ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 285 จัดการ(กลาง)

ตอนที่ 285 จัดการ(กลาง)

“​พี่สะใภ้​สอง​เป็น​บุตรสาว​ที่​แต่งงาน​ออกเรือน​ไป​แล้ว​ ​สกุล​เดิม​ก็​มีพี​่​ชาย​และ​พี่สะใภ้​ ​พี่สะใภ้​สอง​จะ​พูด​อะไร​ได้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​พี่สะใภ้​สอง​ส่ง​คน​ไปรา​ยงา​นนาย​หญิง​เซี่ยง​ตั้งแต่​เช้า​เมื่อวาน​แล้ว​ ​บอกว่า​เรื่อง​ของ​สกุล​เซี่ยง​ให้​ใต้เท้า​เซี่ยง​เป็น​คน​ตัดสินใจ​ก็​พอ​”

“​มัน​เหมือน​ที่​เรา​คาดเดา​เอาไว้​ก็ดี​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​โล่งใจ

มีบ​่า​วรับ​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“​ท่าน​โหว​ขอรับ​ ​ใต้เท้า​หม่ามา​ขอรับ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ลุกขึ้น​ทันที​ ​“​เชิญ​ใต้เท้า​หม่า​ไปรอ​ที่​ห้อง​หนังสือ​ก่อน​”​ ​จากนั้น​ก็​หันมา​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​กรม​พิธีการ​ร่าง​รายชื่อ​พระ​ชายา​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​ ​ข้า​บอก​ให้​หม่า​จั่ว​เหวิ​นมา​รายงาน​ข้า​”

หาก​ภาค​ภายหน้า​องค์​ชาย​ใหญ่​จะ​ได้รับ​ทรัพย์สมบัติ​ชิ้น​ใหญ่​ ​เช่นนั้น​การ​เลือก​พระ​ชายา​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​ก็​จะ​เกี่ยวข้อง​กับ​ความสัมพันธ์​ในอนาคต​ของ​สกุล​สวี​และ​ราชวงศ์

สือ​อี​เหนียง​รีบ​ลุกขึ้น​ออก​ไป​ส่ง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​หลังจาก​กลับมา​ก็​จิตใจ​ว้าวุ่น

ไม่รู้​ว่า​องค์​ชาย​ใหญ่​จะ​เลือก​ผู้ใด​กัน

นาง​พึ่ง​จะ​ไม่สบายใจ​ก็​มีสาว​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​มา​เจ้าค่ะ​”

หลบหน้าหลบตา​ตั้ง​หลาย​วัน​ ​แต่​สุดท้าย​ก็​หลบ​ไม่​พ้นอ​ยู​ดี

สือ​อี​เหนียง​ลอบ​ถอนหายใจ​ ​“​เชิญ​นาง​เข้ามา​เถิด​”​ ​จากนั้น​ก็​ออก​ไป​ที่​ห้องโถง

ไต้​ซือ​จี้​หนิง​สวม​ชุด​สีฟ้า​ ​ยิ้ม​อย่าง​เป็นมิตร​พลาง​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​เอ่ย​ถาม​เจตนา​ของ​นาง​ ​ทำ​เพียงแค่​ยก​ชามา​ต้อนรับ​ ​“​นี่​เป็น​ชา​หลง​จิ​่ง​สมัยก่อน​ราชวงค์​หมิง​ที่​ไท่ฮู​หยิน​มอบให้​เจ้าค่ะ​”

ไต้​ซือ​จี้​หนิง​ก็​ไม่ได้​เอ่ยถึง​เหตุผล​ที่​ตน​มาหา​นาง​ ​ยิ้ม​แล้ว​จิบ​ชา​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ชื่นชม​ว่า​เป็น​ชา​ชั้นดี

ทั้งสอง​คน​ไม่ยอม​พูด​อะไร​ ​คน​หนึ่ง​ชักช้า​ลีลา​ ​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​เงียบสงบ​ราวกับ​สายลม​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​พูด​เรื่องไร้สาระ​อยู่นาน​ ​แต่​สายตา​ที่​สือ​อี​เหนียง​ใช้​มอง​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​กลับ​เปลี่ยนไป​ ​คนที​่​พูดจา​เป็น​แล้วยัง​มี​ความอดทน​เช่นนี้​ ​ใคร​กัน​จะ​กล้า​ดูถูก​ ​จึง​บอก​หู่​พั่ว​ ​“​ต่อไป​หาก​เจอ​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​ ​พวก​เจ้า​ต้อง​พูดจา​ระมัดระวัง​เพิ่ม​อีก​สักหน่อย​”

หู่​พั่ว​คำนับ​แล้ว​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​มา​พอดี

“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​แม่เจ้า​คะ​”​ ​นาง​หน้าแดง​ ​ใบหน้า​เต็มไปด้วย​ความดีใจ​ ​ปรี่​เข้ามา​จับ​แขน​เสื้อ​ของ​สือ​อี​เหนียง​และ​กระซิบ​บอก​ ​“​…​ข้า​กับ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​แอบ​ไปดู​คุณชาย​เติ้ง​มา​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​พูดเสี​ยง​เบา​ ​บอกเล่า​ความลับ​ของ​ตัวเอง​ให้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​อย่าง​มีความสุข​ ​“​แต่​น่าเสียดาย​ที่​คน​เยอะ​เกินไป​ ​ไม่รู้​ว่า​คนที​่​เรา​เห็น​คือ​คุณชาย​เติ้ง​แน่​หรือไม่​”

เด็กผู้หญิง​อายุ​สิบ​สามสิบ​สี่​ปี​ ​คือ​ช่วงเวลา​ที่​สวยงาม​ ​ไร้เดียงสา​และ​สดใส​ร่าเริง​

“​อ้อ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ที่นา​งด​้วย​รอยยิ้ม​ ​“​แล้ว​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

จู่ๆ​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​นั่ง​ตัวตรง​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ยุ่ง​หรือไม่​เจ้า​คะ​ ​หาก​ท่าน​ยุ่ง​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​ค่อย​กลับมา​”

คงจะ​นึกถึง​เรื่อง​ครั้งก่อน​ขึ้น​มา​!

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ช่วง​บ่าย​ไม่มี​เรื่อง​อัน​ใด​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พิง​ที่​ไหล่​นาง​ ​“​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​คุณชาย​เติ้ง​แลก​หนังสือ​ผูกดวง​กัน​แล้ว​ ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​จึง​บอกว่า​จะ​ไป​ช่วย​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ดู​ ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ไม่ยอม​ไป​ ​แต่​คุณหนู​สกุล​หลี​่​อยาก​ไป​ ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​จึง​บอกว่า​ถ้าเช่นนั้น​ก็​ไม่​ไป​แล้ว​ ​แต่กลับ​แอบ​ลาก​ข้า​ไป​ลับหลัง​สอง​คน​นั้น​เจ้าค่ะ​”

“​ประเดี๋ยวก่อน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขัดจังหวะ​นาง​ ​“​หรือว่า​พวก​เจ้า​ไป​ที่​เรือน​ของ​คุณชาย​เติ้ง​?​”

“​ไม่ใช่​เจ้าค่ะ​ ​ไม่ใช่​เจ้าค่ะ​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รีบ​โบกมือ​ปฏิเสธ​พัลวัน​ ​“​เรา​ดื่ม​ชา​อยู่​ที่​ห้อง​รับรอง​แขก​ใน​ห้อง​หลัก​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ ​ได้ยิน​สาวใช้​บอกว่า​คุณชาย​สอง​สาม​คน​ของ​สกุล​เซ่า​ ​รวมถึง​คุณชาย​เติ้ง​มาคา​รวะ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ ​จึง​แอบดู​ผ่าน​ม่าน​บัง​ลม​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​ ​พลัน​นึกถึง​กาน​หลาน​ถิง​ขึ้น​มา

“​แล้ว​หลังจากนั้น​เป็น​อย่างไร​หรือ​”​ ​นาง​ถาม​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พูดว่า​ ​“​สาวใช้​บอกว่า​คุณชาย​เติ้ง​สวม​เสื้อคลุม​สีเขียว​ ​แต่​ที่นั่น​มีส​องค​นที​่​สวม​เสื้อคลุม​สีเขียว​จึง​ไม่รู้​แน่ชัด​ว่า​คน​ไหน​คือ​คุณชาย​เติ้ง​ ​แต่​คุณชาย​ทั้งสอง​คน​ล้วน​สง่างาม​ ​เหมาะสม​กับ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​พูด​แล้วก็​หน้าแดง​ขึ้น​มา​อย่าง​เขินอาย

สือ​อี​เหนียง​เห็น​เช่นนี้​แล้วก็​ยิ้ม​ ​“​ท่าน​ปู่​และ​ท่าน​ลุง​ของ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​คนเลื​อก​ ​คงจะ​มอง​คน​ไม่ผิด​กระมัง​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พยักหน้า​แล้ว​พูดว่า​ ​“​แต่​ได้ยิน​มา​ว่างาน​แต่งงาน​ของ​อา​หญิง​ห้า​ของ​สกุล​หลิน​ล้มเลิก​อีกแล้ว​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​“​นาง​ไม่​ถูกใจ​เขา​หรือ​”

“​ไม่ใช่​เจ้าค่ะ​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พูด​ ​“​ดวง​ไม่​สมพงศ์​กัน​เจ้าค่ะ​”

เช่นนี้​ก็​แสดงว่า​ฝ่าย​ชาย​ไม่​ถูกใจ​ฝ่าย​หญิง​!

เรื่อง​งานแต่งงาน​ของ​คุณหนู​ห้า​สกุล​หลิน​ผู้​นี้​ช่าง​ยากเย็น​เสีย​จริง​!

“​ดังนั้น​หลินฮู​หยิน​จึง​ไม่พอใจ​เป็นอย่างมาก​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พูด​ต่อ​ ​“​ทำให้​บรรยากาศ​ใน​จวน​อึดอัด​ไม่น้อย​เจ้าค่ะ​”

“​เช่นนั้น​ ​พวก​เจ้า​จัดงาน​เลี้ยง​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​หลินฮู​หยิน​ว่ากล่าว​อะไร​หรือไม่​”

“​ไม่ได้​ว่า​อะไร​เจ้าค่ะ​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยิ้ม​ ​“​ไม่เพียงแต่​ไม่ว่า​อะไร​ ​แล้ว​ตอนบ่าย​ยัง​มา​เล่น​สนุก​กับ​พวก​ข้า​ ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เอง​ก็​บอกว่า​ ​โชคดี​ที่​จัดงาน​เลี้ยง​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​ไม่เช่นนั้น​คงจะ​อึดอัด​น่าดู​”

หลินฮู​หยิน​คงจะ​ไม่พอใจ​เรื่อง​งานแต่งงาน​ของ​บุตรสาว​ตัวเอง​ ​เลย​ถือโอกาส​นี้​พักผ่อน​!

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​แล้ว​ถาม​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​คงจะ​ยัง​แต่งงาน​ตอนนี้​ไม่ได้​”

“​เจ้าค่ะ​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พยักหน้า​ ​“​ดังนั้น​ทุกคน​ที่​ได้ยิน​เช่นนี้​ ​จึง​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​”​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​ ​“​แต่ว่า​เรา​ไม่ได้​หวัง​ว่า​อา​หญิง​ห้า​สกุล​หลิน​จะ​แต่ง​ออก​ไป​ไม่ได้​นะ​เจ้า​คะ​”

นาง​มีท​่า​ที​สดใส​ร่าเริง

ทำเอา​สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​ออกมา

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​มี​เพื่อน​ที่​อายุ​เท่ากัน​แล้ว​ร่าเริง​ขึ้น​ไม่น้อย

พวก​นาง​สอง​คนพูด​คุย​หัวเราะ​กัน​อย่างสนุกสนาน​ ​เห็น​ว่า​สาย​มาก​แล้ว​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​กลับ​ไป​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ที่​เรือน​เสา​หวา​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​พาส​วี​ซื่อ​เจี​้ย​ไป​ทานอาหาร​เย็น​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​ถามถึง​เรื่อง​งานเลี้ยง​ฤดูใบไม้ผลิ

“​…​แม่ครัว​ทำ​ขนม​ผักกาด​ ​รสชาติ​ไม่​ฝาด​เหมือน​ขนม​ผักกาด​ทั่วไป​ ​แต่​ทาน​แล้ว​กลับ​หอมหวาน​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยิ้ม​แล้ว​ตอบคำถาม​ไท่ฮู​หยิน​ ​แต่กลับ​ปิดบัง​เรื่อง​ที่​ตัวเอง​และ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​แอบ​ไปดู​คุณชาย​เติ้ง

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​จุน​เกอ​ก็​เลิกเรียน​ ​มาคา​รวะ​ไท่ฮู​หยิน

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​กลับมา​พอดี

ฮู​หยิน​สอง​กำลังจะ​ให้​ป้า​ตู้​ไปดู​ที่​ลาน​ข้างนอก​ ​จ้าว​อิ่ง​ก็​เข้ามา​ ​“​ท่าน​โหว​บอกว่า​มี​แขก​ ​ไม่​มาทา​นข​้าว​เย็น​แล้ว​ ​บอก​ให้​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​ไม่ต้อง​รอ​แล้ว​ขอรับ​ ​เสร็จธุระ​แล้วก็​จะ​มาคา​รวะ​ไท่ฮู​หยิน​ขอรับ​”

“​ใคร​มากัน​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ถาม​ขึ้น​ด้วย​ความแปลกใจ

จ้าว​อิ่ง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หม่า​จั่ว​เหวิน​ ​ใต้เท้า​หม่ามา​ขอรับ​”

ได้ยิน​แล้ว​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ไม่​ถาม​อะไร​ต่อ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​เขา​ไม่​กลับมา​แล้ว​ ​เช่นนั้น​เรา​ก็​ทาน​กัน​ก่อน​เถิด​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​พา​ไท่ฮู​หยิน​ไป​ที่​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันออก

ตกดึก​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​ดึก​ไม่น้อย

สือ​อี​เหนียง​พักผ่อน​แล้ว​ได้ยิน​เสียง​เขา​ ​จึง​เอ่ย​เรียก​ ​“​ท่าน​โหว​”​ ​ด้วย​ความ​งัวเงีย​ ​เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​เขา​ตอบรับ​ ​นาง​ก็​พลิกตัว​นอนหลับ​ไป

ทันใดนั้น​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​มี​คน​กอดรัด​ตัวเอง

“​สวี​ลิ่ง​อี๋​!​”​ ​นาง​เรียก​ด้วย​เสียง​สะลึมสะลือ

“​อืม​”​ ​ได้ยิน​เสียงหัวเราะ​อย่าง​มึนเมา​ดัง​อยู่​ข้าง​หู

สือ​อี​เหนียง​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​สบ​กับ​ดวงตา​ที่​เป็นประกาย​…​จึง​หลับตา​ลง​ด้วย​ความ​เกียจคร้าน​ ​จากนั้น​ก็​นอน​กอด​แขน​เขา​หลับ​ไป​…

ตื่น​มาตอน​เช้า​ ​นาง​นอน​อยู่​บน​เตียง​คนเดียว​ ​เสื้อผ้า​บน​ตัว​เป็นระเบียบเรียบร้อย​ ​ทำให้​นาง​รู้สึก​ตกใจ​ ​แยก​ไม่​ออก​ว่า​เมื่อคืน​นั้น​คือ​ความฝัน​หรือว่า​เรื่องจริง

นาง​ลุกขึ้น​แล้ว​ถอดเสื้อผ้า​ออก​ดู​

รอย​สีแดง​จางๆ​ ​ที่อยู่​เหนือ​เสื้อชั้นใน​สีเขียว​ ​คือ​รอย​จูบ​ที่​หลงเหลือ​อยู่​ราวกับ​หิมะ​ใน​วัน​แรก

สือ​อี​เหนียง​หดตัว​เข้าไป​ใน​ผ้าห่ม​ราวกับ​นกกระจอกเทศ​ ​จากนั้น​ก็​เรียก​เยี​่​ยน​หรง​ที่​เฝ้ายาม​อยู่​เข้ามา​รับใช้​นาง​สวม​เสื้อผ้า

“​ท่าน​โหว​ออก​ไป​ตั้งแต่​เช้า​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​เยี​่​ยน​หรง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​คุณหนู​ใหญ่​ ​คุณชาย​น้อย​ห้า​ ​และ​บรรดา​อี๋​เหนียง​ล้วนแต่​รอคา​รวะ​ท่าน​อยู่​ด้านนอก​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​หยุดชะงัก​เล็กน้อย​ ​“​เฉียว​อี๋​เหนียง​ก็​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

“​อืม​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เลิก​คิ้ว​ ​สวม​เสื้อกั๊ก​ยาว​สีเหลือง​ ​ติด​ต่างหู​ดอก​กล้วยไม้​หยก​สีทอง​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ไป​ที่​ห้องโถง

เฉียว​เหลียน​ฝัง​ผ่ายผอม​ลง​ไป​ไม่น้อย​ ​นาง​สวม​เสื้อผ้า​ฝ้าย​สีเขียว​ ​สวม​กระโปรง​ผ้าไหม​สีฟ้า​ ​ม้วน​ผม​เป็น​มวย​ ​สีหน้า​ดู​โศกเศร้า​ ​แต่​ช่าง​มีเสน่ห์​ราวกับ​ดอกบัว​ที่​ส่อง​ประกาย​อยู่​ใน​น้ำ​ก็​ไม่​ปาน

เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา​ ​นาง​ก็​เดิน​เข้ามา​คำนับ​แล้ว​เรียก​ ​“ฮู​หยิน​”​ ​ด้วย​ท่าที​ที่​ถ่อมตน

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​แล้ว​พยักหน้า

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​เข้ามา​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​เช่นกัน​ ​“ฮู​หยิน​ ​วันนี้​สีหน้า​ของ​ท่าน​ช่าง​ดี​เสีย​จริง​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​เห็น​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่จับ​มือ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอยู​่​ข้างๆ​ ​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​อาจจะ​เป็นเพราะว่า​ฤดูใบไม้ผลิ​แล้ว​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พยักหน้า​ซ้ำ​ ​ๆ​ ​“​ใช่​เจ้าค่ะ​ ​อากาศ​อบอุ่น​ ​จิตใจ​ของ​ผู้คน​ก็ดี​ขึ้น​ไม่น้อย​”

ฉิน​อี๋​เหนียง​ถือโอกาส​เดิน​เข้ามา​คำนับ​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​เดิน​ไป​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ที่อยู่​ใน​ห้องโถง

สวี​ซื่อ​อวี​้​พา​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เข้าไป​คารวะ​นาง

สือ​อี​เหนียง​ยก​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​บรรดา​อี๋​เหนียง​แยกย้าย​กัน​กลับ​เรือน​ ​บอก​ให้​เด็ก​ๆ​อยู่​ทานข้าว​เช้า​ที่นี่​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

จุน​เกอ​รอ​อยู่​ข้างนอก​อยู่​แล้ว​ ​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​เรียบร้อย​ ​จากนั้น​ก็​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ด้วยกัน​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​จุน​เกอ​ไป​เรียนหนังสือ​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​ไป​ที่​เรือน​เสา​หวา​ ​สะใภ้​หนาน​หย่ง​อุ้ม​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​ไป​ที่​ห้อง​ลี่​จิ​่ง​เซ​วี​ยน​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​กลับ​ไป​ที่​โถง​บุปผา

บรรดา​ท่าน​ป้า​ผู้ดูแล​ต่าง​ก็​เข้ามา​ขอ​คำแนะนำ​จาก​นาง​

แม้กระทั่ง​เจี​๋ย​เซียง​ก็​ขอ​พบ​นาง

“​…ฮู​หยิน​สอง​อยาก​กลับ​สกุล​เดิม​ ​รบกวนฮู​หยิน​สี่​ช่วย​จัด​รถม้า​ให้​หน่อย​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​หู่​พั่ว​ไป​หยิบ​ป้าย​คู่​ของ​ตัวเอง​ออกมา​จัดการ​เรื่อง​ที่ฮู​หยิน​สอง​จะ​กลับ​สกุล​เดิม

ตก​เย็น​ ​พวก​นาง​สอง​คน​ไป​เจอ​หน้า​กันที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​นาง​ส่ง​ยิ้ม​และ​พยักหน้า​ให้​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​คำนับ​นาง​อย่าง​มีมา​รยาท​

ไท่ฮู​หยิน​พูดว่า​ ​“​คุณชาย​สี่​บอกว่า​วันนี้​มีธุระ​ ​บอก​ให้​พวกเรา​ไม่ต้อง​รอ​เขา​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​สั่ง​ให้​สาวใช้​ยก​อาหาร​เข้ามา

ฮู​หยิน​สอง​ประคอง​ไท่ฮู​หยิน​ไป​ที่​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันออก

หลังจาก​ทานข้าว​เสร็จ​ ฮู​หยิน​สอง​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​กลับ​ไป​ที่​เรือน​เสา​หวาด​้ว​ยกัน

สือ​อี​เหนียง​รับใช้​ไท่ฮู​หยิน​พักผ่อน​ ​ซักถาม​เรื่อง​การเรียน​ของ​จุน​เกอ​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ​ฉุย​หลุน

แต่กลับ​พบ​กับฮู​หยิน​สอง

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

ฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ทักทาย​นาง​ ​“​น้อง​สะใภ้​สี่​กลับมา​แล้ว​หรือ​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ให้​ข้า​ไป​สืบ​เรื่อง​มา​เรื่อง​หนึ่ง​ ​ข้า​จึง​มารา​ยงา​นกั​บท​่าน​โหว​”​ ​นาง​อธิบาย​เจตนา​ของ​ตัวเอง​ ​จากนั้น​ก็​พา​เจี​๋ย​เซียง​กลับ​ไป

สือ​อี​เหนียง​ยืน​ตกใจ​อยู่​ตรงนั้น​สักพัก​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​ที่​ห้อง

สวี​ลิ่ง​อี๋​เมื่อ​เห็น​นาง​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ ​พลาง​กวักมือ​เรียก​นาง​ให้​เข้ามา​ ​“​ข้ามี​เรื่อง​จะ​คุย​กับ​เจ้า​”

สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้าไป​ด้วย​ความสงสัย​

“​ข้า​จะ​จัดงาน​แต่งงาน​กับ​สกุล​เซี่ยง​”​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​ปกปิด​ความดีใจ​เอาไว้​ไม่อยู่​ ​“​หมั้น​อวี​้​เกอ​กับ​คุณหนู​สอง​ของ​สกุล​เซี่ยง​ ​เจ้า​คิดเห็น​ว่า​อย่างไร​”

สอง​วันก่อน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​ที่​เรือน​เสา​หวา​ ​วันนี้ฮู​หยิน​สอง​มาหา​สวี​ลิ่ง​อี๋​…​นาง​ดูเหมือน​จะเข้า​ใจ​ทุกอย่าง​แล้ว​ ​แต่​ก็​ดูเหมือน​จะ​ไม่เข้าใจ​อะไร​สัก​อย่างเช่น​กัน

“​ท่าน​โหวตัด​สิน​ใจ​เมื่อไร​เจ้า​คะ​”

ความอ่อนโยน​บน​ใบหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​จางหาย​ไป

สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พลัน​หม่นหมอง​ลง​ ​“​วันนั้น​ที่​ได้​เจอ​กับ​ใต้เท้า​เซี่ยง​ ​ก็​มี​ความคิด​เช่นนี้​แล้ว​”

อย่างนั้น​ก็​แสดงว่า​ไม่ใช่​ความต้องการ​ของฮู​หยิน​สอง

“​สกุล​เซี่ยง​เห็นด้วย​หรือไม่​เจ้า​คะ​”​ ​สายตา​ที่​สือ​อี​เหนียง​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ดู​สงบนิ่ง​ ​แต่​เจือ​ไป​ด้วย​ความ​เย็นชา

“​เมื่อ​ครู่​พี่สะใภ้​สอง​มาก​็​เพราะว่า​เรื่อง​นี้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้สึก​ถึง​ความไม่พอใจ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​หม่น​ลง​ ​“​ใต้เท้า​เซี่ยง​ก็​เห็นดี​ด้วย​”

“​ท่าน​โหวตัด​สิน​ใจ​ที่จะ​จัดงาน​แต่งงาน​กับ​สกุล​เซี่ยง​ ​จากนั้น​ก็​ให้​พี่สะใภ้​สอง​ไป​พูด​กับ​สกุล​เซี่ยง​ว่า​จะ​ขอ​หมั้น​หมาย​กับ​คุณหนู​สอง​ของ​สกุล​เซี่ยง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ช้า​เนิ​่​บนาบ​ ​แต่กลับ​เยือกเย็น​ราวกับ​น้ำค้างแข็ง​ ​“​ในเมื่อ​ตัดสินใจ​เอาไว้​ทุกอย่าง​แล้ว​ ​ไม่รู้​ว่า​เมื่อครู่นี้​ที่​ท่าน​โหว​เรียก​ข้า​ ​ยัง​มีเรื่อง​อัน​ใด​อีก​หรือ​เจ้า​คะ​”
เพิ่มขนาดช่อง ดึงมุมขวามือลง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท