ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 437 เอะอะวุ่นวาย(กลาง)

ตอนที่ 437 เอะอะวุ่นวาย(กลาง)

​“​ไม่รู้​สึก​อะไร​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​จู๋​เซียง​ได้ยิน​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่างดี​ใจ​ ​นาง​คิด​ว่า​มัน​คง​ไม่ใช่​เรื่อง​เลวร้าย​อะไร​ ​แต่​ก็​ต้อง​รู้​ให้​ชัดเจน​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​คิด​ว่า​ควรจะ​เรียก​ป้า​เถี​ยน​มาถา​มดี​หรือไม่​”

​“​ไม่จำเป็น​”​ ​อากาศ​อึดอัด​ที่​ติด​อยู่​ที่​หน้าอก​ทุก​เช้า​ตั้งแต่​ตั้งครรภ์​นั้น​หาย​ไป​แล้ว​ ​ทำให้​นาง​รู้สึก​ผ่อนคลาย​ขึ้น​ไม่น้อย​ ​บวก​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​ฟื้น​แล้ว​ ​สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ่ง​มีความสุข​ ​“​วันนี้​นักพรต​ฉัง​ชุน​มาทำ​พิธี​ที่​จวน​ ​ทุกคน​กำลัง​ยุ่ง​วุ่นวาย​ ​หาก​เรา​เอะอะโวยวาย​ ​ประเดี๋ยว​ทุกคน​ก็​จะ​มาหา​ข้า​อีก​”

​จู๋​เซียง​ยิ้ม​แล้ว​ตอบรับ

​อยู่​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ไม่​ค่อย​สะดวก​สัก​เท่าไร

​หวัง​ว่า​เรื่อง​นี้​จะ​สงบ​ลง​โดยเร็ว​ ​ทุกคน​จะ​ได้​กลับคืน​สู่​ชีวิต​ที่​สงบสุข​เหมือนเดิม

​ฟ้า​พึ่ง​จะ​สว่าง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ออก​ไป​ลาน​ข้างนอก​ ​สือ​อี​เหนียง​ล้างหน้า​แปรงฟัน​เสร็จ​แล้วก็​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​

​ไท่ฮู​หยิน​ตื่น​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​นาง​นั่ง​มอง​แม่นม​ป้อน​ข้าว​เช้า​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​อยู่​ข้าง​เตียง​เตา​ ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​แล้ว​ทักทาย​ ​“​มา​แล้ว​หรือ​!​”​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ป้า​ตู้​ ​“​ให้​สาวใช้​จัด​อาหารเช้า​เถิด​!​”

​ป้า​ตู้​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

​สวี​ซื่อ​จุน​ที่​กำลัง​กลืน​เมล็ดข้าว​ลง​ไป​ตะโกนเรียก​ ​“​ท่าน​แม่​ขอรับ​”

​พึ่ง​จะ​ฟื้น​ขึ้น​มา​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ยัง​ซีดเซียว​ดู​ไร้​เรี่ยวแรง

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ถาม​เขา​ ​“​เจ้า​สบายดี​หรือไม่​”

​สวี​ซื่อ​จุน​พยักหน้า​ด้วย​ความ​เขินอาย

​ไท่ฮู​หยิน​ยืนยัน​ว่า​สวี​ซื่อ​จุน​มอง​ผิด​ไป​ ​การ​โกหก​ซ้ำๆ​ ​เป็น​พัน​ครั้ง​ ​บางครั้ง​แม้แต่​คน​โกหก​เอง​ก็​ยัง​เชื่อ​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ตอนนั้น​สวี​ซื่อ​จุน​กำลัง​ตกใจ​ ​เขา​ไม่พูดถึง​เรื่อง​ที่​ตัวเอง​เจอ​ผี​ ​ก็​แสดงว่า​ยอมรับ​แล้ว​ว่า​ตัวเอง​มอง​ผิด​เอง

​แม่นม​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เมื่อวาน​คุณชาย​น้อย​สี่​ทานข้าว​ต้ม​ไป​ครึ่ง​ชาม​ ​ตื่น​มาทา​นข​้า​วอี​กตอ​นก​ลาง​ดึก​ ​แล้วยัง​ทาน​ขนม​โก๋​ขาว​ไป​ชิ้น​หนึ่ง​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​นำ​ข้าวต้ม​ที่​เหลืออยู่​สอง​ช้อน​ใน​ชาม​ให้​สือ​อี​เหนียง​ดู​ ​“​…​ครึ่ง​ชาม​ใหญ่​ ​เหลือ​แค่นี้​เอง​เจ้าค่ะ​”

​ขณะที่​นาง​กำลัง​พูด​ ​สะใภ้​หนาน​หย่ง​ก็​อุ้ม​สวี​ซื่อ​เจี้ยมา​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน

​สอง​พี่น้อง​จับมือ​กัน​ ​คน​หนึ่ง​ถาม​ว่า​ ​“​ช่วงนี้​เจ้า​ตั้งใจ​เรียน​หรือไม่​”​ ​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​ถาม​ว่า​ ​“​พี่​สี่​ดีขึ้น​แล้ว​หรือยัง​ขอรับ​”​ ​เห็น​พวกเขา​สอง​พี่น้อง​รัก​กัน​ ​อารมณ์​ที่​หม่นหมอง​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​สว่างไสว​ขึ้น​มา​

​ทานข้าว​เช้า​เสร็จ​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​มา​เยี่ยม​ทีละ​คน

​เรื่อง​ที่​อี้​อี๋​เหนียง​เดินเล่น​ใน​ลาน​ตอนกลางคืน​ทำให้​สวี​ซื่อ​จุน​ตกใจ​ก็​แพร่กระจาย​ออก​ไป​ ​เมื่อ​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​เจอ​หน้า​สวี​ซื่อ​จุน​ ​พวกเขา​ก็​รู้สึก​ผิด​ ​แต่​สวี​ซื่อ​จุน​กลับ​ทำท่า​ที​ใจกว้าง​ ​“​เป็นความ​ผิด​ของ​ข้า​เอง​ ​ข้า​ขี้ขลาด​เอง​ ​ไม่​โทษ​อี้​อี๋​เหนียง​”

​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​เช่นนี้​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ยัง​พอ​ไหว​ ​แต่​สวี​ซื่อ​ฉิน​ที่​โตก​ว่านิด​หน่อย​ยิ่ง​รู้สึก​ผิด​มากกว่า​เดิม​ ​เขา​รีบ​พูด​ ​“​ท่าน​พ่อ​ของ​ข้า​เขียนจดหมาย​ให้ท่า​นอา​สี่​แล้ว​ ​บอก​ให้ท่า​นอา​สี่​จัดการ​เรื่อง​นี้​ ​ท่าน​อา​สี่​ตัดสินใจ​ส่ง​อี้​อี๋​เหนียง​ไป​ที่​มณฑล​ซาน​หยาง​ ​ต่อไป​จะ​ไม่​เกิดเรื่อง​เช่นนี้​ขึ้น​อีกแล้ว​!​”

​“​เอาล่ะ​ ​เอาล่ะ​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ไม่​อยาก​ให้​เด็ก​ๆ​ ​สนใจ​เรื่อง​นี้​มากเกินไป​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดแทรก​ ​“​เรื่อง​พวก​นี้​ก็​ผ่าน​ไป​แล้ว​ ​พูด​ให้​รู้เรื่อง​เข้าใจ​กัน​ก็​พอ​ ​พี่น้อง​อย่าง​พวก​เจ้า​ไม่ต้อง​คิด​อะไร​มาก​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​วันนี้​พวก​เจ้า​ไป​เรียน​หรือไม่​ ​นักพรต​ฉัง​ชุน​ตั้ง​แท่นบูชา​ไว้​ที่​ลาน​ข้างนอก​เพื่อ​ทำพิธี​ให้​จุน​เกอ​ ​พวก​เจ้า​จะ​ไปดู​หรือไม่​”

​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​สายตา​เป็นประกาย​ ​แต่​ก็​กลับมา​หม่นหมอง​อีกครั้ง​ ​เขา​พูด​เบา​ๆ​ ​“​วันนี้​ยัง​ต้อง​ไป​เรียน​ขอรับ​”

​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ไปดู​ยาม​เที่ยง​เถิด​!​”

​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ดีใจ​ขึ้น​มา​อีกครั้ง

​ทุกคน​พูดคุย​หัวเราะ​กัน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​หลังจากนั้น​ป้า​ตู้​ก็​ส่ง​บรรดา​คุณชาย​น้อย​ออก​ไป​เรียน​ที่​เรือน​ซวงฝู

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​บอก​สวี​ซื่อ​จุน​แค่​ว่า​ ​“​พักผ่อน​ให้​ดี​”​ ​แล้ว​เอ่ย​ขอตัว​ลา

​นาง​ไม่​พูด​อะไร​ตั้งแต่​ต้น​จน​จบ

​สือ​อี​เหนียง​แปลกใจ

ปกติ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่​เป็น​เช่นนี้​…

ฮู​หยิน​ห้า​อุ้ม​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เข้ามา

​“​ท่าน​แม่​ ​เรา​ไปดู​นักพรต​ฉัง​ชุน​ทำพิธี​กัน​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​เอ่ย​ชักชวน​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​จะ​ได้​ให้​นักพรต​ฉัง​ชุน​ทำนาย​ดวงชะตา​ให้​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ด้วย​”

​ว่า​กัน​ว่านัก​พรต​ฉัง​ชุน​ทำนาย​ดวงชะตา​ให้​ใคร​ต้อง​ขึ้นอยู่กับ​โอกาส​และ​พรหมลิขิต​ ​เจ้า​นำทอง​ไป​ให้​เขา​ ​ใช่​ว่า​เขา​จะ​ยอม​ทำนาย​ให้​เจ้า​ ​เจ้า​ไม่​ออก​เงิน​สัก​ตำลึง​แต่​บังเอิญ​ไป​เจอ​กับ​เขา​ ​บางครั้ง​เขา​ก็​จะ​พูด​กับ​เจ้า​หลาย​ชั่ว​ยาม​ ​ด้วย​เหตุผล​นี้​ ​ผู้คน​จึง​มักจะ​อุ้ม​ลูก​ไปดู​เขา​ทำพิธี​ ​หวัง​ว่า​จะ​ได้รับ​คำแนะนำ​จาก​นักพรต​ฉัง​ชุน

​ไท่ฮู​หยิน​รู้​ว่าฮู​หยิน​ห้า​ทำ​เพื่อ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​นาง​จึง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​เจ้า​ไป​กับ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เถิด​!​ ​ข้า​อยู่​เล่นไพ่​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​อยู่​พูดคุย​กับ​จุน​เกอ​ดีกว่า​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​วาน​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ดูแล​พวก​นาง​ ​ไท่ฮู​หยิน​กลัว​ว่า​หาก​นาง​ออก​ไป​จะ​ไม่มีใคร​ดูแล​ตน​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​กระมัง​!

​สือ​อี​เหนียง​จึง​รีบ​พูด​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​ไป​กับ​น้อง​สะใภ้​ห้า​เถิด​เจ้าค่ะ​ ​ที่นี่​มี​ข้า​อยู่​!​”

​เดิมที​ลูกสะใภ้​ไปดู​พิธี​ที่​ลาน​ข้างนอก​คนเดียว​ ฮู​หยิน​ห้า​ก็​รู้สึก​ผิด​ ​เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้​นาง​ก็​จับ​แขน​เสื้อ​ออดอ้อน​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​แม่เจ้า​คะ​ ​ท่าน​ไป​กับ​ข้า​นะ​เจ้า​คะ​!​”

​ไท่ฮู​หยิน​ลังเลใจ

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ดัน​ตัว​ไท่ฮู​หยิน​ออก​ไป​เบา​ๆ​ ​“​ท่าน​ไป​แล้ว​ ​ข้า​กับ​จุน​เกอ​จะ​ได้​ทาน​ขนม​กัน​อย่าง​เอร็ดอร่อย​”

​ทำเอา​ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​ ​นาง​จึง​ยอม​ออก​ไป​ลาน​ข้างนอก​กับฮู​หยิน​ห้า​

​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้าไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา​ ​นั่ง​เย็บปักถักร้อย​พลาง​พูดคุย​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​แม่นม​ยก​เก้าอี้​เข้ามา​นั่ง​ข้าง​สือ​อี​เหนียง​ ​ยืม​เข็ม​กับ​ด้าย​ของ​สาวใช้​มาทำ​ถุงเท้า​ให้​สวี​ซื่อ​จุน

​พูดคุย​กัน​ไป​พูดคุย​กัน​มา​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​ผล็อย​หลับ​ไป

​หลังจากนั้น​ก็​มีสาว​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​พี่​หู่​พั่ว​รอท่า​นอยู​่​ข้างนอก​ตั้ง​นาน​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​แปลกใจ​ ​จากนั้น​ก็​ออก​ไป​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันตก

​หู่​พั่ว​เดิน​เข้ามา​กระซิบ​นาง​ ​“​อี้​อี๋​เหนียง​บอกว่า​ ​มี​ความลับ​ของ​คุณหนู​ใหญ่​จะ​พูด​กับ​ท่าน​เจ้าค่ะ​!​”

​“​พี่​หญิง​ใหญ่​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​งุนงง​ ​“​ความลับ​?​”

​“​ใช่​เจ้าค่ะ​!​”​ ​หู่​พั่ว​พยักหน้า​ ​“​บอกว่า​นาง​เก็บ​เรื่อง​นี้​มา​หลาย​ปี​แล้ว​ ​กลัว​ว่า​หาก​ครั้งนี้​ไม่​พูด​ ​ก็​จะ​ไม่มี​โอกาส​ได้​พูด​อีก​ ​บอก​ท่าน​ว่า​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ต้อง​ไป​เจอ​นาง​ ​ท่าน​ป้า​ที่​เฝ้า​ประตู​ไม่กล้า​ตัดสินใจ​ ​จึง​มาบ​อก​บ่าว​เจ้าค่ะ​”

​สือ​อี​เหนียง​ขมวดคิ้ว

เมื่อคืน​วาน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้รับ​จดหมาย​จาก​คุณชาย​สาม​ ​กำลังจะ​ส่ง​อี้​อี๋​เหนียง​ไป​มณฑล​ซาน​หยาง​เช้านี้​ ​แต่​ฟ้า​พึ่ง​จะ​สว่าง​ ​นักพรต​ฉัง​ชุน​ก็​พานั​กบว​ชลัท​ธิ​เต๋า​มาทำ​พิธี​ที่​จวน​ ​จึง​ต้อง​เลื่อน​ให้​อี้​อี๋​เหนียง​ออกเดินทาง​พรุ่งนี้​แทน

ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​อี้​อี๋​เหนียง​ ​เห็นได้ชัด​ว่านาง​รู้​แผนการ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว

ตอนนี้​ ​ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​อี้​อี๋​เหนียง​บอกว่า​อยาก​จะ​บอก​ความลับ​ที่​เกี่ยวกับ​หยวน​เหนียง​ให้​นาง​ฟัง​…​ ​มัน​คือ​เรื่องจริง​?​ ​หรือไม่​จริง​กัน​แน่​?

หาก​เป็นเรื่อง​จริง​ ​เหตุใด​นาง​ถึง​เลือก​ที่จะ​พูด​ตอนนี้​ ​หรือว่า​เกี่ยวข้อง​กับ​แผนการ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​?

หาก​ไม่ใช่​เรื่องจริง​ ​แล้ว​นาง​จะ​มั่นใจ​ได้​อย่างไร​ว่า​ตน​จะ​เชื่อ​เรื่อง​ที่นาง​พูด​?

​สือ​อี​เหนียง​ลังเล

สวี​ลิ่ง​อี๋​บอก​กับ​ตน​ชัดเจน​แล้ว​ว่า​จะ​ให้​อี้​อี๋​เหนียง​อยู่​ที่​จวน​ต่อไป​ไม่ได้​ ​การ​ส่ง​อี้​อี๋​เหนียง​ไป​มณฑล​ซาน​หยาง​นั้น​ก็​เพื่อ​ปกปิด​ผู้คน​ ​กระนั้น​หาก​เรื่อง​ที่​อี้​อี๋​เหนียง​จะ​บอก​ตน​คือ​เรื่องจริง​ ​ถ้า​ไม่​ไป​ ​ตน​ก็​จะ​เสียโอกาส​ที่จะ​ได้​รู้​ไป​ตลอด

​นาง​พลัน​นึกถึง​ท่าที​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ที่​มีต​่อ​หยวน​เหนียง​ตอนที่​ตัวเอง​มาที​่​จวน​ครั้งแรก​ ​นึกถึง​อคติ​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​มีต​่อ​ตัวเอง​ ​นึกถึง​การ​ดูถูก​ที่ฮู​หยิน​สอง​มีต​่อ​ตัวเอง​…หยวน​เหนียง​ ​ทิ้ง​ความลับ​เอาไว้​มากมาย

หาก​เป็น​เมื่อก่อน​ ​นาง​ไม่มีทาง​ไป​แน่นอน

นาง​มักจะ​รู้สึก​ว่า​ ​เรื่อง​ที่​มัน​ผ่าน​ไป​แล้วก็​ให้​มัน​ผ่าน​ไป

แต่​ตั้งแต่​เกิดเรื่อง​ป้า​เถา​ขึ้น​ ​นาง​ก็​ตระหนัก​ได้​ว่า​ ​เรื่อง​ใน​อดีต​ ​กำลังจะ​ส่งผล​กระทบ​ต่อ​ชีวิต​ของ​นางใน​อนาคต​

แต่​หาก​ไม่ใช่​เรื่องจริง​…

​สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​เบา​ๆ

ดูเหมือน​จะ​ไม่มี​อะไร​เสียหาย​ไม่ใช่​หรือ

​ต้อง​ยอมรับ​ว่า​คำพูด​ของ​อี้​อี๋​เหนียง​นั้น​ยอดเยี่ยม​จริงๆ

​สือ​อี​เหนียง​พา​หู่​พั่ว​ไป​ยัง​เรือน​ที่​กักตัว​อี้​อี๋​เหนียง

​บางที​อาจจะ​เป็น​เพราะ​ตัดสินใจ​ว่าวั​นนี​้​จะ​ส่ง​อี้​อี๋​เหนียง​ออก​ไป​มณฑล​ซาน​หยาง​ ​อี้​อี๋​เหนียง​จึง​สวม​เสื้อกั๊ก​ผ้า​ทอ​ใย​กล้วย​สีแดง​ ​ม้วน​ผม​อย่างเป็นระเบียบ​เรียบร้อย​ ​แล้วยัง​มีกลิ่นหอม​ดอก​ซ่อนกลิ่น​บน​ตัว​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ดู​สะอาดสะอ้าน​ ​แต่​ผิว​ของ​นาง​ซีด​เหลือง​ ​สายตา​ไม่มีชีวิตชีวา​ ​มุม​ปาก​ก็​กระตุก​อยู่​ตลอดเวลา​ ​หน้าตา​ราวกับ​แก่​ขึ้น​เป็น​สิบ​ปี​

​ทันทีที่​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เข้ามา​ ​สายตา​ของ​นาง​ก็​เป็นประกาย​ ​รีบ​วิ่ง​เข้ามา​หา​สือ​อี​เหนียง

​ป้า​รับใช้​ที่​เปิด​ประตู​ให้​พวก​นาง​ก็​เดิน​มา​ขวาง​ด้านหน้า​สือ​อี​เหนียง​ราวกับ​ประตู​ไม้​

​สือ​อี​เหนียง​ตาลาย​ ​ได้ยิน​เพียง​เสียง​ พลั่ก​!​ อี้​อี๋​เหนียง​คุกเข่า​ลง​กับ​พื้น​ ​“ฮู​หยิน​สี่​เจ้า​คะ​ ฮู​หยิน​สี่​เจ้า​คะ​ ​ข้า​ถูก​ใส่ร้าย​ ​ท่าน​ต้อง​ช่วย​ข้า​นะ​เจ้า​คะ​!​”

​ป้า​รับใช้​ที่​เปิด​ประตู​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง​ ​ราวกับ​ถาม​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​ทำ​เช่นไร​ต่อ

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ให้​นาง​เบา​ๆ

​ป้า​รับใช้​คน​นั้น​ก็​ออก​ไป​เงียบๆ

​หู่​พั่ว​ยก​เก้าอี้​ไท่​ซือ​มา​วาง​ไว้​ข้างหลัง​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ออกมา​เช็ด​เก้าอี้​แล้ว​ขยิบตา​ให้​ป้า​รับใช้​คน​นั้น

​ป้า​รับใช้​คน​นั้น​กลัว​ว่า​อี้​อี๋​เหนียง​จะ​บ้าคลั่ง​แล้ว​ทำร้ายฮู​หยิน​สี่​ ​แต่​เมื่อ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่าฮู​หยิน​สี่​มาหา​นาง​คนเดียว​ ​คงจะ​มี​ความลับ​อะไร​พูด​กัน​…​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

​สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ ​จ้องมอง​ไป​ยัง​อี้​อี๋​เหนียง​ด้วย​สายตา​ที่​เย็นชา​ ​แต่กลับ​ไม่​ปริปาก​พูด​อะไร

​ทันใดนั้น​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​ก็​เงียบสงัด​ ​มี​เพียง​เสียง​หายใจ​ติดๆ​ ​ขัด​ๆ​ ​ของ​อี้​อี๋​เหนียง

​อี้​อี๋​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​ท่าทาง​ของ​สือ​อี​เหนียง​นั้น​หมายถึง​อะไร​ ​นาง​หลบตา​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​พูดเสี​ยง​เบา​ราว​กระซิบ​ ​“ฮู​หยิน​สี่​เจ้า​คะ​ ​ข้า​…​มีเรื่อง​จะ​บอก​ท่าน​เจ้าค่ะ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ไม่พูดไม่จา​เหมือนเดิม​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​นาง​ก็​พูด​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​ยืน​พูด​เถิด​!​”

​“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​อี้​อี๋​เหนียง​หยัด​กาย​ยืน​ขึ้น​ทันที

​“​เจ้า​บอกว่า​มี​ความลับ​ของ​พี่​หญิง​ใหญ่​จะ​บอก​ข้า​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​เสียงทุ้ม​ต่ำ​ ​“​ไม่รู้​ว่า​มัน​คือ​เรื่อง​อัน​ใด​”

​“ฮู​หยิน​สี่​เจ้า​คะ​ ​เรื่อง​ที่​ฉิน​อี๋​เหนียง​ทำพิธี​สาปแช่ง​ใส่​คุณชาย​น้อย​สี่​ไม่เกี่ยว​ข้อง​กับ​ข้า​จริงๆ​ ​นะ​เจ้า​คะ​ ​ข้า​ถูก​ใส่ร้าย​เจ้าค่ะ​”​ ​อี้​อี๋​เหนียง​พูด​ด้วย​ท่าที​ร้อนรน​ ​หู่​พั่ว​เห็น​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ขยับ​เข้าไป​หา​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ฉิน​อี๋​เหนียง​จิตใจ​ชั่วร้าย​ ​นาง​อยาก​จะ​ทำร้าย​ซื่อ​จื่อ​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​ข้า​ถูก​ฉิน​อี๋​เหนียง​หลอก​ ​ไม่มี​วิธี​อื่น​ ​จึง​แนะนำ​แม่เฒ่า​จู​ให้​นาง​รู้จัก​ ฮู​หยิน​สี่​เจ้า​คะ​ ​เห็นแก่​ข้า​ที่​ไม่เคย​เรียนหนังสือ​ ​ไม่มีความรู้​ ​ไม่รู้​ความรุนแรง​ของ​เรื่องราว​ ​ขอร้อง​ท่าน​ไป​พูด​กับ​ท่าน​โหว​ ​จะ​ลงโทษ​ข้า​เช่นไร​ก็ได้​ ​แต่​อย่า​ส่ง​ข้า​ออก​ไป​จาก​จวน​เลย​เจ้าค่ะ​!​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​คุกเข่า​ลง​บน​พื้น​แล้ว​ก้มหัว​ ​“ฮู​หยิน​สี่​เจ้า​คะ​ ​ข้า​ขอร้อง​ท่าน​ ​ขอร้อง​ท่าน​ล่ะ​เจ้าค่ะ​!​”

คนที​่​ทำความ​ผิด​มักจะ​คิด​ว่า​ตัวเอง​ไม่ผิด​เสมอ

​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​นิ่ง​อยู่​ตรงนั้น​ราวกับ​ภูเขา​ ​มองดู​นาง​ก้มหัว​จน​หน้าผาก​แดงก่ำ​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​เรียบ​เฉย​ว่า​ ​“​อี้​อี๋​เหนียง​ ​เห็นแก่​เจ้าที่​เคย​รับใช้​คุณชาย​สาม​ ​คิด​ว่า​เจ้า​เป็น​คนฉลาด​ ​ถึง​มาหา​เจ้าที่​นี่​ ​ถึงแม้ว่า​วาจา​จะ​เทียบ​กับ​ตัวหนังสือ​ไม่ได้​ ​แต่​มัน​ก็​ต้อง​มี​หลักฐาน​ที่​ชัดเจน​ ​เจ้า​พูดเหลวไหล​เช่นนี้​ ​ข้า​คิด​ว่า​…​”​ ​นาง​หยุดชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​“​เจ้า​ไม่ใช่​คนฉลาด​อะไร​ ​ข้า​ไม่​อยาก​ฟัง​คำพูด​ของ​เจ้า​แล้ว​”​ ​พูด​จบ​ก็​ลุกขึ้น​แล้ว​หมุนตัว​จะ​เดิน​ออก​ไป

​อี้​อี๋​เหนียง​เห็น​เช่นนี้​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​ยืน

​“ฮู​หยิน​สี่​เจ้า​คะฮู​หยิน​สี่​!​”​ ​นาง​เดิน​เข้ามา​จับ​แขน​เสื้อ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ข้า​ไม่ได้​พูดเหลวไหล​เจ้าค่ะ​ ​ตอนนั้น​ทุกคน​ล้วนแต่​บอกว่า​พี่​หญิง​ของ​ท่าน​ทำให้ถ​งอี​๋​เหนียง​แท้ง​ ​แต่​ความจริง​แล้ว​ ​เรื่อง​นี้​ฉิน​อี๋​เหนียง​เป็น​คน​ทำ​เจ้าค่ะ​ ​นาง​จับ​ปลา​ใน​น้ำ​ขุ่น​[1]​ ​ทำให้ถ​งอี​๋​เหนียง​ต้องตาย​แล้ว​โยนความผิด​ให้​พี่​หญิง​ของ​ท่าน​ ​ให้​พี่​หญิง​ของ​ท่าน​เป็น​แพะรับบาป​มาตั​้ง​หลาย​ปี​…​”

——————————————————-

[1]​จับ​ปลา​ใน​น้ำ​ขุ่น ​สำนวน​เปรียบเปรย​ว่า​ ​ฉวยโอกาส​หรือ​หา​ผลประโยชน์​ขณะ​เกิดเหตุ​การณ์​ชุลมุน

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท