ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 396 จุดธูป (ปลาย)

ตอนที่ 396 จุดธูป (ปลาย)

สือ​อี​เหนียง​ลอบ​ถอนหายใจ​ใน​ใจ​ ​จากนั้น​ก็​เอ่ย​เตือน​สวี​ลิ่ง​อี๋​เบา​ๆ​ ​“​ตรงนั้น​มีบ​่า​วรับ​ใช้​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​มีสี​หน้า​อาลัยอาวรณ์​ ​แล้ว​หันไป​พูด​กับ​บ่าว​รับใช้​คน​นั้น​ ​“​มีเรื่อง​อัน​ใด​”

เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เย็นชา​และ​น่าเกรงขาม

สือ​อี​เหนียง​เชื่อ​ว่า​ ​สีหน้า​ของ​เขา​คงจะ​กลับ​ไป​เรียบ​นิ่ง​เหมือนเดิม​แน่นอน​

“​ท่าน​โหว​ขอรับ​!​”​ ​บ่าว​รับใช้​คน​นั้น​วิ่ง​หอบ​เข้ามา​ ​“​มี​ข่าว​จาก​พระราชวัง​ ​บอกว่า​ไท​เฮา​ทรง​สิ้นพระชนม์​เมื่อครู่นี้​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​จับ​แขน​เสื้อ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไว้​แน่น

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยื่นมือ​มา​จับมือ​นาง

มือ​ใหญ่​อบอุ่น​และ​ทรงพลัง

“​หลิน​ปัว​เล่า​”​ ​เขา​ถาม​เบา​ๆ​ ​อย่าง​นิ่ง​สงบ​ ​พลอย​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​สงบ​ลง​ ​พลัน​ก็​รู้สึก​เศร้าใจ​ขึ้น​มา

ยื้อ​มาตั​้ง​นาน​ ​แต่​สุดท้าย​ก็​ต้อง​จากไป​ ​แผนการ​ที่​คิด​ไว้​ตั้ง​มากมาย​ ​สุดท้าย​ก็​ไร้ประโยชน์​…

“​ใต้เท้า​สอง​สาม​ท่าน​ที่มา​คารวะ​ท่าน​โหว​ยัง​ไม่​กลับ​”​ ​บ่าว​รับใช้​พูด​ด้วย​ความเคารพ​ ​“​คนใน​พระราชวัง​บอกว่า​ ​กลัว​ว่า​กลับ​ไป​ช้า​แล้ว​สถานการณ์​ใน​พระราชวัง​จะ​ไม่ดี​ ​หลิน​ปัว​จึง​ออก​ไป​กับ​ขุนนาง​ใน​พระราชวัง​ทาง​ประตู​ข้าง​วัด​แล้ว​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​คำพูด​ที่​มีเหตุผล​ของ​บ่าว​รับใช้​คน​นั้น​ ​เมื่อ​เปรียบเทียบ​กับ​สีหน้า​ที่​วิตกกังวล​เมื่อ​ครู่​ของ​เขา​ ​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​สำรวจ​มอง​เขา

สวี​ลิ่ง​อี๋​หันหน้า​มา​พูด​กับ​นาง​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​กลับ​ไป​ก่อน​เถิด​!​ ​พระราชวัง​คง​ไม่ได้​ประกาศ​ข่าว​สิ้นพระชนม์​เร็ว​ขนาด​นั้น​ ​เรา​กลับ​เมืองหลวง​ตามเวลา​เดิม​ก็ได้​ ​เรื่อง​นี้​อย่าง​พึ่ง​บอก​ใคร​ ​ประเดี๋ยว​ทุกคน​จะ​ไม่สบายใจ​”

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​เห็นด้วย

อย่างไร​ก็​คง​ไม่​สาย​เกินไป​

นาง​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ปีก​กับ​ป้า​ซ่ง​และ​หู่​พั่ว

ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​สอง​กำลัง​พูดคุย​กัน​อยู่​ ฮู​หยิน​ห้า​และ​เด็ก​ๆ​ ​ก็​กำลัง​สนุกสนาน​กัน​ ​ทุกอย่าง​ไม่​แตกต่าง​ไป​จาก​ตอนที่​นาง​ออก​ไป​ ​เมื่อ​เห็น​นาง​เดิน​เข้ามา​ ​ทุกคน​ก็​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ทักทาย​นาง​ ​เห็นได้ชัด​ว่าการ​ออก​ไป​ของ​นาง​ไม่ได้​ทำให้​ใคร​สนใจ​มาก​นัก

สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ ​พูดคุย​กับ​ไท่ฮู​หยิน​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ก็​เก็บ​ข้าวของ​ออกจาก​วัดฮู​่กั​๋ว​ตามเวลา​ที่​กำหนด​เอาไว้

สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​และ​อาจารย์​จ้าว​ขี่ม้า​ ​เมื่อ​เจอ​กับ​บรรยากาศ​ที่​สวยงาม​ ​พวกเขา​ก็​จะ​หยุด​ม้า​แล้ว​พูด​แสดงความคิดเห็น​ของ​ตัวเอง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่มี​ท่าที​แปลก​อะไร

กลับมา​ถึง​เหอฮ​วาห​ลี่​ ​ข่าว​สิ้นพระชนม์​ของ​ไท​เฮา​ก็​มาถึง​พอดี

ถึงแม้ว่า​จะ​เตรียมใจ​ไว้​แล้ว​ ​แต่​ไท่ฮู​หยิน​ที่​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ยัง​ร้องไห้​อยู่ดี​ ​“​…​ปีนี​้​พึ่ง​จะ​อายุ​แค่​สี่​สิบ​สี่​ปี​!​”

“​เกิด​แก่​เจ็บ​ตาย​ล้วนแต่​ขึ้นอยู่กับ​สรวงสวรรค์​”​ ฮู​หยิน​สอง​ปลอบใจ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​นี่​คือ​โชคชะตา​ของ​มนุษย์​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​อีกว่า​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ไท​เฮา​ก็​เป็น​คน​มี​วาสนา​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พยักหน้า​ ​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ไท​เฮา​เป็น​คน​ถ่อมตน​ ​หน้าตา​ธรรมดา​ ​ศีลธรรม​ก็​ไม่​โดดเด่น​อะไร​ ​แต่กลับ​ถูก​แต่งตั้ง​ให้​เป็นไท​เฮา​เพราะว่า​ไม่มี​ทายาท​ ​แล้วยัง​เจอ​กับ​บุตรชาย​ที่​กตัญญู​อย่าง​ฮ่องเต้​ ​ยอม​นาง​ไป​เสีย​ทุก​เรื่อง​…​คิด​เช่นนี้​แล้ว​ ​นาง​ช่าง​เป็น​คน​มี​วาสนา​เสีย​จริง​”​ ​พูด​จบ​ก็​นึกถึง​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​และ​โซ่ว​ชังปั​๋​วที​่​เย่อหยิ่ง​ขึ้น​มา​ ​นาง​เหลือบ​ไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋

เห็น​เขา​กำลัง​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​…​เปลี่ยน​ข้าวของ​ที่​มีสีสัน​ทั้งหมด​ภายใน​คืนนี้​ ​พรุ่งนี้​ต้อง​จัดการ​ให้​เรียบร้อย​”

สือ​อี​เหนียง​ตอบรับ​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ขอตัว​ลา​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง​ ​ส่ง​คน​ไป​เรียก​บรรดา​ท่าน​ป้า​ผู้ดูแล​มา​ ​ทานข้าว​เย็น​ง่ายๆ​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​หู่​พั่ว​ไปรา​ยงาน​เรื่อง​นี้​ให้​หยาง​อี๋​เหนียง​รู้​ ​เมื่อ​บรรดา​ท่าน​ป้า​ผู้ดูแล​มาค​รบ​แล้วก็​เริ่ม​มอบหมาย​หน้าที่​ทันที

หยาง​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​ฟุบ​หน้า​ลง​บน​หมอนอิง​แล้ว​ส่งเสียง​ร่ำไห้​ทันที​ ​ทำเอา​หู่​พั่ว​ตกใจ

ป้า​หยาง​กลัว​ว่า​หู่​พั่ว​จะ​ไม่สบายใจ​ ​จึง​ยัด​เงิน​สอง​ตำลึง​ให้​หู่​พั่ว​แล้ว​อธิบาย​ว่า​ ​“​อี๋​เหนียง​ของ​เรา​เสียใจ​เกินไป​ ​โปรด​แม่นาง​อย่า​ได้​ถือสา​เลย​”

เป็น​ใคร​ก็​คง​เป็น​เช่นนี้

หู่​พั่ว​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​รับเงิน​มา​แล้ว​เอ่ย​ปลอบใจ​นาง​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ก็​ขอตัว​ลา

ป้า​หยาง​ออกมา​ส่ง​หู่​พั่ว​ออก​ไป​จาก​ห้องโถง​ลาน​ทิศตะวันออก​ด้วยตัวเอง​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​เข้าไป​ใน​ห้อง​

หยาง​อี๋​เหนียง​นั่ง​ตัวตรง​ ​ไร้​ซึ่ง​น้ำตา​บน​ใบหน้า​ของ​นาง​ ​แม้แต่​หยด​เดียว​ก็​ไม่มี

“​ไท​เฮา​สิ้นพระชนม์​แล้ว​จริง​หรือ​”​ ​นาง​ถาม​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เย็นชา

ป้า​หยาง​ตกใจ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​แม่นาง​หู่​พั่ว​มารา​ยงาน​ตามคำสั่ง​ของฮู​หยิน​ ​น่าจะเป็น​เรื่องจริง​เจ้าค่ะ​”

“​เจ้า​รีบ​ออก​ไปดู​!​”​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​พูด​ ​“​หาก​ไท​เฮา​สิ้นพระชนม์​แล้ว​จริงๆ​ ​พวกเขา​ต้อง​มารา​ยงาน​สกุล​ขุนนาง​ ​ ​ต้อง​เปลี่ยน​โคมไฟ​เป็น​สีขาว​”

ป้า​หยาง​ไม่เข้าใจ​ว่า​เรื่อง​นี้​มัน​น่าสงสัย​ตรงไหน​ ​แต่​นาง​ก็​ออก​ไปดู​อย่างรวดเร็ว​ ​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ก็​กลับมา​รายงาน​ ​“​คนใน​จวน​เริ่ม​ห้อย​โคม​สีขาว​และ​ผ้า​ไว้ทุกข์​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

หยาง​อี๋​เหนียง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​ออกมา

“​อี๋​เหนียง​เจ้า​คะ​”​ ​ป้า​หยาง​เห็น​เช่นนี้​ก็​ตกใจ​ ​พูด​เตือน​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​“​ไท​เฮา​สิ้นพระชนม์​ ​ต่อไป​ท่าน​…​”

“​ข้า​รู้​”​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​พูด​ขัดจังหวะ​ป้า​หยาง​ ​สายตา​ของ​นาง​เป็นประกาย​ ​ท่าที​มีชีวิตชีวา​ ​“​หาก​นาง​ไม่​สิ้นพระชนม์​ ​ข้า​คง​หาวิ​ธี​ไม่ได้​จริงๆ​!​”​ ​พูด​จบ​ก็​บอก​ป้า​หยาง​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ไปดู​สิว​่าฮู​หยิน​อยู่​ที่ไหน​ ​แล้วก็​นำพริ​กมา​ให้​ข้า​ด้วย​”

“​อี๋​เหนียง​จะ​ทำ​อะไร​เจ้า​คะ​”​ ​ป้า​หยาง​เอ่ย​ถาม​อย่าง​ติดๆ​ ​ขัด​ๆ

ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ ​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​รู้สึก​เย็นยะเยือก​ขึ้น​มา

“ฮู​หยิน​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เป็น​คนดู​แล​ข้า​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​สายตา​ที่​เป็นประกาย​ ​“​ข้า​ขอร้อง​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​นำ​ลาย​ปัก​ที่​ข้าวาด​ไป​ให้ฮู​หยิน​ ​แต่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​กลับ​แสร้งทำ​เป็น​ไม่สน​ใจ​ ​ปฏิเสธ​ข้า​ทุก​วิถีทาง​ ​ข้า​จะ​ข้าม​นาง​ไปหาฮู​หยิน​ได้​เช่นไร​…​ตอนนี้​ไท​เฮา​สิ้นพระชนม์​แล้ว​ ​ไม่มี​โอกาส​ไหน​ดี​ไป​กว่านี​้​อีกแล้ว​ ​เจ้า​อย่า​ถาม​อะไร​ไปมา​กก​ว่านี​้​ ​ทำตาม​ที่​ข้า​บอก​ก็​พอ​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​เดิน​ไป​นั่ง​หน้า​โต๊ะ​กระจก​ ​จัด​ทรงผม​ตัวเอง​นิดหน่อย​ ​“​รีบ​ไปรี​บมา​ ​ข้า​รอฟัง​ข่าว​จาก​เจ้า​”

ใน​หัว​ของ​ป้า​ของ​หยาง​เต็มไปด้วย​ความ​สับสน​ ​แต่​นาง​กลับ​ไม่กล้า​ล่าช้า​ ​ออก​ไป​ทำตาม​ที่​หยาง​อี๋​เหนียง​บอก​ ​ยื่น​พริก​ให้​หยาง​อี๋​เหนียง​พร้อมกับ​พูดว่า​ ​“ฮู​หยิน​กำลัง​รอ​รายงาน​จาก​ท่าน​ป้า​ผู้ดูแล​อยู่​ที่​ห้อง​ปีก​ข้าง​ห้องโถง​เจ้าค่ะ​”

หยาง​อี๋​เหนียง​พยักหน้า​ ​บีบ​น้ำพริก​ใส่​ตา​ตัวเอง​ ​ทันใดนั้น​ดวงตา​ของ​นาง​ก็​เต็มไปด้วย​น้ำตา​ ​นาง​ร้อง​อย่าง​เจ็บปวด​พร้อมกับ​ยก​น้ำขึ้น​มา​ล้าง​ตา​ ​เมื่อม​อง​เห็น​อะไร​ชัดเจน​แล้ว​ ​ดวงตา​ของ​นาง​ก็​ทั้ง​แดง​ทั้ง​บวม

นาง​ยืน​ขึ้น​ ​“​เรา​ไปหาฮู​หยิน​กัน​เถิด​!​”

ป้า​หยาง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ประคอง​หยาง​อี๋​เหนียง​ไป​ที่​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง

เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​หยาง​อี๋​เหนียง​มา​ขอ​พบ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​แปลกใจ​ ​เดา​ไม่​ออก​ว่านา​งมี​เรื่อง​อัน​ใด​ ​แต่​ก็​ให้​สาวใช้​เชิญ​นาง​เข้ามา

หาก​อยาก​ดู​ว่า​สตรี​คนใด​สวยงาม​หรือไม่​ ​ต้อง​ดู​ตอนที่​สวม​ชุด​สีขาว​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ที่​สวม​เสื้อกั๊ก​ยาว​สีขาว​พระจันทร์​และ​กระโปรง​สีขาว​ยืน​ตาแดง​ก่ำ​อยู่​หน้า​สือ​อี​เหนียง​ ​สีหน้า​ของ​นาง​นั้น​โศกเศร้า​แต่​ดู​แน่วแน่​ราวกับ​ดอก​เหมย​สีขาว​ที่​ไม่​กลัว​ความ​หนาวเย็น​ก็​ไม่​ปาน​ ​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​สายตา​เป็นประกาย

เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ ​นาง​ก็​คุกเข่า​ลง​ต่อหน้า​สือ​อี​เหนียง​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ข้า​ขอร้อง​ท่าน​เรื่อง​หนึ่ง​ได้​หรือไม่​เจ้า​คะ​ ​หาก​ท่าน​รับปาก​ ​จะ​ให้​ข้า​ทำ​อะไร​ตอบแทน​ข้า​ก็​ยอม​”​ ​พูด​จบ​ก็​ก้มหัว​ให้​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​ขมวดคิ้ว​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​เจ้า​มี​อะไร​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​แล้ว​ค่อย​พูด​เถิด​!​”

ขณะที่​นาง​พูด​ ​หู่​พั่ว​ก็​เดิน​เข้ามา​พยุง​หยาง​อี๋​เหนียง​แล้ว

แต่​หยาง​อี๋​เหนียง​ไม่ยอม​ลุก​ ​พูด​ขี้​นอย​่าง​ตรงไปตรงมา​ ​“ฮู​หยิน​ ​ข้า​อยาก​ขอร้อง​ท่าน​ส่ง​คน​ไปดู​ครอบครัว​ของ​ข้า​ ​ไปดู​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​พี่น้อง​ของ​ข้า​หรือไม่​!​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​แต่กลับ​ไม่​แสดง​สีหน้า​อะไร​ออกมา​ ​เอ่ยปาก​ถาม​ว่า​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​ครอบครัว​ของ​เจ้า​เช่นนั้น​หรือ​”

หยาง​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​กัดฟัน​ ​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​สกุล​เรา​เดิมที​เป็น​สกุล​ญาติ​ ​ต่อมา​ท่าน​ป้า​ชื่นชม​ว่า​ข้า​ฉลาด​ ​จึง​พา​ข้ามา​เลี้ยงดู​อยู่​ที่​สกุล​เดิม​ ​ข้า​ไม่ได้​เจอ​กับ​น้องชาย​ของ​ข้า​ตั้ง​ห้า​หก​ปี​แล้ว​ ​ไม่รู้​ว่า​เขา​ยัง​มีชีวิต​อยู่​หรือไม่​ ​ข้า​ขอร้อง​ท่าน​ ​ส่ง​คน​ไปดู​น้องชาย​ของ​ข้า​ที​เถิด​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​ก้มหัว​อีกครั้ง​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ข้า​ขอร้อง​ท่าน​เจ้าค่ะ​!​”

“​ข้า​จะ​บอก​ผู้ดูแล​ลาน​ข้างนอก​ให้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​หู่​พั่ว​พยุง​นาง​ขึ้น​มา​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​จะ​ให้​หู่​พั่ว​ไปรา​ยงาน​เจ้า​”

หยาง​อี๋​เหนียง​ก้มหัว​อีก​สาม​ครั้ง​แล้ว​ลุกขึ้น​ยืน​ ​“​ความเมตตา​ของฮู​หยิน​ ​ชีวิต​นี้​ข้า​ไม่มีทาง​ลืม​แน่นอน​”​ ​หน้าผาก​ของ​นาง​แดง​ไป​หมด

สือ​อี​เหนียง​มองหน้า​ผาก​ของ​นาง​แต่​ก็​ไม่​พูด​อะไร

ใบหน้า​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​เต็มไปด้วย​ความละอายใจ​ ​“ฮู​หยิน​ได้​โปรด​ยกโทษ​ที่​ข้า​กลัว​จน​ไม่รู้​จะ​ทำ​เช่นไร​ด้วย​เถิด​”​ ​จากนั้น​ก็​ออก​ไป​กับ​หู่​พั่ว

สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​ลี่ว​์​อวิ​๋​นนำ​ป้าย​คู่​ออก​ไปหา​พ่อบ้าน​ไป๋​ลาน​ข้างนอก​ ​ขอให้​เขา​ไปดู​ครอบครัว​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​ถึง​ตอนเย็น​ก็​เล่าเรื่อง​นี้​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​

ถึงแม้ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ตกใจ​หลังจาก​ทราบ​เรื่อง​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่ได้​ถาม​อะไร​ไปมา​กก​ว่านี​้​ ​แค่​เร่ง​ให้​นาง​นอน​เร็ว​ๆ​ ​“​…​ต้อง​เข้าไป​ใน​พระราชวัง​ติดต่อกัน​สาม​วัน​ ​อย่า​ทำให้​ตัวเอง​เหนื่อย​จน​เกินไป​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ตอบรับ​ ​จากนั้น​ก็​เป่า​ตะเกียง​แล้ว​นอนหลับ​ไป

เช้า​วัน​ต่อมา​ก็​แต่งตัว​เข้าไป​พระราชวัง​ ฮู​หยิน​เจี​้​ยน​หนิง​โหว​และฮู​หยิน​โซ่ว​ชังปั​๋ว​มาถึง​แล้ว​ ​พวก​นาง​ร้อง​ห่ม​ร้อง​ไห่​ ​ทันทีที่​เห็น​ไท่ฮู​หยิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ก็​ยิ่ง​ร้องไห้​หนัก​กว่า​เดิม​

ไท่ฮู​หยิน​ไม่สน​ใจ​พวก​นาง​ ​พาบร​รดา​ลูกสะใภ้​ไป​จุด​ธูป​แล้ว​ร้องไห้​ ​จากนั้น​ก็​ไป​พักผ่อน​ที่​ตำหนัก​ด้าน​ข้าง​ตามที่​ขันที​บอก​ ​พูดคุย​กับ​คนรู้จัก​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ทานข้าว​เที่ยง​เสร็จ​ ​ตอนบ่าย​ก็​ไปร​้​อง​ไห้​แสดง​ความเสียใจ​อีกครั้ง​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​ที่​จวน​

หยาง​อี๋​เหนียง​ยืน​รอ​อยู่​ใต้​ชายคา

เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​ ​นาง​ก็​เดิน​เข้ามา​คารวะ​พวกเขา​ ​เปิดม่าน​รับใช้​พวกเขา​เข้าไป​ใน​ห้อง​ ​แล้ว​ตัวเอง​ก็​ยัง​ยืน​อยู่​นอก​ม่าน​ด้วย​ท่าทาง​นอบน้อม

“​ครอบครัว​ของ​เจ้า​อยู่​ที่​หูก​่​วง​ ​จะ​มี​ข่าว​เร็ว​ขนาด​นี้​ได้​เช่นไร​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​เจ้า​กลับ​ไป​ก่อน​เถิด​!​ ​ทันทีที่​มี​ข่าว​ข้า​จะ​ส่ง​คน​ไป​บอก​เจ้า​ทันที​ ​ไม่ได้​กลับ​ไปหา​พวกเขา​ตั้ง​หลาย​ปี​ ​ไม่ต้อง​ใจร้อน​”

สายตา​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​มี​ความ​ซาบซึ้ง​ ​นาง​ย่อเข่า​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ขอบพระคุณฮู​หยิน​เจ้าค่ะ​!​”

จากนั้น​ก็​พา​ป้า​หยาง​ออก​ไป

สือ​อี​เหนียง​เข้าไป​จุด​ธูป​ใน​พระราชวัง​สอง​วัน​ติด​ ​ไปร​่ว​มร​้​อง​ไห้​กับฮู​หยิน​ระดับ​สี่​ขึ้นไป​ใน​เมืองหลวง​ที่​นอก​พระตำหนัก​ฉือ​หนิง​ตั้ง​สาม​วัน​ ​กรม​พิธีกรรม​กำหนดให้​ฮ่องเต้​และ​ฮองเฮา​ไว้ทุกข์​ยี่สิบ​เจ็ด​วัน​ ​องค์​ชาย​ ​องค์​หญิง​และจ​วิ​้น​จู่​ ​ไว้ทุกข์​เก้า​เดือน​ ​ท่าน​อ๋อง​ไว้ทุกข์​ห้า​เดือน​ ​สกุล​ขุนนาง​ไว้ทุกข์​สาม​เดือน​ ​ราษฎร​ไว้ทุกข์​สาม​วัน

สวี​ซื่อ​จุน​จึง​พาส​วี​ซื่อ​เจี​้​ยนำ​โคมไฟ​แตงโม​ ​โคมไฟ​งา​ ​โคมไฟ​เกล็ดปลา​และ​โคมไฟ​ฟาง​ที่​ทำ​เมื่อ​สอง​วันก่อน​เก็บ​ไว้​ใน​ห้องเก็บของ​ ​ความสำเร็จ​ของ​การ​ทำ​โคมไฟ​ทำเอา​สอง​พี่น้อง​มีความสุข​เป็นอย่างมาก​ ​พวกเขา​จึง​ทำ​โคมไฟ​ไว้​เตรียมพร้อม​สำหรับ​เทศกาล​ไหว้พระ​จันทร์​ตั้งแต่​เนิ่นๆ

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​จับ​ไหล่เขา​ ​“​นำ​ออกมา​ใช้​เมื่อ​เทศกาล​ตรุษจีน​ก็​เหมือนกัน​”

สวี​ซื่อ​จุน​ยิ้ม​แล้ว​มอง​ไหล่​ตัวเอง​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​เรา​ค่อย​ทำ​โคมไฟ​ม้า​เพิ่ม​อีก​ขอรับ​”

“​ได้​เลย​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ตบ​ไหล่เขา​เบา​ๆ

มีบ​่า​วรับ​ใช้​วิ่ง​เข้ามา​รายงาน​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​ส่งจดหมาย​มาจาก​เล่อ​อาน​ขอรับ​”

จดหมาย​หนา​เป็นกอง

สือ​อี​เหนียง​พาส​วี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

มี​จดหมาย​ถึง​ไท่ฮู​หยิน​ ​มี​จดหมาย​ถึง​สือ​อี​เหนียง​ ​มี​จดหมาย​ถึงฮู​หยิน​สอง​ ​แล้วยัง​มี​จดหมาย​ถึงฮู​หยิน​ห้า​ ​เนื้อหา​คล้ายๆ​ ​กัน​ ​บอกว่า​เขา​สบายดี​ ​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​เขา​ ​สุขสันต์​เทศกาล​ไหว้พระ​จันทร์

ไท่ฮู​หยิน​เห็น​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​ ​ชม​ว่า​ตัวหนังสือ​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​สวย​ขึ้น​เรื่อยๆ

สือ​อี​เหนียง​กลับมา​ที่​เรือน​ก็​บอก​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​เขียนจดหมาย​ตอบกลับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​แทน​ตัวเอง

สวี​ซื่อ​จุน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​สนใจ​ ​เขียน​อยู่​ตั้ง​หลาย​วัน​ ​อีกทั้ง​ยัง​ไป​ขอ​คำแนะนำ​จาก​อาจารย์​จ้าว​ ​หลังจาก​เขียนจดหมาย​เสร็จ​ก็​ให้​คน​ส่ง​ไป​ที่​เล่อ​อาน

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท