ซุนเหยียนเอ๋อร์พยักหน้า “ก็ดีเหมือนกัน ข้าจะไปกับพี่สะใภ้”
ทั้งสองเดินออกมาจากเรือนพระชายาเยี่ยนอ๋อง มุ่งหน้าตรงไปยังเรือนของเซียวเชียนเหว่ย ยามนี้เซียวเชียนเหว่ยและเซียวเชียนจย่งไม่อยู่บ้าน จูชูอวี้และซุนเหยียนเอ๋อร์อาศัยอยู่ข้างกัน ทั้งสองยังมาจากจินหลิงแต่งเข้ามาอยู่ในจวนเยี่ยนอ๋องเหมือนกัน ตามหลักแล้วควรสนิทสนมกันสักหน่อย เพียงแต่ทั้งสองคนเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนที่จะเข้ากันได้ หลายวันผ่านไปก็ยังคงต่างคนต่างอยู่
จูชูอวี้เป็นคนเช่นไรอย่าเพิ่งเอ่ยถึง ความสามารถกลับเป็นอันดับต้นๆ ในบรรดาสตรี เรือนเล็กๆ ของเซียวเชียนเหว่ยถูกนางจัดการเป็นระเบียบ หนานกงมั่วกลับมาสองวันใช่ว่าจะไม่ได้ทำอันใด สิ่งที่จูชูอวี้ทำตลอดหลายวันมานี้ล้วนตกอยู่ในสายตาของนาง เพียงหนึ่งเดือนจูชูอวี้ก็สามารถจัดการกับสินเจ้าสาวของตนเองได้เรียบร้อย อีกทั้งยังมีกิจการในเมืองโยวโจวไม่น้อย ยามนี้สะใภ้ทั้งสามของพระชายาเยี่ยนอ๋อง ต่อให้ไม่นับสินเจ้าสาวที่จูชูอวี้มีมากกว่า อย่างไรจูชูอวี้ก็ยังร่ำรวยกว่าอยู่ดี เมื่อเทียบกันแล้วเฉินซื่อและซุนเหยียนเอ๋อร์ยังมีน้อยกว่าบ้าง
“จวิ้นจู่ ฮูหยินน้อยสาม เชิญด้านในเจ้าค่ะ” สาวใช้เชิญทั้งสองเข้าไปยังห้องนอนของจูชูอวี้ด้วยท่าทางนอบน้อม
หนานกงมั่วพยักหน้า ก้าวเดินเข้าไปด้านใน จูชูอวี้นอนอยู่บนเตียง มองเห็นทั้งสองเดินเข้ามาจึงพยายามลุกขึ้น หนานกงมั่วยกมือขึ้น เอ่ย “ร่างกายจวิ้นจู่ไม่สบาย นอนไปเถิด” จูชูอวี้เองก็ไม่ฝืน เอนตัวกลับลงไป เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ลำบากพี่สะใภ้และน้องสะใภ้ต้องมาเยี่ยมแล้ว”
หนานกงมั่วมองสีหน้าของจูชูอวี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง “เจ็บมากหรือไม่”
จูชูอวี้ส่ายศีรษะ เอ่ย “บ่าวรับใช้ไหนเลยจะกล้าลงมือหนัก ไม่กี่วันก็หายแล้วเจ้าค่ะ พี่สะใภ้ น้องสะใภ้ รีบนั่งลงเถิด” ระหว่างที่เอ่ย สาวใช้ด้านนอกก็รีบยกเก้าอี้มาให้ทั้งสองคน ยกน้ำชามาให้ จูชูอวี้เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้ารับแขกเช่นนี้ เสียมารยาทแล้ว”
หนานกงมั่วส่ายศีรษะ “ที่ไหนเล่า เป็นพวกเราที่มารบกวน”
จูชูอวี้เองก็ไม่เอ่ยเรื่องไร้สาระเหล่านี้ต่อ เอ่ยถามตรงๆ “ได้ยินว่าพี่สะใภ้กับพี่ชายไปอยู่ที่กองทัพแม่ทัพเซี่ย ไยจึงกลับมาแล้วเจ้าคะ”
หนานกงมั่วหลุบตาลงมองถ้วยชาในมือ เอ่ยเสียงเรียบ “จวินมั่วติดตามท่านแม่ทัพไปออกรบแล้ว ข้าอยู่ในค่ายคนเดียวก็เบื่อหน่าย จึงกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเสด็จแม่”
จูชูอวี้ยิ้มขมขื่น เอ่ย “ช่างน่าอิจฉาพี่สะใภ้ ไหนเลยจะเหมือนพวกข้า ไร้ความสามารถ แม้แต่เมืองโยวโจวยังไม่อาจเข้าออกได้ง่ายๆ” หนานกงมั่วเพียงยิ้มไม่เอ่ยตอบสิ่งใด จากนั้นเล่าเรื่องที่เจอเซียวเชียนเหว่ยและเซียวเชียนจย่งอยู่ที่เขตชายแดน เมื่อเทียบกับความนิ่งสงบของจูชูอวี้ ซุนเหยียนเอ๋อร์นั้นใส่ใจเซียวเชียนจย่งกว่ามาก หนานกงมั่วมองสำรวจจูชูอวี้ ดูไม่ออกว่าความรู้สึกที่จูชูอวี้มีต่อเซียวเชียนเหว่ยนั้นเป็นเช่นไร
จูชูอวี้มองหนานกงมั่ว เอ่ยถาม “พี่สะใภ้ข่าวสารรวดเร็ว ไม่รู้ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรต่อพระชายารองกงผู้นี้”
หนานกงมั่วเลิกคิ้ว “ข้าเคยเจอพระชายารองผู้นั้นเพียงครั้งเดียว เป็นสตรีที่งดงาม น่าเสียดาย เสด็จลุงดูแลใกล้ชิด ยังไม่ได้พูดคุยแม้เพียงประโยคเดียว คิดว่าจวิ้นจู่คงเคยพูดคุยกับนาง คิดเห็นเช่นไรหรือ” จูชูอวี้ขมวดคิ้ว มองสำรวจหนานกงมั่วสังเกตความคิดของนาง หนานกงมั่วนิ่งสงบปล่อยให้นางมองสำรวจ
มุมปากของจูชูอวี้ยกยิ้มบางๆ เอ่ยอย่างจนปัญญา “ข้าเคยเจอพระชายารองกงผู้นี้หลายครั้ง ตามที่ข้าได้เห็น…พระชายารองผู้นี้ เกรงว่าคงไม่อาจรับมือได้ง่ายๆ”
“เอ๋” หนานกงมั่วเลิกคิ้ว
จูชูอวี้เอ่ย “ไม่ใช่ฝีมือนางร้ายกาจ เพียงแต่ปกติน้อยครั้งที่นางจะออกจากเรือนเตี๋ย มีเรื่องอันใดนางก็ไปหาเพียงเสด็จพ่อ เสด็จพ่อตามใจนางทุกอย่าง นางไม่ต้องทำอันใด ขอเพียงควบคุมความคิดของเสด็จพ่อได้นางก็ไม่มีทางพ่ายแพ้แล้ว” กงเสี่ยวเตี๋ยไม่เคยเอ่ยร้ายต่อผู้อื่น และไม่เที่ยวเดินอวดอำนวจไปทั่วจวน กระทั่งอาหารการกินเสื้อผ้าที่สวมใส่ล้วนแล้วแต่เป็นเยี่ยนอ๋องที่นำมาส่งให้ถึงตรงหน้า ไม่ใช่ความต้องการของนาง เยี่ยนอ๋องปกป้องนางถึงที่สุด อย่างน้อยเรือนเตี๋ยก็ไม่ใช่สถานที่ที่จูชูอวี้ที่เพิ่งแต่งเข้ามาจะแตะต้องได้
หนานกงมั่วราวกับกำลังคิดอันใดบางอย่าง “จวิ้นจู่คิดเห็นเช่นไร”
จูชูอวี้ถอนหายใจ เอ่ย “คนเช่นนี้ หากไม่ใช่คนมีแผนการร้ายกาจและมีความอดทนอดกลั้นสูงล่ะก็ ก็คงเป็นคนที่มิได้มีความสามารถใดทว่ามีคนคอยควบคุมอยู่เบื้องหลัง หลายวันมานี้ข้าไตร่ตรองอยู่หลายรอบ ข้าคิดว่า คงเป็นอย่างหลัง” บุตรชายคนโตบุตรชายคนรองของเยี่ยนอ๋องต่างก็เติบโต บุตรชายคนที่สามเองก็อายุสิบกว่าแต่งงานและได้รับแต่งตั้งเป็นอ๋องแล้ว ต่อให้กงเสี่ยวเตี๋ยมีแผนการ มีความอดทนเพียงใดคิดจะเอาชนะก็คงต้องให้กำเนิดบุตรชายเสียก่อน ยังต้องเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เอาชนะพระชายาเยี่ยนอ๋อง เอาชนะซื่อจื่อและจวิ้นอ๋องทั้งสอง นางจึงจะชนะโดยแท้จริง ตามที่จูชูอวี้มอง ความสำเร็จนั้นมีไม่มาก พระชายาเยี่ยนอ๋องไม่โง่ องค์หญิงฉังผิงยิ่งไม่อาจนิ่งดูดายไม่สนใจ อีกทั้งเว่ยจวินมั่วและหนานกงมั่วที่เยี่ยนอ๋องให้ความสำคัญ เพียงสองคนนี้ก็เพียงพอให้กงเสี่ยวเตี๋ยต้องปวดหัวแล้ว
ดังนั้น การกระทำของกงเสี่ยวเตี๋ย บอกว่านางถ่อมตัวมิสู้บอกว่านางรู้จุดอ่อนของตนดังนั้นจึงหลีกเลี่ยง ขอเพียงไม่ออกมา ไม่เข้าใกล้ใคร จับเยี่ยนอ๋องเอาไว้ให้แน่น ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ใครก็ทำอันใดนางไม่ได้ เกรงว่ากงเสี่ยวเตี๋ยเองก็ไม่ได้คิดจะเป็นนายหญิงของเยี่ยนอ๋องจริงๆ คิดเช่นนี้แล้ว จูชูอวี้จึงสรุปว่ากงเสี่ยวเตี๋ยผู้นี้ฝีมือเกรงว่าจะสู้พระชายาเยี่ยนอ๋องไม่ได้ น่าเสียดาย…นางขี้โกงไปสักหน่อย สิ่งที่ทำให้จูชูอวี้ไม่เข้าใจก็คือ กงเสี่ยวเตี๋ยมีอันใดให้เยี่ยนอ๋องหลงใหล เมื่อเอ่ยถึงรูปลักษณ์ ความงามก็เท่านั้น เอ่ยถึงความสามารถ บนโลกใบนี้ยังมีสตรีงดงามความสามารถมากมายใดที่ไม่มีให้เยี่ยนอ๋องได้เลือก
จูชูอวี้มองไปยังหนานกงมั่ว เอ่ยเสียงเบา “แม้ข้าไม่อาจออกจากเรือนได้ แต่รู้ว่าด้านนอกคงเล่าลือกันไปหนาหู ขอพี่สะใภ้…คิดหาวิธี อย่าได้ปล่อยให้พระชายารองผู้นั้นทำลายชื่อเสียงของเสด็จพ่อนะเจ้าคะ”
หนานกงมั่วกลับไม่ร้อนใจ เอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง “จวิ้นจู่วางใจเป็นพอ เสด็จลุงปกครองโยวโจวมายี่สิบกว่าปี เพียงระยะเวลาสั้นๆ…ไม่อาจทำลายได้”
เห็นท่าทางไม่ทุกข์ร้อนของนาง จูชูอวี้ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว “พี่สะใภ้เอ่ยเช่นนี้…”
หนานกงมั่วส่ายศีรษะ เอ่ย “จวิ้นจู่ นางเป็นชายารองของเสด็จลุง ดังนั้นตามหลักแล้ว พวกเราเป็นผู้น้อยไม่ควรไปยุ่งกับนาง”
จูชูอวี้ขมวดคิ้วไม่เอ่ยวาจา หนานกงมั่วลุกขึ้น เอ่ย “ไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของจวิ้นจู่แล้ว พวกเราคงขอตัวลาแล้ว”
จูชูอวี้เองก็ไม่รั้งพวกนางไว้ เพียงพยักหน้าส่งคนทั้งสอง
มองหนานกงมั่วและซุนเหยียนเอ๋อร์เดินออกไป จูชูอวี้ขมวดคิ้วมุ่นอยู่นาน ไม่นานจู๋เอ๋อร์พลันเดินเข้ามา เอ่ยอย่างไม่เข้าใจ “จวิ้นจู่ ท่านว่าซิงเฉิงจวิ้นจู่คิดอันใดอยู่กันแน่เจ้าคะ”
จูชูอวี้เอ่ยเสียงเรียบ “ความคิดของซิงเฉิงจวิ้นจู่ไหนเลยจะคาดเดาได้ง่ายเพียงนั้น”
จู๋เอ๋อร์เอ่ย “นางไม่ร้อนใจสักนิดเลยหรือเจ้าคะ ยามนี้คุณชายเว่ยไม่อยู่ ตามหลักแล้วหลายเรื่องก็มีนางเป็นผู้ตัดสินใจ นางไม่ใส่ใจ หากเกิดอันใดขึ้นคุณชายเว่ยและองค์หญิงฉังผิงก็คงไม่พอใจหรือไม่เจ้าคะ” จูชูอวี้ลุกขึ้นนั่ง ส่งเสียงหยัน “จะเกิดอันใดได้ ต่อให้เยี่ยนอ๋องจะหลงใหลกงเสี่ยวเตี๋ย คุณชายเว่ยก็ยังคงเป็นหลานชายที่เยี่ยนอ๋องให้ความสำคัญ ต้าจั่งกงจู่ก็ยังคงเป็นน้องสาวแท้ๆ เพียงคนเดียวของเยี่ยนอ๋อง ขอเพียงเยี่ยนอ๋องยังมีชีวิต จวนเยี่ยนอ๋องไม่ว่าใครจะขึ้นรับตำแหน่ง ก็ไม่มีใครกล้าไม่เคารพต่อองค์หญิงฉังผิง ต้องคอยดึงคุณชายเว่ยมาเป็นพวกอย่างระมัดระวัง นอกจากนี้ กงเสี่ยวเตี๋ยมีความสามารถสร้างความบาดหมางระหว่างเยี่ยนอ๋องและคุณชายเว่ย นางมีความสามารถเช่นนั้นหรือ นางมีความกล้าหรือไม่”