ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 371 แต่งงาน(กลาง)

ตอนที่ 371 แต่งงาน(กลาง)

“​ยัง​ต้อง​ถาม​อีก​หรือ​!​”​ ฮู​หยิน​สอง​พูด​ ​“​ก็เพราะว่า​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​กลัว​ฮ่องเต้​จะ​ประกาศ​พระราช​โองการ​ ​กลัว​ว่า​ต่อไป​จะ​จัดการ​สกุล​หยาง​ไม่ได้​ ​ดังนั้น​จึง​สนับสนุน​ให้​ฮ่องเต้​ประกาศ​พระราชกฤษฎีกา​ในนามของ​ไท​เฮา​ ​ฮ่องเต้​เอง​ก็​คง​คิด​ว่าการ​ประกาศ​พระราช​โองการ​แต่งตั้ง​อนุภรรยา​ไม่เหมาะสม​ ​จะ​ถูก​ผู้คน​หัวเราะเยาะ​เอา​ได้​ ​จึง​พาย​เรือ​ตามน้ำ​แล้ว​บอก​ให้​ขันที​ของ​พระตำหนัก​ฉือ​หนิง​ช่วย​ประกาศ​พระราชกฤษฎีกา​”

สือ​อี​เหนียง​และ​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​มอง​ไป​ยัง​สวี​ลิ่ง​อี๋​

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ตั้งแต่​โบราณ​ ​พระราช​โองการ​ของ​ฮ่องเต้​มี​แค่​ประกาศ​มอบ​งาน​อภิเษกสมรส​ให้​กับ​ภรรยา​เอก​ ​ไม่มี​แต่งตั้ง​อนุภรรยา​ ​เดิมที​ฮ่องเต้​แค่​จะ​ประกาศ​ด้วย​วาจา​ ​แต่​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​กลัว​ว่า​เรื่องราว​จะ​เปลี่ยนไป​ ​ทำให้เกิด​ปัญหา​อะไร​ตามมา​อีก​ ​นาง​จึง​รีบ​ตัดสินใจ​เรื่อง​นี้​ ​ส่วน​ไท​เฮา​ก็​กลัว​ว่า​สอง​สกุล​จะ​ไม่​รักษา​สัญญา​ ​จึง​อยาก​จะ​ประกาศ​พระราชกฤษฎีกา​ ​ให้​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​และ​ซื่อ​เจิง​เขียน​พระราชกฤษฎีกา​ ​ให้​ขันที​ของ​พระตำหนัก​ฉือ​หนิง​เป็น​คน​ประกาศ​พระราชกฤษฎีกา​ ​ตัดสินใจ​เรื่อง​นี้​ทันทีทันใด​”

“​ข้า​ยัง​คิด​ว่า​เหตุใด​ถึง​ประกาศ​พระราชกฤษฎีกา​ยาม​เย็น​เช่นนี้​ ​แล้ว​เนื้อหา​ก็​แปลก​ๆ​ ​ราวกับ​แต่งตั้ง​ภรรยา​เอก​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูดว่า​”​ ​ที่แท้​เรื่องราว​ก็​เป็น​แบบนี้​นี่เอง​”​ ​จากนั้น​ก็​เอ่ย​ถาม​เขา​ด้วย​ความเป็นห่วง​ ​“​แล้ว​ทำไม​เจ้า​พึ่ง​กลับมา​ตอนนี้​เล่า​”

“​จากนั้น​ฮ่องเต้​ก็​คอย​รับใช้​อยู่​ที่​พระตำหนัก​ฉือ​หนิง​ ​พวก​ข้า​ก็​คอย​รับใช้​อยู่​ข้างๆ​ ​หลังจาก​ฮองเฮา​มา​ ​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​อยู่​เป็นเพื่อน​ฮองเฮา​ที่​พระตำหนัก​ฉือ​หนิง​ ​พวก​ข้า​ไป​ที่​พระตำหนัก​เฉียน​ชิง​กับ​ฮ่องเต้​ ​ฮ่องเต้​ให้​พวก​ข้า​อยู่​ทานอาหาร​ตอนกลางคืน​ ​เพราะว่า​พระราชวัง​ปิดประตู​แล้ว​ ​พวก​ข้า​จึง​ค้างคืน​ที่นั่น​ ​เช้า​วัน​ต่อมา​ ​ฮ่องเต้​ก็​บอก​ให้​ขันที​เรียก​ข้า​กับ​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​เข้าไป​พูดคุย​ด้วย​ที่​พระตำหนัก​เฉียน​ชิง​ ​พวก​ข้า​ต้อง​รอ​จนกว่า​ฮ่องเต้​จะ​เลิก​จาก​งาน​พระราช​สำนัก​ช่วง​เช้า​ ​พูดคุย​กัน​ครู่หนึ่ง​ถึง​กลับมา​”

ไท่ฮู​หยิน​มีสี​หน้า​เคร่งขรึม​ ​“​ฮ่องเต้​ตรัส​ว่า​อะไร​บ้าง​”

“​ไม่ได้​ตรัส​อะไร​ขอรับ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​อย่าง​คลุมเครือ​ ​“​ฮ่องเต้​ทรง​ถาม​เพียง​ว่า​เขา​ดูแล​ไท​เฮา​มา​หลาย​ปี​แล้ว​ ​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​ไม่มี​ความเมตตา​ ​แต่​ก็​มี​ความกตัญญู​ใช่​หรือไม่​!​”

นี่​คง​เป็น​เหตุผล​ที่​ฮ่องเต้​เคารพ​ไท​เฮา​ ​และ​ยอม​อดทน​ต่อ​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​และ​โซ่ว​ชังปั​๋ว​มาต​ลอด​กระมัง​!

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด

ไม่ว่า​ตอนนั้น​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​แต่​ใน​สายตา​ของ​ผู้คน​ ​ไท​เฮา​มีบุญ​คุณ​ต่อ​ฮ่องเต้​ ​หาก​ตอนนั้น​ไท​เฮา​ไม่​ถ่วงเวลา​เอาไว้​ ​ฮ่องเต้​องค์​ก่อน​ก็​ไม่มีทาง​มอบ​บัลลังก์​ให้​ไท่​จื่อ​ ​ตอนนี้​ไท​เฮา​อายุ​มาก​แล้ว​ ​อีกทั้ง​ยัง​ประชวร​ ​ราวกับ​หนึ่งร้อย​ก้าว​ที่​เดิน​มา​แล้ว​เก้า​สิบ​เก้า​ก้าว​ ​ฮ่องเต้​คง​ไม่​อยาก​สูญเสีย​สิ่ง​ที่​ยิ่งใหญ่​ไป​เพียง​เพราะ​เรื่องเล็ก​น้อย​แน่นอน​ ​หาก​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​ไท​เฮา​ใน​วินาที​สุดท้าย​ ​คง​ทำให้​ตัวเอง​กลายเป็น​ลูก​ที่​อกตัญญู

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​โล่งใจ​ ​“​ในเมื่อ​ไม่ยอม​ประกาศ​พระราช​โองการ​แต่กลับ​ใช้​พระราชกฤษฎีกา​ ​แล้วยัง​พูด​เช่นนี้​ ​ข้า​ก็​สบายใจ​แล้ว​!​”

เจตนา​ของ​ฮ่องเต้​ชัดเจน​อยู่​แล้ว​ ​ตราบใดที่​ไท​เฮา​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ก็​ต้อง​คิด​ให้​รอบคอบ​ ​ในทางกลับกัน​ ​หาก​ไท​เฮา​ไม่อยู่​แล้ว​…

ดูเหมือนว่า​ ​ตาม​สถานการณ์​ตอนนี้​แล้ว​ ​ตราบใดที่​ไท​เฮา​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​ก็​ยัง​ต้อง​เคารพ​สกุล​หยาง

แต่​ดั่ง​คำ​โบราณ​ที่ว่า​ ​‘​มนุษย์​เจ็บป่วย​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​ ​แต่​ไม่​เจ็บป่วย​เลย​กลับเป็น​เรื่อง​ที่​น่าประหลาด​’​ ​ไท​เฮา​เจ็บป่วย​มาก​ว่า​ครึ่ง​ปี​แล้ว​ ​แม้แต่​คำพูด​ของ​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​ที่​พระตำหนัก​เฟิ​่ง​เซียน​ยัง​ทำ​อะไร​นาง​ไม่ได้​ ​ใคร​จะ​กล้า​พูดว่า​ไท​เฮา​จะ​ไม่​อารมณ์ดี​ขึ้น​เมื่อ​เจอ​กับ​เรื่องราว​ดี​ๆ​ ​เช่นนี้​ ​แล้ว​มีชีวิต​อยู่​ต่อ​อีก​สี่​ห้า​ปี​!

สือ​อี​เหนียง​แอบ​บ่น​งุบงิบ​อยู่​ใน​ใจ​ ​จากนั้น​ก็​เอ่ย​ถาม​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​คิด​ว่า​พิธี​แต่ง​อนุภรรยา​ควร​จัด​แบบ​ใด​เจ้า​คะ​”

“​จัด​แบบ​ใด​!​?​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​ ​ ​“​ในเมื่อ​แต่ง​อนุภรรยา​ ​ก็​ต้อง​จัด​พิธี​ตาม​พิธี​แต่ง​อนุภรรยา​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ปรึกษา​ข้า​!​”​ ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ไม่พอใจ​ ​“​แต่ง​เฉียว​อี๋​เหนียง​อย่างไร​ ​ก็​แต่ง​สตรี​สกุล​หยาง​อย่างนั้น​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​คุณชาย​สี่​พึ่ง​จะ​กลับมา​จาก​พระราชวัง​ ​พวก​เจ้า​กลับ​ไป​ทานข้าว​กัน​ก่อน​เถิด​!​ ​ไม่ต้อง​คอย​รับใช้​ข้า​ ​ยาม​บ่าย​ค่อย​มาป​รึก​ษา​กัน​เรื่อง​งานเลี้ยง​วันที่​สาม​เดือน​สาม​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​หยัด​กาย​ขึ้น​ยืน​ ​“​เช่นนั้น​เรา​กลับกัน​ก่อน​เถิด​!​”

ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​ ​แล้ว​พูด​ด้วย​ความเมตตา​ ​“​รีบ​กลับ​ไป​เถิด​!​”

สือ​อี​เหนียง​ก็​ขอตัว​ออก​ไป​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง

สวี​ลิ่ง​อี๋​นั่งลง​บน​เตียง​เตา​ ​“​เจ้า​ทำ​บะหมี่​รวมมิตร​ให้​ข้า​ก็​พอแล้ว​ ​ข้า​ทานข้าว​ต้ม​มา​แล้ว​ตั้งแต่​ยาม​เหม่า​”​ ​ตอนนี้​ก็​เที่ยง​แล้ว​ ​คงจะ​หิว​จน​อยาก​ซด​พวก​น้ำแกง​ ​หลังจาก​พูด​จบ​เขา​ก็​พูดเส​ริม​อีกว่า​ ​“​บะหมี่​รวมมิตร​เหมือน​ที่​เจ้า​ทำให้​ข้า​ตอน​วันเกิด​ข้า​ครั้งก่อน​”

สือ​อี​เหนียง​ทำ​บะหมี่​ด้วยตัวเอง​ ​ตอน​นวด​เส้น​ ​นาง​ใส่​น้ำมัน​เข้าไป​นิดหน่อย​ ​ใช้​กระดูก​วัว​ ​กระดูก​ไก่​และ​กระดูก​เป็ด​ทำ​น้ำแกง​ ​ใส่​หน่อไม้​ฝอย​ ​เห็ด​ฝอย​ ​ถั่วงอก​และ​แครอท​ ​เป็น​เมนู​ที่​ธรรมดา​มาก​ ​แต่​น้ำแกง​มีรส​ชาติ​กลมกล่อม​ ​เส้น​บะหมี่​เหนียว​นุ่ม

“​เช่นนั้น​ท่าน​โหว​พักผ่อน​สักครู่​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ห่ม​ผ้า​ผืน​บาง​ฐาน​สีแดง​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​หาก​บะหมี่​เสร็จ​แล้ว​ข้า​จะ​เรียก​ท่าน​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า

สือ​อี​เหนียง​เดิน​ออก​ไป​โรง​ครัว​เล็ก​ ​ทำ​บะหมี่​รวมมิตร​แล้ว​ยก​เข้ามา​ด้วยตัวเอง

สวี​ลิ่ง​อี๋​นอนตะแคง​หลับสนิท​ ​สีหน้า​ของ​เขา​นิ่ง​สงบ​ ​ไม่มี​ความ​เคร่งขรึม​อยู่​บน​ใบหน้า​ ​ทำให้​ดู​เด็ก​ลง​ไม่น้อย

สือ​อี​เหนียง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พลัน​ลืมตา​ขึ้น​มา​ ​ลุกขึ้น​นั่ง​ด้วย​สีหน้า​ที่​งงงวย

“​ได้กลิ่น​หอม​หรือ​เจ้า​คะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​วาง​ถาด​สีแดง​ลง​บน​โต๊ะ​เตียง​เตา​ตรงหน้า​เขา​ ​“​ท่าน​โหว​ทาน​ก่อน​แล้ว​ค่อย​นอน​ต่อ​เถิด​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หยิบ​ตะเกียบ​ขึ้น​มา​ ​“​เจ้า​ก็​ทาน​ด้วยกัน​!​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่​ชอบ​ทาน​บะหมี่​ ​จึง​พูด​อย่าง​อ้อมค้อม​ ​“​ข้า​ยัง​ไม่​หิว​ ​ประเดี๋ยว​ค่อย​ทาน​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ไม่​บังคับ​นาง​ ​เหมือน​ครั้งก่อน​ ​เขา​ทาน​ไป​สาม​ชาม

สือ​อี​เหนียง​รับใช้​เขา​อาบน้ำ​พักผ่อน​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันตก​ ​บอก​ให้​หู่​พั่ว​ดู​สมุดบัญชี​ประจำปี​ ​แล้วก็​บอก​สาวใช้​จัด​อาหาร

หลัง​ทานข้าว​เสร็จ​ ​หู่​พั่ว​ถือ​สมุดบัญชี​มารา​ยงาน​ ​“​…​เครื่อง​นอน​และ​เครื่อง​เทียนไข​ ​รวมกัน​แล้ว​ใช้​เงิน​ไป​ทั้งหมด​สาม​ร้อย​ตำลึง​เงิน​ ​จัด​โต๊ะ​งานเลี้ยง​สี่​โต๊ะ​ ​ใช้​เงิน​ทั้งหมด​สอง​ร้อย​ตำลึง​เงิน​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​แล้วก็​แปลกใจ

คิดไม่ถึง​ว่าแต่ง​เฉียว​เหลียน​ฝัง​เข้ามา​ใช้​เงิน​ไป​แค่​ห้า​ร้อย​ตำลึง​เงิน​ ​ค่าใช้จ่าย​ของ​งานเลี้ยง​คิด​เป็น​สอง​ส่วน​ใน​ห้า

หู่​พั่ว​ติดตาม​สือ​อี​เหนียง​มานาน​ ​ยิ่ง​ทำ​อะไร​ก็​ยิ่ง​มี​ความคิด​เป็น​ของ​ตัวเอง​มากขึ้น​ ​ไม่​เหมือนกับ​เมื่อก่อน​ ​ที่​บอก​ให้​ทำ​อะไร​ก็​ทำ​เช่นนั้น​ ​นาง​นึกถึง​ตอนที่​ท่าน​โหว​พึ่ง​กลับมา​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ยัง​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​ก็​คิดได้​ว่า​พวกเขา​คงจะ​ไป​ปรึกษา​กัน​เรื่อง​งานแต่ง​อนุภรรยา​สกุล​หยาง​ ​อีกทั้ง​ทันทีที่​สือ​อี​เหนียง​กลับมา​ก็​ดู​สมุดบัญชี​ของ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ ​มันต​้​อง​เกี่ยวข้อง​กับ​สกุล​หยาง​อย่างแน่นอน​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​ดู​สมุดบัญชี​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มาด​้วย

“​…​ส่วน​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​ค่า​เครื่อง​นอน​และ​เครื่อง​เทียนไข​ใช้​เงิน​ไป​ทั้งหมด​ห้า​ร้อย​ตำลึง​เงิน​ ​จัด​โต๊ะ​งานเลี้ยง​สี่​โต๊ะ​ ​ใช้​เงิน​ไป​ทั้งหมด​หนึ่งร้อย​หกสิบ​ตำลึง​เงิน​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​พูดเส​ริม​ ​“​บ่าว​ถาม​ป้า​ซ่ง​แล้ว​ ​ป้า​ซ่ง​บอกว่า​ ​ตอนที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​แต่ง​เข้ามา​ ​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​เรา​มอบ​เครื่องประดับ​มุก​ ​ปิ่นปักผม​หนึ่ง​คู่​และ​กำไล​อีก​หนึ่ง​วง​ให้​นาง​ ​ใช้​เงิน​ไป​ทั้งหมด​สาม​ร้อย​กว่า​ตำลึง​เงิน​ ​ตอนที่​เฉียว​อี๋​เหนียง​แต่ง​เข้ามา​ ​คุณหนู​ใหญ่​มอบให้​แค่​ปิ่น​ดอก​มรกต​หนึ่ง​คู่​ ​มูลค่า​สามสิบ​กว่า​ตำลึง​เงิน​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​เข้าใจ​ได้​ทันที

บอก​ให้​หู่​พั่ว​ไป​เชิญ​พ่อบ้าน​ไป๋​เข้ามา​ ​จากนั้น​ก็​เริ่ม​เขียน​รายชื่อ​แขก​ที่​ตัวเอง​จะ​เชิญ​มา​ใน​วันที่​สาม​เดือน​สาม

ทันทีที่​วาง​พู่กัน​ลง​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​ก็​มา​พอดี​

“​…​วัน​มงคล​กำหนด​ไว้​เป็น​วันที่​สิบสอง​เดือน​สาม​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่างตรงไปตรงมา​ ​“​แค่​พริบตาเดียว​ก็​จะ​ถึง​แล้ว​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ต้องเต​รี​ยมการ​ไว้​ก่อน​”

พ่อบ้าน​ไป๋​โค้ง​คำนับ​ ​แล้ว​พูด​อย่าง​สุขุม​ ​“ฮู​หยิน​บอก​บ่าว​ได้​เลย​ขอรับ​”

“​จัด​เรือน​ใหม่​ให้​อยู่​ที่​เรือน​เก่า​ของ​คุณชาย​น้อย​สอง​ก็ได้​ ​ถือโอกาส​สอง​วันนี้​ที่​มัน​มี​แดด​ ​เจ้า​หา​คน​มา​จัดการ​เสียเถิด​ ​ส่วน​เรื่อง​พิธี​ ​ก็​ทำตาม​พิธี​แต่ง​ของ​เฉียว​อี๋​เหนียง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​หู่​พั่ว​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​เจ้า​คัดลอก​สมุดบัญชี​ของ​ปีนั​้น​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​จะ​ได้​จัดการ​ได้​สะดวก​”

แต่​พ่อบ้าน​ไป๋​กลับ​สายตา​เคร่งขรึม

ตน​เป็น​คน​เก่า​คนแก่​ของ​จวน​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​แต่ง​เข้ามา​เท่าไร​ ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​แต่ง​เข้ามา​เท่าไร​ ​จะ​ไม่รู้​ได้​อย่างไร

แต่​หู่​พั่ว​กลับดี​ใจ

สกุล​หยาง​คน​นั้น​เป็น​คน​ของ​ไท​เฮา​ ​แล้วก็​ไม่รู้​ว่านิ​สัย​เป็น​เช่นไร​ ​หาก​ท่าน​โหว​ให้เกียรติ​สกุล​หยาง​มากเกินไป​ ​เกรง​ว่า​อำนาจ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​จะ​ลดน้อยลง​ ​ตอนนี้​จัด​พิธี​ตาม​พิธี​แต่ง​ของ​เฉียว​อี๋​เหนียง​ ​อย่างน้อย​ก็​เป็นการ​แสดงอำนาจ​ ​ให้​คนอื่น​รู้​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​และ​ท่าน​โหว​คิดเห็น​อย่างไร​

นาง​ยิ้ม​แล้ว​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ลอก​สมุดบัญชี​กับ​พ่อบ้าน​ไป๋

สือ​อี​เหนียง​ลุกขึ้น​ ​กำลังจะ​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

เฉียว​เหลียน​ฝัง​ก็​มา​ขอ​พบ​นาง

นาง​สวม​เสื้อผ้า​ไหม​สีเขียว​ ​สวม​กระโปรง​สีขาว​ ​มวยผม​อย่างเป็นระเบียบ​เรียบร้อย​ ​ปักปิ่น​ปัก​ผม​ดอกบัว​ ​ทำให้​ดู​สดใส​และ​งามสง่า

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

ดูเหมือนว่า​นี่​จะ​เป็นครั้งแรก​ที่นาง​เห็น​เฉียว​เหลียน​ฝัง​แต่งตัว​เรียบง่าย​เช่นนี้

นาง​ย่อเข่า​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​อย่างนอบน้อม

สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​สาวใช้​ยก​เก้าอี้​มา​ให้​เฉียว​เหลียน​ฝัง​นั่ง

นาง​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ขอบคุณ​สือ​อี​เหนียง​ ​หย่อน​ตัว​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ ​เหลือบมอง​กระดาษ​ใน​มือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​พูดว่า​ ​“ฮู​หยิน​กำลัง​ยุ่ง​อยู่​กับ​งานเลี้ยง​วันที่​สาม​เดือน​สาม​หรือ​ ​ช่วงนี้​ท่าน​คงจะ​ยุ่ง​มาก​เลย​ใช่​หรือไม่​”

หมายความว่า​นาง​ยุ่ง​เรื่อง​งานเลี้ยง​ใน​วันที่​สาม​เดือน​สาม​ ​แล้วยัง​ต้อง​ยุ่ง​เรื่อง​แต่ง​สกุล​หยาง​เข้ามา​ใช่​หรือไม่

“​ไม่​ค่อย​เท่าไร​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​ล้วนแต่​มี​กฎเกณฑ์​ ​แค่​ทำตาม​ก็​พอแล้ว​!​”

เฉียว​เหลียน​ฝัง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“ฮู​หยิน​เป็น​คนฉลาด​ ​มอง​อะไร​ก็​เข้าใจ​ในทันที​ ​ดังนั้น​ทำ​อะไร​จึง​ประสบความสำเร็จ​ ​ไม่​เหมือนกับ​ข้า​ ​ทำ​อะไร​ก็​ไม่ดี​”

“​เฉียว​อี๋​เหนียง​ถ่อมตัว​เกินไป​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เห็นท่า​ที​ที่​พูด​กับ​ตน​ของ​นาง​ ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​สงสัย​เจตนา​ของ​นาง​

“​ข้า​ไม่ได้​ถ่อมตัว​เจ้าค่ะ​”​ ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ยิ้ม​ ​“​ใน​วันที่​สาม​เดือน​สาม​ล้วนแต่​มีฮู​หยิน​ของ​ขุนนาง​มา​เป็น​แขก​ที่​จวน​มากมาย​ ​ไม่เพียงแต่​ต้อง​ทักทาย​พวก​นาง​ ​แล้วยัง​ต้อง​จัด​คณะ​งิ้ว​ ​จัด​อาหาร​ ​จัด​น้ำชา​ใน​งานเลี้ยง​…​ ​แค่​คิด​ก็​น่ากลัว​แล้ว​ ​แต่ฮู​หยิน​กลับ​จัดการ​เรื่อง​พวก​นี้​ได้​อย่างง่ายดาย​”

นาง​พูดถึง​เรื่อง​งานเลี้ยง​วันที่​สาม​เดือน​สาม​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ไม่​ให้ความสำคัญ​เช่นนี้​!

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​แปลกใจ

แต่​นาง​ยัง​ไม่ทัน​พูด​อะไร​ ​สีหน้า​ของ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ก็​หม่นหมอง​ลง​ ​นาง​ก้มหน้า​ ​“​ตอนนี้​คิดดู​แล้ว​ ​โชคชะตา​ช่าง​เล่นตลก​”​ ​พูดเสี​ยง​เบา​ราว​กระซิบ​ ​“​ทุกคน​ที่​งานเลี้ยง​ฤดูใบไม้ผลิ​ตอนนั้น​ล้วน​แยกทาง​กัน​ไป​หมด​แล้ว​!​”

สือ​อี​เหนียง​นิ่งเงียบ

ตอนนี้​พูด​เช่นนี้​มีประโยชน์​อะไร

หรือ​มัน​ยัง​สามารถ​เปลี่ยนแปลง​อะไร​ได้

แค่​ทำให้​ผู้คน​นึกถึง​อดีต​และ​เสียใจ​ก็​เท่านั้น​!

นาง​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​และ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​นั้น​ไม่มีทาง​มีหัว​ข้อ​เรื่อง​ที่สามา​รถ​พูดคุย​สนทนา​กันได​้​ ​จึง​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​ ​“​เฉียว​อี๋​เหนียง​มาหา​ข้ามี​เรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”

“​ไม่มี​อะไร​ ​ไม่มี​อะไร​เจ้าค่ะ​”​ ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มาด​้วย​รอยยิ้ม​ที่​ขมขื่น​ ​“​ข้า​เห็น​ว่า​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เอาแต่​ช่วย​คุณหนู​ใหญ่​เตรียม​สินเดิม​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ก็​เอาแต่​ทำ​เสื้อผ้า​ฤดูร้อน​ให้​คุณชาย​น้อย​ห้า​ ​แล้วยัง​ต้องหา​เวลา​ทำ​ขนม​ของว่าง​ให้​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​มี​แค่​ข้า​ที่​ไม่มี​อะไร​ทำ​ ​คิดดู​แล้ว​ ​จึง​อยาก​มาดู​ว่าฮู​หยิน​มี​อะไร​ให้​ข้า​ช่วย​หรือไม่​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​ข้า​จะ​เผลอ​พูดถึง​เรื่อง​ใน​อดีต​ขึ้น​มา​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​ถอนหายใจ​ ​“ฮู​หยิน​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ข้า​กับ​ท่าน​ก็​มีพรห​มลิ​ขิต​ต่อกัน​ ​ข้า​พูดความจริง​กับ​ท่าน​ดีกว่า​!​ ​ถึงแม้ว่า​ตอนนั้นฮู​หยิน​ยัง​ไม่ได้​ออกเรือน​ ​แต่​ก็​คงจะ​เคย​ได้ยิน​เรื่อง​นี้​ ​หลังจากที่​พี่​หญิง​ของ​ท่าน​เสียชีวิต​ ​ไท​เฮา​อยาก​ให้​บุตรสาว​คนโต​ของ​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​แต่งงาน​กับ​ท่าน​โหว​ ​แต่​ท่าน​โหว​เคย​สัญญา​กับ​พี่​หญิง​ของ​ท่าน​เอาไว้​ว่า​จะ​แต่งงาน​กับ​คนใน​สกุล​หลัว​ ​เขา​จึง​ปฏิเสธ​ไท​เฮา​ ​เพราะ​เรื่อง​นี้​ ​ไท​เฮา​ไม่พอใจ​เป็นอย่างมาก​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​ ​สุดท้าย​ไท​เฮา​ก็​ให้​สกุล​หยาง​แต่ง​เข้ามา​ใน​จวน​สกุล​สวี​จนได้​ ​ตั้งแต่​โบราณ​ ​พระราชกฤษฎีกา​นั้น​ก็​มี​แค่​ประทาน​งาน​อภิเษกสมรส​ของ​ภรรยา​เอก​ ​ไม่เคย​มี​แต่งตั้ง​อนุภรรยา​ ​ท่าน​ต้อง​ระวังตัว​ไว้​นะ​เจ้า​คะ​ ​ว่า​กัน​ว่า​ฮ่องเต้​องค์​ก่อน​ก็​เคย​มอบ​อนุภรรยา​ให้​ขุนนาง​ท่าน​หนึ่ง​ ​หลังจากที่​ภรรยา​เอก​เสียชีวิต​ไป​ ​นาง​ก็​ถูก​แต่งตั้ง​ให้​เป็น​ภรรยา​เอก​ ​เป็น​ถึงฮู​หยิน​อีกด้วย​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท