน​…​”

​“​ทุกคน​จะ​เป็น​เหมือน​ท่าน​โหว​ได้​เช่นไร​เจ้า​คะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม

​หลังจากที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​ระบาย​แล้ว​ ​เขา​ก็​มานั​่ง​ลง​บน​เตียง​

​สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​สาวใช้​ยก​น้ำอุ่น​เข้ามา

​“​ท่าน​โหว​แช่​เท้า​ก่อน​เจ้าค่ะ​ ​มีเรื่อง​อะไร​ก็​คุย​กัน​ดี​ๆ​ ​ถึงแม้ว่า​ท่าน​จะ​ดุด่า​เขา​แต่​ท่าน​ก็​ต้อง​ช่วย​เขา​แก้ปัญหา​อยู่ดี​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอน​ตัว​พิง​หมอน​ ​“​ข้า​รู้​ ​แต่​ข้า​แค่​รู้สึก​ว่า​เขา​ไม่ได้เรื่อง​เกินไป​…​ไม่เช่นนั้น​ ​ครอบครัว​ของ​เรา​คง​ไม่​เป็น​เช่นนี้​…​”

​“​ดังนั้น​ข้า​ถึง​ได้​บอกว่า​ไม่​ควร​ปล่อย​ให้​คุณชาย​สาม​และฮู​หยิน​สาม​ย้ายออก​ไป​ด้วย​ความคับ​ข้องใจ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รับ​อ่างทอง​แดง​มาจาก​สาวใช้​ ​นำมา​วาง​ไว้​ที่​เท้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​รับใช้​เขา​ถอด​รองเท้า​ ​“​แล้วยัง​มี​เด็ก​ๆ​ ​อีก​สอง​คน​ ​ต่อไป​จุน​เกอ​ของ​เรา​ยัง​ต้อง​มี​คน​คอย​ช่วยเหลือ​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่พูดไม่จา​ ​ปล่อย​ให้​สือ​อี​เหนียง​แช่​เท้า​ให้​ตัวเอง

​*****

​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​กำลัง​เอ่ย​ถาม​ป้า​ตู้​ ​“​ไป​สืบมา​แล้ว​หรือยัง​”​

​“​สืบมา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​ป้า​ตู้​พูด​ ​”​คุณชาย​ห้า​เรียน​ร้องเพลง​งิ้ว​จาก​หลิว​ฮุ่ย​ฟัง​คน​นั้น​ ​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​ไม่ได้​คารวะ​เป็น​อาจารย์​ ​แต่​คุณชาย​ห้า​เป็น​คนพูด​เอง​ ​บอกว่า​จะ​ให้เงิน​หลิว​ฮุ่ย​ฟัง​ปี​ละ​สอง​ร้อย​ตำลึง​เงิน​ทุกปี​ ​ต่อมา​คุณชาย​ห้า​แต่งงาน​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ไม่ได้​ไปมาหาสู่​กับ​เขา​ ​แต่​ก็​ยัง​ส่ง​คน​นำ​เงิน​สอง​ร้อย​ตำลึง​เงิน​ไป​ให้​เขา​ทุกปี​ ​เขา​ก็​นำ​เงิน​สอง​ร้อย​ตำลึง​เงิน​นั้น​ไป​ดื่ม​สุราส​ํา​มะ​เล​เท​เมา​ ​ไม่ได้​มาหา​คุณชาย​ห้า​แต่อย่างใด​ ​แต่​ปีนี​้​หิมะ​ตกหนัก​ ​ราคา​ข้าวของ​เยี​่​ยน​จิง​แพง​ขึ้น​เป็น​เท่าตัว​ ​เขา​บอกว่า​อยู่​ต่อไป​ไม่ได้​แล้ว​ ​จึง​มา​ขอ​เงิน​ที่​คุณชาย​ห้า​ ​แล้วยัง​พูด​อย่างไร​้​ยางอาย​ว่า​ให้​หัก​จาก​เงิน​ของ​ปีหน้า​”

​ไท่ฮู​หยิน​โมโห​จน​ตัวสั่น​ ​“​ทำไม​ข้า​ถึง​ได้​คลอด​คน​เช่นนี้​ออกมา​!​”​

​ป้า​ตู้​รีบ​พูด​ ​“​คุณชาย​ห้า​รู้​แล้ว​ว่า​ตัวเอง​ทำผิด​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​เขา​จะ​ค่อยๆ​ ​หาย​ไป​ทำไม​เจ้า​คะ​”​ ​พูด​อีกว่า​ ​“​บ่าว​ได้ยิน​มา​ว่า​เมื่อ​ครู่​คุณชาย​ห้า​ไปหา​ท่าน​โหว​ ​คิด​ว่าน​่า​จะ​เป็น​เพราะ​เรื่อง​นี้​ ​มีท​่าน​โหว​ออกหน้า​ให้ท่าน​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​เจ้าค่ะ​”

​ไท่ฮู​หยิน​ถอนหายใจ​อย่าง​เอือมระอา

​*****

​คุณชาย​ห้า​กลับมา​ถึง​เรือน​ ฮู​หยิน​ห้า​ก็​นอน​แล้ว​ ​หลังจากที่​เขา​ล้างหน้าล้างตา​แล้ว​ ​เขา​ก็​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​ข้างใน​ ​มุด​เข้าไป​ใน​ผ้าห่ม​ของฮู​หยิน​ห้า

ฮู​หยิน​ห้า​ตกใจ​ตื่นขึ้น​ ​“​ท่าน​พี่​เป็น​อะไร​เจ้า​คะ​ ​ข้า​ตั้งครรภ์​อยู่​ ​รับใช้​ท่าน​ไม่ได้​…​ ​”

​คุณชาย​ห้า​ไม่พูดไม่จา​ ​เขา​ยื่นมือ​ออก​ไป​จับ​ท้อง​ของ​ภรรยา

​“​มี​อะไร​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ฮู​หยิน​ห้า​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​หรือว่า​ ​ให้​เสี่ยว​เหมย​มารับ​ใช้​ที่​ห้อง​ของ​ข้า​…​”

​“​ข้า​ไม่ได้​คิดถึง​แต่​เรื่อง​พวก​นั้น​ทุกวัน​”​ ​คุณชาย​ห้า​พึมพำ​ ​“​ไม่ต้อง​หรอก​!​”

ฮู​หยิน​ยิ้ม​ ​“​ข้า​แค่​กลัว​ว่า​ท่าน​ไม่สบาย​”

​คุณชาย​ห้า​ไม่​พูด​อะไร

ฮู​หยิน​ห้า​รู้​นิสัย​ของ​เขา​ดี​ ​เรียก​สาวใช้​เฝ้ายาม​เป่า​ตะเกียง​แล้ว​นอนลง​ ​มุด​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​สามี​ ​จากนั้น​ก็​หลับ​ไป​อย่าง​เงียบๆ​ ​จู่ๆ​ ​ก็ได้​ยิน​สามี​กระซิบ​บอก​ ​“​ตาม​หยาง​ ​เจ้า​ดี​กับ​ข้า​ที่สุด​…​คนอื่น​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​อยากได้​เงิน​ของ​ข้า​ ​ก็​เพราะ​อยาก​ยืม​อำนาจ​ของ​พี่​สี่​…​ ​ตาน​หยาง​ ​มี​เพียง​เจ้า​ ​ที่​ดี​กับ​ข้า​ที่สุด​…​”

​ใน​ความมืด​ ฮู​หยิน​ห้า​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

ถือว่า​เขา​ยัง​รู้ความ​ ​รู้​ว่า​ใคร​ดี​กับ​เขา​!

ไท่​เฟ​ยพูด​ถูก

บุรุษ​ล้วนแต่​เป็น​เด็ก​ ​ขึ้นอยู่กับ​ว่า​สตรี​จะ​สั่งสอน​เช่นไร​…

​นาง​ยิ้ม​แล้ว​หลับ​ไป

​*****

​ถึงแม้ว่า​เรื่อง​ของ​หลิว​ฮุ่ย​ฟัง​จะ​ทำให้​แต่ละ​เรือน​รำคาญใจ​ ​แต่​มัน​ไม่ได้​กระทบ​ต่อ​การ​ใช้ชีวิต​ปกติ​ของ​จวน​สกุล​สวี

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้าไป​หา​ฮองเฮา​ใน​พระราชวัง​อีกครั้ง​ ​เพราะว่า​วันที่​สิบ​แปด​ของ​เดือน​สิบสอง​เขา​ได้​เขียน​ ​จดหมาย​ลาออก​ให้​ฮ่องเต้​ ​แต่ว่า​ฮ่องเต้​ทรง​ไม่​อนุญาต​ ​ฮ่องเต้​ทรง​อนุญาต​เพียง​ให้​เขา​หยุดพัก​ผ่อน​ ​หมอ​หลวง​ของ​สำนัก​หมอ​หลวง​ก็​วิ่ง​ไป​ที่​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ไม่​หยุด​ ​ออก​ใบสั่งยา​เป็นกอง​ ​แต่กลับ​ไม่มีใคร​กล้า​พูดว่า​สามารถ​รักษาโรค​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​ ​สือ​อี​เหนียง​คอย​รับใช้​อยู่​ข้างๆ​ ​หาก​มี​หมอ​หลวง​เข้ามา​นาง​ต้อง​หลบ​ออก​ไป​ ​ได้รับ​ใบสั่งยา​แล้วก็​ต้อง​ไปหา​หมอ​หลวง​ ​แล้วยัง​มีส​หาย​เก่า​จาก​ทหาร​ทั้ง​ห้า​เหล่าทัพ​แห่ง​กองทัพ​ภาค​ ​กรม​กลาโหม​และ​สกุล​ใหญ่​สกุล​โตมา​เยี่ยมเยียน​ ​ยุ่ง​วุ่นวาย​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​โชคดี​ที่​ใกล้​จะ​ถึง​วันเฉลิม​พระชนมพรรษา​แล้ว​ ​ทุกคน​ต้อง​เข้าไป​แสดงความยินดี​ใน​พระราชวัง​ ​จวน​สกุล​สวี​ถึง​ได้​สงบ​ลง

​เพราะว่า​ไม่ใช่​วัน​ประสูติ​ของ​ฮ่องเต้​ ​ดังนั้น​จึง​หยุด​แค่​วันเฉลิม​พระชนมพรรษา​ ​เหล่า​ขุนนาง​ระดับ​สี่​ขึ้นไป​ของ​เมืองหลวง​ต้อง​เข้าไป​แสดงความยินดี​ใน​พระราชวัง

​เห็นได้ชัด​ว่า​ฮองเฮา​อารมณ์ดี​ขึ้น​ไม่น้อย​ ​กำลัง​พูดคุย​อยู่​กับ​องค์​หญิง​ใหญ่​ ​เมื่อ​ทอดสายตา​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ ​นาง​ก็​รีบ​บอก​ให้​นางใน​ไป​เชิญ​นาง​เข้ามา

​“​อากาศ​หนาว​ ​เจ้า​ต้อง​สวม​เสื้อผ้า​หนา​ๆ​”

​สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​มองเห็น​สตรีที​่​แต่งตัว​เหมือน​นางใน​อยู่​รอบ​ๆ​ ​นาง​ก็​เข้าใจ​ทันที​ ​ฮองเฮา​กำลัง​แสดง​ความเป็นห่วง​ต่อนาง

​นาง​ย่อเข่า​คำนับ​ด้วย​ความเคารพ​ ​ท่าที​เหมือน​ตอนที่​เจอ​กับ​ฮองเฮา​เมื่อ​ครั้งก่อน​ ​“​ขอบ​พระทัย​ฮองเฮา​เพ​คะ​”​

​ฮองเฮา​มอง​นาง​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​องค์​หญิง​ใหญ่​ที่อยู่​ข้างๆ​

​สือ​อี​เหนียง​ยืน​ฟัง​พวก​นาง​พูดคุย​กัน​อย่างสงบ​เสงี่ยม

​หลังจาก​งาน​เฉลิมพระชนมพรรษา​เริ่มต้น​ขึ้น​ ​ทุกคน​ก็​เดิน​เข้าไป​ร่วมงาน​ ​ตอนที่​ดูการ​ละ​เล่น​นาง​ก็​คอย​รับใช้​ไท่ฮู​หยิน​อยู่​ข้างๆ​ ​รับใช้​ได้​เป็น​อย่างดี​

​ฮองเฮา​เห็น​เช่นนี้​ก็​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​พูด​กับ​หวง​กู​กู​ ​“​เดิมที​คิด​ว่านาง​สถานะ​ต่ำต้อย​ ​อีกทั้ง​อายุ​ยังน้อย​ ​อาจจะ​ทำให้​ท่าน​โหว​ลำบากใจ​ ​แต่​ตอนนี้​ดูแล​้ว​ ​ข้า​ใจแคบ​เกินไป​จริงๆ​”

​หวง​กู​กูยิ​้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ฮองเฮา​ไม่ได้​ดู​ผิด​เพ​คะ​ ​แต่​แค่​คิดไม่ถึง​ว่า​ท่าน​โหว​จะ​มี​วาสนา​เช่นนี้​ ​ได้​แต่ง​กับ​สตรี​เช่นนี้​”

​พวก​นาง​กำลัง​พูดคุย​กัน​อยู่​ ​ก็​มี​ขันที​รายงาน​เสียงดัง​ ​“​ฮ่องเต้​เสด็จ​!​”

​ฮองเฮา​รีบ​จัดระเบียบ​เสื้อผ้า​ของ​ตัวเอง​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ต้อนรับ​

​นาง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ก้ม​คำนับ​ ​ฮ่องเต้​ก็​ประคอง​นาง​ลุกขึ้น​ ​ไล่​ขันที​ออก​ไป​ ​จากนั้น​ก็​ไป​พูดคุย​กับ​ฮองเฮา​ที่​เรือน​ทาง​ทิศตะวันออก​เป็นการ​ส่วนตัว

​“​เรื่อง​ของ​คุณชาย​สี่​เจ้า​รู้​หรือไม่​”

​ฮองเฮา​พยักหน้า​แล้ว​พูด​อย่าง​นิ่ง​สงบ​ ​“​เขา​เข้ามา​บอก​หม่อมฉัน​เมื่อ​สอง​วันก่อน​แล้ว​เพ​คะ​ ​หม่อมฉัน​ก็​คิด​ว่า​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​ ​คิด​ว่า​หลังจาก​งาน​เฉลิมพระชนมพรรษา​ผ่านพ้น​ไป​แล้ว​จะ​ไป​ทูล​เรื่อง​นี้​กับ​ฝ่า​บาท​”

​ฮ่องเต้​ทรง​ตก​พระทัย

​ฮองเฮา​ถอนหายใจ​ ​“​ฝ่า​บาท​ก็​รู้​นิสัย​ของ​เขา​ดี​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​มีเรื่อง​อะไร​ ​เขา​ก็​ไม่ยอม​พูด​ออกมา​ ​สอง​สาม​ปีก่อน​ที่​เขา​ทะเลาะ​กับ​หยวน​เนียง​ ​แท้งลูก​ ​พี่​สอง​ก็​เสียชีวิต​ ​พี่สะใภ้​สอง​เป็น​คน​มี​ความสามารถ​ ​แต่​ก็​ต้อง​กลายเป็น​ม่าย​ ​ช่วย​เรื่อง​ที่​จวน​ก็​ไม่ได้​ ​พี่​สาม​เป็น​คนซื่อ​สัตย์​ ​แต่​พี่สะใภ้​สาม​กลับเป็น​คน​แข็งกระด้าง​ ​สอง​สาม​ปีนี​้​ก็​เอาแต่​อยาก​จะ​แยก​ออก​ไป​อยู่​ข้างนอก​ ​ทำเอา​สกุล​ไม่​สงบสุข​ ​ส่วน​น้อง​ห้า​หม่อมฉัน​ไม่​พูด​ฝ่า​บาท​ก็​คงจะ​รู้อยู่​แล้ว​”​ ​นาง​กระอึกกระอัก​ ​“​ตั้ง​คณะ​งิ้ว​เลี้ยง​นักแสดง​อยู่​ข้างนอก​…​สกุล​นี้​พึ่งพา​น้อง​สี่​ ​เขา​แค่​อยาก​จะ​ดู​แข็งแกร่ง​ต่อหน้า​ฝ่า​บาท​ ​แต่​หม่อมฉัน​ได้ยิน​น้อง​สะใภ้​สี่​บอกว่า​ ​ต้อง​ใช้​น้ำร้อน​แช่​เท้า​ให้​เขา​ทุกคืน​ ​บางครั้ง​เขา​ก็​พูดว่า​ยัง​ไม่​ร้อน​แต่กลับ​แช่​จน​ผิว​แดง​ไป​หมด​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​น้ำตาไหล​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​เขา​ก็​เป็น​บุตร​ของ​สกุล​ใหญ่​สกุล​โต​ ​เป็น​ขุนนาง​ระดับ​สอง​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​คนที​่​เหมือน​เขา​ ​แม้แต่​คนที​่​ต่ำต้อย​กว่า​เขา​ก็​ยัง​เอาแต่​เสวยสุข​ ​แต่​เขา​ไม่เคย​เสวยสุข​เลย​แม้แต่​วัน​เดียว​…​ฝ่า​บาท​ทรง​เมตตา​ให้​เขา​ได้​พักผ่อน​สัก​สอง​สาม​วัน​เถิด​เพ​คะ​”

​ฮ่องเต้​เห็น​ฮองเฮา​ร้องไห้​ ​เขา​ก็​รีบ​ปลอบ​ ​“​เรา​รู้​แล้ว​ ​เรา​รู้​แล้ว​ ​สอง​สาม​มาปี​นี้​ลำบาก​เขา​เกินไป​แล้ว​”

​“​เขา​กับ​ฝ่า​บาท​เป็น​ทั้ง​ขุนนาง​กับ​ฮ่องเต้​ ​แล้วยัง​เป็น​พระ​เทวัน[1]”​ ​ฮองเฮา​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ออกมา​ซับ​น้ำตา​ ​“​เขา​ช่วย​ฝ่า​บาท​ ​ฝ่า​บาท​ก็​ทรง​ช่วย​เขา​ ​มัน​เป็นเรื่อง​ที่​สมควร​อยู่​แล้ว​ ​แต่​หม่อมฉัน​คิด​ว่า​ ​สิ่ง​ที่​น้อง​สี่​กล่าว​วันนั้น​ก็​มีเหตุผล​ ​เมื่อก่อน​เพราะว่า​สถานการณ์​บังคับ​ ​จึง​จำเป็นต้อง​ทำ​ ​แต่​ตอนนี้​ฝ่า​บาท​เป็น​บิดา​ของ​ราษฎร​ ​เป็น​คนที​่​มั่งคั่ง​ที่สุด​ ​ผืนดิน​ทั้งหมด​ล้วน​เป็น​ของ​ฝ่า​บาท​ ​และ​คนที​่​อยู่​บน​ผืนดิน​ก็​เป็น​ขุนนาง​ของ​ฝ่า​บาท​ ​ยาม​นี้เ​เคว​้น​เหมียว​เจียง​ยังคง​สงบ​ ​แคว้น​ซี​เป่ย​ก็​ไม่มี​เรื่อง​อัน​ใด​ ​ฝ่า​บาท​ทรง​เป็น​ฮ่องเต้​ที่​พระ​ปรีชาสามารถ​มาก​ที่สุด​ ​นอกนั้น​ก็​เป็นความ​ดี​ความชอบ​ของ​เหล่า​ขุนนาง​ ​เขา​ไม่​ชอบ​เล่าเรียน​หนังสือ​ ​นอกจาก​สู้รบ​ก็​ทำ​สิ่งใด​ไม่​เป็น​ ​เรื่อง​ของ​ฝ่า​บาท​เขา​ก็​ช่วยไม่ได้​ ​เขา​จึง​พยายาม​เป็น​ขุนนาง​ที่​รู้​ใน​หน้าที่​ ​เป็น​แบบอย่าง​ที่​ดี​ให้​กับ​เหล่า​ขุนนาง​ที่​คิด​ว่า​ตัวเอง​มี​ความดี​ความชอบ​แล้ว​”

​คำพูด​ของ​ฮองเฮา​ทิ่มแทง​หัวใจ​ของ​เขา​ยิ่งนัก

หาก​เขา​อยาก​เป็น​ฮ่องเต้​ที่​มี​ความสามารถ​ที่สุด​ ​เขา​ก็​ต้อง​รับมือ​กับ​ขุนนาง​ให้​ดี​ ​แต่​คนที​่​คอย​สนับสนุน​เขา​กลับ​มี​แต่​เหล่า​แม่ทัพ​ ​กลัว​ว่า​พวก​นั้น​จะ​ขัดขวาง​ไม่​ให้​เขา​เปลี่ยน​ระบอบ​ใหม่​…

​ฮ่องเต้​ได้ยิน​ก็​รู้สึก​ซาบซึ้ง​ ​“​แต่​จะ​ให้​เขา​ลาออก​ง่ายๆ​ ​เช่นนี้​ไม่ได้​ ​…​”

​“​ฝ่า​บาท​ทรง​สับสน​แล้ว​เพ​คะ​”​ ​ฮองเฮา​พูด​ ​“​หาก​ฝ่า​บาท​ยัง​ทรงอยู่​ ​เขา​ก็​ยังคง​พึ่งบารมี​ของ​พระองค์​ได้​ ​ถือ​ชาม​ข้าว​ทองคำ​ของ​ฝ่า​บาท​อยู่​ใน​มือ​ยัง​กลัว​ว่า​จะ​ไม่มี​ข้าว​ทาน​อีก​หรือ​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​ความสามารถ​อย่าง​เขา​ ​จะ​ได้​เป็น​ราชครู​ของ​รัชทายาท​ตอน​อายุ​ยี่สิบ​เจ็ด​ปี​ได้​เช่นไร​ ​น้อง​สี่​รู้จัก​ตัวเอง​ดี​ ​ฝ่า​บาท​ทรง​ยอมให้​เขา​ลาออก​เถิด​เพ​คะ​ ​ถือโอกาส​ตอนที่​ยัง​มี​ความดี​ความชอบ​ ​หาก​วันใด​ไม่​ระวัง​เข้า​ ​ชื่อเสียง​ที่​เขา​มี​ก็​อาจจะ​สูญเสีย​ไป​จน​หมด​ ​เขา​เสียหน้า​ ​ฝ่า​บาท​ก็​เสียหน้า​นะ​เพ​คะ​”

​ฮ่องเต้​ขจัด​ความกังวล​ออก​ไป​ ​เขา​อด​ที่จะ​หัวเราะ​ไม่ได้

——————————-

[1]พระ​เทวันพี่เขย​หรือ​น้องเขย

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท