ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 445 ออกจากจวน (ปลาย)

ตอนที่ 445 ออกจากจวน (ปลาย)

ฉิน​อี๋​เหนียง​จ้องมอง​ขา​ของ​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ที่​แกว่ง​ไปมา​อยู่​กลางอากาศ​ ​นาง​ก็​เข้าใจ​ได้​ในทันที

ถึงแม้ว่า​โรค​ไข้จับสั่น​จะ​ร้ายแรง​ ​แต่​ก็​ใช่​ว่า​จะ​ไม่มี​ยารั​กษา​เสียหน่อย​ ​นางอายุ​น้อย​เช่นนี้​ ​จะ​ฆ่าตัวตาย​ทำไม​กัน​!

ฉิน​อี๋​เหนียง​รู้สึก​เพียง​ว่า​ดวงตา​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​ตน​ลาย​ไป​หมด​ ​จากนั้น​ใน​หัว​ของ​นาง​ก็​ขาวโพลน​และ​หมดสติ​ไป

หลังจากที่​นาง​ฟื้น​ขึ้น​ ​ก็​เข้าสู่​เวลา​พลบค่ำ​ไป​แล้ว

ใน​เรือน​เงียบสนิท​ ​ป้า​รับใช้​สอง​คนที​่​ปรนนิบัติ​รับใช้​ใน​เรือน​ของ​นาง​กำลัง​นั่ง​คุย​เรื่อยเปื่อย​อยู่​นอก​ประตู

“​ข้า​เห็น​ว่า​บน​โต๊ะ​ลง​ไพ่​จิ​่ว​สั่ว​ไป​สาม​ตัว​แล้ว​ ​ก็​เลย​ลง​ไพ่​จิ​่ว​สั่ว​ตาม​ ​ใคร​จะ​ไป​นึก​ว่า​ป้า​อู๋​จะ​ชนะ​ไป​เสียก่อน​ ​เจ้า​ว่า​ตานี​้​ข้า​อับโชค​แค่ไหน​”

“​เจ้า​ยังดี​ที่​ตอนท้าย​ยัง​ได้​ชนะ​รวด​ไป​ตั้ง​สี่​ตา​ ​ได้​ทุน​ที่​เสีย​ไป​คืน​มา​จน​หมด​ ​ส่วน​ข้า​น่ะ​ ​เริ่มแรก​ก็​ชนะ​มาตั​้ง​สอง​ร้อย​กว่า​อี​แปะ​ ​หลัง​ๆ​ ​แพ้​ไป​ตาละ​ตั้ง​หนึ่งร้อย​อี​แปะ​ ​รวม​ๆ​ ​แล้ว​ข้า​เสีย​ไป​ตั้ง​สาม​ร้อย​กว่า​อี​แปะ​”

“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ช่วงนี้​ป้า​อู๋​โชคดี​เสีย​จริง​ ​พวกเรา​ทั้ง​สี่​เล่นไพ่​นกกระจอก​ด้วยกัน​ ​เหตุใด​ถึง​เลือก​ให้​นาง​ไป​เป็น​คน​ทำความสะอาด​และ​ห่อ​ศพ​คนเดียว​ ​เห็น​ว่ายัง​ให้เงิน​รางวัล​นาง​อีก​ตั้ง​สอง​ตำลึง​ด้วย​!​”

“​หาเงิน​จาก​คนตาย​ ​มี​อะไร​ให้​น่าอิจฉา​กัน​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​เด็ก​คน​นั้น​ก็​น่าสงสาร​ ​อายุ​ยังน้อย​ก็​ต้อง​มาด​่​วน​ตาย​จากไป​ ​มิเช่นนั้น​ ​จะ​ได้​ใช้​โลงศพ​ไม้จ​วี่​มู่​ได้​อย่างไร​กัน​”

นัง​สารเลว​นั่น​ได้​ใช้​โลงศพ​ไม้จ​วี่​มู่​เชียว​หรือ​!

ฉิน​อี๋​เหนียง​ไม่​สามารถ​อดทน​ฟังได้​อีกต่อไป​ ​นาง​กระโดด​ลง​จาก​เตียง​ตรง​ไป​ที่​ประตู​ทันที​ ​ใช้​ทั้งสอง​มือ​ดึง​ประตู​ให้​เปิด​ออก​อย่าง​สุด​แรง​ ​แต่​ประตู​กลับ​ไม่​ขยับ​แม้แต่​นิดเดียว​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ประตู​ถูก​ลงกลอน​เอาไว้

นาง​โกรธ​จน​เนื้อตัว​สั่นเทา​ไป​หมด​ ​ใบหน้า​ร้อนผ่าว​ราวกับ​ไฟ​ที่​กำลัง​แผดเผา​อย่างไร​อย่างนั้น

“​เปิด​ประตู​ ​เปิด​ประตู​ให้​ข้า​เดี๋ยวนี้​!​”​ ​นาง​เขย่า​ประตู​ด้วย​ความบ้า​คลั่ง

ตน​จะ​ไป​งัด​นัง​สารเลว​คน​นั้น​ออกจาก​โลงศพ​ ​คว้าน​หัวใจ​ของ​นาง​ออกมา​ดู​ ​ว่า​หัวใจ​นั้น​เป็น​สีแดง​หรือ​สีดำ​กัน​แน่

เสียแรง​ที่​ตน​ดี​กับ​นาง​ขนาด​นี้​ ​ที่ผ่านมา​ตน​ตกรางวัล​ให้​นาง​ไม่เคย​ขาด​ ​ปีใหม่​ก็​ไม่เคย​ที่จะ​ลืม​ให้​ซอง​แดง​ ​นาง​ไป​ได้​อะไร​จาก​สือ​อี​เหนียง​กัน​ ​ถึง​ได้​หันมา​ทำร้าย​ตน​เช่นนี้

ตอนนั้น​นาง​ก็​กลัดกลุ้ม​ใจ​จะ​แย่​อยู่​แล้ว​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​ตน​ไม่ได้​เป็น​อะไร​เลย​ ​แต่​นัง​สารเลว​คน​นั้น​กลับ​เอาแต่​บอกว่า​ตน​มี​อาการ​ตัวร้อน​ ​อีกทั้ง​ยัง​ออก​ไป​ป่าวประกาศ​ว่า​ตน​เป็นโรค​ ​‘​ไข้จับสั่น​’​ ​อีกด้วย​ ​ใน​ปีนั​้​นนา​งก​็​ได้ยิน​โรค​นี้​จาก​ปากฮู​หยิน​สอง​ ฮู​หยิน​สอง​ยัง​บอกอี​กว่า​โรค​นี้​สามารถ​แพร่ระบาด​ได้​ ​ตอนที่ฮู​หยิน​สอง​พูดถึง​โรค​นี้​ ​ปีนั​้​นที​่​ซาน​ซีก​็​มี​คน​เสียชีวิต​เพราะ​ติดโรค​ห่า​พอดี​ ​มิเช่นนั้น​นาง​ก็​คงจะ​จำ​ไม่ได้​ ​ชุ่ย​เอ๋อร​์​เป็นสาว​ใช้​น้อย​ที่​ไม่รู้​หนังสือ​ ​นาง​จะ​ไปรู​้​ดี​ขนาด​นั้น​ได้​อย่างไร​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​มี​คน​คอย​บงการ​นาง

เกลียด​ที่​ตน​โดน​กักขัง​ทั้งวันทั้งคืน​เช่นนี้​ ​จึง​ยาก​ที่​ป้องกัน​โจร​ที่​แฝงตัว​อยู่​ภายใน​ ​สุดท้าย​กลับ​พังพินาศ​เพราะ​นัง​สารเลว​คน​นั้น​คนเดียว

ฉิน​อี๋​เหนียง​กรีดร้อง​เสียงดัง​จน​บ่าว​รับใช้​ทั้งสอง​หยุด​บทสนทนา​ไป

ป้า​รับใช้​คน​หนึ่ง​จึง​ได้​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​อี๋​เหนียง​ ​ท่าน​อย่า​ทำ​พวก​บ่าว​ลำบากใจ​เลย​ ​ที่​พวก​บ่าว​ทำ​ไป​ก็​เพราะ​คำสั่ง​ทั้งนั้น​”

ส่วน​อีก​คน​ก็ได้​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​อี๋​เหนียง​ ​ท่าน​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​เชิญ​พูด​กับ​พวก​บ่าว​มา​ได้​ ​บ่าว​จะ​ช่วย​ไป​เรียน​กับฮู​หยิน​เอง​ ​ส่วน​เรื่อง​เปิด​ประตู​ ​บ่าว​มิก​ล้า​หรอก​เจ้าค่ะ​ ​หาก​พวก​บ่าว​ติดโรค​ขึ้น​มา​ ​พวก​บ่าว​ไม่​สามารถ​เชิญ​หมอ​หลวง​มาตร​วจ​อาการ​และ​ทาน​โสม​หรือ​ห่อ​สิ่ว​โอว​ได้​อย่างเต็มที่​เช่น​อี๋​เหนียง​ได้​ ​พวก​บ่าว​ไม่มี​เงินทอง​เช่นนั้น​หรอก​นะ​เจ้า​คะ​”

“​ถุย​!​”​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ตบ​ประตู​ด้วย​ความ​เดือดดาล​ ​“​ข้า​ไม่ได้​ป่วย​เสียหน่อย​ ​นัง​คน​อายุสั้น​นั่น​ต่างหาก​ที่​เป็น​คน​บอกว่า​ข้า​ป่วย​ ​รอบุ​ตร​ชาย​ข้า​กลับมา​แล้ว​ ​ระวัง​เขา​จะ​มาคิ​ดบัญ​ชี​กับ​พวก​เจ้า​”

“​บุตรชาย​!​”​ ​ป้า​รับใช้​คน​หนึ่ง​หัวเราะ​ออกมา​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​อี๋​เหนียง​มีบุ​ตร​ชาย​เสียที​่​ไหน​กัน​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ได้​ให้กำเนิด​บุตรชาย​ ​แต่​ถือว่า​เป็น​บุตรชาย​ของฮู​หยิน​สี่​ ​ไป​กลายเป็น​บุตรชาย​ของ​ท่าน​เสีย​ตั้งแต่​เมื่อไร​กัน​ ​บ่าว​ว่า​ท่าน​ไม่ได้​ป่วย​ธรรมดา​ ​แต่​ป่วย​อาการสาหัส​ทีเดียว​เชียว​”

ยัง​ไม่ทัน​ที่​ป้า​รับใช้​คน​นี้​จะ​พูด​จบ​ ​ป้า​รับใช้​อีก​คน​ก็ได้​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​ไป​พูด​เรื่อง​พวก​นี้​กับ​นาง​ทำไม​กัน​ ​สู้​เอา​เวลา​มา​พักผ่อน​ดีกว่า​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​ป้า​อู๋​บอกว่า​วันนี้​นาง​จะ​ตั้งโต๊ะ​ไพ่​นกกระจอก​ที่​บ้าน​ของ​นาง​ ​เจ้า​จะ​ไป​หรือไม่​”

“​ไป​สิ​ ​จะ​ไม่​ไป​ได้​อย่างไรเล่า​ ​หาก​ข้า​ไม่​ไป​ ​จะ​เอาคืน​เงินทุน​ที่​เสีย​ไป​ได้​อย่างไร​กัน​”

ทั้งสอง​พูดคุย​กันต​่​ออย​่าง​ถูกปาก​ถูกคอ​ ​ปล่อย​ให้​ฉิน​อี๋​เหนียง​โหวกเหวก​โวยวาย​ทุบตี​ประตู​อยู่​ด้านใน​โดยที่​ไม่สน​ใจ​ไยดี​แม้แต่​นิดเดียว​ ​ราวกับว่า​ไม่ได้​ยิน​อย่างไร​อย่างนั้น

ฉิน​อี๋​เหนียง​ทุบตี​ประตู​จน​เจ็บ​มือ​ไป​หมด​ ​แต่​ป้า​รับใช้​ทั้งสอง​ที่อยู่​ด้านนอก​ก็​ไม่สน​ใจ​แม้แต่​นิดเดียว​ ​นาง​จึง​ค่อยๆ​ ​สงบ​ลง​ในที่สุด

เหล่า​บรรดา​สตรี​ใน​ครอบครัว​มักจะ​ชอบ​เทิดทูน​คนที​่​สูงส่ง​และ​เหยียบย่ำ​คนที​่​ตกต่ำ​เสมอ​ ​ตั้งแต่​เมื่อก่อน​ ​คน​เหล่านั้น​เห็น​ว่านาง​ให้กำเนิด​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​และ​ก็​เห็น​ว่า​ท่าน​โหว​รัก​และ​เอ็นดู​คุณชาย​น้อย​สอง​เป็นพิเศษ​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ไม่ได้​มาป​ระ​จบ​ประแจง​นาง​ ​แต่​ก็​ไม่กล้า​จะ​เฉยเมย​พูดจา​เย็นชา​ใส่​นาง​…

นาง​จ้องมอง​ป้า​รับใช้​ทั้งสอง​ที่อยู่​นอก​ประตู​เก๋อ​ซ่าน​ตาเขม​็ง​ ​จากนั้น​ก็​ก้มลง​มอง​ฝ่ามือ​ที่​แดงก่ำ​ของ​ตน​ ​แล้วจึง​ค่อยๆ​ ​หย่อน​ตัว​นั่งลง​บน​พื้น

“​เหตุใด​ถึง​เป็น​เช่นนี้​ ​เหตุใด​ถึง​เป็น​เช่นนี้​ไป​ได้​”

หากว่า​อยู่​ใน​จวน​ ​ไท่ฮู​หยิน​ที่​มักจะ​ให้ความสำคัญ​กับ​เรื่อง​ฮวงจุ้ย​ ​ก็​คง​พอ​จะ​ผ่อนปรน​ได้​บ้าง​ ​แต่​ตอนนี้​ ​กลับเป็น​เรือน​สวน​ใน​เขาลั​่ว​เย​่ว​์​ที่​ทั้ง​รกร้าง​และ​กันดาร​ ​เรียก​ฟ้า​เรียก​ดิน​ก็​คง​ไม่มีใคร​ได้ยิน​ ​อย่า​ว่าแต่​ฆ่า​คนเลย​ ​แม้แต่​จุดไฟ​เผา​เรือน​ไป​ครึ่ง​ค่อนวัน​ ​เกรง​ว่า​ก็​คงจะ​ไม่มีใคร​เห็น

เหตุใด​ตน​ถึง​ได้​โง่เขลา​เช่นนี้

เมื่อ​ความคิด​นี้​แล่น​ผ่าน​ใน​หัว​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​เหมือน​ปลา​ที่อยู่​บน​เขียง​ ​ที่​ดิ้นรน​เท่าไร​ ​สุดท้าย​ก็​ไม่​สามารถ​หลุด​จาก​ชะตากรรม​นี้​ได้

ไม่ได้​เด็ดขาด

ตน​จะ​ต้องห้าม​ยอมแพ้​อย่างเด็ดขาด​ ​และ​ก็​แพ้​ไม่ได้​ด้วย​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ตน​ยัง​มีคุณ​ชายน้อย​สอง​อีกทั้ง​คน

จดหมาย​ถูก​ส่งออก​ไป​แล้ว​ ​ขอ​เพียงแค่​คุณชาย​น้อย​กลับมา​ ​พวก​นาง​ก็​จะ​ไม่กล้า​ทำ​อะไร​ตน​อีก

เมื่อ​ความคิด​นี้​แล่น​ผ่าน​ใน​หัว​ ​นาง​ที่พึ่ง​รู้สึก​วางใจ​ไป​เมื่อ​ครู่​ ​จู่ๆ​ ​ก็​เป็นกังวล​ใจ​ขึ้น​มา​อีกครั้ง

ชุ่ย​เอ๋อร​์​เป็น​คน​ส่งจดหมาย​ฉบับ​นั้น​ ​หาก​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ไม่เคย​ส่งจดหมาย​ฉบับ​นั้น​ออก​ไป​เลย​เล่า

เช่นนั้น​…​เช่นนั้น​ก็​เท่ากับ​ว่า​ตน​กำลัง​รอค​วาม​ตาย​เท่านั้น​หรือ

แต่​พระโพธิสัตว์​จะ​ยอมให้​ตน​ตาย​ได้​อย่างไร

หลาย​ปี​มานี​้​ ​พระโพธิสัตว์​คอย​ประทานพร​ให้​นาง​สมปรารถนา​เสมอมา​ ​ครั้งนี้​ ​ก็​คงจะ​ต้อง​ให้​นาง​สมปรารถนา​ดังที่​หวัง​ไว้​อย่างแน่นอน

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​แล้ว​เดิน​ตรง​ไป​ยัง​ด้านหลัง​ของ​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ​ทันที

เรือน​หน​่​วน​เก๋​อว​่าง​เปล่า​ไม่มี​อะไร​เลย​!

นาง​จึง​เพิ่งจะ​นึกได้​ว่าที่​นี่​คือ​เรือน​สวน​ที่​เขาลั​่ว​เย​่ว​์​ ​ไม่ใช่​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ของ​นาง

แล้ว​พระโพธิสัตว์​ของ​นาง​เล่า

พระโพธิสัตว์​ของ​นาง​อยู่​ที่ไหน

อยู่​ใน​เรือน​ที่​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​…​ตอนที่​นาง​เดินทาง​ ​นาง​ได้​ลืม​ไป​หมด​เสีย​ทุกอย่าง​…​เพราะเหตุนี้​หรือไม่​ ​พระโพธิสัตว์​จึง​รู้สึก​ว่านาง​ไม่จริงใจ​พอ​ ​ถึง​ได้​ทดสอบ​และ​ตักเตือน​นาง​เช่นนี้

ใช่​แล้ว​…​จะ​ต้อง​เป็น​เช่นนี้​อย่างแน่นอน​ ​มิเช่นนั้น​ ​นาง​จะ​ประมาท​เลินเล่อ​จนถึง​ขั้น​ถูก​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ตลบหลัง​ได้​อย่างไร​ ​สุดท้าย​นาง​จะ​ต้อง​มาต​กระ​กำ​ลำบาก​ถูก​จองจำ​อยู่​ใน​เขาลั​่ว​เย​่ว​์​ได้​อย่างไร​กัน

ฉิน​อี๋​เหนียง​จึง​คุกเข่า​ลง​กลาง​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ​ ​พนมมือ​พร้อมกับ​หันหน้า​ไป​ยัง​ทิศตะวันออก​ ​หลับตา​ลง​แล้ว​พูด​ขึ้น​พึมพำ​ ​“​พระโพธิสัตว์​ ​ข้า​นาม​ว่า​ฉิน​อี๋​เหนียง​ ​หลาย​ปี​มานี​้​ข้า​ทุ่มเท​ทั้ง​แรงกาย​และ​แรงใจ​อุทิศ​แด่​พระพุทธเจ้า​ ​ทั้ง​ธูปเทียน​และ​ดอกไม้สด​ ​ไม่เคย​ขาดตกบกพร่อง​ ​ครั้งนี้​ไม่ได้​อัญเชิญ​ท่าน​มาด​้วย​ ​ล้วนแล้วแต่​เป็น​เพราะ​หลัว​สือ​อี​เหนียง​คน​นั้น​คนเดียว​…​”

นาง​เพิ่งจะ​พูด​จบ​ ​ก็​มีเสียง​เปิด​ประตู​ดัง​มาจาก​ด้านนอก​ของ​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ

ฉิน​อี๋​เหนียง​รีบ​ลุกขึ้น​พร้อมกับ​วิ่ง​ออก​ไป​ทันที​ ​ก็​เห็น​เข้ากับ​ใบหน้า​ที่​คุ้นเคย

“​ป้า​ตู้​!​”​ ​สีหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความ​งุนงง

“​ฉิน​อี๋​เหนียง​!​”​ ​ป้า​ตู้​ทักทาย​นาง​ด้วย​ใบหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​ยังคง​แสดง​สีหน้า​ที่​สนิทสนม​ที่​ดู​อ่อนโยน​และ​อัธยาศัย​ดี​เหมือนเช่น​เคย​ ​แต่​เวลานี้​ ​นาง​ปรากฏตัว​ที่นี่​ ​กลับ​ทำให้​ฉิน​อี๋​เหนียง​หวาดกลัว​จน​เนื้อตัว​สั่นเทา​ไป​หมด​ ​“​บ่าว​ได้รับ​คำสั่ง​จาก​ไท่ฮู​หยิน​ให้​มาดู​ว่า​อาการป่วย​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​!​”​ ​ป้า​ตู้​พูด​จบ​ก็​ถอยหลัง​ไป​หนึ่ง​เก้า​ ​จากนั้น​ก็​มี​ป้า​รับใช้​ร่างกาย​กำยำ​ราวกับ​ผู้ชาย​ก็​ไม่​ปานเดิน​เข้ามา​สอง​คน​ ​จับ​แขน​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​คนละ​ข้าง

“​ป้า​ตู้​ ​เจ้า​จะ​ทำ​เช่นนี้​ไม่ได้​นะ​!​”​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​เข้าใจ​ได้​ในทันที​ ​นาง​พยายาม​ดิ้นรน​และ​ตะโกน​ร้อง​เสียงดัง​ลั่น​ ​“​หาก​คุณชาย​น้อย​สอง​กลับมา​ ​เขา​ไม่​ปล่อย​เจ้า​ไว้​แน่​!​”

ป้า​ตู้​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​ออกมา​เสียงดัง​ ​จากนั้น​ก็​ล้วง​เอา​ขวด​แก้ว​ใบ​เล็ก​ออกมา​จาก​เสื้อ​ ​ดึง​จุก​ที่​ปาก​ขวด​ออก​ ​แล้ว​เดิน​เข้าไป​บีบ​คาง​ของ​นาง​…

*****

เวลานี้​เอง​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​รับ​ข่าว​การตาย​ของ​ป้า​เถา

นาง​จึง​ไป​ยัง​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

หลังจากที่​สวี​ซื่อ​จุน​ถูก​ทำให้​กลัว​จน​หวาดผวา​ ​เขา​ก็​ล้มหมอนนอนเสื่อ​อยู่​แต่​บน​เตียง​ ​ไม่ได้​ไป​เรียนหนังสือ​ ​กลายเป็น​คน​ขี้กลัว​กว่า​เมื่อก่อน​มาก​ ​เกิด​อะไร​ขึ้น​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​เขา​ก็​มักจะ​ตื่นตระหนก​และ​รีบ​คว้า​แขน​เสื้อ​ของ​คน​รอบข้าง​ไว้​แน่น​เสมอ

อากาศ​ค่อนข้าง​ร้อน​เป็นอย่างมาก​ ​เพราะ​เป็นห่วง​เรื่อง​อาการป่วย​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​ไท่ฮู​หยิน​จึง​ได้​วาง​น้ำแข็ง​ไว้​ตรง​มุม​ห้อง​ของ​ทาง​ฝั่ง​ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ​หนึ่ง​ก้อน​ ​คนที​่​อยู่​ด้านใน​นานๆ​ ​จะ​ไม่​ค่อย​รู้สึก​ ​แต่​หาก​เดิน​เข้ามา​จาก​ด้านนอก​ก็​จะ​สามารถ​รู้สึก​ได้​ถึง​ความ​เย็น​เล็กน้อย

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​และ​สวี​ซื่อ​จุน​สอง​พี่น้อง​กำลัง​นอน​พิง​หมอน​อยู่​บน​เตียง​ ​และ​กำลัง​พูดคุย​อะไร​บางอย่าง​เสียงดัง

เมื่อ​รับรู้​ถึง​ความเคลื่อนไหว​ก็​พากัน​เงยหน้า​ขึ้น​มาดู​ ​จึง​เห็น​ว่า​คนที​่​เดิน​เข้ามา​นั้น​เป็น​สือ​อี​เหนียง​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​รีบ​ลง​จาก​เตียง​เตา​พร้อมกับ​วิ่ง​เข้าไป​หานาง​ทันที​ ​“​ท่าน​แม่​!​”

สวี​ซื่อ​จุน​ที่นอน​อยู่​บน​เตียง​อย่าง​อ่อนแรง​ก็​เรียก​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​ลูบ​ศีรษะ​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เบา​ๆ​ ​แล้ว​หันไป​พยักหน้า​เล็กน้อย​ให้​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​ถาม​สอง​พี่น้อง​ว่า​ ​“​กำลัง​ทำ​อะไร​กัน​อยู่​หรือ​”

“​กำลัง​เล่า​เนื้อหา​ใน​คาบ​เรียน​ของ​อาจารย์​จ้าว​ให้​กับ​พี่​สี่​อยู่​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​จูงมือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไป​นั่ง​ที่​เตียง​เตา​ ​จากนั้น​เขา​ก็​ปีน​ขึ้นไป​นั่ง​ที่​ข้างๆ​ ​สวี​ซื่อ​จุน​เหมือนเดิม

“​เช่นนั้น​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูดคุย​กับ​ทั้งสอง​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​แล้ว​อาจารย์​จ้าว​สอนอะ​ไร​บ้าง​”

“​อาจารย์​จ้าว​พูดถึง​นิทาน​ของ​ซุนจ​้ง​โหมว​ ​โจโฉ​และ​ซุน​กวน​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​อาจารย์​จ้าว​สอน​ถึง​ ​‘​บทเรียน​ปฐมวัย​’​ ​ของ​บทความ​พี่น้อง​แล้ว​หรือ​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​รีบ​พยักหน้า​ทันใด​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความเลื่อมใส​ ​“​ท่าน​แม่​ฉลาด​ยิ่งนัก​ ​แค่​ฟัง​ก็​รู้​ได้​เลย​ว่า​อาจารย์​จ้าว​กำลัง​สอนอะ​ไร​พวก​ข้า​”

“​นั่น​เพราะ​ท่าน​แม่​ก็​เคย​เรียน​ ​‘​บทเรียน​ปฐมวัย​’​ ​อย่างไรเล่า​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ก็ได้​พูดแทรก​ขึ้น​มา​ ​“​แน่นอน​ว่า​แค่​ฟัง​ก็​สามารถ​รู้​ได้​เลย​ว่า​อาจารย์​จ้าว​กำลัง​สอนอะ​ไร​อยู่​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​หัวเราะ​ออกมา​ด้วย​ความชอบ​ใจ

สือ​อี​เหนียง​ถามถึง​อาการป่วย​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ขึ้น​มา

ทุกคน​ต่าง​ก็​พูดคุย​และ​หัวเราะ​กัน​อย่าง​เบิกบานใจ​ ​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​ดู​ผสมกลมกลืน​เป็นอย่างมาก

ข่าว​การตาย​ป้า​เถา​ติด​อยู่​ตรง​ริมฝีปาก​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​และ​นาง​ก็ได้​กลืน​คำพูด​ลงคอ​ไป​อีกครั้ง

เหตุการณ์​เป็น​เช่นนี้​จนถึง​หลังอาหาร​มื้อ​ค่ำ​ ​สือ​อี​เหนียง​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​ได้​บอกลา​กัน​และ​แยกย้าย​เข้า​เรือน

“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​มีเรื่อง​จะ​คุย​กับ​ข้า​ใช่​หรือไม่​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​จ้องมอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​นัยน์ตา​ที่​ดำขลับ

“​เจ้า​ดูออก​หรือ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​อย่างจริงใจ​และ​ตรงไปตรงมา​ ​นาง​ค่อนข้าง​รู้สึก​แปลกใจ​ ​“​เจ้า​ดูออก​ได้​อย่างไร​กัน​”

สวี​ซื่อ​จุน​เม้มปาก​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เพราะว่า​วันนี้​ท่าน​แม่​ค่อนข้าง​ใจลอย​ ​เหมือนใจ​ไม่อยู่​กับ​เนื้อ​กับ​ตัว​”

ช่าง​เป็น​เด็ก​ที่​ฉลาด​และ​ไหวพริบดี​จริง​เชียว

เมื่อ​นึกถึง​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​ใจ​ไม่​แข็ง​เข้าไป​ใหญ่​ ​แต่​หากว่า​เขา​ไป​ได้ยิน​เรื่อง​การตาย​ของ​ป้า​เถา​จาก​ปาก​คนอื่น​ ​เกรง​ว่า​เขา​คงจะ​ยิ่ง​เสียใจ​เข้าไป​ใหญ่

“​ข้ามี​เรื่อง​ที่จะ​พูด​กับ​เจ้า​จริงๆ​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​จะ​เริ่มต้น​อย่างไร​ดี​”​ ​ถึงแม้ว่า​น้ำเสียง​ของ​สือ​อี​เหนียง​จะ​เต็มไปด้วย​ความลังเลใจ​ ​แต่​สุดท้าย​ก็​ตัดสินใจ​บอก​กับ​เขา​ว่า​ ​“​เมื่อ​ตอนเที่ยง​ ​เถา​เฉิง​มาแจ้ง​ข่าว​ว่า​ป้า​เถา​ป่วยหนัก​และ​เสียชีวิต​ไป​แล้ว​!​”

สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​พลาง​สังเกต​สีหน้า​และ​ปฏิกิริยา​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​อย่างละเอียด​และ​ระมัดระวัง

แววตา​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ยังคง​นิ่ง​สงบ​อยู่​อย่างนั้น​ ​แล้วจึง​ค่อยๆ​ ​เปลี่ยนเป็น​ประหลาดใจ​ ​และ​กลายเป็น​เจ็บปวด​ในท้ายที่สุด​…

สือ​อี​เหนียง​กอด​เขา​ไว้​ใน​อ้อมแขน​แนบแน่น​ ​“​นาง​ป่วย​เป็นไข้​จับ​สั่น​ ​ตอนนั้น​พ่อบ้าน​ไป๋​ก็ได้​ช่วย​ไป​เชิญ​หมอ​หลวง​มารั​กษา​นาง​ด้วย​…​”

ร่างกาย​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​สั่นเทา​ ​เขา​พยายาม​กลั้น​เสียงสะอื้น​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ดังนั้น​เพราะว่า​ข้า​ป่วย​ ​ป้า​เถา​จึง​ไม่ยอม​มา​เยี่ยม​ข้า​ใช่​หรือไม่​ขอรับ​!​”

นี่​เป็น​ประโยค​ที่​พูด​ออกมา​ด้วย​ความมั่นใจ​ ​ไม่ใช่​ประโยค​สงสัย​แต่อย่างใด

สือ​อี​เหนียง​พลัน​รู้สึก​บีบ​หัวใจ​ขึ้น​มา

สวี​ซื่อ​จุน​ก็​เป็น​เพียง​เด็กน้อย​ที่​รอคอย​ความรัก​เท่านั้น

“​ไม่ใช่​เสียหน่อย​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​หนักแน่น​ ​“​นาง​มา​เยี่ยม​เจ้า​แล้ว​ ​เพียงแต่​ตอนนั้น​เจ้า​ยัง​ไม่ได้​สติ​ต่างหาก​!​”

กระดาษ​ไม่​สามารถ​ห่อ​เปลวไฟ​ได้

แทนที่จะ​รอ​ให้​ถึง​เวลา​แล้ว​ค่อย​อธิบาย​ ​สู้​พูด​ออกมา​ตรงๆ​ ​อย่างจริงใจ​ตอนนี้​เลย​ดีกว่า

เมื่อ​สวี​ซื่อ​จุน​เงยหน้า​ขึ้น​มา​ ​ใบหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​คราบ​น้ำตา​ก็​ท่วมท้น​ไป​ด้วย​ความสงสัย

“​ป้า​เถา​เห็น​เจ้า​เป็น​เช่นนี้​ ​ก็​เลย​ร้องไห้​จน​หมดสติ​ไป​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ ​“​พวก​ข้า​กลัว​ว่านาง​จะ​เสียงดัง​รบกวน​เจ้า​ ​ก็​เลย​ให้​นาง​กลับ​ไป​ก่อน​”

สวี​ซื่อ​จุน​รู้สึก​คลายกังวล​ลง​ใน​ทันใด

ไท่ฮู​หยิน​ไม่​ชอบ​คนที​่​ร้องห่มร้องไห้​เป็น​ที่สุด​ ​โดยเฉพาะ​เวลา​ที่​เขา​ป่วย​ ​เพราะ​จะ​ไม่​เป็น​สิริมงคล

“​เช่นนั้น​ ​ฉา​เซียง​ยัง​สามารถ​กลับมา​ได้​หรือไม่​”

เขา​รีบ​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​อย่างกระตือรือร้น

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท