ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 395 จุดธูป(กลาง)

ตอนที่ 395 จุดธูป(กลาง)

ตัวอักษร​บน​แท่นศิลา​จารึก​ราวกับ​กำลัง​หมุน​ไปร​อบ​ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​เพ่งดู​อยู่นาน​ถึง​ได้​รู้​ว่า​มัน​แกะสลัก​เนื้อหา​ครึ่งหนึ่ง​ของ​หนังสือ​ ​‘​หัวใจ​พระ​สูตร​’

“​เจ้า​มาที​่​แท่นศิลา​จารึก​ครั้งแรก​หรือ​”​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มีเสียง​บุรุษ​ดัง​ขึ้น​มาจาก​ข้างหลัง​

ไม่ได้​ยิน​เสียง​ป้า​ซ่ง​และ​คนอื่นๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​นาง​หมุนตัว​ไป​มอง​พลาง​ก้าว​ถอยหลัง​หนี​สามสี​่​ก้าว​ทันที

“​ตกใจ​แทบ​แย่​!​”​ ​นาง​มอง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​สวม​เสื้อผ้า​ไหม​สีฟ้า​ลาย​ดอก​แล้ว​ถอนหายใจ​ ​“​เหตุใด​ท่าน​โหว​ถึง​เดิน​เบา​ราวกับ​แมว​เล่า​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​อีกครั้ง​ ​ไม่เห็น​บ่าว​รับใช้​คน​นั้นแล​้ว​ ​ป้า​ซ่ง​และ​หู่​พั่ว​ก็​ยืน​อยู่​ข้าง​ป่าไผ่​ไกลๆ

อาจจะ​เพราะ​เห็น​ว่า​คนที​่​มาคื​อส​วีลิ​่​งอี​๋​ ​ดังนั้น​พวก​นาง​จึง​ไม่​พูด​อะไร​ใช่​หรือไม่​!

“​ท่าน​โหว​มาตั​้ง​แต่​เมื่อไร​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็นท่า​ที​หวาดกลัว​ของ​นาง​ก็​ไม่เข้าใจ​ ​จึง​ถาม​ด้วย​ความแปลกใจ​ ​“​ใน​วัด​นี้​ไม่มี​คนอื่น​เสียหน่อย​…​”

สือ​อี​เหนียง​บ่น​ ​“​ก็​เพราะ​ไม่มี​คนอื่น​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มีเสียง​ผู้ชาย​ดัง​ขึ้น​มา​ ​จะ​ไม่​ตกใจ​ได้​เช่นไร​กัน​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เอ่ย​ขอโทษ​ด้วย​รอยยิ้ม

หลิวถง​จือ​ไม่​บอกลา​สวี​ลิ่ง​อี๋​เสียที​ ​จึง​ทำให้​เขา​มาช​้า​กว่า​เวลา​ที่​กำหนด​เอาไว้​ ​แต่​เขา​ก็​รีบ​วิ่ง​มาทัน​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ยืน​ดูตัว​อักษร​บน​แท่นศิลา​จารึก​อยู่​ไกลๆ​ ​อีกทั้ง​ยัง​ยื่น​นิ้ว​ออกมา​เขียน​ตาม​เป็นครั้งคราว

เห็นท่า​ที​จริงจัง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​เขา​จึง​บอก​ให้​ป้า​ซ่ง​และ​คนอื่นๆ​ ​ห้าม​รบกวน​นาง​ ​แล้ว​เดิน​เข้ามา​เบา​ๆ​

ตอนนี้​เป็นเวลา​ช่วง​บ่าย​ของ​ฤดูใบไม้ร่วง​ ​แสงอาทิตย์​ส่องแสง​บน​ปิ่น​หยก​ที่​ประดับ​อยู่​บน​หัว​ของ​นาง​ ​ส่องแสง​ระยิบระยับ​ทำให้​ใบหน้า​ของ​นาง​ราวกับ​หยก​สีขาว​ ​คิ้ว​โก่ง​โค้ง​คู่​งาม​ ​ดวงตา​สดใส​ ​ราวกับ​กำลัง​ดึงดูด​เหล่า​วิญญาณ​ ​ทำให้​เขา​หยุด​มอง​ไม่ได้

เห็น​นาง​สวม​เสื้อ​สีขาว​ลาย​ดอก​ ​กระโปรง​ธรรมดา​สีฟ้า​ ​เอียง​หัว​มอง​ตัวอักษร​บน​แท่นศิลา​จารึก​ ​ประเดี๋ยว​ก็​ขมวดคิ้ว​ ​ประเดี๋ยว​ก็​ยิ้ม​ ​ปาก​ก็​ยัง​ท่อง​ ​‘​เกิด​แก่​เจ็บ​ตาย​ ​ไม่มี​การก​ลับ​ชาติ​มาเกิด​…​’​ ​ท่าที​น่ารักน่าเอ็นดู​เป็นอย่างมาก​ ​เขา​จึง​ยืน​รอนา​งอยู​่​ข้างๆ​ ​ใคร​จะ​รู้​ว่านา​งอ​่า​นครึ​่ง​หนึ่ง​ของ​ ​‘​หัวใจ​พระ​สูตร​’​ ​จน​จบ​ ​แล้วก็​อ่าน​ตั้งแต่​ต้น​อีกครั้ง​ ​ราวกับ​ไม่เคย​เห็น​มาก​่อน​ ​เขา​จึง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ถาม​ ​แต่กลับ​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​ทำให้​นาง​ตกใจ

แต่​สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​มี​แขก​แล้วยัง​นัด​นาง​ออกมา​เจอ​ใน​ที่​ห่างไกล​เช่นนั้น​ ​อีกทั้ง​ยัง​ไล่​ป้า​ซ่ง​และ​คนอื่นๆ​ ​ออก​ไป​ยืน​ไกลๆ​ ​นาง​จึง​ถาม​อย่างตรงไปตรงมา​ ​“​ท่าน​โหว​เรียก​ข้ามา​มีเรื่อง​สำคัญ​อัน​ใด​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หยุดชะงัก​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​ไม่ได้​มีเรื่อง​สำคัญ​อะไร​”

เขา​พูด​ช้า​กว่า​ปกติ​ ​ใน​น้ำเสียง​มี​ความลังเล​ ​ทำให้​ฟัง​ดู​จริงจัง​ ​สือ​อี​เหนียง​ทำ​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​นาง​คอย​ฟัง​อย่าง​เงียบๆ

“​เจ้า​สนิทสนม​กับ​ไท่ฮู​หยิน​สกุล​กาน​ไม่ใช่​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​ได้ยิน​คนพูด​ว่า​ ​คน​ของ​สกุล​จง​ฉินปั​๋ว​และ​ปั้น​ถัง​กง​อยาก​จะ​ร่วมมือ​กัน​ทำ​กิจการ​ขนส่ง​ทางทะเล​…​”

สกุล​กง​?​ ​ปั้น​ถัง​กง​ที่​ไม่​ถูก​กับ​สกุล​เหวิน​ ​แล้วยัง​เป็นหนึ่ง​ใน​สี่​สกุล​พ่อค้า​รายใหญ่​?​ ​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกใจ​ ​จากนั้น​ก็ได้​ยิน​เสียง​ที่​ชัดเจน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดัง​ขึ้น​มา​ข้าง​หู​อีกครั้ง​

“​ตอนนั้น​สกุล​กง​พยายาม​ใช้​ทุก​วิถีทาง​ส่ง​บุตรสาว​ไป​แต่งงาน​กับ​เจี​้​ยน​อาน​สกุล​เจี่ยง​ ​เดิมที​คิด​ว่า​จะ​พึ่งพา​ต้นไม้​ใหญ่​บดบัง​แสงแดด​ ​ใคร​จะ​คิด​ว่า​สกุล​เจี่ยง​สอง​ชั่วอายุคน​แล้วยัง​ไม่มี​บัณฑิต​ชั้นสูง​แม้แต่​คนเดียว​ ​แล้วยัง​อยู่​ที่ฝู​เจี​้​ยน​ ​อยู่​ภายใต้​อำนาจ​ของ​จิ้ง​อาน​โหว​สกุล​โอว​ ​พวกเขา​ไม่มี​อำนาจ​เหมือน​ตอนนั้น​แล้ว​”​ ​เขา​ค่อยๆ​ ​หันหลัง​เดินลง​บันได​ไป

สือ​อี​เหนียง​รีบ​เดินตาม​ไป

“​สกุล​กง​ก็​ทำ​อะไร​โจ่งแจ้ง​ไม่ได้​ ​สอง​สาม​ปี​ที่ผ่านมา​พวกเขา​ลำบาก​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​สกุล​เจี่ยง​และ​สกุล​กาน​แต่งงาน​กัน​ ​พวกเขา​จึง​พยายาม​สร้าง​สัมพันธ์​กับ​สกุล​กาน​”

ในขณะที่​พูด​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​เดิน​โค้ง​เข้าไป​ทาง​ถนน​เล็ก​ใน​ป่าไผ่

“​ทำ​กิจการ​ขนส่ง​ทางทะเล​มี​กำไร​มาก​ ​แต่​ก็​มี​ความเสี่ยง​สูง​ ​นอกจากนั้น​ยัง​ต้อง​ใช้​ทักษะ​มากมาย​ ​สกุล​กง​ไม่เคย​ข้องเกี่ยว​กับ​กิจการ​ประเภท​นี้​ ​เจ้า​หา​เวลา​ไป​เตือน​กาน​ไท่ฮู​หยิน​สักหน่อย​เถิด​ ​บอก​ให้​จง​ฉินปั​๋​วระ​วัง​เรื่อง​บาง​เรื่อง​เอาไว้​ก็ดี​”

ต้น​ไผ่​สอง​ข้างทาง​ทั้ง​สูง​ทั้ง​หนาแน่น​ ​กิ่ง​ไผ่​เสียดสี​กัน​ ​บาง​ต้น​ใหญ่​ราวกับ​ชาม​ ​บาง​ตัน​เรียว​เล็ก​ราวกับ​พู่กัน​ ​เบียดเสียด​กัน​ไปมา​ ​กิ่ง​และ​ใบ​ยืด​แผ่ขยาย​ออกมา​ ​ทำให้​พวก​มัน​ดู​มีชีวิตชีวา

แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ไม่มี​อารมณ์ชื่น​ชม​มัน

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ใช่​คนที​่​ได้ยิน​ข่าวลือ​อะไร​ก็​คล้อยตาม​ไป​หมด​ ​เขา​ไม่มี​ความใจร้อน​และ​บ้าบิ่น​เหมือน​ตอน​เป็น​หนุ่ม​ๆ​ ​แล้ว​ ​เขา​นัด​ตน​มา​พูด​เรื่อง​นี้​อย่างจริงจัง​ที่​สถานที่​เช่นนี้​ ​ถึงแม้ว่า​น้ำเสียง​ของ​เขา​จะ​นิ่ง​สงบ​ ​แต่​เกรง​ว่า​เรื่อง​นี้​มัน​คงจะ​เลวร้าย​จริงๆ

นาง​ตั้งหน้าตั้งตา​ฟัง​อย่างตั้งใจ​

“​ตอนนี้​สกุล​กง​อยาก​จะ​รีบ​ตีสนิท​กับ​สกุลา​กาน​ ​ก็เพราะว่า​อยาก​จะ​อ้าง​ชื่อ​ของ​จวน​จง​ฉินปั​๋ว​ ​ให้​จง​ฉินปั​๋ว​ไม่ต้อง​กังวล​ว่า​จะ​ทำ​กิจการ​กับ​สกุล​กง​ไม่สำเร็จ​ ​แค่​จ่าย​เงินลงทุน​ตาม​สัดส่วน​โดย​ไม่ต้อง​จ่าย​เงินทุน​ทั้ง​ก้อน​ ​ยอม​ได้​กำไร​น้อย​หน่อย​ ​แต่​อย่า​ลงทุน​มากเกินไป​ ​จะ​ได้​ไม่เสียหาย​”

ถึงแม้ว่า​จะ​มีเหตุผล​ ​แต่​หาก​ไม่มี​เงิน​ก็​ไม่มีทาง​ชนะคดี​ ​ถึงแม้ว่า​สกุล​กาน​จะ​เป็น​สกุล​ขุนนาง​ ​แต่​การฟ้องร้อง​คดี​ก็​สามารถ​ทำให้​พวกเขา​เสียหาย​ได้​เหมือนกัน​ ​มัน​ไม่ได้​ดู​สดใส​เหมือน​เปลือกนอก​ ​จง​ฉินปั​๋​วอาจ​จะ​โลภ​จน​เสียสติ​สัมปชัญญะ​ ​และ​ตัดสินใจ​อะไร​พลาดพลั้ง​ก็​เป็นไปได้​ ​หาก​พวกเขา​ผิดพลาด​ ​เกรง​ว่า​คง​ไม่มีวัน​ได้​ฟื้น​กลับมา​อีกต่อไป

กาน​ไท่ฮู​หยิน​ยัง​อายุ​น้อย​อยู่​ ​นาง​ยัง​ต้อง​พึ่งพา​จง​ฉินปั​๋ว​ดูแล​นาง​ไป​จน​แก่เฒ่า

สือ​อี​เหนียง​เป็นกังวล​ ​“​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​ไป​จวน​สกุล​กาน​ ​จะ​ได้​นำ​ของขวัญ​เทศกาล​ไหว้พระ​จันทร์​ไป​มอบให้​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ด้วย​”​ ​แล้วก็​นึกถึง​ความสัมพันธ์​ของ​จง​ฉินปั​๋ว​และ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ ​นาง​พูด​อย่าง​เอือมระอา​ ​“​ไม่รู้​ว่า​จง​ฉินปั​๋​วจะ​ฟัง​คำแนะนำ​ของ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​หรือไม่​…​”

จะ​ให้​บอกว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็น​คนพูด​เรื่อง​นี้​ได้​เช่นไร​กัน​!

นี่​เป็นเรื่อง​ของ​สกุลาน​ ​จง​ฉินปั​๋​วก​็​ยัง​เป็น​ท่านปั​๋​วที​่​พึ่ง​ได้รับ​ตำแหน่ง​ ​กำลัง​มีอำนาจ​ ​หาก​เขา​คิดได้​ก็​คงจะ​ดี​ ​แต่​หาก​คิด​ไม่ได้​ ​เกรง​ว่า​จะ​โทษ​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยุ่ง​เรื่อง​ของ​คนอื่น​ ​ถึงขั้น​มี​ความคิด​ที่จะ​คัดค้าน​ ​จะ​ลงทุน​ก้อน​ใหญ่​กับ​สกุล​กง​ทำ​กิจการ​นี้​ให้​หย่ง​ผิง​โหวดู​…

นาง​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​เรื่อง​นี้​ ​มี​ใคร​รู้​อีก​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​ไม่​ค่อย​มี​ใคร​รู้​”​ ​พวกเขา​สอง​คน​เดิน​ช้าๆ​ ​เคียง​กัน​บน​ถนน​ใน​ป่าไผ่​ ​“​ข้า​ก็​บังเอิญ​รู้​มา​”

สกุล​โอว​อยู่​ที่ฝู​เจี​้​ยน​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​สังเกต​การเคลื่อนไหว​ของ​สกุล​โอว​มาต​ลอด​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​รู้​มาจาก​สกุล​เจี่ยง​หรือ​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า

สือ​อี​เหนียง​เอ่ย​ถาม​เขา​ ​“​แล้ว​พี่ชาย​ของ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​รู้​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

พี่ชาย​ของ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ ​ไม่ว่า​เช่นไร​ก็​ถือเป็น​ท่าน​ลุง​ของ​จง​ฉินปั​๋ว​ ​เป็นเรื่อง​สมควร​ที่​เขา​จะ​สนใจ​เรื่อง​ของ​สกุล​กาน

สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​เรื่อง​พวก​นี้​เจ้า​ไม่จำเป็น​ต้อง​ทำ​เกินหน้า​ที่​ ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​คงจะ​จัดการ​ได้​!​”

ก็​จริง​!​ ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​เป็นฮู​หยิน​ของ​ท่านปั​๋ว​คน​ก่อน​มาตั​้ง​หลาย​ปี​ ​ถึงแม้ว่า​นาง​จะ​คิด​อะไร​ไม่​ออก​ ​แต่​ก็​ยัง​มีพี​่​ชาย​สกุล​เดิม​ให้​ปรึกษา​ ​ตน​มักจะ​นึกถึง​ท่าที​ที่​โดดเดี่ยว​ของ​นาง​ ​จึง​เผลอ​คิด​ว่านาง​ไม่มี​ที่พึ่ง​พา​

“​ข้า​คิดมาก​เกินไป​เอง​เจ้าค่ะ​”​ ​คิด​เช่นนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​แล้วก็​ไม่​พูด​อะไร​อีก

ต้น​ไผ่​รอบ​ๆ​ ​ก็​เบียดเสียด​ไปมา​จน​ทำให้เกิด​เสียง

พวกเขา​สอง​คน​เดิน​ไป​อย่าง​เงียบๆ

สือ​อี​เหนียง​อี๋​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ยังอยู่​ที่​เรือน​ปีก​ ​แต่​นาง​ไม่รู้​ว่า​ถนน​เส้น​นี้​ไป​ทาง​ไหน​ ​นาง​จึง​เดิน​ช้า​ลง​เพราะ​ลังเล​ ​แต่กลับ​ได้ยิน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถาม​ว่า​ ​“​เมื่อ​ครู่​เห็นท่า​ที​ของ​เจ้า​ ​ดูเหมือนว่า​เจ้า​จะ​มาที​่​แท่นศิลา​จารึก​ครั้งแรก​?​”​ ​จากนั้น​ก็​ไม่​รอ​ให้​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ ​เขา​ก็​พูด​อีกว่า​ ​“​มี​คน​บอกว่า​แท่นศิลา​จารึก​นี้​เป็นตัว​อักษร​สิง​เฉ​่า​อันดับ​หนึ่ง​ ​แล้วยัง​ถูก​ยกย่อง​ให้​เป็น​‘​ตัวอักษร​ที่​แปลกประหลาด​ ​ราวกับ​เถาวัลย์​ที่​ห้อย​อยู่​ใต้​ต้นสน​’​ ​ทำให้​บรรดา​นักปราชญ์​ที่มา​วัดฮู​่กั​๋ว​ต้อง​มาดู​ที่นี่​ ​เจ้า​คิด​ว่า​เป็น​เช่นไร​บ้าง​”

“​ข้า​ไม่เคย​เรียน​อักษร​หวัด​ ​จึง​ไม่​ค่อย​เข้าใจ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​แต่ว่า​ตัวอักษร​เขียน​ได้​สวยงาม​ ​แล้วยัง​มี​ความแน่วแน่​ ​เป็นผล​งานชิ้นเอก​ที่​หายาก​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​หยุดชะงัก​ ​“​แต่ว่า​ใช้​อักษร​หวัด​เขียน​ ​‘​หัวใจ​พระ​สูตร​’​ ​ข้า​คิด​ว่า​มัน​แปลก​ๆ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ

“​ดังนั้น​ตอนที่​ค้นพบ​แท่นศิลา​จารึก​นี้​ ​มี​ข่าวลือ​ว่าวัดฮู​่กั​๋ว​เป็น​คน​ทำ​ขึ้น​มา​เพื่อให้​ได้รับ​ความสนใจ​จาก​ผู้คน​”

ยุคสมัย​ไหน​ก็​มีเรื่อง​จำพวก​นี้​!

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ถาม​นาง​ ​“​เจ้า​ลอกเลียนแบบ​ลายมือ​ของ​ใคร​หรือ​ ​ตัวอักษร​ช่าง​อิสระ​เหลือเกิน​”

ตอนนั้น​ที่​สือ​อี​เหนียง​ฝึก​เขียน​พู่กัน​ก็เพราะว่า​เป็น​วิชา​เสริม​ ​ต่อมา​นาง​เริ่ม​สนใจ​การเขียน​พู่กัน​มากขึ้น​ ​จึง​ฝึกฝน​มาต​ลอด​ ​แต่​ใน​สายตา​ของ​คนที​่​เข้าใจ​การเขียน​พู่กัน​จริงๆ​ ​ก็​คงจะ​มี​เอกลักษณ์​แค่​ความ​อิสระ​เท่านั้น

“​ลอกลาย​มือ​ของ​โอว​หยาง​สวิน​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​ยิ้ม​ ​“​ต่อมา​ก็​ลอก​ของ​หลิว​กง​เฉวียน​ ​แต่​ข้า​ชอบ​ลอก​ของ​พ่อ​ลูก​หวัง​ซีจือ​และ​หวัง​เซี​่​ยน​ตือ​มาก​ที่สุด​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ​ ​ ​“​ทำไม​ถึง​ไม่​ลอก​ของ​เหยี​ยน​เจิน​ชิง​”

สือ​อี​เหนียง​เหงื่อ​ตก

ฝึก​เขียน​พู่กัน​แบ่ง​ออก​เป็นใหญ่​ ​กลาง​ ​เล็ก​ ​อักษร​บรรจง​เหยี​ยน​ต้อง​ลง​น้ำหนัก​มือ​ ​ตวัด​ออก​ ​ลอก​ตัวอักษร​ของ​เขา​ ​สามารถ​เขียน​ตัว​ใหญ่​ได้​ ​ใครก็ตาม​ที่สามา​รถ​เขียน​ตัว​ใหญ่​ได้​ ​ล้วนแต่​เคย​ลอกลาย​มือ​ของ​เขา​ทั้งสิ้น​ ​แต่​ตอนนั้น​นาง​คิด​ว่า​ตัวเอง​อาจจะ​ไม่ได้​ใช้​ ​ดังนั้น​จึง​เรียน​แค่นิด​หน่อย​ ​ไม่ได้​ลอกลาย​มือ​ของ​เขา​อย่างจริงจัง

นาง​ตอบ​อย่าง​คลุมเครือ​ว่า​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​อักษร​บรรจง​เล็ก​สวย​กว่า​เจ้าค่ะ​!​”

สตรี​ส่วนมาก​ที่​เขียน​ตัว​ใหญ่​ไม่​สวย​ ​ชอบ​เปลี่ยนไป​เขียน​อักษร​บรรจง​เล็ก

ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​นึกถึง​เสื้อผ้า​และ​เครื่องประดับ​ที่​ดูเหมือน​จะ​ธรรมดา​แต่กลับ​ประณีต​ทุกอย่าง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ก็​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา

นาง​ไม่ใช่​เขียน​ไม่​สวย​ ​แต่​นาง​คง​ไม่​ชอบ​เขียน​กระมัง

“​ข้า​เรียน​ตัวอักษร​ของ​เหยี​ยน​เจิน​ชิง​มาก​่อน​”​ ​เขา​พูด​ ​“​ต่อมา​ลอกลาย​มือ​ชู​ซุ่ย​เหลียง​ ​จง​เหยา​ ​จ้าว​จื่อ​อัง​ ​หมี่​เฟ่ย​และ​เอ๋อร​์​หวัง​ ​แต่​ข้า​ชอบ​ลายมือ​ของ​ชู​ซุ่ย​เหลียง​มาก​ที่สุด​”

“​ไม่​แปลกที่​ข้า​คิด​ว่า​ตัวอักษร​ของ​ท่าน​โหว​หนักแน่น​ ​นุ่มนวล​แล้วยัง​สง่างาม​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​ดูเหมือนว่า​ท่าน​โหว​จะ​เชี่ยวชาญ​การเขียน​ตัวอักษร​สิง​เฉ​่า​มาก​ใช่​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​พอได้​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​อย่าง​ถ่อมตน​ ​“​ตอน​เด็ก​ๆ​ ​ข้า​ซุกซน​เป็นอย่างมาก​ ​มักจะ​โดด​เรียน​บ่อยๆ​ ​ท่าน​พ่อ​จึง​ส่ง​ข้า​ไป​อยู่​กับ​อาจารย์​เติ้ง​ ​ให้​เขา​เล่าเรื่อง​การลอก​ตัวอักษร​จาก​ต้นฉบับ​ให้​ข้า​ฟัง​ ​ข้า​ถึง​ได้​ค่อยๆ​ ​ยอมรับ​ ​จากนั้น​ก็​ฝึกฝน​เขียน​พู่กัน​กับ​อาจารย์​เติ้ง​”

“​อาจารย์​เติ้ง​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​ด้วย​ความสงสัย​ ​“​อาจารย์​เติ​้้ง​จิ้ง​จือ​หรือ​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า

“​เช่นนี้​ ​ท่าน​โหว​และ​ฮ่องเต้​ก็​มี​อาจารย์​คนเดียว​กัน​หรือ​เจ้า​คะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​สนใจ​ขึ้น​มา​ ​“​ดังนั้น​ท่าน​รู้จัก​ซุ่น​อ๋อง​และ​ใต้เท้า​โจว​ตั้งแต่​เด็ก​แล้ว​หรือ​”

“​อืม​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ ​“​เรา​อายุ​ใกล้เคียง​กัน​ ​เดิมที​ซุ่น​อ๋อง​อยู่​กับ​อาจารย์​เติ้ง​อยู่​แล้ว​ ​แต่ว่า​ซื่อ​เจิง​นั้น​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​เห็น​ว่า​ข้า​เรียนหนังสือ​แล้ว​เขียน​พู่กัน​เก่ง​ขึ้น​ ​ถึง​ได้​ส่ง​เขา​มาที​หลัง​ ​ตอนนั้น​ยัง​ไม่รู้​ความ​ ​ข้า​สาม​คน​ก่อเรื่อง​กัน​อยู่​ทุก​วี่วัน​ ​บางครั้ง​ก็​ถูก​อาจารย์​เติ้ง​จับได้​ ​ลงโทษ​ให้​พวก​ข้า​คุกเข่า​ ​มี​ครั้งหนึ่ง​ที่นาง​ใน​ของ​พระตำหนัก​ของ​อู๋​ฮองเฮา​นำ​ของ​ไป​ให้​องค์​ไท่​จื่อ​ ​เห็น​พวก​ข้า​สาม​คนคุก​เข่า​ตากแดด​อยู่​ตรงกลาง​ลาน​ ​กลับ​ไป​ก็​ไป​เล่า​ให้​อู๋​ฮองเฮา​ฟัง​ ​อู๋​ฮองเฮา​จึง​บอก​ให้​นางใน​คน​นั้น​แอบ​นำ​กางเกง​ผ้าฝ้าย​รอง​เข่า​มา​ให้​พวก​ข้า​…​”​ ​ยาม​ที่​เขา​เล่าเรื่อง​ใน​อดีต​ ​มักจะ​มี​ร่องรอย​ความอาลัย​อาวรณ์​แฝง​อยู่​ใน​ความสุข​เสมอ

เพราะ​นึกถึง​อู๋​ฮองเฮา​ที่​ฆ่าตัวตาย​ไป​เช่นนั้น​หรือ

สือ​อี​เหนียง​ลอบ​ถอนหายใจ​ ​นาง​เก็บความ​สงสัย​ของ​ตัวเอง​เอาไว้​ใน​ใจ​แล้ว​ฟัง​สวี​ลิ่ง​อี๋​เล่าเรื่อง​อย่างตั้งใจ

“​พวก​ข้า​สวม​กางเกง​ผ้าฝ้าย​รอง​เข่า​ก็​ไม่​เจ็บ​เข่า​แล้ว​ ​แต่​มัน​ร้อน​มาก​ ​ซุ่น​อ๋อง​จึง​ยก​เสื้อคลุม​ขึ้น​มา​พัด​ ​สุดท้าย​ก็​ถูก​อาจารย์​เติ้ง​จับได้​”

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​รูปร่าง​ของ​ซุ่น​อ๋อง​ ​ก็​หลุด​หัวเราะ​ออกมา​ ​“​เป็น​เช่นไร​ต่อ​เจ้า​คะ​”

“​เพราะว่า​กางเกง​ผ้าฝ้าย​รอง​เข่า​นั้น​ปัก​ลาย​มังกร​”​ ​สายตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็นประกาย​ ​“​อาจารย์​เติ้ง​จึง​บอกว่า​เป็น​คน​ของ​ซุ่น​อ๋อง​ ​เขา​จึง​ไป​ฟ้อง​ท่าน​อ๋อง​ผู้เฒ่า​…​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ที่​มีท​่า​ที​ยิ้มแย้ม​แบบนี้​ ​เขา​พึ่ง​จะ​เคย​เห็น​เป็นครั้งแรก​ ​จึง​หยิบ​เรื่อง​ที่​น่าสนใจ​ใน​อดีต​อื่นๆ​ ​มา​เล่า​ให้​นาง​ฟัง​ ​“​เขา​นอน​อยู่​บน​เตียง​นาน​กว่า​สาม​เดือน​ ​หลังจาก​กลับมา​แล้วก็​มาคิ​ดบัญ​ชี​กับ​พวกเรา​ ​บอก​ให้​ขันที​ดัก​ข้า​และ​ซื่อ​เจิง​หลัง​เลิกเรียน​…​”

มีบ​่า​วรับ​ใช้​ออกมา​จาก​ป่าไผ่​ ​มองดู​พวกเขา​แล้ว​ถู​มือ​ด้วย​ความกังวล

สวี​ลิ่ง​อี๋​เหลือบ​ไป​มอง​เขา​ ​แต่​ไม่ได้​สนใจ​ ​กลับมา​พูด​เรื่องราว​ใน​วัยเด็ก​ของ​ตัวเอง​กับ​สือ​อี​เหนียง​ต่อ​ ​“​…​ ​ข้า​กับ​ขันที​ก็​ลง​ไม้​ลงมือ​กัน​ ​ซื่อ​เจิง​จึง​ไป​ฟ้อง​อู๋​ฮองเฮา​…​”

สือ​อี​เหนียง​มองดู​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​ยังคง​พูด​อย่างใจ​เย็น​ ​นาง​ก็​ยิ้ม

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท