ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 342 หมั้นหมาย(ต้น)

ตอนที่ 342 หมั้นหมาย(ต้น)

เมื่อ​รู้​ว่า​ป้า​เถา​จะ​ไป​เยี่ยม​นาย​หญิง​ใหญ่​ที่​ตรอก​กง​เสียน​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​เพียง​ตอบ​ตกลง​อย่าง​ทันที​ ​ซ้ำ​ยัง​ให้​รถม้า​ไป​ส่ง​นาง​อีกด้วย

ชี​เหนียง​นำ​ดอก​พุด​ตาน​มาด​้วย

“​หลาย​วัน​มานี​้​ได้รับ​การ​ดูแล​จาก​ท่าน​โหว​ ​พวกเรา​เป็น​พี่น้อง​กัน​ข้า​คง​ไม่ต้อง​พูด​อะไร​มาก​ ​แต่​ทาง​ด้าน​ไท่ฮู​หยิน​กับฮู​หยิน​ห้า​อย่างไร​ก็​ต้อง​ไป​ขอบคุณ​สักหน่อย​ ​จู​อาน​ผิง​กับ​ข้า​ได้​ปรึกษา​กัน​ว่า​จะ​ให้​พ่อครัว​ของ​หอ​ชุน​ซี​มา​จัดงาน​เลี้ยง​ ​เชิญ​ไท่ฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​ห้า​และ​เด็ก​ๆ​ ​ไปร​่ว​มงา​นที​่​เรือน​ฉง​เซียง​ใน​วันพรุ่งนี้​ ​ก็​นับว่า​สม​ความตั้งใจ​ของ​ข้า​แล้ว​”

ชี​เหนียง​กับ​จู​อาน​ผิง​มักจะ​ไป​เยี่ยม​ญาติสนิท​มิตรสหาย​และ​เข้า​วัด​กราบไหว้​บูชา​พระ​ ​สือ​อี​เหนียง​มัว​แต่​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​เตรียมงาน​เลี้ยง​ต้อนรับ​นาย​หญิง​เจียง​ ​ก่อนหน้านี้​ชี​เหนียง​จึง​ไม่ได้​พูดถึง​เรื่อง​ที่จะ​เชิญ​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​ห้า​ไปร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ที่​เรือน​ฉง​เซียง​ ​แต่​ไม่มีใคร​คาดคิด​ว่า​เรื่อง​หา​หมอ​จะ​จบ​ลง​เร็ว​เช่นนี้​ ​ตอนนี้​นาง​ต้อง​เริ่ม​ใช้​ยา​แล้ว​ ​ไม่​สามารถ​อยู่​ใน​จวน​สวี​ได้​อีกต่อไป​ ​การ​คิด​ที่จะ​ซื้อ​จวน​อยู่​บริเวณ​ใกล้เคียง​กับ​จวน​สวี​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย​ที่​เพียงแค่​มีเงิน​ก็​สามารถ​ทำได้​ ​เรื่อง​ของ​ชี​เหนียง​นั้น​ไม่​สามารถ​รอ​ได้​อีกแล้ว​ ​จู​อาน​ผิง​คิดไปคิดมา​จึง​ได้​ซื้อ​จวน​ใหญ่​ที่​มีทาง​เข้าถึง​สาม​ประตู​ ​เตรียม​จะ​ย้าย​เข้าไป​อยู่​ใน​อีก​สอง​สาม​วันนี้​ ​ส่วน​ชี​เหนียง​ก็​คิด​หาวิ​ธี​พา​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​ห้า​ไปรวม​ตัว​กันที่​เรือน​ฉง​เซียง

สือ​อี​เหนียง​รู้​ถึง​ความต้องการ​ของ​นาง​จึง​พานาง​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน

อากาศ​เริ่ม​ร้อน​ขึ้น​ ​ผู้คน​ล้วน​เซื่องซึม​ ​ชี​เหนียง​สามารถ​รับรู้​ได้​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​ตอบ​ตกลง​ ​วันรุ่งขึ้น​ก็​ไป​ที่​เรือน​ฉง​เซียง​พร้อมกับ​สือ​อี​เหนียง​ ฮู​หยิน​ห้า​และ​เด็ก​ๆ

เรือน​ฉง​เซียง​นั้น​มีความหมาย​ตาม​ชื่อ​ ​ปลูก​ต้นไม้​และ​ดอกไม้​มากมาย​ ​อาหาร​ของ​หอ​ชุน​ซี​มี​ซื่อ​เสียง​ไป​ทั่ว​เยี​่​ยน​จิง​ ​ชี​เหนียง​จัดงาน​เลี้ยง​ใน​ห้องโถง​ ​ประตู​แกะสลัก​ลาย​หิมะ​ถูก​เปิดกว้าง​ ​นอก​ห้อง​เต็มไปด้วย​ดอกไม้​บานสะพรั่ง​ ​ภายใน​ห้อง​มีสา​ยลม​พัดผ่าน​เข้ามา​เบา​ๆ​ ​ทุกคน​พากัน​ดื่ม​สุรา​จิน​หวา​ ​พูด​ไป​หัวเราะ​ไป​ ​มีความสุข​กัน​เป็นอย่างมาก

หลังจาก​ทานอาหาร​กลางวัน​แล้ว​พวกเขา​ก็​ย้าย​ไป​เล่นไพ่​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก

มีสาว​ใช้​น้อย​วิ่ง​เข้ามา​รายงาน​ว่า​ ​“​คุณนาย​ใหญ่​จาก​ตรอก​กง​เสียน​มา​เจ้าค่ะ​”

“​มา​เร็ว​ก็​ไม่​สู้​บังเอิญ​มา​เจอ​พอดี​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​รีบ​กำชับ​สาวใช้​ให้​ไป​เชิญ​นาง​เข้ามา

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​คิดไม่ถึง​ว่า​ชี​เหนียง​จะ​จัดงาน​เลี้ยง​ให้​เหล่า​สตรี​สกุล​สวี​ ​สีหน้า​ดู​ลังเลใจ​เล็กน้อย​ ​นาง​ยิ้ม​พลาง​คำนับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ไท่ฮู​หยิน​เอ่ย​ชวน​นาง​มา​เล่นไพ่​ด้วยกัน​ ​“​…​สือ​อี​เหนียง​เล่น​ไม่เก่ง​ ​เวลา​จะ​ออก​ไพ่​ก็​เอาแต่​ลังเล​ทำ​พวกเรา​เสียเวลา​ ​ข้าว​่า​เจ้า​มา​เล่น​แทน​เถิด​!​”

แน่นอน​ว่า​สม​ความปรารถนา​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​จึง​รีบ​หลีกทาง​ให้​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ ​ส่วนตัว​เอง​คอย​นั่ง​ดู​อยู่​ข้างๆ

ชี​เหนียง​ยก​น้ำ​ถั่วเขียว​ต้ม​มา​ให้​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ดับ​กระหาย​ ​พวก​นาง​เล่นไพ่​กัน​อย่าง​เบิกบานใจ​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​อยู่​ทานข้าว​เย็น​ก่อน​ลุกขึ้น​กล่าว​ลา​ ​พึ่ง​จะ​มีโอกาส​ได้​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง​ตอนที่​พานา​งอ​อก​มาส​่ง

“​ได้ยิน​ว่า​หลาย​วัน​มานี​้​ท่าน​โหวกำ​ลัง​วิ่งเต้น​เพื่อ​แต่งตั้ง​ให้​จุน​เกอ​เป็น​ซื่อ​จื่อ​หรือ​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ตั้งใจ​มา​พบ​นาง​โดยเฉพาะ​ ​แน่นอน​ว่า​ไม่ใช่​เพื่อมา​เล่นไพ่​กับ​ไท่ฮู​หยิน

เมื่อ​นึกถึง​วันที่​ป้า​เถา​ไป​ตรอก​กง​เสียน​ ​เดิมที​สือ​อี​เหนียง​ก็​พอคาด​เดา​ได้​คร่าวๆ​ ​อยู่​แล้ว​ ​เมื่อ​ได้ยิน​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​พูด​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​ทุกคน​รู้กัน​หมด​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​ถาม​อย่าง​อ้อมค้อม​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​คุณหนู​สิบเอ็ด​มีแผน​อย่างไร​”

ในเมื่อ​ได้รับ​คำสั่ง​ให้​มา​ ​หาก​ไม่​ถาม​ให้​ชัดเจน​ก็​ไม่​อาจ​กลับ​ไป​ตอบคำถาม​ได้

สือ​อี​เหนียง​แสดง​จุดยืน​ของ​ตัวเอง​ ​“​จุน​เกอ​เดิม​ก็​เป็น​บุตรชาย​ของ​ภรรยา​เอก​ ​ตาม​กฎ​แล้ว​ควร​ได้​สืบทอด​กิจการ​ของ​ตระกูล​ ​ตอนนี้​ได้​แต่งตั้ง​เป็น​ซื่อ​จื่อ​ก็​นับว่า​เป็นเรื่อง​สมเหตุสมผล​แล้ว​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​มีท​่า​ทาง​อึดอัด​ใจ​ ​“​ข้า​ได้ยิน​ท่าน​แม่​บอกว่า​ตาม​กฎ​แล้ว​เมื่อ​จุน​เกอ​ถูก​แต่งตั้ง​เป็น​ซื่อ​จื่อ​ก็​ต้อง​แยกเรือน​ออก​ไป​อยู่​ตามลำพัง​ ​ไม่ทราบ​ว่า​คุณหนู​สิบเอ็ด​มีแผน​อย่างไร​”

แม้​จะ​ยอมรับ​ว่า​เหตุผล​ดั้งเดิม​ที่​แต่ง​เข้า​สกุล​สวี​มาก​็​เพื่อ​ดูแล​จุน​เกอ​ ​แต่​ตอนที่​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​คำพูด​นี้​ก็​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ใน​ใจ​ยังคง​รู้สึก​เจ็บ​แปลบ​ ​ราวกับ​ถูก​มด​กัด​ก็​ไม่​ปาน

นาง​ยืดตัว​ตรง​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​จุน​เกอ​โตมา​ภายใต้​การ​ดูแล​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ถ้าหาก​ตำแหน่ง​ซื่อ​จื่อ​ถูก​ตัดสิน​ไว้​แล้ว​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็นไท​่ฮู​หยิน​หรือ​ท่าน​โหวต​่า​งก​็​คง​วางแผน​ไว้​แล้ว​กระมัง​ ​ส่วน​ข้า​เอง​ ​แน่นอน​ว่า​ข้า​หวัง​ว่า​ป้า​เถา​จะเข้า​ไป​เป็น​ผู้ดูแล​ใน​เรือน​ของ​จุน​เกอ​ ​นาง​เป็น​แม่นม​ของ​พี่​หญิง​ใหญ่​ ​อีกทั้ง​ยัง​เป็น​คนที​่​เห็น​จุน​เกอ​เติบโต​มา​ ​เพียงแต่ว่า​ราชโองการ​ที่​ขอ​แต่งตั้ง​ยัง​ไม่ได้​มีมา​ ​การ​ที่​พูด​เรื่อง​นี้​ใน​ตอนนี้​ยัง​เร็ว​เกินไป​!​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​เห็น​สีหน้า​เคร่งขรึม​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ ​“​ที่​คุณหนู​สิบเอ็ด​พูด​ก็​มีเหตุผล​ ​มัน​เร็ว​เกินไป​ที่จะ​พูด​เรื่อง​นี้​”​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​กล่าว​ลาสื​ออี​เหนียง

หู่​พั่ว​มอง​รถม้า​สกุล​หลัว​ที่​จากไป​ไกล​แล้วก็​อด​รู้สึก​โกรธ​ไม่ได้

“​ป้า​เถา​ผู้​นี้​ทำเกินไป​แล้ว​ ​บ่าว​ว่า​ต้อง​สั่งสอน​นาง​สักหน่อย​จึง​จะ​ถูก​”

“​ไม่จำเป็น​หรอก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูดเสี​ยง​เรียบ​ว่า​ ​“​เดิมที​นาง​ก็​เป็น​คนที​่​พี่​หญิง​ใหญ่​ให้​คอย​ดูแล​จุน​เกอ​ ​หาก​จุน​เกอ​แยกเรือน​ไป​อยู่​ตามลำพัง​ ​การ​ที่นาง​จะ​ตาม​ไป​ด้วย​นั้น​ก็​เป็นเรื่อง​สมเหตุสมผล​แล้ว​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ป้า​เถา​ก็​เป็น​คนฉลาด​ ​หาก​มีนา​งอยู​่​ข้างๆ​ ​จุน​เกอ​ก็​จะ​ช่วย​แบ่งเบาภาระ​ให้​พวกเรา​ได้​บ้าง​”

หู่​พั่ว​รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​พูด​ถูก​ ​แต่​พอนึก​ถึง​เรื่อง​ที่​ป้า​เถา​สร้างเรื่อง​ของ​ตง​ชิง​ ​แล้ว​ตอนนี้​ยัง​ยุยง​ให้​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​มา​เตือน​สือ​อี​เหนียง​ ​ใน​ใจ​ก็​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เป็นอย่างมาก​ ​อยาก​จะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​ ​แต่​พอ​เงยหน้า​ขึ้น​มาก​็​เห็น​บ่าว​รับใช้​ห้อมล้อม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​สวม​ชุด​ราชสำนัก​เดิน​มาทาง​นี้

วันนี้​เขา​เข้า​วัง​เพื่อ​ไป​เข้าเฝ้า​ฮ่องเต้

หู่​พั่ว​รีบ​หยุด​บทสนทนา​ทันที​ ​คำนับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อยู่​ข้างหลัง​สือ​อี​เหนียง

“​ทำไม​มายื​นคุ​ยกั​นอยู​่​ตรงนี้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม

“​ข้า​พึ่ง​ออกมา​ส่ง​พี่สะใภ้​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้​ว่าวั​นนี​้​ชี​เหนียง​จัดงาน​เลี้ยง​ ​เลย​ไม่ได้​สงสัย​ว่า​มี​จุดประสงค์​อื่น​แอบแฝง​ ​เขา​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ริมน้ำ​กับ​สือ​อี​เหนียง

“​เรื่อง​ของ​จุน​เกอ​มี​วี่แวว​บ้าง​หรือไม่​”​ ​ระหว่างทาง​ ​สือ​อี​เหนียง​เอ่ย​ถาม​ขึ้น​ด้วย​ความเป็นห่วง

“​ฮ่องเต้​ทรง​อนุญาต​แล้ว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ต่อว่า​ ​“​เพียงแค่​รอ​ฎีกา​ของ​กรม​พิธีการ​ลง​ตราประทับ​สีแดง​ก็​พอแล้ว​”

“​เร็ว​ขนาด​นั้น​เชียว​หรือ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ​“​ข้า​นึก​ว่า​จะ​ทำการ​ล่าช้า​เสียอีก​”

“​จะ​ช้า​หรือ​เร็ว​ล้วน​ขึ้นอยู่กับ​รับสั่ง​ฮ่องเต้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​คำสั่ง​ของ​ฝ่า​บาท​ ​กรม​พิธีการ​ย่อม​ต้อง​ทำให้​เร็ว​ ​แต่​หาก​ไม่ใช่​รับสั่ง​ของ​ฝ่า​บาท​กรม​พิธีการ​ก็​จะ​จัดการ​ให้​ช้า​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​จุน​เกอ​ก็​เป็น​บุตรชาย​ของ​ภรรยา​เอก​ที่​คู่ควร​จึง​ไม่มี​ข้อโต้แย้ง​ใดๆ​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​“​เช่นนั้น​พวกเรา​ก็​ต้อง​เริ่ม​เตรียม​เรื่อง​การ​หมั้น​หมาย​ของ​จุน​เกอ​แล้ว​ใช่​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​“​ทาง​ด้าน​ของ​เรา​ ​ข้า​เตรียม​จะ​เชิญ​ซุ่น​อ๋อง​มา​เป็น​พ่อสื่อ​ ​เจ้า​ว่า​อย่างไรบ้าง​”

“​ถ้าหาก​ซุ่น​อ๋อง​รับปาก​ ​แน่นอน​ว่าย​่​อม​เป็นเรื่อง​ดี​”

สือ​อี​เหนียง​นั่งลง​บน​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​แล้ว​อ่าน​เนื้อหา​ใน​จดหมาย​อย่างละเอียด

บน​กระดาษ​เขียน​ไว้​ว่า​ ​แต่ไหนแต่ไรมา​ ​บุรุษ​ใน​ตระกูล​ของ​เซ่าจ​้ง​หรา​นนั​้​นมี​ไม่​เยอะ​ ​ทั้ง​ท่าน​ปู่ทวด​และ​ท่าน​ปู่​ต่าง​ก็​เป็น​บุตรชาย​คนเดียว​ ​เมื่อมา​ถึง​รุ่น​บิดา​ของ​เขา​ก็​มีพี​่​ชาย​น้องชาย​เพียง​สอง​คน​เท่านั้น​ ​เมื่อมา​ถึง​รุ่น​ของ​เซ่าจ​้ง​หราน​ ​หาก​นับ​รวม​กับ​บุตรชาย​ของ​ท่าน​ลุง​แล้วก็​มีพี​่​ชาย​น้องชาย​เพียง​สาม​คน​ ​เซ่าจ​้ง​หราน​เป็น​คนที​่​หนึ่ง​ ​มีน​้​อง​ชาย​ร่วม​มารดา​หนึ่ง​คน​ ​และ​มีน​้​อง​ชาย​ลูกพี่ลูกน้อง​หนึ่ง​คน​ ​บิดา​เป็น​คน​มีชื่อเสียง​ด้าน​วรยุทธ​ ​เชี่ยวชาญ​ด้าน​กิจการ​ทั่วไป​ ​ฐานะ​ทางบ้าน​ร่ำรวย​ ​มารดา​เกิด​ใน​สกุล​ใหญ่​ที่​ชัง​โจว

สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

คิดไม่ถึง​ว่า​บิดา​ของ​เซ่าจ​้ง​หราน​จะ​จัดการ​เรื่อง​เงินทอง​ได้ดี​มาก

เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จัดการ​ธุระ​เสร็จ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ปรึกษา​กับ​เขา​ว่า​ ​“​ข้าว​่า​เรื่อง​นี้​ก็​ควรจะ​บอก​กับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ด้วย​ ​นาง​เป็นห่วง​เรื่อง​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​มาต​ลอด​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​มีสี​หน้า​ลังเล​เล็กน้อย​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​จึง​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​จะ​เล่า​ให้​นาง​ฟัง​ก็​ไม่เป็นไร​ ​แต่​เจ้า​จะ​ใจอ่อน​ให้​นาง​สอด​มือ​เข้ามา​ยุ่งเกี่ยว​กับ​การ​หมั้น​หมาย​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่ได้​ ​เพื่อ​หลีกเลี่ยง​การ​เข้าไป​ข้องเกี่ยว​กับ​คน​สกุล​เหวิน​”

ดังนั้น​คราว​ที่แล้ว​ถึง​ได้​รีบร้อน​ถาม​ว่า​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พูด​อะไร​บ้าง​ใช่​หรือไม่

สือ​อี​เหนียง​รับคำ​ ​พอ​เช้า​วันรุ่งขึ้น​ก็​เรียก​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มา

เมื่อ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​รับรู้​เรื่องราว​แล้วก็​มีท​่า​ทาง​ดีใจ​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​บิดา​ของ​คุณชาย​เซ่า​ปีนี​้​พึ่ง​จะ​อายุ​แค่​สามสิบ​แปด​ปี​เอง​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่เข้าใจ

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ฐานะ​ยากจน​ทำให้​สามีภรรยา​ต้อง​ทุกข์ทรมาน​ ​บิดา​ของ​คุณชาย​เซ่า​เชี่ยวชาญ​ด้าน​สิ่ง​ต่างๆ​ ​และ​อยู่​ใน​ช่วง​ที่​มีพ​ละ​กำลัง​ ​สกุล​เซ่า​นั้น​อย่างน้อย​ก็​ไม่ต้อง​กังวล​เรื่อง​ทรัพย์สิน​เงินทอง​ไป​อีก​ยี่สิบ​ปี​ ​หาก​ตัดสินใจ​เลือก​คุณชาย​เซ่า​ ​ก็​ไม่มี​อะไร​ดี​ไป​กว่านี​้​แล้ว​”

สือ​อี​เหนียง​พยายาม​กลั้น​ไม่​ให้​ตัวเอง​หัวเราะ​ออกมา

ต่อมา​ก็​เล่า​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ส่งเสียง​ ​“​เหอะ​”​ ​อย่าง​เย็นชา​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​ใน​ใจ​นาง​ก็​คิดถึง​แต่​เรื่อง​พวก​นี้​!​”​ ​แต่​ก็​ใช่​ว่า​คำพูด​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​จะ​ไม่มีเหตุผล​ ​แต่​หาก​ตัดสินใจ​เป็น​ดอง​กับ​สกุล​เซ่า​เช่นนี้​ ​ใน​ใจ​ก็​ยัง​รู้สึก​เสียดาย​บุรุษ​มากความ​สามารถ​อย่าง​หลี​่​จี้

ขณะที่​กำลัง​ลังเล​ ​ทันใดนั้น​ราชโองการ​ที่​แต่งตั้ง​ให้​จุน​เกอ​เป็น​ซื่อ​จื่อ​ก็​มาถึง

ตอนที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​รับ​ราชโองการ​ ​เขา​มีสี​หน้า​สงบนิ่ง​เป็นอย่างมาก​ ​กลับกัน​กับ​สวี​ลิ่ง​ควน​ที่​ดีอกดีใจ​ออกนอกหน้า​ ​อุ้ม​จุน​เกอ​แล้ว​โยน​ขึ้น​ตั้ง​สอง​รอบ​ ​“​จุน​เกอ​ ​ตอนนี้​เจ้า​เป็น​ซื่อ​จื่อ​แล้ว​”

จุน​เกอ​ตกใจ​จน​หน้าซีด​ ​คว้า​แขน​ของ​สวี​ลิ่ง​ควน​ไว้​แน่น​แล้ว​ร้อง​สะอึกสะอื้น​ ​“​ท่าน​อา​ห้า​”

ฮู​หยิน​ห้า​หยิก​แขน​สวี​ลิ่ง​ควน​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​“​เจ้า​จะ​ทำให้​จุน​เกอ​ตกใจ​หรือ​อย่างไร​กัน​”

ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ดังนั้น​ก็​พูด​ด้วย​ความกังวล​ว่า​ ​“​รีบ​วาง​ลง​ ​รีบ​วาง​ลง​!​”

สวี​ลิ่ง​ควน​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​ ​พลาง​วาง​จุน​เกอ​ลง

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รีบ​เข้าไป​ถาม​เขา​ ​“​เจ้า​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

จุน​เกอ​หน้าซีด​ขาว​ราวกับ​กระดาษ​ ​ฝืนยิ้ม​แล้ว​ส่ายหน้า​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

สือ​อี​เหนียง​ตามหา​สวี​ซื่อ​อวี​้

เขา​ยืน​อยู่​ใต้​ต้น​การบูร​ตรง​มุม​สวน​ตามลำพัง​ ​ภายใต้​ร่มเงา​ของ​ต้นไม้​ใหญ่​ ​ทำให้​ร่าง​เล็ก​ๆ​ ​ของ​เขา​ดู​ผอมบาง​และ​โดดเดี่ยว​ขึ้น​มา

ขณะที่​นาง​กำลัง​ลังเล​ว่า​จะ​เรียก​เขา​ดี​หรือไม่​ ​เสียง​เรียก​ที่​ร้อนรน​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​ดัง​ขึ้น​ ​“​จุน​เกอ​ ​จุน​เกอ​!​”

สือ​อี​เหนียง​หันไป​ดู​ ​เห็น​จุน​เกอ​กำลัง​นั่งยองๆ​ ​อาเจียน​อยู่​ที่​พื้น

แย่​แล้ว​ ​ดูเหมือนว่า​เขา​จะ​ตกใจ

เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​รีบ​วิ่ง​ไปหา​จุน​เกอ

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​เร็ว​กว่า​ ​นาง​ยัง​ไม่ทัน​เข้าไป​ใกล้​จุน​เกอ​ ​เขา​ก็​เข้าไป​อุ้ม​จุน​เกอ​แล้ว​เรียกหา​หมอ​แล้ว

ทุกคน​ที่​ลาน​ต่าง​พากัน​ตื่นตระหนก

สวี​ลิ่ง​ควน​กล่าว​ด้วย​ความหวาดกลัว​ว่า​ ​“​พี่​สี่​ ​ข้า​ไม่รู้​…​”

“​ตอนนี้​ไม่ใช่​เวลา​มา​พูด​เรื่อง​นี้​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​เขา​อย่างใจ​เย็น​แล้ว​กำชับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​เรียก​คนที​่​คอย​ปรนนิบัติ​จุน​เกอ​มา​ ​พวกเรา​จะ​ไป​ที่​ห้อง​หนังสือ​เรือน​นอก​”

พวกเขา​รับ​ราชโองการ​ที่​ห้องโถง​หลัก​ของ​สกุล​สวี​ ​ที่นี่​อยู่​ใกล้​กับ​ห้อง​หนังสือ​เรือน​นอก

ทุกคน​ตาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​ยัง​ห้อง​หนังสือ​เรือน​นอก​อย่าง​รีบร้อน

สวี​ลิ่ง​อี๋​วาง​จุน​เกอ​ไว้​บน​เตียง​หลัว​ฮั่น​ใน​ห้อง​นั่ง​รับแขก

ฮู​หยิน​ห้า​ยก​เก้าอี้​เล็ก​มา​วาง​ไว้​ที่​หัว​เตียง​แล้ว​เชิญ​ไท่ฮู​หยิน​มานั​่ง​ ​แต่​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​ให้ฮู​หยิน​สอง​นั่ง​แทน​ ​“​เจ้า​ช่วย​จับชีพจร​ดู​ที​!​”

ฮู​หยิน​สอง​นั่งลง​อย่าง​ไม่​เกรงใจ​ ​นิ้วมือ​เรียว​ยาว​วาง​ลง​บน​ชีพจร​ข้อมือ​ด้าน​ซ้าย​ของ​จุน​เกอ

“​ข้า​ไม่เป็นไร​”​ ​จุน​เกอ​ที่นอน​อยู่​บน​เตียง​พูด​อย่าง​อ่อนแรง​ ​“​ข้า​ไม่เป็นไร​ ​แค่​เวียนหัว​นิดหน่อย​ขอรับ​”

สายตา​ของ​ทุกคน​มอง​ไป​ที่ฮู​หยิน​สอง

ใน​ห้อง​เงียบสงัด​จน​สามารถ​ได้ยิน​เสียง​เข็ม​ตก​ได้

ฮู​หยิน​สอง​วางมือ​ซ้าย​ลง​ ​แล้ว​จับชีพจร​มือขวา​ ​จากนั้น​ก็​พยักหน้า​ให้​คนใน​ห้อง​ ​“​ไม่มี​อะไร​ ​อาจ​เป็น​เพราะ​อาการ​ตกใจ​เมื่อ​ครู่​”

ภายใน​ห้อง​มีเสียง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ดัง​ขึ้น

ฮู​หยิน​ห้า​หยิก​แขน​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​แล้ว​พูด​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ว่า​ ​“​พี่​สี่​เป็น​เพราะ​สามี​ของ​ข้า​เล่น​ไม่รู้​กาลเทศะ​ ​ข้าว​่า​งานเลี้ยง​ฉลอง​ตำแหน่ง​ซื่อ​จื่อ​ของ​จุน​เกอ​ให้​เขา​เป็น​คน​จัดการ​ดี​หรือไม่​”

เมื่อ​สวี​ลิ่ง​ควน​ได้ยิน​แล้วก็​พยักหน้า​รัว​ ​ราวกับ​ลูกเจี๊ยบ​จิก​ข้าวสาร​ ​“​ข้า​จัดการ​เอง​ ​ข้า​จัดการ​เอง​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท