ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 446 กลับจวน (ต้น)

ตอนที่ 446 กลับจวน (ต้น)

หลังจาก​คืน​ที่​สวี​ซื่อ​จุน​เกิดเรื่อง​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไม่เคย​เอ่ยถึง​ฉา​เซียง​อีก​เลย

ใน​การ​เผชิญหน้า​กับ​ความอยู่รอด​ ​ทุกคน​ล้วน​เป็น​เพียง​แมลง​ตัวเล็ก​ๆ​ ​เท่านั้น

สือ​อี​เหนียง​ไม่​อยาก​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​สัมผัส​กับ​สิ่ง​เหล่านี้​ก่อน​วัย​อัน​ควร​ ​แต่​ก็​ไม่​อยาก​จะ​โกหก​เขา

“​ฉา​เซียง​เป็นสาว​ใช้​คนสนิท​ที่​ปรนนิบัติ​รับใช้​ข้าง​กาย​เจ้า​ ​หน้าที่​ของ​นาง​ก็​คือ​ต้อง​ดูแล​และ​ปกป้อง​เจ้า​ให้​ดี​ ​แต่​นาง​กลับ​พา​เจ้า​ออก​ไป​ข้างนอก​กลาง​ค่ำ​กลางคืน​โดยที่​ไม่​รายงาน​ไท่ฮู​หยิน​หรือ​ป้า​ตู้​เลย​ ​ตัดสินใจ​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ตัวเอง​ไม่​ควรจะ​ทำ​ ​ถือเป็น​การ​บกพร่อง​ใน​หน้าที่​ ​จึง​ไม่​สามารถ​กลับมา​ปรนนิบัติ​รับใช้​เจ้า​ได้​อีก​”

สวี​ซื่อ​จุน​นิ่งอึ้ง​ไป​ชั่วขณะ

เขา​คอย​ถาม​ผู้คน​มากมาย​ ​รวมถึง​ป้า​ตู้​ด้วย​ ​ทุกคน​ต่าง​ก็​ตอบ​เป็น​เสียง​เดียวกัน​ว่า​ขอ​แค่​เขา​ตั้งใจ​บำรุงรักษา​ร่างกาย​ให้​ดี​ ​รอ​ร่างกาย​กลับมา​แข็งแรง​แล้ว​ ​ไท่ฮู​หยิน​ดีใจ​ขึ้น​มา​ ​ไม่แน่​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​อาจจะ​เรียกตัว​ฉา​เซียง​ให้​กลับมา​ปรนนิบัติ​รับใช้​เขา​เหมือนเดิม​ก็ได้​ ​เป็นครั้งแรก​ที่​มี​คน​บอก​กับ​เขา​ตรงๆ​ ​โดยที่​ไม่​อ้อมค้อม​เช่นนี้​ ​ฉา​เซียง​ไม่​สามารถ​กลับมา​ได้​อีก

“​แต่ว่า​…​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​อด​ไม่ได้​ที่จะ​แก้ตัว​แทน​ฉา​เซียง​ ​“​เป็น​เพราะ​ข้า​สั่ง​ให้​นาง​พา​ข้า​ออก​ไป​เอง​ ​ฉา​เซียง​ก็​แค่​ทำตาม​คำสั่ง​เท่านั้น​ขอรับ​”

“​นางอายุ​มากกว่า​เจ้า​ ​รู้เรื่อง​มากกว่า​เจ้า​ ​ดังนั้น​ไท่ฮู​หยิน​จึง​ได้​ให้​นาง​มาดู​แล​รับใช้​ที่​เรือน​เจ้า​ ​อีกทั้ง​ยัง​ให้​นาง​ดูแล​ปี้​หลัว​และ​คนอื่นๆ​ ​ด้วย​”​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​เด็ก​หรือ​ผู้ใหญ่​ ​แต่​การสื่อสาร​ระหว่าง​กัน​เช่นนี้​ ​ถือเป็น​โอกาส​ที่​หา​ได้​ยาก​ยิ่ง​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​อธิบาย​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​ฟัง​อย่างละเอียด​ ​“​เจ้า​ทำผิด​ ​นาง​ควรจะ​ชี้ให้เห็น​และ​ห้ามปราม​เจ้า​จึง​จะ​ถูก​ ​หาก​เป็น​เพราะ​ความแตกต่าง​ระหว่าง​นายกั​บบ​่าว​ ​นาง​ไม่​สามารถ​จะ​หยุดยั้ง​เจ้า​ได้​ ​ก็​ควรจะ​รีบ​ไปรา​ยงาน​เรื่อง​นี้​กับ​ป้า​ตู้​ ​ไม่ใช่​ไป​ตัดสินใจ​เอา​เอง​ ​แล้ว​พา​เจ้า​ออก​ไป​ข้างนอก​โดยพลการ​เช่นนี้​”

สวี​ซื่อ​จุน​หลุบ​ตาลง​ต่ำ

ที่มา​รดา​พูด​มานั​้​นมี​เหตุผล​ ​แต่​ไม่รู้​เป็น​เพราะอะไร​ ​ใน​ใจ​ของ​เขา​กลับ​รู้สึก​แปลก​ๆ​ ​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก​!

เขา​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่ใหญ่​ ​แล้วจึง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​แต่​…​แต่​นาง​เป็น​แค่​สาวใช้​คน​หนึ่ง​เท่านั้น​นะ​ขอรับ​”

“​ใช่​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ดังนั้น​สาวใช้​และ​บ่าว​รับใช้​ชาย​บางคน​สามารถ​ทำงาน​จนได้​รับ​ตำแหน่ง​เป็น​พ่อบ้าน​หรือ​ป้า​รับใช้​ได้​ ​สาวใช้​บางคน​เมื่อถึง​เวลา​อัน​ควร​แล้วก็​จะ​ต้อง​แต่งงาน​ออกจาก​จวน​ไป​ ​และ​บ่าว​รับใช้​ชาย​บางคน​จน​แก่เฒ่า​แล้วก็​เป็นได้​แค่​คนที​่​ช่วย​วิ่ง​ทำ​ธุระ​ให้​พ่อบ้าน​เท่านั้น​ ​สาวใช้​และ​บ่าว​รับใช้​ชาย​บางคน​ได้รับ​เบี้ยหวัด​ถึง​สอง​ตำลึง​ต่อ​เดือน​ ​อีกทั้ง​ยัง​ได้รับ​เงินราง​วัล​จาก​เจ้านาย​ต่างหาก​อยู่​เสมอ​ ​แต่​สาวใช้​และ​บ่าว​รับใช้​ชาย​บางคน​กลับ​ไม่มี​เบี้ยหวัด​ ​อีกทั้ง​ยัง​ชอบ​ถูก​ลงโทษ​อยู่​เป็นประจำ​ ​สิ่ง​เหล่านี้​คือ​ความเกี่ยวข้อง​ของ​การ​ตั้งใจ​และ​ไม่​ตั้งใจ​ทำงาน​ของ​คน​คน​หนึ่ง​”

สวี​ซื่อ​จุน​ได้ยิน​แล้วก็​พยักหน้า​เบา​ๆ

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​จับ​ไหล่​ของ​เขา​ไว้​ ​“​พอแล้ว​ ​รีบ​พักผ่อน​แต่เช้า​!​ ​พรุ่งนี้​เรา​ยัง​ต้อง​ไป​สั่ง​กับ​ทาง​ลาน​นอก​เตรียม​ของเซ่น​ไหว้​ทั้ง​สาม​ให้​ป้า​เถา​ด้วย​!​”

ใบหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​พลัน​ปรากฏ​สีหน้า​ที่​เศร้าสร้อย​ขึ้น​มา​อีกครั้ง

เรื่อง​บาง​เรื่อง​ก็​จำเป็น​จะ​ต้อง​ใช้เวลา

สือ​อี​เหนียง​มองดู​สวี​ซื่อ​จุน​ที่​กำลัง​เอน​ตัว​นอนลง​ ​ช่วย​เขา​ห่ม​ผ้า​ ​ย้าย​ตะเกียง​ไฟ​ไป​ไว้​นอก​ห้อง​ ​กำชับ​แม่นม​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​แล้วจึง​ค่อย​ออกจาก​เรือน​ไป

ไท่ฮู​หยิน​ยัง​ไม่ได้​เข้านอน​ ​นาง​กำลัง​คุย​อะไร​บางอย่าง​กับ​ป้า​ตู้​อยู่​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เดิน​ออกมา​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​กวักมือ​เรียก​สือ​อี​เหนียง​ ​“​มานั​่ง​นี่​มา​!​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​เดิน​เข้าไป​หย่อน​ตัว​นั่งลง​ข้าง​ไท่ฮู​หยิน​ ​ไท่ฮู​หยิน​กุมมือ​ของ​นาง​เอาไว้​ ​“​บอก​เรื่อง​ป้า​เถา​กับ​จุน​เกอ​แล้ว​หรือ​”

ป้า​ตู้​ยก​น้ำชา​เข้ามา​ให้​ด้วยตัวเอง

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​บอก​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ส่ง​เขา​เข้านอน​แล้ว​ ​ข้า​จึง​ค่อย​ออกมา​”

ไท่ฮู​หยิน​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​วันนี้​ป้า​ตู้​ไปดู​ฉิน​อี๋​เหนียง​มา​ ​อาการ​ของ​นาง​ไม่​ค่อย​ดี​เท่าไร​ ​ไม่เพียงแต่​พูดจา​ไม่รู้​เรื่อง​เท่านั้น​ ​แม้แต่​ป้า​ตู้​ก็​จำ​ไม่ได้​ ​ข้าว​่า​เจ้า​ควร​ส่ง​คน​ไป​ที่​เล่อ​อาน​อีกครั้ง​ ​ให้​อวี​้​เกอ​เอ๋อร​์​รีบ​กลับมา​ให้​เร็ว​วันดี​กว่า​”

ฉิน​อี๋​เหนียง​ไม่ได้​ป่วย​ ​ทุกคน​ต่าง​รู้ดี​ ​ทันทีที่​ป้า​ตู้​กลับมา​จาก​เขาลั​่ว​เย​่ว​์​ ​อาการป่วย​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ก็​หนัก​ลง​กว่า​เดิม​…​สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​หม่นหมอง​ลง​เล็กน้อย​ ​ขานรับ​เสียง​เบา​ ​“​เจ้าค่ะ​”

ตก​กลางคืน​ก็​ครุ่นคิด​ถึง​เหตุการณ์​ต่างๆ​ ​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ช่วงนี้​เลย​ไม่รู้​สึก​ง่วง​แม้แต่​นิดเดียว​ ​แต่​ก็​ไม่​อยาก​ปลุก​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่นอน​หลับ​อยู่​ข้างๆ​ ​ตื่น​ ​นาง​จึง​เอาแต่​จ้องมอง​ถุง​หอม​บน​เพดาน​เตียง​ด้วย​อาการ​เหม่อลอย​ไม่​ขยับตัว​ใดๆ

สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่ได้​เหมือนเช่น​สวี​ซื่อ​จุน​ ​ที่​เกลี้ยกล่อม​เพียง​ไม่​กี่​คำ​ก็​จะ​ยอม​ไป​แต่​โดยดี

อ่าน​ตำรา​พัน​เล่ม​ไม่​สู้​เดินทาง​หมื่น​ลี้​ ​สอง​ปี​มานี​้​ ​เขา​มักจะ​เดินทาง​ไป​กลับ​ระหว่าง​เยี​่​ยน​จิง​และ​เล่อ​อาน​อยู่​บ่อยครั้ง​ ​อีกทั้ง​ยัง​ได้​เล่าเรียน​กับ​อาจารย์​เจียง​ผู้มีชื่อเสียง​เลื่องลือ​ ​เขา​ไม่ใช่​คุณชาย​น้อย​สอง​คน​เดิมที​่​ถูก​เลี้ยงดู​อยู่​แต่​ใน​จวน​อีกต่อไป​ ​ที่​จวน​เอง​ก็​ติดต่อ​เขา​น้อย​ครั้ง​ ​จึง​ไม่​สามารถ​รับรู้​ถึง​การเปลี่ยนแปลง​ของ​เขา​ได้​อย่างถ่องแท้​ ​หาก​บอก​เรื่อง​ที่​ฉิน​อี๋​เหนียง​กระทำ​ทั้งหมด​กับ​เขา​ ​ก็​จะ​เป็นการ​ดี​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​ไท่ฮู​หยิน​ ​แต่​สำหรับ​นาง​นั้น​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​สามารถ​ทำหน้าที่​ได้​อย่าง​หมดจด​ ​แล้ว​ความรู้สึก​เล่า

ความรู้สึก​สามารถ​จัดการ​ได้​ด้วย​คำ​ว่า​หน้าที่​หรือ

แล้ว​ใคร​เล่า​ที่จะ​มาป​ลอบ​โยน​และ​อบรม​สอนสั่ง​เด็กหนุ่ม​ที่​มีอายุ​เพียง​สิบ​สี่​ปีกัน

สือ​อี​เหนียง​นึกถึงฮู​หยิน​สอง​ขึ้น​มา​!

นาง​ยัง​จำได้​ตอนที่​สวี​ซื่อ​อวี​้​จะ​เปลี่ยน​บ่าว​รับใช้​ชาย​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ก็ได้​เขียนจดหมาย​ส่ง​ให้ฮู​หยิน​สอง​ที่​ซี​ซาน​ด้วย​ความรีบร้อน​…​ฉิน​อี๋​เหนียง​ไม่​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​ ​ไม่​ไปหา​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​แต่กลับ​เลือก​ที่จะ​ไปหาฮู​หยิน​สอง​แทน​ ​และฮู​หยิน​สอง​เอง​ก็​ไม่ได้​ละเลย​คำขอ​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ ​รีบ​สั่ง​ให้​เสี่ยว​ลู่​ไป​ปรนนิบัติ​รับใช้​ข้าง​กาย​คุณชาย​น้อย​สอง​ทันที​ ​สำหรับ​ฉิน​อี๋​เหนียง​แล้ว​ ​นาง​เชื่อถือ​และ​ไว้วางใจฮู​หยิน​สอง​มากกว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​ไท่ฮู​หยิน​หรือ​อย่างไร​กัน​ ​ยัง​มีส​วี​ซื่อ​อวี​้​อีก​คน​ ​เพราะ​ฟัง​คำพูด​ของฮู​หยิน​สอง​ ​เขา​จึง​สามารถ​คลาย​ปม​ใน​ใจ​ไป​ได้​ ​และ​เดินทาง​ไป​ที่​เล่อ​อาน​ได้​อย่างสบายใจ​ ​ทุกครั้งที่​กลับมา​จาก​เล่อ​อาน​ ​เขา​ก็​มักจะ​ไป​ทักทายฮู​หยิน​สอง​ด้วย​ความ​นอบน้อม​เสมอ​ ​อีกทั้ง​ยัง​ไป​ปรึกษาหารือ​เรื่อง​การเรียน​อยู่​บ่อยครั้ง​ ​สำหรับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​แล้ว​ ​เขา​เชื่อมั่น​และ​ไว้วางใจฮู​หยิน​สอง​มากกว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​ฉิน​อี๋​เหนียง​อีก​หรือ

เมื่อ​ทุก​การกระทำ​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ถูก​เปิดเผย​ต่อ​เบื้องหน้า​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​จะ​สามารถ​อาศัย​ความสัมพันธ์​ระหว่างฮู​หยิน​สอง​กับ​ฉิน​อี๋​เหนียง​สอง​แม่​ลูก​ ​ขอให้ฮู​หยิน​สอง​ช่วย​ออกหน้า​ปลอบโยน​สวี​ซื่อ​อวี​้​ได้​หรือไม่​นะ

ขณะที่​กำลัง​ครุ่นคิด​อยู่​นั้น​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มี​แขน​ที่​แข็งแรง​และ​กำยำ​ค่อยๆ​ ​โอบกอด​เอว​ของ​สือ​อี​เหนียง​อย่างเบามือ

“​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​”​ ​น้ำเสียง​ที่​ทุ้ม​ต่ำ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดัง​ขึ้น​ข้าง​หู​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ฟัง​แล้ว​รู้สึก​อบอุ่น​และ​สงบ​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก​ ​“​นอนไม่หลับ​หรือ​”

“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​อิง​แนบ​อ้อมกอด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​กำลัง​คิดถึง​เหตุการณ์​ทั้งหมด​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ช่วงนี้​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เงียบ​ไป​ชั่วขณะ​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​รู้​…​แต่​ตอนนี้​เจ้า​กำลัง​ตั้งครรภ์​อยู่​…​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ ​ก็​ควร​ให้ท่าน​แม่​ช่วย​เจ้า​จัดการ​…​แต่​อย่างไร​เสีย​ ​ไม่ช้าก็เร็ว​เจ้า​ก็​จะ​ต้อง​รับหน้าที่​เหล่านี้​อยู่ดี​…​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความลังเลใจ

“​ท่าน​โหว​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ข้า​”​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ ​นี่​ก็​ถือเป็น​หนึ่ง​ใน​หน้าที่​ของ​นาง​อยู่​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ ​“​ข้า​ก็​เพียงแต่​เป็นห่วง​อวี​้​เกอ​เอ๋อร​์​เท่านั้น​ ​กลัว​ว่า​ถึง​เวลา​นั้น​ ​หลังจากที่​เขา​รู้เรื่อง​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​แล้ว​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก้มหน้า​ลง​อย่าง​ช้าๆ​ ​จุมพิต​หน้าผาก​ของ​สือ​อี​เหนียง​อย่าง​แผ่วเบา

“​อวี​้​เกอ​ไม่​เหมือนเช่น​จุน​เกอ​”​ ​เขา​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ ​“​เขา​เป็น​คนที​่​ฉลาด​หลักแหลม​ ​ละเอียดอ่อน​และ​รอบคอบ​ ​อีกทั้ง​ยัง​มี​จิตใจ​ที่​หนักแน่น​ ​เรื่อง​นี้​เขา​เอง​ก็​ไม่ได้​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​ใดๆ​”

สือ​อี​เหนียง​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ

สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​แม้ว่า​สอง​ปี​มานี​้​เขา​จะ​เอาแต่​ติดตาม​และ​เล่าเรียน​กับ​อาจารย์​เจียง​จน​บรรลุ​อย่างถ่องแท้​ ​ถึงแม้ว่า​เจ้า​จะ​ไม่​พูด​ ​เขา​ก็​สามารถ​เดา​ได้​อยู่ดี​ ​บางที​เขา​อาจจะ​ก่อให้เกิด​ความวุ่นวาย​ก็ได้​ ​บางที​อีก​ไม่​กี่​ปี​ข้างหน้า​จู่ๆ​ ​เขา​อาจจะ​ขุดคุ้ย​เรื่อง​พิธี​สาปแช่ง​ขึ้น​มา​ ​เรื่องราว​อาจจะ​แย่​ไป​กัน​ใหญ่​ ​แต่​หากว่า​พูด​ออก​ไป​ตรงๆ​ ​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​เจ็บปวด​และ​เสียใจ​ ​แต่​จาก​นิสัยใจคอ​ของ​เขา​แล้ว​ ​เขา​จะ​สามารถ​ก้าว​ผ่าน​ได้​อย่างรวดเร็ว​ ​และ​จะ​เป็นผลดี​กับ​เขา​ใน​ภายภาคหน้า​เสียมา​กก​ว่า​”

นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดถึง​สวี​ซื่อ​อวี​้​กับ​สือ​อี​เหนียง​อย่างเปิดเผย​และ​ตรงไปตรงมา

หาก​ตัด​ความแตกต่าง​ระหว่าง​บุตร​ของ​ภรรยา​เอก​และ​อนุ​ทิ้ง​ไป​ ​สำหรับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​ ​เกรง​ว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​คงจะ​เหมาะกับ​ตำแหน่ง​ผู้สืบทอด​ของ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​มากกว่า​สวี​ซื่อ​จุน​กระมัง

เพราะเหตุนี้​หรือไม่​ ​ความรู้สึก​ของ​เขา​ถึง​ได้​ลึกซึ้ง​มากมาย​ขนาด​นี้

สือ​อี​เหนียง​กุมมือ​ใหญ่​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​วาง​อยู่​บน​เอว​ของ​นาง​ ​“​ข้า​รู้สึก​ว่า​อวี​้​เกอ​เอ๋อร​์​ไม่ใช่​คน​เช่นนั้น​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้ดี​ว่า​สือ​อี​เหนียง​หมายถึง​อะไร

หากว่า​ด้วย​ความรู้สึก​ ​เขา​เอง​ไม่เชื่อ​อย่างแน่นอน

และ​หากว่า​ด้วย​หลักการ​และ​เหตุผล​ ​ไม่มี​หลักฐาน​ ​เขา​ก็​ยัง​จะ​ต้องสงสัย​อยู่ดี

เรื่อง​แบบนี้​ ​แค่​คิด​ก็​พลอย​แต่​จะ​ทำให้​รู้สึก​ไม่สบายใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​อยาก​จะ​คุย​เรื่อง​นี้​กับ​สือ​อี​เหนียง​ไปมา​กก​ว่านี​้

“​รีบ​เข้านอน​เถิด​!​ ​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​รอ​ให้​เขา​กลับมา​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที​”

ก็​จริง​ ​ตอนนี้​พูด​อะไร​ไป​ก็​เป็นการ​ตี​ตน​ไป​ก่อน​ไข้​เท่านั้น​ ​ต้อง​รอ​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​กลับมา​แล้วจึง​จะ​สามารถ​รู้​ได้

เพียง​ไม่นาน​ก็​ถึง​ช่วง​ปลายเดือน​ของ​เดือน​หก​ ​ดอกบัว​ใน​ทะเลสาบ​ปี้​อีกำ​ลัง​เบ่งบาน​อย่างเต็มที่​ ​ส่งกลิ่น​หอมกรุ่น​ของ​ดอกบัว​ยาม​เย็น​ ​ตลบอบอวล​ไป​ทั่วทั้ง​เรือน

ทาง​ซัง​โจว​ก็ได้​ส่ง​คน​มาป​รึก​ษา​หารือ​เรื่อง​สินสอดทองหมั้น

ตระกูล​ที่​มั่งคั่ง​แต่ง​บุตรสาว​ทั้งที​ ​ขนบธรรมเนียม​และ​ขั้นตอน​พิธีรีตอง​จึง​ค่อนข้าง​มาก​ ​อีกทั้ง​ยัง​ต้อง​ให้ความสำคัญ​กับ​ประโยค​ที่ว่า​ ​‘​แต่ง​บุตรสาว​ออกเรือน​ควร​ต้อง​แหงนหน้า​มอง​สูง​เข้า​ไว้​ ​และ​เมื่อ​สู่ขอ​ลูกสะใภ้​ควร​ต้อง​ก้มหน้า​มอง​ลง​ให้​ต่ำ​’​ ​นอกจาก​จะ​ต้อง​กักตัว​อยู่​แต่​ใน​เรือน​แล้ว​ ​การ​เตรียมตัว​แต่งงาน​หนึ่ง​ครั้ง​อาจ​ใช้เวลา​สาม​ถึง​ห้า​ปีก​็​ว่า​ได้​ ​นับ​ย้อนกลับ​ไป​ตอนที่​สกุล​เซ่า​กำหนด​วัน​หมั้น​หมาย​ ​ตอนนี้​ก็​ถึง​เวลา​อัน​ควร​แล้ว​ที่​ครอบครัว​ทั้งสองฝ่าย​จะ​ต้อง​มานั​่ง​เจรจา​ปรึกษาหารือ​เรื่อง​งานแต่ง​ด้วยกัน

เรื่อง​งานแต่ง​ดำเนิน​มา​จนถึง​ตอนนี้​ ​หลังจากนี้​ไม่ใช่​เรื่อง​ของ​เหล่า​บรรดา​สตรี​แล้ว​ ​ต่อจากนี้​ก็​จะ​เป็น​หน้าที่​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​เหล่า​บรรดา​พ่อบ้าน​ของ​ฝั่ง​ลาน​นอก​ ​แต่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยังคง​ตื่นเต้น​เป็นอย่างมาก​ ​นาง​ตรวจทาน​รายการ​สินเดิม​กับ​ตง​หง​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ ​กลัว​ว่า​จะ​มี​อะไร​ตกหล่น​อย่างไร​อย่างนั้น

สือ​อี​เหนียง​กำลัง​คิดบัญชี​รายการ​หนึ่ง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​นำ​เงิน​ไป​สอง​หมื่น​ตำลึง​ ​ต่อมา​ก็ได้​เอา​เพิ่ม​อีก​หนึ่ง​หมื่น​ตำลึง​ ​แต่​ตอนนี้​ดู​จาก​สินเดิม​ที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เตรียม​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แล้ว​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ต้อง​ใช้​ราว​สี่​ถึง​ห้า​หมื่น​ตำลึง​จึง​จะ​พอ​ ​บวก​กับ​สมบัติ​และ​ที่ดิน​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​มอบให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อีก​ต่างหาก​ ​มูลค่า​ร่วม​สอง​หมื่น​แท่ง​เงิน​…เกรง​ว่า​ตอนนั้น​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​คงจะ​กลายเป็น​เศรษฐิ​นี​ตัว​น้อย​ไป​แล้ว

นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​แอบ​ครุ่นคิด​ใน​ใจ​ สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​บวก​กับ​อีก​คนที​่​ยังอยู่​ใน​ท้อง​ของ​นาง​เอง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ต้อง​ใช้​เงินทอง​มากมาย​เท่าไร​จึง​จะ​สามารถ​ทำ​ภารกิจ​เหล่านี้​ให้​เสร็จสิ้น​ได้​!

เมื่อ​หา​เวลาว่าง​ได้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​เดินทาง​เข้า​วัง

ผิวพรรณ​ของ​องค์​หญิง​ใหญ่​ขาว​เนียน​ดุจ​แป้ง​ผัด​หน้า​และ​หยก​ขาว​ก็​ไม่​ปาน​ ​น่ารักน่าชัง​และ​สดใส​ร่าเริง​ ​ฝ่า​บาท​และ​ฮองเฮา​ทรง​รัก​และ​หวงแหน​ยิ่งกว่า​สมบัติ​อื่นใด​ ​ย้อน​แย้ง​ทัศนคติ​ของ​คน​สมัยโบราณ​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​ไม่ได้​ยก​ให้​แม่นม​เลี้ยงดู​แทน​แต่อย่างใด​ ​แต่กลับ​ถูก​เลี้ยงดู​ด้วย​ฮองเฮา​ใน​พระตำหนัก​คุน​หนิง

ตอนที่​สือ​อี​เหนียง​ไป​ถึง​นั้น​ ​ฮองเฮา​กำลัง​จูงมือ​ของ​องค์​หญิง​ใหญ่​ที่​อายุ​ราว​หนึ่ง​ขวบ​ฝึก​เดิน​อยู่

ฮองเฮา​ได้​งด​การ​ทำความเคารพ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไป​ ​จากนั้น​ก็​ไป​คุย​กับ​นาง​ที่​ตำหนัก​ข้างๆ

“​อากาศ​ร้อน​เช่นนี้​ ​เจ้า​เอง​ก็​อายุ​ครรภ์​มาก​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​มีธุระ​อะไร​ก็​ใช้​ให้​ผู้บัญชา​กองร้อย​สวี​เข้า​วัง​มาบ​อก​ข้า​สัก​คำ​ก็​พอ​”

ผู้บัญชา​กองร้อย​สวี​ก็​คือ​สวี​ลิ่ง​ควน

สือ​อี​เหนียง​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ฮองเฮา​และฮู​หยิน​สอง​นั้น​สนิทสนม​เป็นการ​ส่วนตัว​ ​อีก​อย่างฮู​หยิน​สอง​ก็​เป็น​คนตรง​ไป​ตรง​มา​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​หม่อมฉัน​มีธุระ​ก็​เลย​มา​ ​จะ​กล้า​ไปร​บก​วน​คุณชาย​ห้า​ได้​อย่างไร​กัน​เล่า​เพ​คะ​”​

ฮองเฮา​ไม่ได้​โกรธ​แต่กลับ​ยิ้ม​ขึ้น​มา​แทน​ ​สั่ง​ให้​นางใน​ไป​นำ​เก้าอี้​จิ​่​นอู​้​มา​ให้​นาง​นั่ง​ ​แล้ว​สั่ง​ให้​นาง​ข้าหลวง​หวง​ยก​น้ำแกง​เม็ด​บัว​ไป่​เห​อมา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ทาน

สือ​อี​เหนียง​กล่าว​ขอบ​พระทัย​ ​หย่อน​ตัว​นั่งลง​บน​เก้าอี้​จิ​่​นอู​้​ ​หลังจากที่​ดื่ม​น้ำแกง​เม็ด​บัว​ไป่​เหอ​เสร็จ​แล้ว​ ​ก็ได้​พูดถึง​วัตถุประสงค์​ของ​การ​มา​ ​“​…​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กำลังจะ​เจรจา​เรื่อง​การ​แต่งงาน​กับ​ทาง​สกุล​เซ่า​ ​จึง​อยาก​จะ​มา​ขอ​ฮองเฮา​ช่วย​ประทาน​รูปปั้น​เทพเจ้า​ฮก​ลก​ซิ่ว​ทั้ง​สาม​เพื่อ​เป็น​สิริมงคล​แก่​สินเดิม​ยก​แรก​เพ​คะ​”

“​เรื่อง​แค่นี้​เอง​ ​ถึงขั้น​ต้อง​ให้​เจ้า​ลำบาก​เข้า​วัง​เชียว​”​ ​ฮองเฮา​ทรง​ตรัส​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ประเดี๋ยว​ข้า​จะ​ไปดู​ที่​โรง​เก็บของ​เสียหน่อย​ ​หา​แบบ​สาม​องค์​ที่​ไม่​ใหญ่​จน​เกินไป​ ​แต่​ฝีไม้ลายมือ​ละเอียด​และ​ประณีต​”

ตรง​กับ​เจตนา​ของ​สือ​อี​เหนียง​พอดี​ ​สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ดู​ผ่อนคลาย​ลง​อย่างเห็นได้ชัด

ฮองเฮา​เห็น​แล้วก็​แอบ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็ได้​คุย​เรื่อง​ทั่วไป​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​แน่นอน​ว่าย​่​อม​หนี​ไม่​พ้น​เรื่อง​เกี่ยวกับ​การ​ตั้งครรภ์​และ​การคลอดบุตร​ ​“​…​ต้นเดือน​สิบ​ใช่​หรือไม่​ ​ลูกหลาน​ของ​ท่าน​โหว​สำคัญ​ยิ่งนัก​ ​หมอ​หลิว​เป็น​คน​มาเรีย​นข​้า​ ​ข้า​เอง​ก็ได้​คำนวณ​วัน​แล้ว​ ​ใน​วัง​มี​หมอ​หญิง​อยู่​คน​หนึ่ง​ ​นาง​เป็น​คน​ทำคลอด​ให้​ข้า​เอง​ ​นาง​มีความรู้​ด้าน​การแพทย์​ ​ข้า​เห็น​ว่า​ไม่เลว​ทีเดียว​ ​เลย​ให้​นาง​อยู่​ใน​วัง​ก่อน​ ​เพื่อ​เก็บ​ไว้​ให้​เจ้า​ใช้​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ก็​ให้​นาง​ไป​ช่วย​เจ้า​ทำคลอด​ ​ส่วน​เรื่อง​แม่นม​ก็​ไม่ต้อง​เป็นกังวล​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ก็​ค่อย​เลือก​คนที​่​กิริยา​ท่าที​ใช้ได้​จาก​จวน​แม่นม​สัก​สอง​สาม​คน​มาป​รน​นิ​บัติ​รับใช้​”

ขณะที่​กำลัง​พูดคุย​กัน​อยู่​นั้น​ ​ขันที​เน่ย​ซื่อ​ของ​ทาง​ฝั่ง​ไท่​จื่อ​เฟ​ยก​็​เข้ามา​พอดี

“​ขอให้​ฮองเฮา​และ​ไท่​จื่อ​เฟย​ทรง​มี​ข่าวดี​ใน​เร็ว​วัน​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

“หืม​!​”​ ​ทั้ง​ฮองเฮา​และ​สือ​อี​เหนียง​ต่าง​ก็​รู้สึก​ประหลาดใจ​เป็นอย่างมาก

ฮองเฮา​ก็​ทรง​ยิ้ม​เข้าไป​ใหญ่​ ​พร้อมกับ​ตรัส​ขึ้น​ว่า​ ​“​เด็ก​สอง​คน​นี้​ ​ความสัมพันธ์​แน่นแฟ้น​จริง​เชียว​…​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​หันไป​ตรัส​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​หวัง​ว่า​ครั้งนี้​ ​สวรรค์​จะ​ประทาน​ลูก​กิเลน​[1]​มา​ให้​”

—————————————————

[1]​ลูก​กิเลน ​กิเลน​ถือเป็น​สัตว์​มงคล​ของ​จีน​ ​มีความหมาย​หนึ่ง​ใน​ด้าน​ความเฉลียวฉลาด​ ​เด็ก​ที่​ฉลาด​จะ​ถูก​เรียกว่า​ ​ลูก​กิเลน​ ​เชื่อ​กัน​ว่า​กิเลน​จะ​ประทาน​บุตรให้​ ​กับ​ครอบครัว​ที่​มีคุณ​ธรรม​แต่​ไม่มี​บุตร
เพิ่มขนาดช่อง ดึงมุมขวามือลง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท