ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนทที่ 209 เทศกาล(กลาง)

ตอนทที่ 209 เทศกาล(กลาง)

“​เจ้า​ไม่กล้า​ ​เจ้า​ไม่กล้า​อะไร​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ชี้​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​ควน​ด้วย​ปลายนิ้ว​ที่​สั่นเทา

ที่​ไท่ฮู​หยิน​เป็น​แบบนี้​ ​ก็เพราะว่า​นาง​ไม่ต้องการ​ให้​สวี​ลิ่ง​ควน​พูดความจริง​ออกมา​

สือ​อี​เหนียง​คิด​เช่นนี้​ก็​รีบ​เดิน​เข้าไป​พูดว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​คุณชาย​ห้า​ไม่ได้ตั้งใจ​เจ้าค่ะ​ ​ท่าน​อย่า​โมโห​เลย​นะ​เจ้า​คะ​ ​ประเดี๋ยว​จะ​ไม่สบาย​เอา​ได้​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​ขยิบตา​ให้ฮู​หยิน​ห้า​ ​บอก​ให้​นาง​ช่วยเหลือ​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​เนื่องจากฮู​หยิน​ห้า​ตั้งครรภ์​อยู่​ ​ใน​สถานการณ์​เช่นนี้​ไท่ฮู​หยิน​จะ​ต้อง​ไว้หน้า​นาง​แน่นอน​ ​เขา​จะ​ได้​ถือโอกาส​นี้​หาทาง​ออก​ได้

ฮู​หยิน​ห้า​ตกใจ

ตอนนี้​เยี​่​ยน​จิง​รู้กัน​หมด​แล้ว​ว่า​หย่ง​ผิง​โหว​มี​ภรรยานอกสมรส​ ​แล้วยัง​มีบุ​ตร​อีก​คน​หนึ่ง​ ​ถึงแม้ว่า​สถานะ​ของ​ภรรยานอกสมรส​คน​นั้น​ ​บางครั้ง​ลือ​กัน​ว่า​เป็น​นางรำ​ ​บางครั้ง​ลือ​กัน​ว่า​เป็น​หญิง​คณิกา​ ​ถึงขั้น​มี​คนพูด​กัน​ว่า​เป็น​หญิง​ของ​หัวหน้า​ค่ายทหาร​ของเ​เคว​้น​เหมียว​เจียง​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​จะ​เลี้ยง​ไว้​ข้างนอก​ทำไม​ ​เปลี่ยน​สถานะ​แล้วแต่ง​เข้ามา​ ​หยวน​เหนียง​จะ​ไม่ยอม​เช่นนั้น​หรือ​ ​สงสัย​คงจะ​กังวล​ว่า​หากแต่ง​เข้ามา​แล้ว​นาง​จะ​กล้า​เป็น​ชิว​หลัว​คนที​่​สอง​ ​ก่อนที่จะ​เป็น​อี๋​เหนียง​นั้น​เป็น​คนที​่​สวยงาม​และ​เฉลียวฉลาด​ ​แต่​หลังจากที่​ได้​เลื่อนขั้น​เป็น​อี๋​เหนียง​แล้ว​กลับกลาย​เป็น​คนโง่​เขลา​ ​บุรุษ​แต่ง​อนุภรรยา​เข้ามา​ ​หนึ่ง​คือ​เพื่อ​บุตร​ของ​ตัวเอง​ ​สอง​คือ​เพราะ​ความชอบ​ใจ​ ​แต่​หยวน​เหนียง​กลับ​ทำให้​อี๋​เหนียง​แต่ละคน​กลับกลาย​เป็น​สตรี​ธรรมดาๆ​ ​บุรุษ​เห็น​เช่นนี้​แล้ว​จะ​รู้สึก​อะไร​ได้​เล่า​ ​แน่นอน​ว่า​เขา​ต้อง​แอบ​คิดถึง​เรื่อง​อื่น​…​แต่​ถึง​จะ​เป็น​เช่นนี้​ ​เหตุใด​สวี​ลิ่ง​ควน​ถึง​ต้อง​กระวนกระวาย​ขนาด​นี้

นี่​เป็นเรื่อง​ส่วนตัว​ของ​เรือน​คุณชาย​สี่​!​

น้องชาย​อย่าง​เขา​จะ​ไป​จัดการ​ได้​เช่นไร

นาง​สับสน​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​ใน​สถานการณ์​ตอนนี้​ ​ไม่เพียงแต่​ถาม​ไม่ได้​ ​แล้วยัง​แสดงออก​ไม่ได้​ ​ต้อง​รู้​ว่า​ ​หาก​สามีภรรยา​ไม่​รัก​และ​สามัคคี​กัน​ ​คนอื่น​ก็​จะ​รังแก​เอา​ได้​ ​หาก​ตน​ทำเป็น​ทะเลาะ​กับ​สวี​ลิ่ง​ควน​ต่อหน้า​คนนอก​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​ไท่ฮู​หยิน​ ​แม้แต่​ใน​บรรดา​ลูกสะใภ้​ด้วยกัน​ก็​จะ​ดูถูก​นาง​ทันที​ ​ต้อง​รู้​ว่า​ ​ภรรยา​ที่​ไม่มี​สามี​คอย​ปกป้อง​ ​ต่อให้​แข็งแกร่ง​เพียงใด​ ​ก็​แข็งแกร่ง​ไป​กว่า​โลก​ใบ​นี้​ไม่ได้

ความคิด​นี้​วาบ​ขึ้น​มา​ ฮู​หยิน​ห้า​พลัน​ทำ​สีหน้า​เสียใจ​ ​เดิน​เข้าไป​แล้ว​คุกเข่า​ลง​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​อย่า​โมโห​ไป​เลย​เจ้าค่ะ​ ​ท่าน​พี่​นั้น​พูดจา​ไม่​เป็น​…​”​

นาง​พึ่ง​จะ​คุกเข่า​ลง​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​รีบ​ประคอง​นาง​ยืน​ขึ้น​ ​“​เจ้า​กำลัง​ตั้งครรภ์​ ​คุกเข่า​ไม่ได้​!​”​ ​จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ที่​ไท่ฮู​หยิน​ด้วย​สายตา​ขอความช่วยเหลือ

ฮู​หยิน​สาม​เป็น​คนฉลาด​ ​นาง​ได้สติ​กลับมา​ ​ก็​รีบ​เดิน​เข้าไป​ช่วย​สวี​ลิ่ง​ควน​พูด​ ​“​ใช่​เจ้าค่ะ​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​ไม่เห็น​แก่​หน้า​น้อง​ห้า​ก็​เห็นแก่หน้า​น้อง​สะใภ้​ห้า​เถิด​เจ้าค่ะ​ ​ให้อภัย​น้อง​ห้า​สักครั้ง​เถิด​เจ้าค่ะ​ ​เขา​สำนึกผิด​แล้ว​”

เจตนา​เดิม​ของ​ไท่ฮู​หยิน​คือ​อยาก​ให้​สวี​ลิ่ง​ควน​หยุด​พูด​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ทุกคน​ล้วน​ช่วย​เขา​พูด​แก้ตัว​ ​นาง​จึง​ทำ​สีหน้า​หาย​โมโห​

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​เช่นนี้​ก็​รีบ​พูดว่า​ ​“​ยัง​ไม่​รีบ​ลุกขึ้น​มา​อีก​!​ ​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​ดี​ๆ​ ​อย่า​ได้​พูดแทรก​”

ฮู​หยิน​สาม​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​มอง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ทำท่า​ที​อยาก​ยิ้ม​แต่​ก็​ไม่กล้า​ยิ้ม​ ​ดูแล​้ว​แปลกประหลาด

คุณชาย​สาม​เห็น​เช่นนี้​ก็​เป็นกังวล

เรื่อง​ของ​วันนี้​แค่​ฟัง​ก็​รู้​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​หา​ข้ออ้าง​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ถือโอกาส​รับ​เด็ก​คน​นั้น​เข้ามา​ใน​สกุล​ ​ใคร​ขวาง​คน​นั้น​ก็​ซวย​!​ ​อย่า​ปล่อย​ให้​ภรรยา​ของ​ตัวเอง​เข้าไป​ยุ่ง​โดยที่​ไม่รู้​เรื่อง​อะไร​จะ​ดีกว่า​

เขา​รีบ​ดึง​แขน​เสื้อ​ของฮู​หยิน​สาม​แล้ว​พูดเป็นนัย​ว่า​ ​“​ทุกอย่าง​ล้วน​ขึ้นอยู่กับ​ท่าน​แม่​ ​เจ้า​พูดจา​อะไร​เหลวไหล​”

ฮู​หยิน​สาม​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​เบา​ๆ

แต่​เมื่อ​เงยหน้า​ขึ้น​เห็น​ความกังวล​บน​ใบหน้า​ของ​สามี​ของ​ตน​ ​นาง​จึง​ฝืนยิ้ม​เอาไว้

พวกเขา​ช่างคิด​ได้​จริงๆ​!

ถ​งอี​๋​เหนียง​เสียชีวิต​ไป​ตั้ง​สิบ​กว่า​ปี​แล้ว​ ​ตอนนี้​มา​เข้าฝัน​ท่าน​โหว​บอก​ให้​เขา​รับ​เด็ก​มา​เลี้ยง​ในนามของ​นาง​เพื่อ​คอย​จุด​ธูป​ให้​นาง​ ​เคย​ได้ยิน​แค่​ว่า​เมื่อ​ภรรยา​เอก​เสียชีวิต​แล้วแต่​ไม่มี​บุตรชาย​ ​จึง​ต้อง​ไปรับ​เด็ก​มา​เลี้ยง​ในนามของ​ตัวเอง​ ​เพื่อ​คอย​จุด​ธูป​ให้​นาง​ ​แต่​ไม่เคย​ได้ยิน​ว่า​มี​อนุภรรยา​ที่ไหน​ที่สามา​รถ​ทำ​เหมือนเช่น​ภรรยา​เอก​ได้​ ​ในเมื่อ​รัก​นาง​ขนาด​นี้​ ​เหตุใด​ตอนนั้น​ถึง​ไม่​สืบ​เรื่องราว​ให้​ดี​ ​ปล่อย​ให้​หยวน​เนียง​ชี้​นก​เป็น​นก​ ​ชี้​ไม้​เป็น​ไม้​ ​แต่​ตอนนี้​กลับ​คิด​จะ​รับ​เด็ก​มา​เลี้ยง​ในนามของถ​งอี​๋​เหนียง​…

คิด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง

นาง​กลับ​อยู่​เป็น​ ​ไม่พูดไม่จา​ ​ท่าน​โหว​จะ​กระทำ​สิ่งใด​ก็​ปล่อย​ให้​เขา​ทำ​ ​อาจจะ​เป็นเพราะว่า​ไม่เคย​มี​ใคร​สอนสั่ง​นาง​ ​เรา​ต้อง​รู้​ว่า​บุรุษ​ก็​เหมือน​เด็กน้อย​ ​ตบ​หัว​แล้ว​ต้อง​ลูบ​หลัง​ ​เอาแต่​เชื่อฟัง​เขา​ตลอด​ ​เขา​จะ​ค่อยๆ​ ​มองไม่เห็น​หัว​ตัวเอง​ ​และ​หาก​เอาแต่​ดุด่า​เขา​ ​เขา​ก็​จะ​ค่อยๆ​ ​หวาดกลัว​แล้ว​ไม่​เข้าใกล้

แต่ว่า​ ​เรื่อง​นี้​เป็นเรื่อง​ของ​พวกเขา​ ​ไม่เกี่ยว​กับ​ตัวเอง​ ​เมื่อ​ปีใหม่​พ้นไป​แล้ว​ ​ตน​ก็​จะ​พาลูก​ๆ​ ​และ​สามี​ออก​ไป​จาก​เมืองหลวง​ ​ไป​ใช้ชีวิต​เช่นฮู​หยิน​ที่​ไร้​แม่​สามี​ ​ไม่มี​เหล่า​บรรดา​สะใภ้​ด้วยกัน​คอย​พูดจา​อะไร​เหลวไหล​ ​ฉิน​เกอ​และ​เจี่ยน​เกอ​ก็​ไป​เป็น​ขุนนาง​ข้าราชการ​ ​ยาม​ที่​พูด​เอ่ย​สิ่งใด​ออก​ไป​ก็​ล้วน​น่าเชื่อถือ​และ​มีหน้ามีตา​ ​เรื่อง​แต่งงาน​ก็​ไม่น่า​เป็นห่วง​แล้ว

นาง​คิด​พลาง​ขมวดคิ้ว

ตอนที่​กลับ​ไป​มอบ​ของขวัญ​ปีใหม่​ที่​สกุล​เดิม​ ​ได้ยิน​พี่สะใภ้​ใหญ่​บอกว่า​นาง​ชอบ​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​สกุล​หวัง​ของ​เจิ​้น​หนาน​โหว​ ​เมื่อ​รู้​เจตนา​ของ​ตัวเอง​ ​นาง​ก็​อยาก​ให้​คุณหนู​สาม​ ​บุตรสาว​ของ​อนุภรรยา​มา​แต่งงาน​กับ​ฉิน​เกอ​

ความคิด​นี้​วาบ​ขึ้น​มา​ ฮู​หยิน​สาม​พลัน​มีสี​หน้า​เย็นชา​ลง

คิด​ว่า​ตัวเอง​สูงส่ง​แล้ว​ดูถูก​คนอื่น

รอ​ให้​คุณชาย​สาม​หา​ประสบการณ์​ข้างนอก​สัก​สอง​สาม​ปี​ ​มี​ความดี​ความชอบ​ ​แล้ว​ค่อย​ไป​ขอร้อง​ฮองเฮา​ ​ให้​เขา​รับ​ตำแหน่ง​รอง​เจ้ากรม​อาลักษณ์​ก็ได้​ ​ถึง​ตอนนั้น​ ​ข้า​จะ​ดู​ว่า​เจ้า​จะ​ทำ​หน้า​เช่นไร​กับ​ข้า​!

ฮู​หยิน​สาม​กำลัง​ครุ่นคิด​เรื่อง​นี้​ ​ขณะที่​คุณชาย​สาม​เดิน​ไป​ประคอง​สวี​ลิ่ง​ควน​ให้​ลุกขึ้น​

“​มี​อะไร​ก็​ค่อยๆ​ ​พูด​ ​ค่อยๆ​ ​จา​”​ ​เขา​เกลี้ยกล่อม​น้องชาย​ ​“​ท่าน​แม่​รัก​และ​เอ็นดู​เจ้า​มาต​ลอด​ ​เจ้า​อย่า​ทำให้​ท่าน​แม่​เสียใจ​”

“​ข้า​…​”​ ​ทุกคน​กดดัน​เขา​ ​ทำให้​สวี​ลิ่ง​ควน​ไม่รู้​ว่า​จะ​เริ่ม​จาก​ตรงไหน

ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ว่า​เขา​ไม่เข้าใจ​ ​รู้​ว่า​ตอนนี้​ต้อง​ตัดสินใจ​ให้​เด็ดขาด​ ​ดีที​่​ตน​ตระเตรียม​แผนการ​เอาไว้​แล้ว​…

นาง​กระแอม​อย่างแรง

ใน​ห้อง​พลัน​เงียบ​ลง​ทันที​ ​ทุกคน​ต่าง​ก็​มอง​มาที​่​นาง​

“​เว​่ย​จื่อ​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​เรียก​สาวใช้​ให้​เข้ามา​ ​“​ไป​บอก​ให้​ป้า​ตู้​เข้ามา​”

เว​่ย​จื่อ​ตอบรับ​ผ่าน​ผ้าม่าน​ ​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ม่าน​ก็​เปิด​ขึ้น​ ​ป้า​ตู้​อุ้ม​เฟิ​่ง​ชิง​เดิน​เข้ามา

ทุกคน​ดู​ตกใจ

ตอนแรก​บอกว่า​จะ​เลี้ยงเด็ก​คน​หนึ่ง​ในนามของถ​งอี​๋​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​อุ้ม​เด็ก​เข้ามา​ให้​ทุกคน​ดู​ ​เห็นได้ชัด​ว่านาง​วางแผน​ไว้​อยู่​แล้ว

ดู​เด็ก​คน​นั้น​…

เขา​กำลัง​มองดู​ทุกคน​ด้วย​ความหวาดกลัว​

เมื่อ​เห็น​หน้าตา​ที่​คุ้นเคย​ ​สายตา​ของ​เขา​ก็​เป็นประกาย​ขึ้น​ ​จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​สือ​อี​เหนียง​อย่าง​มีความหวัง

สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​มอง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​ควน​ที่​มีท​่า​ที​แปลก​ๆ​ ​ทำให้​เขา​ไม่สบายใจ​ ​เขา​ไม่ได้​สังเกตเห็น​ท่าที​ของ​เด็ก​คน​นั้น​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​ที่​สังเกตเห็น​ทุกอย่าง​จึง​ยิ้ม​ให้​เฟิ​่ง​ชิง​อย่าง​อ่อนโยน​ ​บอก​เขา​ว่า​ไม่ต้อง​หวาดกลัว

เฟิ​่ง​ชิง​ดิ้น​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​ป้า​ตู้​ ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ส่ายหน้า​ให้​ตัวเอง​เบา​ๆ​ ​เขา​ก็​รู้สึก​ถึง​ความไม่พอใจ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​จึง​พยายาม​อดทน​อดกลั้น​ต่อ​ความหวาดกลัว​ ​ปล่อย​ให้​ป้า​ตู้​ที่​เกือบจะ​โดน​เขา​กัด​เมื่อ​ครู่​อุ้ม​อยู่​ใน​อ้อมแขน​เช่น​เดิม

“​นี่​ก็​คือ​เด็ก​คน​นั้น​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​อย่างตรงไปตรงมา​ ​“​ปีนี​้​อายุ​สาม​ขวบ​ ​อยู่​อันดับ​ที่​ห้า​ของ​บรรดา​พี่น้อง​ ​ความล้มเหลว​ใน​อดีต​คือ​บทเรียน​ใน​ปัจจุบัน​ ​ท่าน​โหวตั​้ง​ชื่อ​เขา​ว่า​ซื่อ​เจี​้​ย.​..​”

ตั้งชื่อ​นี้​ให้​เขา​!

สือ​อี​เหนียง​หันไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​มองดู​สวี​ลิ่ง​ควน​ที่​สีหน้า​เปลี่ยนไป​เป็น​เคร่งขรึม

สำหรับฮู​หยิน​ห้า​ที่​เอาแต่​มอง​สามี​ของ​ตัวเอง​ ​นาง​เอาแต่​ขมวดคิ้ว

“​…​ให้​สือ​อี​เหนียง​เป็น​คนเลี้ยง​ดู​เขา​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​แล้ว​หยิบ​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​ ​“​ดึก​มาก​แล้ว​ ​ทุกคน​แยกย้าย​กัน​ไป​เถิด​”

คุณชาย​สาม​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รีบ​ดึง​เสื้อ​ของฮู​หยิน​สาม​ ​ยิ้ม​แล้ว​ลาก​บุตรชาย​สอง​คนที​่​กำลัง​ตกใจ​กับ​ข่าว​นี้​ ​“​ท่าน​แม่​ ​เช่นนั้น​เรา​ขอตัว​กลับ​ก่อน​นะ​ขอรับ​ ​พรุ่งนี้​คือ​วัน​ส่งท้าย​ปี​เก่า​ ​ยัง​ต้อง​จัด​พิธี​บูชา​บรรพบุรุษ​!​”

ฮู​หยิน​สาม​ก็​พูด​ต่อ​ทันที​ ​“​ใช่​เจ้าค่ะ​ ​พรุ่งนี้​เช้า​เรา​ยัง​ต้อง​ตื่น​มา​จัด​อาหารค่ำ​วัน​ส่งท้าย​ปี​เก่า​ ​ขอตัว​กลับ​ก่อน​นะ​เจ้า​คะ​”

ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า

พวกเขา​สอง​คน​ก็​พาบุ​ตร​ชาย​ของ​ตัวเอง​กลับ​ไป

ฮู​หยิน​ห้าม​อง​ดู​สามี​ที่​กำลัง​เหม่อลอย​ของ​ตัวเอง​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​ผลัก​เขา​เบา​ๆ​ ​“​คุณชาย​ห้า​ ​เรา​ก็​กลับกัน​เถิด​เจ้าค่ะ​ ​ทางเดิน​ใน​สวน​หลัง​จวน​ไม่​ค่อย​สะดวก​นัก​”

สวี​ลิ่ง​ควน​ราวกับ​ตื่นขึ้น​มาจาก​ความฝัน​ ​เขา​เหลือบมอง​เฟิ​่ง​ชิง​ ​กระอึกกระอัก​ ​แต่กลับ​ไม่​รีบ​ออก​ไป​พูด​

“​น้อง​สะใภ้​ห้า​ ​ข้ามี​เรื่อง​จะ​พูด​กับ​น้อง​ห้า​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้น​มา​อย่างกะทันหัน​ ​“​เจ้า​กลับ​ไป​ก่อน​เถิด​!​ ​ประเดี๋ยว​เขา​ตาม​ไป​”

“​พี่​สี่​…​”​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​มอง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​สีหน้า​ที่​ซับซ้อน

ระหว่าง​พวกเขา​สอง​คน​ก็​มี​ความเข้าใจ​กันที่​อธิบาย​ไม่ได้​

ฮู​หยิน​ห้า​หันหน้า​มาก​ล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​ขอตัว​กลับ​ก่อน​นะ​เจ้า​คะ​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​สวี​ลิ่ง​ควน​เบา​ๆ​ ​“​คุณชาย​ห้า​ระวัง​ถนนหนทาง​ด้วย​นะ​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​ควน​พยักหน้า​อย่างใจ​ลอย

จากนั้นฮู​หยิน​ห้า​ก็​เดิน​ออก​ไป​กับ​บรรดา​สาวใช้

“​ท่าน​แม่​ ​เหตุใด​เขา​ถึง​มา​อยู่​ที่​จวน​ของ​เรา​”​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มีเสียง​ที่​ชัดเจน​ที่​เต็มไปด้วย​ความสงสัย​ของ​จุน​เกอ​ดัง​ขึ้น​มา​ ​“​เขา​จะ​อยู่​กับ​ท่าน​เหมือน​พี่​หญิง​หรือ​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ละอายใจ

เอาแต่​เป็นห่วง​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​แต่กลับ​ลืม​เด็ก​สอง​คน​นี้​ไป​!

นาง​รีบ​มอง​ไป​ที่​สวี​ซื่อ​อวี​้​ที่​ไม่พูดไม่จา​ ​นาง​ชอบ​เด็ก​ที่​พูดจา​สื่อสาร​กัน​ง่าย​ ​แต่​นาง​กลัว​แค่​คนที​่​เก็บ​เรื่อง​ต่างๆ​ ​ไว้​ใน​ใจ​

สีหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ซีด​ลง​ ​เขา​ก้มหน้าก้มตา​มองดู​ก้อนอิฐ​สีฟ้า​ที่อยู่​ใต้เท้า​ของ​ตัวเอง​ ​ท่าที​ก็​เงียบสงบ​ราวกับ​ก้อนอิฐ​ที่อยู่​ใต้เท้า​

เขา​โต​แล้ว​ ​รู้ความ​แล้วจึง​มี​ความคิด​มากกว่า

เฟิ​่ง​ชิง​ที่​เปลี่ยน​ชื่อ​แล้ว​เข้ามา​เป็นสมาชิก​ใน​ตระกูล​ ​สำหรับ​เขา​แล้ว​มัน​หมายความ​อย่างไร​ ​เขา​มีความรู้สึก​ที่​ลึกซึ้ง​กว่า​คนอื่น​…​นาม​ของ​เฟิ​่ง​ชิง​คือ​ ​‘​เจี​้ย​’​ ​มีความหมาย​ว่า​ ​‘​บัญญัติ​’​ ​ส่วน​ชื่อ​ของ​เขา​คือ​ ​‘​อวี​้​’​ ​มีความหมาย​ว่า​ ​‘​บัญชา​’​ ​นอกจาก​ความ​หัวอก​เดียวกัน​ของ​ลูก​อนุ​เหมือนกัน​แล้ว​ ​เกรง​ว่า​เขา​คงจะ​กังวล​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​รัก​และ​เอ็นดู​สวี​ซื่อ​เจี้ยมา​กก​ว่า​เขา​!

สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้าไป​ลูบ​หัว​จุน​เกอ​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ตั้งแต่นี้ไป​ ​เขา​คือ​บุตรบุญธรรม​ของ​พ่อ​เจ้า​ ​นับเป็น​น้องชาย​ของ​เจ้า​ ​ดังนั้น​เขา​ต้อง​อยู่​ที่​จวน​ของ​เรา​ ​เหมือนกับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​เรือน​ของ​ข้า​ ​เขา​อายุ​น้อยกว่า​เจ้า​ ​ต่อไป​เจ้า​จะ​ต้อง​ดี​กับ​เจี​้ย​เกอ​เหมือน​ที่​พี่​ๆ​ ​ของ​เจ้า​ดี​กับ​เจ้า​”

จุน​เกอ​ยิ้ม​อย่าง​สดใส​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​ให้​เขา​ช่วย​ริน​ชา​ให้​ข้า​ได้​หรือไม่​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​“​ได้​สิ​ ​แต่ว่า​ต้อง​รอ​ให้​เขา​โตก​ว่านี​้​อีกหน่อย​ ​ไม่เช่นนั้น​เขา​จะ​ถูก​น้ำร้อน​ลวก​มือ​เอา​ได้​”

จุน​เกอ​พยักหน้า​ ​“​ข้า​จะ​เอา​ลูกขนไก่​ของ​ข้า​ให้​เขา​เตะ​ด้วย​”​ ​เขา​พูด​แล้ว​เดิน​ไป​จับมือ​เฟิ​่ง​ชิง​ที่​เปลี่ยน​ชื่อ​เป็น​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แล้ว​ ​แต่กลับ​ถูก​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยสะ​บัด​มือ​ออก​ ​จากนั้น​ก็​หลบ​เข้าไป​ใน​อ้อมกอด​ของ​ป้า​ตู้​แล้ว​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​

ไท่ฮู​หยิน​เห็น​เช่นนี้​ก็​ขมวดคิ้ว

สือ​อี​เหนียง​รีบ​เดิน​เข้าไป​อุ้ม​สวี​ซื่อ​เจี้ยมา​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ของ​ตัวเอง

ประสบการณ์​ของ​เขา​ทำให้​เขา​หวาดกลัว​คนแปลกหน้า​ ​นาง​เข้าใจ​ได้​ ​แต่​ใช่​ว่า​ทุกคน​จะ​ให้อภัย​ใน​ความ​ไร้มารยาท​ของ​เขา​ ​โดยเฉพาะ​การกระทำ​เช่นนี้​ต่อ​ความเป็นมิตร​ของ​บุตร​ภรรยา​เอก​อย่าง​สวี​ซื่อ​จุน​

“​จุน​เกอ​เอ๋อร​์​”​ ​นาง​ยิ้ม​ ​“​เจี​้ย​เกอ​เอ๋อร​์​พึ่ง​จะ​มาถึง​ ​เขา​จึง​กลัว​คนแปลกหน้า​ ​ต่อไป​หาก​เขา​สนิท​กับ​เจ้า​แล้ว​ ​รู้​ว่า​เจ้า​คือ​พี่ชาย​ของ​เขา​ ​เขา​ก็​จะ​ไป​เล่น​กับ​เจ้า​อย่างแน่นอน​”​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​ถาม​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​ใช่​หรือไม่​”​

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​อด​คอสื​ออี​เหนียง​แน่น​แต่​ก็​ไม่​พูด​อะไร

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท