ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 442 ปมในใจ

ตอนที่ 442 ปมในใจ

“​ไม่ได้​ถาม​เจ้าค่ะ​!​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ตอบกลับ​ ​“​ท่าน​โหว​ไม่ได้​ถาม​อะไร​มากมาย​ ​เขา​ตอบ​แค่​ว่า​ ​‘​เข้าใจ​แล้ว​’​ ​เท่านั้น​”

สือ​อี​เหนียง​เงียบงัน

หาก​เป็น​ตน​ ​กลับมา​ถึง​จวน​ ​ก่อน​ไป​อนุ​ทั้ง​สาม​ต่าง​ก็​ตั้งครรภ์​พร้อม​ๆ​ ​กัน​ ​ตอนนี้​เสีย​ทั้ง​แม่​และ​เด็ก​ไป​ถึง​สอง​คน​ ​อีก​คนใช้​ชีวิต​อยู่ตัว​คนเดียว​ไม่​สุงสิง​กับ​ใคร​ ​ส่วน​อีก​คน​ถูก​มารดา​ส่ง​ไป​ให้​พี่สะใภ้​สอง​ดูแล​ ​แต่​มารดา​กลับ​บอก​ตน​ว่า​ทุกอย่าง​ปกติ​ดี​ ​คนที​่​เสียชีวิต​ไป​นั้น​เป็น​เหตุสุดวิสัย​…​การ​ที่​เขา​เป็น​บุตรชาย​ ​การ​ที่​เขา​เป็น​สามี​และ​การ​ที่​เขา​เป็น​ถึง​ผู้นำ​ตระกูล​แห่ง​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​นอกจาก​คำ​ว่า​ ​‘​เข้าใจ​แล้ว​’​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ไม่​สามารถ​พูด​อย่าง​อื่น​ได้​อีก

แต่​คนที​่​กระตือรือร้น​เช่น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​นอกเหนือจากนี้​แล้ว​เขา​ไม่​คิด​สิ่ง​อื่นใด​อีก​เลย​หรือ

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​สงสัย​เป็นอย่างมาก

มิเช่นนั้น​ ​สำหรับถ​งอี​๋​เหนียง​ที่​ไม่ได้​มีความหมาย​เป็นพิเศษ​ ​จู่ๆ​ ​เขา​จะ​กล่าว​คำ​ว่า​ ​‘​ขอโทษ​’​ ​ออกมา​ได้​อย่างไร​กัน

หลังจากที่​เดิน​ออกมา​จาก​เรือน​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​แล้ว​ ​ดวงอาทิตย์​ใน​ตอนกลางวัน​ที่​สว่าง​เฉิดฉาย​ ​ทอด​แสงแดด​ลง​บน​ผืน​แผ่นดิน​ ​สงบนิ่ง​ไร้​ซึ่ง​ความวุ่นวาย​ใดๆ​ ​พลอย​ทำให้​จิตใจ​รู้สึก​สงบ​ไป​ด้วย

สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​เดิน​กลับ​ไป​ยัง​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​อย่าง​ช้าๆ

สวี​ซื่อ​จุน​ยังคง​นอนหลับ​อยู่​ ​ไท่ฮู​หยิน​ที่​ถูกฮู​หยิน​ห้า​ชวน​ให้​ไปดู​นักพรต​ฉัง​ชุน​ทำพิธี​สวด​ก็​ยัง​ไม่​กลับมา

อวี​้​ป่าน​เห็น​ว่าที่​หน้าผาก​ของ​สือ​อี​เหนียง​เต็มไปด้วย​เม็ด​เหงื่อ​ ​ใบหน้า​ยัง​แดงก่ำ​ ​จึง​รีบ​ไป​ตัก​น้ำ​มา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ล้างหน้าล้างตา​ ​“​วันนี้​อากาศ​ร้อน​มาก​ ​ใบหน้า​ของฮู​หยิน​แดง​หมด​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​แต่​ไม่ได้​เอ่ย​ถาม​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไป​ที่ไหน​มา

“​เช่นนั้น​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ล้างหน้า​ตา​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ชุด​ใหม่​ ​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​ห้า​ก็​กลับมา​ถึง​พอดี

“​…​บอกว่า​ดวงชะตา​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​เรา​หนัก​หก​ชั่ง​”​ ฮู​หยิน​ห้า​กำลัง​อุ้ม​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อยู่​ ​สีหน้า​ท่วมท้น​ไป​ด้วย​ความดี​อก​ดีใจ​ ​“​ตอนที่​นักพรต​ฉัง​ชุน​ดูดวง​ชะตา​ให้​ข้า​นั้น​ ​ข้ามี​แค่​สี่​ชั่ง​แปด​ตำลึง​เอง​”

ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​จุน​เกอ​ไป​กวน​เจ้า​หรือไม่​”

“​ไม่​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​อย่าง​เรียบง่าย​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​สั่ง​ให้​อวี​้​ป่าน​ไป​ตัก​น้ำ​มา​ให้​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​ห้า​ล้างหน้าล้างตา​ ​แล้ว​ถามถึง​สถานการณ์​ของ​ลาน​นอก​ ​เปลี่ยน​บทสนทนา​นั้น​ไป

พอต​กค​่ำ​เมื่อ​เจอ​หน้า​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​เล่าเรื่อง​ที่​อี้​อี๋​เหนียง​เรียก​นาง​ไป​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​ออกมา​ด้วย​ความ​เย้ยหยัน​เบา​ๆ​ ​“​คน​เช่นนี้​ ​เพื่อที่จะ​ใช้ชีวิต​อยู่​ต่อ​ ​สามารถ​พูด​ออกมา​ได้​ทุกอย่าง​ ​เจ้า​อย่า​ไป​เชื่อ​คำพูด​ซี้ซั้ว​ที่นาง​พูด​”​ ​จากนั้น​เขา​ก็ได้​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​คราวหน้า​หาก​เจอ​กับ​เรื่อง​เช่นนี้​อีก​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​เจ้า​ก็​จะ​ต้อง​แจ้ง​ให้​ข้า​ทราบ​ก่อน​ ​หากว่า​นาง​เกิด​เป็นบ้า​แล้ว​ทำร้าย​คนอื่น​ขึ้น​มา​ ​เจ้า​และ​ลูก​ได้รับบาดเจ็บ​เล่า​ ​จะ​ทำ​อย่างไร​”

สือ​อี​เหนียง​มีเรื่อง​อื่น​อยู่​ใน​ใจ​ ​จึง​เพียง​ขานรับ​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​เท่านั้น

นึกถึง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​คอย​ปกป้อง​และ​ดูแล​ฉิน​อี๋​เหนียง​ตลอด​สิบ​ปี​ที่ผ่านมา​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​สำหรับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​นั้น​ถือว่า​ไม่ได้​กระทำ​อะไร​ผิด​ ​จึง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ ​ตอนนั้น​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​”​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความสงสัย

สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เคร่งขรึม​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​เจ้า​ต้องการ​จะ​พูด​อะไร​”

สีหน้า​ท่าที​ที่​สุขุม​และ​เคร่งขรึม​ของ​เขา​ทิ่มแทง​ความรู้สึก​ของ​นาง

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ไม่มี​อะไร​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​ก็​เพียงแต่​รู้สึก​แปลกใจ​ก็​เท่านั้น​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​ ​“​ข้า​ไป​เรียก​สาวใช้​น้อย​เข้ามา​ปรนนิบัติ​ท่าน​โหว​ชำระร่างกาย​ดีกว่า​ ​ได้ยินฮู​หยิน​ห้า​บอกว่า​วันพรุ่งนี้​นักพรต​ฉัง​ชุน​จะ​ทำพิธี​สวด​ที่​จวน​อีก​รอบ​ ​พรุ่งนี้​ท่าน​โหว​จะ​ต้อง​ยุ่ง​อีก​วัน​ ​รีบ​พักผ่อน​แต่เช้า​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”

เวลา​ที่นา​งมี​เรื่อง​ไม่สบายใจ​ ​นาง​มักจะ​ยิ้ม​อย่าง​สดใส​มากกว่า​ปกติ​เสมอ​ ​จากนั้น​ก็​หาเรื่อง​พูดมาก​มาย​ก่ายกอง​ไม่หยุดหย่อน

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​สาวเท้า​ก้าว​เข้ามา​หานาง​ ​ดึง​แขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ที่​กำลังจะ​หมุนตัว​ไป​เรียก​สาวใช้​น้อย​ไว้​ ​“​สือ​อี​เหนียง​ ​เจ้า​ไป​ได้ยิน​เรื่องเล่า​ข่าวลือ​อะไร​มา​ใช่​หรือไม่​ ​พี่​หญิง​ของ​เจ้า​…​ถึงแม้ว่า​จะ​หัวแข็ง​และ​เอาแต่ใจตัวเอง​ ​แต่​ก็​ไม่ใช่​คน​เช่นนั้น​…​”

แต่​ก็​ไม่ใช่​คน​เช่นนั้น​…

จู่ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เหมือน​เข้าใจ​อะไร​บางอย่าง​ขึ้น​มา​ ​นาง​หันหน้า​ไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋

เขา​กำลัง​แก้ต่าง​ให้​หยวน​เหนียง

เช่นนี้​ก็​เท่ากับ​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอง​ก็​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​เป็นความ​ผิด​ของ​หยวน​เหนียง​สินะ

แต่​ฉิน​อี๋​เหนียง​ไม่มี​ความผิด​อะไร​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​อย่างนั้น​หรือ

นัยน์ตา​ที่​ดำขลับ​และ​เป็นประกาย​ ​สะท้อน​ให้​เห็น​เงา​ของ​เขา

พลอย​ทำให้​เขา​นึกถึง​เรื่องราว​ใน​อดีต​ที่​น่าละอาย​ใจ​ขึ้น​มา​อย่างชัดเจน

ท้ายที่สุด​หยวน​เหนียง​กลายเป็น​คน​แบบ​ใด​ ​ไม่มีใคร​รู้ดี​มากกว่า​เขา​อีกแล้ว

มิเช่นนั้น​ ​สือ​อี​เหนียง​จะ​มา​แต่งงาน​กับ​เขา​ได้​อย่างไร​กัน​ ​มิเช่นนั้น​ ​สือ​เหนียง​จะ​เป็น​หม้าย​ตั้งแต่​อายุ​ยังน้อย​ได้​อย่างไรเล่า

คนที​่​จากไป​แล้ว​ไม่มีวัน​ย้อนกลับ​คืน​มา​ ​คนที​่​ยังอยู่​ก็​จะ​ต้อง​ใช้ชีวิต​กันต​่อ​ไป​ ​ไปรื​้อ​คน​และ​เรื่องราว​ใน​อดีต​เช่นนี้​ ​ก็​ไม่ได้​ก่อให้เกิด​ประโยชน์​แต่อย่างใด

สวี​ลิ่ง​อี๋​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​โอบกอด​สือ​อี​เหนียง​ไว้​ใน​อ้อมกอด​ ​“​พอแล้ว​ ​หายโกรธ​ได้​แล้ว​ ​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​ส่งตัว​อี้​อี๋​เหนียง​ออก​ไป​ ​ส่วน​เรื่อง​พิธี​สวด​ ​ข้า​ได้​เลื่อน​ออก​ไป​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เรื่อง​เหล่านั้น​ล้วนแล้วแต่​เป็นเรื่อง​ราว​ใน​อดีต​ ​คนที​่​รู้เรื่อง​เหตุการณ์​ภายใน​ ​ข้า​ได้​จัดการ​เรียบร้อย​หมด​แล้ว​”

รู้เรื่อง​เหตุการณ์​ภายใน​ ​รู้เรื่อง​เหตุการณ์​ภายใน​อะไร​ ​ยัง​มีเรื่อง​ที่​ตน​ไม่รู้​อีก​หรือ​อย่างไร​กัน​ ​เพราะ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ทำพิธี​สาปแช่ง​สวี​ซื่อ​จุน​ ​ตน​ก็​เลย​อุปาทาน​ไป​เอง​อย่างนั้น​หรือ

ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะอะไร​ ​ใน​ใจ​ของ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​แปลก​ๆ​ ​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

สือ​อี​เหนียง​ผลัก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ออก​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​นำ​เรื่อง​ที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เล่า​ให้​นาง​ฟัง​มาเรียง​ลำดับ​ ​แล้วจึง​เล่า​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​อย่างรวบรัด​ว่า​ ​“​…​ข้า​ดูแล​้ว​ ​ใน​ตอนนั้น​ความผิด​ของ​พี่​หญิง​ของ​ข้า​ก็​คือ​สะเพร่า​และ​ประมาท​จน​เกินไป​ ​ส่วน​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เอง​ก็​จิตใจ​คับแคบ​และ​หวาดระแวง​จน​เกินไป​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ผิด​ตรง​ที่​ตัดสินใจ​ทุกอย่าง​ได้​ค่อนข้าง​ทื่อ​และ​ตายตัว​ ​ขาด​ซึ่ง​ไหวพริบ​ ​แม้แต่ถ​งอี​๋​เหนียง​ที่​เสียชีวิต​ไป​ก็​ใช่​ว่า​จะ​ไร้​ซึ่ง​ความผิด​ ​นาง​กำลัง​ตั้งครรภ์​ทายาท​ผู้สืบสกุล​ ​ไม่มี​เรื่อง​ไหน​ใหญ่​กว่า​เรื่อง​อีกแล้ว​ ​ในเมื่อ​รู้สึก​ไม่สบาย​ ​ก็​ควรจะ​พูด​ออกมา​ถึง​จะ​ถูก​ ​หาก​พี่​หญิง​ทราบ​เรื่อง​แล้ว​ ​ก็​คงจะ​ไม่​ใจร้าย​ปล่อยทิ้ง​ไว้​ไม่ดูดำดูดี​อย่างแน่นอน​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​แตกต่าง​กัน​ ​แต่​การ​ที่​เป็น​นาย​หญิง​ใหญ่​ของ​จวน​ ​แน่นอน​ว่าความ​รับผิดชอบ​ของ​พี่​หญิง​ต้อง​มา​เป็นอัน​ดับ​แรก​เสมอ​ ​แต่​ข้า​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​ท่าน​โหว​แล้ว​ ​ราวกับว่า​เรื่อง​นี้​เป็นความ​ผิด​ของ​พี่​หญิง​คนเดียว​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​สรุป​แล้ว​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หันไป​มอง​ใบหน้า​ที่​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความชอบธรรม​ของ​นาง​ ​สีหน้า​เต็มไปด้วย​ความผิดหวัง

หากว่า​ตอนนั้น​ ​หยวน​เหนียง​หันมา​จ้อง​เขา​อย่าง​เปิดใจ​เช่นนี้​…

“​ข้า​เชื่อ​ว่า​พี่​หญิง​ของ​เจ้า​สามารถ​ทำ​เรื่อง​เช่นนั้น​ออกมา​ได้​”​ ​เขา​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เคร่งขรึม​แต่​เนิ​่​บนาบ​ ​ราวกับ​สายน้ำ​ที่​นิ่ง​สงบ​ ​“​ข้า​รอคำ​พูดจาก​นาง​เพียงแค่​คำ​เดียว​เท่านั้น​ ​แต่​ทุก​คำพูด​ที่นาง​พูด​ออกมา​กลับ​เต็มไปด้วย​ความเย่อหยิ่ง​และ​จองหอง​ ​หาก​ไม่​โทษ​ว่า​ป้า​รับใช้​เหล่านั้น​เกียจคร้าน​และ​ชักช้า​ ​ก็​โทษ​ว่า​ฉิน​อี๋​เหนียง​พูดจา​ไม่รู้​เรื่อง​ ​โทษ​แม้กระทั่ง​พี่สะใภ้​สอง​ ​บอกว่า​พี่สะใภ้​สอง​ไม่​ควร​ยื่นมือ​มายุ​่ง​เรื่อง​ของ​ครอบครัว​คุณชาย​สี่​ ​เหลือ​แค่นาง​เพียง​คนเดียว​เท่านั้น​ที่​ไร้​ซึ่ง​ความผิด​ใดๆ​ ​…​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความผิดหวัง​ที่​ยาก​จะ​ปิดบัง​ได้​ ​“​นาง​เป็นฮู​หยิน​แห่ง​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​ต่อไป​ใน​ภายภาคหน้า​ ​จวน​หลัง​นี้​ล้วนแล้วแต่​ต้อง​พึ่ง​สอง​มือ​ของ​เรา​ทั้งสิ้น​ ​และ​ถึงแม้ว่า​เรื่อง​นี้​จะ​ไม่มี​ความผิด​ของ​นาง​ ​แต่​ข้า​และ​นาง​เป็น​สามีภรรยา​กัน​ ​เหตุใด​นาง​ถึง​ไม่ยอม​พูด​ให้​ข้า​ฟัง​อย่าง​กระจ่าง​ชัดเจน​ ​เรา​ทั้งสอง​จะ​ได้​ช่วยกัน​หาวิ​ธีมา​รับมือ​กับ​เรื่อง​นี้​ ​ไม่ใช่​ว่า​เดี๋ยว​ก็​โทษ​คน​นี้​ ​เดี๋ยว​ก็​โทษ​คน​โน้น​ ​อย่า​ว่าแต่​พี่สะใภ้​สอง​ที่​รับคำ​สั่ง​ดูแล​ฉิน​อี๋​เหนียง​จาก​ท่าน​แม่​เลย​ ​ถึงแม้ว่า​พี่สะใภ้​สอง​จะ​ก้าวก่าย​เกินหน้า​ที่​ ​เข้ามา​ยุ่ง​เรื่อง​ครอบครัว​ของ​เรา​ ​แต่​เห็นแก่​พี่​สอง​ที่​เสียชีวิต​ไป​แล้ว​ ​และ​พี่สะใภ้​สอง​เอง​ก็​ไม่มี​บุตร​ ​อยู่ตัว​คนเดียว​ตามลำพัง​ ​วันข้างหน้า​จะ​ต้อง​อาศัย​เรา​ใน​การ​ใช้ชีวิต​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่​ใจกว้าง​และ​โอบอ้อมอารี​บ้าง​”​ ​คำพูด​ที่​ถูก​เก็บ​ซ่อน​เอาไว้​ภายในใจ​มา​หลาย​ปี​ ​พอ​มีโอกาส​ที่จะ​ระบาย​ออกมา​ ​ก็​พรั่งพรู​ออกมา​จน​หมด​ใน​คราว​เดียว​โดยที่​ไม่​อาจ​หยุดยั้ง​ได้​ ​“​ให้​ฉิน​อี๋​เหนียง​พาลูก​ไป​ใช้ชีวิต​กับ​พี่สะใภ้​สอง​ตั้งปี​กว่า​ ​หาก​ให้​คนนอก​รู้เรื่อง​นี้​เข้า​ ​คนอื่น​เขา​จะ​คิด​อย่างไร​ ​และ​หาก​บรรดา​บ่าว​รับใช้​รู้เรื่อง​นี้​เข้า​จะ​ทำ​อย่างไรเล่า​ ​ไม่​เท่ากับ​ว่า​เรา​กำลัง​ยื่น​จุดอ่อน​ของ​เรา​ไป​ให้​ผู้อื่น​นำมา​ทำร้าย​เรา​อย่างนั้น​หรือ​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่ยอม​ใจกว้าง​กว่านี​้​สักหน่อย​ ​ยอม​อ่อนข้อ​น้อม​รับ​ความผิด​กับ​ท่าน​แม่​ ​กล่าว​ขอบคุณ​พี่สะใภ้​สอง​บ้าง​ ​แล้วไป​รับ​ฉิน​อี๋​เหนียง​สอง​แม่​ลูก​กลับมา​…​เหตุใด​ถึง​ต้อง​ดันทุรัง​จน​เรื่อง​บานปลาย​และ​ไม่​อาจ​กลับ​ไป​แก้ไข​ด้วย​เล่า​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​สงบนิ่ง​ราวกับ​ผิวน้ำ​ก็​ไม่​ปาน

“​ข้า​หวัง​อย่างยิ่ง​ว่ายัง​พอ​มี​หนทาง​ที่จะ​ไถ่ถอน​เรื่อง​นี้​”​ ​แววตา​ของ​เขา​ปรากฏ​ความรู้สึก​ละอายใจ​ออกมา​ ​“​ในเมื่อ​ได้​ไป​ถาม​ฉิน​อี๋​เหนียง​เป็นการ​ส่วนตัว​แล้ว​ ​ตามที่​นาง​เล่า​มา​ ​จาก​เรือน​ปีก​ของ​ทิศตะวันออก​จน​ไป​ถึง​เรือน​หลัก​ ​แล้วก็​ไป​ยัง​จุด​ที่พัก​ของ​ป้า​ตู้​ ​ไป​ๆ​ ​มา​ๆ​ ​หลาย​รอบ​หลาย​หน​เช่นนี้​…​ไม่เพียงแต่​ไม่​สามารถ​พิสูจน์​ได้​ว่า​สิ่ง​ที่​ฉิน​อี๋​เหนียง​พูด​มานั​้น​เป็นความ​จริง​หรือไม่​ ​ยัง​ถาม​ได้เรื่อง​ว่า​…​”​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​ชะงัก​คำพูด​ไป

“​ได้เรื่อง​ว่า​อย่างไร​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​กำมือ​ไว้​แน่น

สวี​ลิ่ง​อี๋​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง

“​สาวใช้​ที่อยู่​เวร​ใน​ช่วง​กลางคืน​ใน​เรือน​ของ​หยวน​เหนียง​ได้ยิน​เสียงร้อง​ไห้​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ดัง​มาจาก​ด้านนอก​!​”

ปกติ​แล้ว​สาวใช้​ที่อยู่​เวร​ใน​ช่วง​กลางคืน​มักจะ​นอน​อยู่​ที่​ขั้นบันได​ของ​เตียง​เจ้านาย

สือ​อี​เหนียง​หันไป​จ้องมอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​สีหน้า​ที่​ประหลาดใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​พยักหน้า​เบา​ๆ

สือ​อี​เหนียง​จึง​หลุบ​ตาลง​ต่ำ

“​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​หลังจากที่​ข้า​กลับมา​แล้ว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เคร่งขรึม​ ​“​ท่าน​แม่​พูด​อะไร​กับ​ข้า​”​ ​ไม่​รอ​ให้​สือ​อี​เหนียง​ตอบ​ ​เขา​ก็ได้​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ให้​ข้า​ไป​เกลี้ยกล่อม​โน้มน้าว​หยวน​เหนียง​ ​ให้​นาง​อย่า​ทำตัว​เหมือน​เด็ก​ ​แสดง​สีหน้า​และ​อารมณ์​ออกมา​หมด​ทุกอย่าง​ ​เวลา​ที่​ดีอกดีใจ​ก็​พูดคุย​กับ​เหล่า​อี๋​เหนียง​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​พร้อมทั้ง​ตกรางวัล​มากมาย​ให้​กับ​เหล่า​บรรดา​อี๋​เหนียง​ ​เวลา​ที่​อารมณ์ไม่ดี​ก็​แสดงออก​ด้วย​สีหน้า​ที่​บูดบึ้ง​และ​ไม่สน​ใจ​อะไร​ทั้งนั้น​ ​ไป​โกรธ​กับ​คน​เหล่านั้น​ ​ก็​จะ​ขาด​ซึ่ง​จิตใจ​โอบอ้อมอารี​ที่นาย​หญิง​ใหญ่​ของ​จวน​พึงมี​ ​ตอนนั้น​หลังจากที่​ข้า​ได้ยิน​แล้ว​ ​ข้า​อยาก​จะ​มุด​ดิน​หนี​ไป​ให้​รู้แล้วรู้รอด​ ​เพราะ​ตอนนั้น​หลังจากที่ฮู​หยิน​สอง​แต่งงาน​เข้า​จวน​มา​แล้ว​ ​ท่าน​แม่​เป็น​คน​สอน​งาน​นาง​ทีละ​อย่าง​ด้วย​ความอดทน​ ​ราวกับ​เป็น​แม่​ลูก​กัน​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​สนิทสนม​กัน​เสีย​ยิ่งกว่า​อะไร​ ​แต่​กับ​หยวน​เหนียง​…​เวลา​ที่​ท่าน​แม่​มีธุระ​อะไร​ ​ก็​มักจะ​บอก​ผ่าน​ข้า​แทน​เสมอ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หย่อน​ตัว​นั่งลง​บน​ตั่ง​นั่ง​เหม่ย​เห​ริน​ ​คิ้ว​ของ​เขา​ขมวด​แน่น

สือ​อี​เหนียง​เดิน​ไป​นั่งลง​บน​เก้าอี้​จิ​่​นอู​้​ข้างๆ​ ​ตั่ง​นั่ง​เหม่ย​เห​ริน

“​ท่าน​โหว​ ​ใน​ตอนนั้น​ ​พี่​หญิง​ของ​ข้า​ก็​คงจะ​อายุ​ราว​สิบ​หก​ ​สิบ​เจ็ด​ปีก​ระ​มัง​”​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​อ่อนโยน​ราวกับ​สายลม​ที่​พัด​อ่อน​ๆ​ ​ก็​ไม่​ปาน​ ​“​ที่นาง​ไม่กล้า​บอก​ท่าน​โหว​ ​แน่นอน​ว่านา​งค​งก​ลัว​ว่า​ท่าน​โหว​จะ​กล่าวโทษ​นาง​ ​หากว่า​ตอนนั้น​ท่าน​โหว​พูด​กับ​พี่​หญิง​ของ​ข้า​ให้​เข้าใจ​กระจ่าง​ชัดเจน​ ​ถึงแม้ว่า​พี่​หญิง​ของ​ข้า​จะ​มีความผิด​จริง​ ​ท่าน​โหวก​็​พร้อม​ที่จะ​ให้อภัย​นาง​ ​และ​จะ​ช่วย​นาง​แก้ไขปัญหา​ที่เกิด​ขึ้น​ทุกอย่าง​ ​เพื่อ​ท่าน​โหว​แล้ว​ ​ไม่ว่า​เรื่อง​อัน​ใด​นาง​ก็​คงจะ​ยินยอมพร้อมใจ​ทำ​อย่างแน่นอน​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ

“​ใต้​หล้า​นี้​มี​ความน้อย​เนื้อ​ต่ำ​ใจเสีย​ที่ไหน​กัน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ ​“​มี​แค่​สิ่ง​ที่​ควรค่า​และ​สิ่ง​ที่​ไม่​ควรค่า​เท่านั้น​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​จ้องมอง​หน้านา​งด​้วย​ความ​ตะลึงงัน​ ​ผ่าน​ไป​ครู่ใหญ่​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออกมา

*****

เช้าตรู่​ของ​วันรุ่งขึ้น​ ​สาวใช้​น้อย​ที่​เข้าเวร​ใน​ช่วง​กลางคืน​ของ​เรือน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็ได้​แอบ​มาก​ระ​ซิบ​บอก​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​สี่​ ​เมื่อคืนนี้​ท่าน​โหว​ไม่ได้​นอน​ทั้งคืน​เลย​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็ได้​ให้​ลูกกวาด​นาง​เป็น​รางวัล

สาวใช้​น้อย​ก็​ยิ้ม​เริงร่า​พร้อมกับ​ถอย​ออก​ไป

หลังจากที่​ทานอาหาร​เช้า​เสร็จ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​สังเกต​สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

ผิวพรรณ​กระจ่าง​ใส​ ​แววตา​สดใส​มีชีวิตชีวา​ ​เหมือน​คนที​่​ไม่ได้​นอนมา​ทั้งคืน​ที่ไหน​กัน

หรือว่า​ไท่ฮู​หยิน​จะ​สอนสั่ง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​วิธี​นี้​ ​ไม่​ให้​แสดง​อารมณ์​และ​ความคิด​ออกมา​ทาง​สีหน้า​ให้​หมด​หรือ​อย่างไร​กัน

เหมือนว่า​ตน​นั้น​ก็​ไม่​ผ่าน​มาตรฐาน​นี้

ใน​หัว​ของ​นาง​ฟุ้งซ่าน​ไป​หมด​ ​พอ​เงยหน้า​มาก​็​เห็น​ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​ยิ้ม​จน​ตาหยี​ ​และ​จ้องมอง​ตน​ด้วย​แววตา​ที่​เต็มไปด้วย​อารมณ์ขัน

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​จับต้นชนปลายไม่ถูก​ขึ้น​มา

ไท่ฮู​หยิน​ก็ได้​หันไป​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ว่า​ ​“​วันนี้​คงจะ​ส่ง​อี้​อี๋​เหนียง​ไป​ที่​ซาน​หยาง​แต่เช้า​ตรู่​เลย​กระมัง​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​ ​ประมาณ​ต้น​ยาม​ซื่อ​จะ​เดินทางออก​จาก​ประตูเมือง​ ​เวลา​นั้น​ผู้คน​สัญจร​ไม่​มาก​และ​ไม่น้อย​เกินไป​”

ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​อี้​อี๋​เหนียง​ออก​ไป​แล้ว​ ​พวก​เจ้า​ก็​กลับ​เรือน​ตัวเอง​ไป​พักผ่อน​เถิด​!​ ​มิเช่นนั้น​ ​คน​หนึ่ง​อยู่​ห้อง​ปลาย​ทิศตะวันออก​ ​ส่วน​อีก​คน​อยู่​ห้อง​หน​่​วน​เก๋อ​ ​เรียก​ใช้​สาวใช้​ของ​ข้า​จน​หัวหมุน​ไป​หมด​ ​กลางคืน​จะ​ไม่มีใคร​ตัก​น้ำ​ริน​น้ำชา​ให้​ข้า​เอา​”

ตน​ก็​พาสาว​ใช้​มาด​้ว​ยมิ​ใช่​หรือ​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​มี​แค่​สอง​คน​ ​แต่​ตน​ก็​ไม่กล้า​เรียก​ใช้​สาวใช้​คนสนิท​ที่​ปรนนิบัติ​รับใช้​ข้าง​กาย​ไท่ฮู​หยิน​เสียหน่อย​!

สือ​อี​เหนียง​จึง​ขานรับ​ไป​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​”

เมื่อ​นึก​ขึ้น​มา​ว่า​ทุกคน​ต่าง​ก็​เป็นผู้ใหญ่​กัน​หมด​แล้ว​ ​ต่าง​คน​ต่าง​มี​ความเคยชิน​ใน​การ​ใช้ชีวิต​ของ​ตัวเอง​ หาก​พวกเขา​อยู่​ที่นี่​ ​บางที​ไท่ฮู​หยิน​อาจจะ​ไม่​ค่อย​สะดวก​ก็​เป็นได้​ ​ดังนั้น​จึง​จะ​ใช้​เหตุผล​นี้​มา​เป็น​ข้ออ้าง​ให้​พวกเขา​กลับ​ไป​เร็ว​ขึ้น​กระมัง​!

“​ท่าน​แม่​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​เข้าใจ​เป็น​อย่าง​อื่น​ ​“​หลาย​วัน​มานี​้​พ่อบ้าน​ไป๋​กำลังจะ​คัดเลือก​บ่าว​รับใช้​เข้ามา​ใหม่​ ​ท่าน​แม่​ต้องการ​เพิ่ม​บ่าว​รับใช้​หรือไม่​ ​เงินเดือน​หัก​จาก​เงิน​ส่วนตัว​ของ​ข้า​เอง​”

ป้า​ตู้​ที่​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​จู่ๆ​ ​ก็​หัวเราะ​ออกมา​ทันควัน

สือ​อี​เหนียง​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​หันหน้า​มาสบ​ตากัน

ไท่ฮู​หยิน​เอง​ก็​หัวเราะ​เสียงดัง​ด้วย​ความชอบ​ใจ​ ​“​เจ้า​เด็ก​โง่​สอง​คน​นี้​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน