ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 433 ไร้จุดสิ้นสุด(ต้น)

ตอนที่ 433 ไร้จุดสิ้นสุด(ต้น)

​ประโยค​ที่ว่า​ ​‘​เช่นนั้น​ก็​ให้​เขา​กลับมา​ ​จะ​ได้​ให้​เขา​เจอ​ฉิน​อี๋​เหนียง​อีก​สักครั้ง​’​ ​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ใจหาย

​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูด​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​”​ ​และ​เมื่อ​นาง​หันไป​มอง​ ​ก็​เห็น​สีหน้า​ที่​นิ่ง​เรียบ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​แต่​มือ​ที่​วาง​อยู่​บน​เข่า​ของ​เขา​กลับ​กำลัง​กำ​แน่น

หาก​พูด​ต่อ​คง​ไม่ดี

​สือ​อี​เหนียง​จึง​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​“​หลังจากที่​ท่าน​ออก​ไป​ ​อี้​อี๋​เหนียง​ก็​เอะอะโวยวาย​จะ​เจอ​ท่าน​ให้​ได้​”​ ​นาง​เล่า​เหตุการณ์​ตอนนั้น​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​อย่าง​เย็นชา​ ​“​ก็​คงจะ​แก้ตัว​ ​แต่​ไม่ว่า​จะ​พูด​อะไร​ ​นาง​ก็​เป็น​คน​พา​แม่เฒ่า​จู​เข้ามา​ ​แค่นี้​ก็​ผิด​มาก​พอแล้ว​ ​พูด​อะไร​อีก​ก็​ไม่มี​ประโยชน์​!​”​ ​เขา​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ข้า​อยาก​ให้​นาง​ช่วย​เบี่ยงเบน​ความสนใจ​ของ​ทุกคน​ ​ข้า​คงจะ​จัดการ​นาง​ไป​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​ยัง​จะ​รอ​จน​วันนี้​เช่นนั้น​หรือ​!​ ​อี๋​เหนียง​บ้า​ที่​ก่อเรื่อง​ ​ยังดี​กว่า​มีเรื่อง​ทำพิธี​สาปแช่ง​เกิดขึ้น​ที่​จวน​”​ ​พูด​จบ​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​มี​ความลังเล​

​สือ​อี​เหนียง​เห็น​เช่นนี้​ก็​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ท่าน​โหว​มี​อะไร​ลำบากใจ​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​ ​จากนั้น​ก็​พูด​เบา​ๆ​ ​“​พรุ่งนี้​เช้า​ ​เจ้า​กลับ​ไป​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​ไป​เจอ​กับ​บรรดา​อี๋​เหนียง​ ​พวก​นาง​คงจะ​มาคา​รวะ​เจ้า​ ​ไถ่ถาม​ถึง​สถานการณ์​ของ​จุน​เกอ​ ​เจ้า​ควรจะ​หา​อะไร​ให้​บรรดา​อี๋​เหนียง​ทำ​ ​อย่า​ให้​พวก​นาง​ก่อเรื่อง​ไป​ทั่ว​”

เช่นนี้​ก็​จะ​ได้​ไม่ต้อง​เข้าไป​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​นี้

​“​ท่าน​โหว​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​”​ ​นาง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​รู้​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า

สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​ความคิด​ของ​เขา​ตลอด​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​เรื่อง​นี้​ลาก​นาง​เข้ามา​เกี่ยวข้อง​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ตอนนี้​นาง​กำลัง​ตั้งครรภ์​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ ​เขา​คงจะ​ให้​นาง​เป็น​คน​จัดการ​เอง​

​“​สำหรับ​ฉิน​อี๋​เหนียง​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​นาง​เคย​ทำ​อะไร​นั้น​นาง​รู้ดี​อยู่​แก่​ใจ​ ​นาง​อยู่​กับ​ข้ามา​ตั้ง​หลาย​ปี​ ​นิสัย​ของ​ข้า​ ​นาง​ก็​พอ​จะ​เดา​ออก​ ​หาก​ข้า​ตำหนิ​นาง​สอง​สาม​ประโยค​ ​เมื่อ​ใจเย็น​ลง​แล้ว​ ​เรื่อง​ที่เกิด​ก็​ถือว่า​จบ​ลง​แล้ว​ ​แต่​หาก​ข้า​ไม่​พูด​อะไร​เลย​ ​เกรง​ว่า​เรื่อง​นี้​คงจะ​ไม่​จบ​ลง​ง่ายดาย​ขนาด​นั้น​ ​แต่​ที่ผ่านมา​ข้า​เห็นแก่หน้า​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​ยอม​อดทน​อดกลั้น​ต่อนาง​ ​เกรง​ว่า​ใน​ใจ​ของ​นาง​คงจะ​ยัง​อาลัยอาวรณ์​ ​เช่นนี้​ไม่สน​ใจ​นาง​แค่​วัน​เดียว​ยัง​พอ​ไหว​ ​แต่​หาก​ไม่สน​ใจ​นาง​นานๆ​ ​ภายใต้​สถานการณ์​คับขัน​ ​เกรง​ว่านาง​จะ​ก่อเรื่อง​ขึ้น​มา​อีก​”​ ​เขา​หยุดชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​“​ตอนนี้​ใน​จวน​ล้วนแต่​ลือ​ว่า​ ​คนที​่​รังแก​จุน​เกอ​คือ​อี้​อี๋​เหนียง​ ​หาก​เรา​ส่ง​คน​ไป​จับตาดู​นาง​ ​มัน​จะ​สะดุดตา​เกินไป​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​หาก​เจ้า​เจอ​กับ​นาง​ ​หา​ข้ออ้าง​เรื่อง​ที่นาง​สนิทสนม​กับ​อี้​อี๋​เหนียง​แล้ว​ตำหนิ​นาง​ว่า​คบ​สหาย​ไม่​รอบคอบ​…​คนเรา​ก็​เป็น​เช่นนี้​ ​คิด​ว่า​มีโอกาส​รอด​ก็​จะ​ไม่มีทาง​ยอมแพ้​ง่ายๆ​ ​รอดู​นาง​สัก​สอง​สาม​วัน​ ​รอ​ให้​เรื่อง​นี้​เงียบ​ไป​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​”​ ​เขา​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​นาง​มีสาว​ใช้​ที่​ชื่อว่า​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ใช่​หรือไม่​ ​เจ้า​ส่ง​คน​ไป​บอก​สาวใช้​คน​นั้น​เถิด​ว่า​หลังจาก​จัดการ​เรื่อง​นี้​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ข้า​จะ​ส่ง​ครอบครัว​ของ​นาง​ไป​ยัง​เจียง​หนาน​”

พูด​เช่นนี้​ ​หมายความว่า​จะ​ให้​ชุ่ย​เอ๋อร​์​อยู่​ที่นี่​ต่อ​ไม่ได้​แล้ว​

​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ ​“​ข้า​เข้าใจ​แล้ว​ ​ข้า​จะ​จัดการ​เอง​เจ้าค่ะ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​อย่าง​พึงพอใจ​ ​จากนั้น​ก็​ถามถึง​เรื่อง​ของ​หู่​พั่ว​ ​“​…​กำหนด​ไว้​เมื่อไร​?​”

​สือ​อี​เหนียง​ขนลุก​ชัน

หู่​พั่ว​คือ​หนึ่ง​ใน​คนที​่​รู้เรื่อง​ ​หรือว่า​หู่​พั่ว​ก็​…

​“​ท่าน​โหว​มี​อะไร​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เจือ​ความหวาดระแวง​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​ครุ่นคิด​จึง​ไม่ทันสังเกต​เห็นท่า​ทาง​ของ​นาง​ ​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ให้​หู่​พั่ว​แต่งงาน​เร็ว​ๆ​ ​เถิด​ ​แล้วยัง​มี​ชิว​หง​ ​เมื่อ​นาง​แต่ง​ออก​ไป​แล้ว​ ​เยี​่​ยน​หรง​และ​ลี่ว​์​อวิ​๋​นก​็​จะ​ได้​แต่ง​ออก​ไป​ ​ถึง​ตอนนั้น​ ​คน​ของ​เจ้า​ก็​ควร​เปลี่ยน​ได้​แล้ว​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

โชคดี​ที่​เยี​่​ยน​หรง​หมั้น​กับ​เฉา​อาน​ไว้​แล้ว​ ​ถึง​ตอนนั้น​บอก​ให้​สกุล​เฉา​มาสู่​ขอ​เร็ว​หน่อย​ ​ก็​ไม่​ถือว่า​กะทันหัน​เกินไป

​นาง​พยักหน้า​ ​“​ข้า​จะ​จัดการ​เรื่อง​แต่งงาน​ภายใน​สอง​วันนี้​เจ้าค่ะ​”

​ขณะที่​นาง​พูด​ ​หู่​พั่ว​ก็​เปิดม่าน​แล้ว​รายงาน​เสียง​เบา​ ​“​ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​บ่าว​ตัก​น้ำ​ล้างหน้า​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

​สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​จบ​แล้ว​หรือยัง​จึง​เหลือบมอง​เขา​ ​เมื่อ​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ให้​เบา​ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​บอก​ให้​หู่​พั่ว​เข้ามา​

​ล้างมือ​ล้างหน้า​ที่นี่​แล้ว​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ไปหา​สวี​ซื่อ​จุน​ ​สือ​อี​เหนียง​เดินตาม​ออก​ไป

​สวี​ซื่อ​จุน​หลับ​ไป​แล้ว​ ​ใน​ห้อง​ไม่ได้​จุด​เครื่อง​หอม​กล่อม​นอน​ ​แม่นม​คอย​เฝ้า​สวี​ซื่อ​จุน​อยู่​ข้าง​เตียง​ ​ไท่ฮู​หยิน​กับฮู​หยิน​สอง​กำลัง​นั่ง​คุย​กัน​เสียง​เบา​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ข้างๆ​

​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้ามา​ ฮู​หยิน​สอง​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​ยืน

​“​จุน​เกอ​ไม่เป็นอะไร​แล้ว​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ ​“​ยาม​บ่าย​นอนหลับ​ไป​อย่างสงบ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบ​เพียง​ ​“​ขอรับ​”​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ไปหา​สวี​ซื่อ​จุน​ที่​เตียง​เตา​ด้วย​สายตา​ที่​เจือ​ความเศร้า​โศก

​“​ในเมื่อ​จุน​เกอ​เจอ​เรื่อง​ร้าย​เหมือน​ที่​นักพรต​ฉัง​ชุน​พูด​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​ไม่​สู้​เชิญ​นักพรต​ฉัง​ชุน​มาทำ​พิธี​ที่​จวน​ดีกว่า​!​”

​ทุกคน​ใน​ห้อง​ได้​ฟัง​ก็​ตกใจ​ ฮู​หยิน​สอง​เอ่ย​เห็นด้วย​ ​“​เป็นความ​คิด​ที่​ดีเจ​้า​ค่ะ​ท่าน​โหว​!​ ​ข้า​คิด​ว่า​เรา​จะ​ล่าช้า​ไม่ได้​ ​พรุ่งนี้​เช้า​ก็​ไป​เชิญ​นักพรต​ฉัง​ชุน​มาทำ​พิธี​เถิด​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​คิด​ว่า​เรา​ควรจะ​ไป​ไหว้พระ​โพธิสัตว์​ที่​วัด​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

​“​ไป​สิ​”​ ​คำพูด​ของฮู​หยิน​สอง​เตือน​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ทำไม​จะ​ไม่​ไป​เล่า​!​ ​ไม่​เพียงแค่​ต้อง​ไป​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​ต้อง​ไป​อย่าง​เงียบๆ​!​”

​*****

​เช้า​วัน​ต่อมา​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ส่ง​ผู้ดูแล​จ้าว​ไปรั​บส​วี​ซื่อ​อวี​้​กลับมา​จาก​เล่อ​อาน​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ลาน​ข้างนอก​ ​ไป​ปรึกษา​กับ​พ่อบ้าน​ไป๋​ว่า​จะ​เชิญ​นักพรต​ฉัง​ชุน​เช่นไร​ ​วางแผน​จัดการ​ส่ง​คน​นำ​ไท่ฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​สอง​และ​คนอื่นๆ​ ​ไป​จุด​ธูป​ที่​วัด​ฉือ​หยวน​ ​ส่วน​สือ​อี​เหนียง​ก็​กลับ​ไป​ยัง​เรือน​ของ​ตัวเอง​

​หู่​พั่ว​รับใช้​นาง​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​นาง​ถือโอกาส​นี้​กระซิบ​บอก​ ​“​เมื่อวาน​ตอนเที่ยง​ ​บ่าว​ส่ง​สาวใช้​ไปดู​การเคลื่อนไหว​ที่​เรือน​ของ​อี้​อี๋​เหนียง​ ​สุดท้าย​เห็น​ว่า​บรรดา​สาวใช้​และ​ท่าน​ป้า​ของ​ครอบครัว​คุณชาย​สาม​หาย​ไป​หมด​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

​“​หาย​ไป​หมด​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พลัน​ตัว​แข็งทื่อ

​หู่​พั่ว​พยักหน้า

​*****

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​คอย​สังเกต​สถานการณ์​อยู่​ตลอด​ ​ได้ยิน​ว่า​สือ​อี​เหนียง​กลับมา​แล้ว​ ​นาง​ก็​มาคา​รวะ​สือ​อี​เหนียง​เป็น​คน​แรก

​“​คุณชาย​น้อย​สี่​เป็น​อย่างไรบ้าง​เจ้า​คะ​”

​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไม่​ปิดบัง​นาง​ ​“​ยัง​นอนหลับ​อยู่​ ​แต่​ไม่ต้อง​จุด​เครื่อง​หอม​กล่อม​นอน​แล้ว​ ​อาการ​ค่อยๆ​ ​ดีขึ้น​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

​สือ​อี​เหนียง​ถือโอกาส​นี้​ปรึกษา​เรื่อง​ชิว​หงกั​บนาง​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​ ​หาก​อีก​สอง​สาม​วัน​จุน​เกอ​ยัง​ไม่ดี​ขึ้น​ ​ไม่​สู้​จัดงาน​มงคล​สัก​สอง​สาม​งาน​ ​เรือน​ของ​เจ้า​ก็​จะ​ได้รับ​คน​เข้ามา​เพิ่ม​สอง​สาม​คน​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​คือ​คนที​่​รู้เรื่อง​ดีที​่​สุด​ ​ได้ยิน​เช่นนี้​นาง​ก็​พยักหน้า​ ​“​ข้า​จะ​ไป​ปรึกษา​กับ​ทาง​นั้น​ประเดี๋ยวนี้​ ​แล้ว​มารา​ยงาน​ให้ฮู​หยิน​ฟัง​ยาม​บ่าย​”

​พวก​นาง​สอง​คนพูด​คุย​รายละเอียด​กัน​อีก​นิดหน่อย​ ​จากนั้น​หยาง​อี๋​เหนียง​และ​เฉียว​อี๋​เหนียง​ก็​มา​พอดี​

​เมื่อ​รู้​ว่า​สถานการณ์​ของ​จุน​เกอ​ยัง​น่าเป็นห่วง​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ก็​ซับ​น้ำตา​ ​“​คน​จิตใจ​ดี​อย่าง​คุณชาย​น้อย​สี่​ ​เหตุใด​ถึง​เจอ​เรื่อง​เช่นนี้​ได้​”

​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ไม่พูดไม่จา​ ​นั่ง​ดื่ม​ชา​อยู่​ข้างๆ

​ฉิน​อี๋​เหนียง​เดิน​เข้ามา​อย่าง​สั่นเทา

​สือ​อี​เหนียง​จึง​เล่าเรื่อง​ที่​สวี​ซื่อ​จุน​ยัง​ไม่สบาย​ให้​นาง​ฟัง​ ​“​…​ไท่ฮู​หยิน​แก่​แล้ว​ ​สอง​สาม​วันนี้​ข้า​คง​ต้อง​อยู่​ดูแล​จุน​เกอ​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​หาก​มีเรื่อง​อัน​ใด​ ​พวก​เจ้า​ก็​ถาม​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เถิด​!​”

​อี๋​เหนียง​สอง​สาม​คน​หันมา​มองหน้า​กัน​ ​จู่ๆ​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็ได้​รับมอบหมาย​หน้าที่​สำคัญ​เช่นนี้​ ​นาง​จึง​ตกใจ​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​…​”

​สือ​อี​เหนียง​ใช้​สายตา​ห้ามปราม​นาง​เอาไว้

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​จึง​เงียบเสียง​ไป

ตอนที่​ตน​อยู่​ที่​เรือน​สือ​อี​เหนียง​ก็​เคย​สอน​ตน​ดูแล​จวน​ ​ช่วย​สือ​อี​เหนียง​ดูแล​เพียง​สอง​สาม​วัน​ ​ตัวเอง​จะ​ทำไม​่​ได้​เช่นนั้น​หรือ

​ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ ​นาง​ก็​ลุก​ยืน​ขึ้น​แล้ว​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​อย่างนอบน้อม

​ฉิน​อี๋​เหนียง​รู้สึก​ผิด​ ​นาง​นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ ​ไม่กล้า​แม้แต่​จะ​หายใจ​ ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ไม่สน​ใจ​อะไร​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ถือโอกาส​ตอนที่​สือ​อี​เหนียง​ก้มหน้า​จิบ​ชา​ส่ง​ยิ้ม​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​

​สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​ฉิน​อี๋​เหนียง​อยู่​คุย​เป็นเพื่อน​

​“​ได้ยิน​ว่า​เจ้า​ไม่สบาย​ ​อยาก​เจอ​คุณชาย​น้อย​สอง​หรือ​”

​ฉิน​อี๋​เหนียง​สวม​เสื้อกั๊ก​ยาว​สีแดง​ ​ใบหน้า​ซีดเซียว​และ​แปะ​แผ่น​ยาตรง​ขมับ​ซ้าย​และ​ขวา​เหมือน​ที่​จู๋​เซียง​บอก​ ​สายตา​มืดมน​ห่อเหี่ยว​ราวกับ​มะเขือ​ม่วง​ ​ไม่มี​ความสุขุม​เหมือน​เมื่อก่อน​เลย​แม้แต่น้อย​ ​ได้ยิน​เช่นนี้​นาง​ก็​สะบัด​มือ​ ​“​ไม่​ ​ไม่​ ​ไม่​”​ ​ทันทีที่​พูด​ออกมา​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​พูด​ผิด​ ​จึง​รีบ​เปลี่ยนเป็น​พยักหน้า​ ​“​เพียง​ปวดหัว​นิดหน่อย​ ​แปะ​แผ่น​ยาสั​กป​ระ​เดี๋ยว​ก็ดี​ขึ้น​เจ้าค่ะ​”

​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​สีหน้า​ก็​มืดมน​ลง​ ​“​ประเดี๋ยว​ก็​เป็น​ ​ประเดี๋ยว​ก็​ไม่​เป็น​ ​เจ้า​ไม่สบาย​จริง​หรือไม่​”

​คำถาม​ที่​เค้น​ถาม​เอา​คำตอบ​เช่นนี้​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​ออกมา​จาก​ปากของ​สือ​อี​เหนียง​เป็นครั้งแรก​ ​รวมถึง​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ช่วงนี้​ ​นาง​จึง​ตอบ​อย่าง​ตื่นตระหนก​ว่า​ ​“​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​อะไร​ ฮู​หยิน​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​เจ้าค่ะ​”

​สือ​อี​เหนียง​ไม่สน​ใจ​นาง​ ​หันไป​บอก​หู่​พั่ว​ ​“​ไป​นำ​ป้ายชื่อ​ของ​ข้า​ไป​ให้​ผู้ดูแล​ลาน​ข้างนอก​เชิญ​ท่าน​หมอ​มาดู​ฉิน​อี๋​เหนียง​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​หาก​ไม่สบาย​ก็​ต้อง​ทาน​ยา​ ​จะ​แปะ​แผ่น​ยา​ไป​ทั่ว​เหมือน​สตรี​ไม่มีความรู้​ทั่วไป​ได้​อย่างไร​!​”

​ฉิน​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หน้าแดง​ ​นาง​พูด​เบา​ๆ​ ​“ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​น้อย​สี่​ยัง​ไม่สบาย​ ​หาก​ข้า​ยัง​อยาก​จะ​ไปหา​ท่าน​หมอ​อีก​ ​ก็​จะ​ยิ่ง​สร้าง​ปัญหา​ให้​ครอบครัว​ ​ข้า​จึง​แปะ​แผ่น​ยา​ให้​ตัวเอง​ก็​พอ​ ​ไม่ต้อง​เชิญ​ท่าน​หมอ​มาดู​ข้า​หรอก​เจ้าค่ะ​!​”

​“​ในเมื่อ​รู้​ว่าที่​จวน​กำลัง​มีเรื่อง​วุ่นวาย​ ​ก็​ควร​ที่จะ​เชิญ​ท่าน​หมอ​มาดู​”​ ​สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ดีขึ้น​เพราะ​คำพูด​ของ​นาง​ ​ตรงกันข้าม​ ​สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​กลับ​เคร่งขรึม​ขึ้น​ ​“​เจ้า​กับ​อี้​อี๋​เหนียง​ ​ความสัมพันธ์​เป็น​อย่างไร​กัน​แน่​”

​ฉิน​อี๋​เหนียง​ราวกับ​กระต่าย​ขาว​ตัวเล็ก​ที่​ตกใจกลัว​ ​สายตา​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความหวาดกลัว​ ​พูดจา​ติดๆ​ ​ขัด​ๆ​ ​“​ไม่รู้​ว่าฮู​หยิน​ถามถึง​เรื่อง​อัน​ใด​กัน​เจ้า​คะ​”

​“​บอกว่า​นาง​สนิท​กับ​เจ้า​มาก​ที่สุด​ไม่ใช่​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​นาง​สติส​ตัง​ไม่ดี​ ​เดินเล่น​ใน​ลาน​กลาง​ค่ำ​กลางคืน​ ​ทำให้​จุน​เกอ​ตกใจ​ ​เจ้า​สนิท​กับ​นาง​ ​หรือว่า​อี้​อี๋​เหนียง​ไม่เคย​เผย​ท่าที​อะไร​ที่​ผิดปกติ​เลย​หรือ​”

​ฉิน​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​แล้ว​ ​ท่าทาง​ก็​ยิ่ง​อ่อน​ยวบ​โอนเอน​ราวกับ​ต้น​ถั่วเขียว​อ่อน​ ​รีบ​เอ่ยปาก​บอก​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ถึงแม้ว่า​ข้า​จะ​สนิท​กับ​อี้​อี๋​เหนียง​ ​แต่​ก็​ไปมาหาสู่​กัน​แค่​เรื่อง​เย็บปักถักร้อย​ ​ไม่มี​อะไร​เกี่ยวข้อง​กัน​มากกว่า​นี้​ ฮู​หยิน​โปรด​ตรวจสอบ​ให้​ชัดเจน​เถิด​”

​สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​เป้าหมาย​สำเร็จ​แล้ว​ ​นาง​ก็​ถือ​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​ ​“​ตอนนี้​อี้​อี๋​เหนียง​ถูก​กักตัว​อยู่​ใน​เรือน​ ​รอ​จดหมาย​ของ​คุณชาย​สาม​มาถึง​ ​ช่วงนี้​เจ้า​ก็​อยู่​แต่​ที่​เรือน​ ​อย่า​ออก​ไป​ไหน​ ​ทำให้​คุณชาย​น้อย​สอง​เสียหน้า​…​”

​นาง​ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ ​ก็​เห็น​ม่าน​ขยับ​เบา​ๆ​ ​เผย​ให้​เห็น​ใบหน้า​ที่​เป็นกังวล​ของ​จู๋​เซียง​

​สือ​อี​เหนียง​นิ่ง​สงบ​ ​นาง​กำชับ​ฉิน​อี๋​เหนียง​อีก​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​ฉิน​อี๋​เหนียง​ออก​ไป

​จู๋​เซียง​เข้ามา​กระซิบ​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ป้า​เถา​มา​เจ้าค่ะ​!​”

ตั้งแต่​เกิดเรื่อง​ขึ้น​จนถึง​ตอนนี้​ ​เวลา​ผ่าน​ไป​แค่​หนึ่ง​วัน​สอง​คืน​เท่านั้น​ ​ป้า​เถา​มาถึง​เร็ว​ขนาด​นี้​

​“​นาง​ล่ะ​?​”​ ​นาง​พูด​อย่าง​เย็นชา

​“​ข้างนอก​มี​ข่าวลือ​แค่​ว่า​คุณชาย​น้อย​สี่​ไม่สบาย​เจ้าค่ะ​”​ ​จู๋​เซียง​พูด​ ​“​นาง​รีบ​กลับมา​ ​พูดจา​คลุมเครือ​สอง​สาม​ประโยค​ ​คนที​่​เฝ้า​ประตู​เห็น​ว่า​แม่นม​ของ​คุณชาย​น้อย​สี่​เข้ามา​ที่​จวน​เมื่อเช้า​วานนี้​ ​วันนี้​ตอนเช้า​ท่าน​โหวก​็​บอกว่า​จะ​เชิญ​นักพรต​ฉัง​ชุน​มาทำ​พิธี​ ​ไท่ฮู​หยิน​จะ​ไป​ขอพร​ให้​คุณชาย​น้อย​สี่​ที่​วัด​ด้วยตัวเอง​ ​คิด​ว่า​คุณชาย​น้อย​สี่​ป่วยหนัก​ ​นึก​ว่า​ท่าน​โหว​เรียก​ป้า​เถา​เข้ามา​ ​จึง​ปล่อย​นาง​เข้ามา​ ​ตอนนี้​กำลัง​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เจ้าค่ะ​…​”

​สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​แล้วก็​ขมวดคิ้ว​

​จู๋​เซียง​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​จะ​ออก​ไปดู​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท