เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค – ตอนที่ 387 ขอเพียงนางยังมีชีวิตอยู่ (3)

ตอนที่ 387 ขอเพียงนางยังมีชีวิตอยู่ (3)

ได้ยินเช่นนั้น มือที่บีบนวดไหล่ของหนิงเหล่าเหยียก็ชะงัก พลางมองไปที่มารดาของเขาแวบหนึ่งเงียบๆ

นับตั้งแต่เขาเข้าประตูมาจนถึงตอนนี้ สิ่งที่มารดาของเขาเอ่ย และการกระทำลับหลังต่างๆ พวกนั้น อยู่ในใจของเขา ทั้งยังเห็นอยู่ในสายตา จึงเข้าใจตั้งแต่แรกแล้วว่ามารดาตนเองคิดจะทำอันใด!

“ลูกมิทราบ แต่น่าจะยังไม่กลับมานะขอรับ” แม้ว่าหนิงเซ่าชิงจะกลับมาแล้ว เขาก็ไม่มีทางบอกฮูหยินผู้เฒ่าเช่นกัน

ฮูหยินผู้เฒ่าส่งเสียงอืมเรียบๆ บรรยากาศสงบเงียบขึ้นมากในทันที แม้ว่าในใจหนิงเหล่าเหยียจะมีความมั่นใจ เเต่เมื่อเห็นมารดาของเขามีท่าทางนิ่งๆ เช่นนี้เเล้ว ก็รู้สึกใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ อยู่บ้าง!

เขาเป็นลูกกตัญญูคนหนึ่ง อยู่ข้างนอกนั่นน่ายำเกรง มีพลังอำนาจมากเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าฮูหยินผู้เฒ่า เขาก็ยังเป็นบุตรชาย เป็นผู้เยาว์ ควรจะสุภาพ เชื่อฟัง และกตัญญู

ผ่านไปนานหลายปีแล้ว ในใจมารดาคิดสิ่งใด เขาที่เป็นบุตรชายจะไม่รู้ได้เช่นไร

ในปีนั้นเขาถูกทำร้ายมาครั้งหนึ่งจนสูญเสียสตรีที่ตนเองรักมากที่สุดไป! ตอนนี้ เขาไม่มีทางยอมให้บุตรชายของตนต้องเดินตามรอยเท้าเดิมของเขาเด็ดขาด!

แม้ว่า…

คิดถึงตรงนี้ หนิงเหล่าเหยียก็สูดลมหายใจลึก คล้ายกับตัดสินใจแน่วแน่แล้ว แม้ว่า…แม้ว่าจะต้องแตกหักกับมารดาของตนเองก็ตาม!

คนนั้นก็บุตรชาย คนนี้ก็มารดา ล้วนสำคัญทั้งคู่ เขาก็ลำบากใจเช่นกัน

“ลูกเอ๋ย เจ้าวิเคราะห์ให้แม่ทีว่า…ในตระกูลอวี่เหวิน นอกจากอวี่เหวินหันเหล่ยที่ใช้การไม่ได้ ยังมีผู้ใดที่ค่อนข้างเข้าตาบ้าง”

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ฮูหยินผู้เฒ่าก็ดึงเข้าประเด็นในที่สุด

หารู้ไม่ว่า น้ำเสียงที่นางนึกว่ามีเมตตาและอ่อนโยนอย่างสุดซึ้งนั้น เมื่อดังขึ้นในหูบุตรชายที่อยู่ข้างหลังนางในตอนนี้ กลับไม่ต่างจากข่าวร้าย!

หนิงเหล่าเหยียเก็บงำรอยยิ้มเย็นที่ปรากฏขึ้นบนมุมปากโดยไม่รู้ตัว และฝืนบังคับตนเองให้เค้นรอยยิ้มโอนอ่อนผ่อนตามอันอบอุ่น พยายามเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ท่านแม่ พวกเราเอ่ยเรื่องนี้กันทำไมขอรับ เรื่องของตระกูลอวี่เหวินย่อมต้องให้คนตระกูลอวี่เหวินเป็นกังวลไป ท่านก็อายุมากแล้ว! ดูแลตนเองให้อายุยืนก็พอ! เพลิดเพลินไปกับลูกหลานไม่ดีหรือขอรับ”

วาจานี้กล่าวได้น่าฟังและอ้อมค้อม แต่ฮูหยินผู้เฒ่าที่คร่ำเคร่งกับการต่อสู้ในเรือนหลังของตระกูลมาสิบกว่าปีจะไม่เข้าใจความหมายของวาจาที่บุตรชายนางเอ่ยมาได้เช่นไร

แต่ละคนล้วนรังเกียจที่นางยุ่งมากเกินไป!

เพล้ง!

ทันใดนั้นฮูหยินผู้เฒ่าปาถ้วยชาในมือลงพื้นอย่างมีโทสะ! หันหน้าไปถลึงตาใส่บุตรชายนางด้วยความโมโห!

หลานชายนั้น แม้ในใจนางจะเจ็บปวดแต่ก็ไม่สะดวกจะบันดาลโทสะ ส่วนบุตรชาย นางสามารถบีบให้ตายได้ ขอเพียงไม่ใช่เรื่องใหญ่และสำคัญ เมื่อนางบันดาลโทสะ บุตรชายก็จะให้นางสมปรารถนา

“เจ้าหมายความว่าอะไร ข้าทำเพื่อพวกเจ้าไม่ใช่หรือ! เพื่อตระกูลหนิงของพวกเรา? ไม่เช่นนั้นข้าจะกังวลใจไปทำไมกัน”

เสี้ยวพริบตาที่ฮูหยินผู้เฒ่าเขวี้ยงถ้วยชาแตกละเอียด หนิงเหล่าเหยียก็หยุดนวดให้ฮูหยินผู้เฒ่า หลังจากได้ยินวาจาของฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว ในใจก็เกิดความรู้สึกเจ็บปวดแค้นเคืองผสมปนเปกันขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ แต่เขา

ยังคงอดทน ลองโน้มน้าวดู

“ท่านแม่ บุตรหลานย่อมมีบุญกรรมของตนเอง ตระกูลหนิงของพวกเราในตอนนี้ก็ดีมากแล้ว เซ่าชิงมีความสามารถโดดเด่น ไม่จำเป็นต้องให้ท่านเป็นกังวลอันใดอีกแล้วขอรับ”

“ลูกอกตัญญู!” ฮูหยินผู้เฒ่าโมโหแล้วจริงๆ!

ตอนที่นางแต่งเข้าตระกูลหนิง ก็เป็นฮูหยินใหญ่ของตระกูล พริบตาเดียวก็ผ่านไปสี่สิบห้าสิบปีแล้ว นางที่ยืนอยู่เหนือกว่าทุกคนมาโดยตลอด แม้ว่าฮ่องเต้มา ก็ยังต้องเรียกนางอย่างให้เกียรติว่า

หลายปีมานี้ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยความคิดเห็นของตนเองออกมาต่อหน้านางสักคนเดียว!

คิดไม่ถึงว่า บุตรชายแสนดีของนาง บุตรชายแสนดีที่เชื่อฟังนางตลอด มาวันนี้ถึงกับไม่สนใจที่จะกตัญญูต่อบิดามารดาแล้ว ถึงกลับกล้าโต้เถียงนาง!

“ทำไม เจ้ารังเกียจที่แม่ขวางหูขวางตาใช่หรือไม่ รังเกียจที่แม่แก่แล้ว ใช้การไม่ได้แล้ว จึงไม่ฟังแม่แล้วใช่หรือไม่” ถ้าไม่เช่นนั้น เหตุใดเมื่อนางเอ่ยถึงตระกูลอวี่เหวินขึ้นมา พวกเขาสองพ่อลูกถึงได้มีปฏิกิริยาเเบบเดียวกันเล่า

เซ่าชิงนางยังสามารถเข้าใจได้ อย่างไรเสียก็อายุยังน้อย เลือดร้อน ไม่รู้เรื่องรู้ราว!

แต่บิดาของเซ่าชิงไม่สมควรจะกล่าววาจาเช่นนี้กับนางเลยจริงๆ นี่วางนางไว้ในตำแหน่งใด

“ลูกมิกล้า” หนิงเหล่าเหยียก้มหน้ายอมรับผิดเล็กน้อย แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกว่าตนเองผิดอะไร

“เจ้ายังมิกล้าหรือ เจ้ามิกล้า ยังขัดขวางข้าพาคนตระกูลอวี่เหวินกลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้ามิกล้า ยังจะขัดขวางข้าให้เซ่าชิงรับอนุภรรยาหลายต่อหลายครั้ง! นี่คือเรื่องที่เจ้าทำขณะที่บอกว่ามิกล้าเช่นนั้นรึ”

ตระกูลอวี่เหวิน! ตระกูลอวี่เหวิน!

ตระกูลอวี่เหวินนี่ให้ประโยชน์อันใดกับท่านกันแน่ ถึงได้ทำให้ท่านดูแลอย่างดีมาสี่สิบห้าสิบปี ท่านเป็นบุตรีตระกูลอวี่เหวินก็จริง แต่ตอนนี้ท่านเป็นคนตระกูลหนิง!

หนิงเหล่าเหยียถูกทำให้โมโหจนเหมือนมีอะไรบางอย่างติดอยู่ในลำคอ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก รู้สึกแย่มากจริงๆ!

“ท่านแม่! ลูกไม่เคยถือสาหาความในเรื่องนี้! ท่านกล่าวว่าข้าขัดขวางท่านไม่ให้พาคนตระกูลอวี่เหวินกลับมา เช่นนั้นข้าจะมอบเหตุผลหนึ่งที่ไม่สามารถพาพวกเขากลับมาได้กับท่าน!”

หนิงเหล่าเหยียถูกความเขลาของมารดาผู้นี้ทำให้โมโหจนบ้าไปแล้ว จึงกล่าววาจารุนแรงอยู่บ้าง

“เจ็ดปีก่อน บุตรชายท่านตาใหญ่ตระกูลอวี่เหวินมาเที่ยวเล่นที่จวนหนิงของพวกเรา จวนหนิงปฏิบัติต่อเขาไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ขาดสิ่งใด ใช่หรือไม่ แต่ทำไมเขาต้องแอบไปห้องหนังสือของลูก แล้วขโมยตราประทับหัวหน้าตระกูล? ข้าจัดการเขาหรือไม่ อาศัยเพียงแค่ประโยคเดียวของท่าน บอกว่าเขาหลงทางเดินไปผิดที่ เข้าผิดห้อง ข้าก็ปล่อยเขาไป ห้าปีก่อน ญาติผู้พี่คนโตตระกูลอวี่เหวินมา เขาเป็นบุรุษที่อายุมากกว่าข้าหนึ่งปี! อาศัยที่ว่าตนเองเป็นหลานชายแท้ๆ ของท่าน แอบไปถ้ำมองอนุภรรยาข้าอาบน้ำ อนุภรรยาที่ข้าเพิ่งรับเข้ามาเพียงสามเดือน ทนรับการทำให้อับอายเช่นนี้ไม่ไหว สุดท้ายก็แขวนคอฆ่าตัวตาย! ข้าได้เอ่ยอันใดหรือไม่ ข้าไม่ได้กล่าวอันใดทั้งนั้น! ปีที่สอง ญาติผู้พี่คนโตมาอีกครั้ง ครั้งนี้คนที่ชอบไม่ใช่อนุภรรยา แต่เป็นหลานสาวแท้ๆ ของท่าน! บุตรีแท้ๆ ของข้า! แม้ว่านางจะไม่ใช่บุตรีภรรยาเอก แต่ก็เป็นบุตรีอนุภรรยาที่สูงศักดิ์กว่าคนในตระกูลทั่วไปไม่รู้กี่เท่า ถ้าหากตอนนั้นไม่ใช่อี๋เหนียงของนางไปเร็วหน่อย หลานสาวของท่านคงถูกเจ้าเดรัจฉานผู้นั้นปู้ยี่ปู้ยำไปแล้ว! สองปีก่อน ตระกูลอวี่เหวินส่งคนนำบัญชีเงินมาให้ กล่าวอย่างเคร่งครัดและชัดเจนว่านั่นคือค่าครองชีพของพวกเขาตระกูลอวี่เหวิน! ห้าแสนตำลึงเงิน! ค่าครองชีพหนึ่งปีของพวกเขา!! ทั้งยังขู่ด้วยว่า ถ้าหากพวกเราไม่ให้จะมาโวยวายพวกเราถึงที่! ตอนนั้นท่านป่วย ลูกสามารถมารบกวนท่านด้วยเงินเล็กน้อยได้หรือขอรับ ไม่มีวิธีใด ลูกทำได้เพียงแค่มอบให้! แต่ท่านแม่ ท่านรู้หรือไม่ว่าจวนหนิงที่ใหญ่ขนาดนี้จวนหนึ่ง ค่าอาภรณ์และอาหารการกินในปีหนึ่ง ค่าครองชีพเหล่าอนุภรรยาของลูกจะฟุ่มเฟือยเพียงใด เมื่อรวมกันแล้วก็แค่สองสามแสนตำลึง!”

เอ่ยจบ หนิงเหล่าเหยียก็เห็นมารดามีสีหน้าซีดเผือดทันที แม้ในใจจะอดไม่ได้ที่จะสงสาร แต่ก็ยังทำใจเเข็งไม่สนใจ!

มารดาของเขาเข้มแข็ง เฉลียวฉลาด จัดการเรือนหลังได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ทว่ามีอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือให้ความดูแลตระกูลฝ่ายมารดามากเกินไป!

เดิมนี่ไม่ใช่ความผิดอะไร ขอให้อยู่ในขอบเขต! ปีนั้นผู้ที่ได้รับความเมตตาจากนาง ที่ตายก็ตายไป ที่พิการก็พิการไปนานแล้ว ตระกูลอวี่เหวินในตอนนี้ จะยังมีใครจำไมตรีจิตของกูไหน่ไนที่มีอายุมากขนาดนี้ได้อีก

ในสายตาพวกเขา มองเห็นเพียงแค่เงิน! เเค่เงินเท่านั้นเอง!

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

Status: Ongoing

เพราะสำลักน้ำชาจนขาดอากาศ(?)ทำให้ มั่วเชียนเสวี่ย สาวมั่นหัวการค้าทะลุมิติมาอยู่ในโลกยุคโบราณและในร่างของคนอื่น

แต่นั่นยังไม่น่าตระหนกเท่าการที่ร่างนี้กำลังจะแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้กับชายหนุ่มที่ป่วยร่อแร่เต็มที!

ในโลกที่หากขาดที่พึ่งผู้หญิงก็สามารถถูกขายเป็นทาสได้ตลอดเวลาสามีคนนี้ของนางนับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

ทั้งมีความรู้ สุภาพและไม่ใช้กำลังแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย เสียตรงร่างกายอ่อนแอไปหน่อยเท่านั้น

ชีวิตครอบครัวชนบทแสนยากจนของนางจึงเริ่มขึ้นที่ตรงนั้น… แต่อย่างไรนางไม่ยอมงอมืองอเท้ารับชะตากรรมแบบนี้แน่

ในเมื่อนางมีความรู้ความสามารถยังต้องกลัวสร้างกิจการไม่ได้อีกหรือ?!

เส้นทางร่ำรวยสายนี้นางจะบุกเบิกมันขึ้นมาด้วยตนเอง! และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นด้วยดี

เพราะเหมือน ‘ร่างนี้’ ของนางกับฐานะเดิมของสามีเหมือนจะไม่ค่อยธรรมดาเสียด้วยสิ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท