ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 452 ไว้ทุกข์

ตอนที่ 452 ไว้ทุกข์

ถึงแม้ว่า​จะ​ได้​เตรียมใจ​ไว้​แล้ว​ ​แต่​เมื่อ​ได้ยิน​ข่าว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​อด​รู้สึก​ใจหาย​ไม่ได้

“​จากไป​เร็ว​ขนาด​นี้​…​”

“​คนที​่​ควรจะ​เจอ​ก็ได้​เจอ​แล้ว​”​ ​ป้า​ซ่ง​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ ​“​ย่อม​จากไป​อย่างสงบ​เจ้าค่ะ​”

ขณะที่​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็ได้​สั่ง​ให้​อวี​้ป​่าน​สาวใช้​ข้าง​กาย​ไป​เชิญ​นาง​มา​พูดคุย

“​…​นาง​ป่วย​ตาย​ ​อีกทั้ง​ยัง​เสียชีวิต​ที่นั่น​ ​ข้าว​่า​เรื่อง​งานศพ​ก็​จัด​ที่นั่น​เลย​ก็แล้วกัน​!​”

สือ​อี​เหนียง​ขานรับ​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​เรียก​ป้า​ซ่ง​มาป​รึก​ษา​หารือ​เรื่อง​การ​จัดงาน​ศพ

“​…​อย่างไร​เสีย​ก็​ถือว่า​ได้​เพิ่ม​ชื่อ​เข้า​ใน​ตระกูล​แล้ว​ ​เป็น​อนุ​ที่​ได้​ให้กำเนิด​บุตรชาย​ ​ตระกูล​อื่น​ก็ช่าง​เถิด​ ​แต่​ทาง​ฝั่ง​ญาติสนิท​อย่างไร​ก็​ต้อง​ไป​แจ้ง​ข่าว​สัก​คำ​”​ ​ป้า​ซ่ง​กำลัง​พูดถึง​ประเพณี​และ​ขนบธรรมเนียม​ ​“​เบื้องบน​ยัง​มี​ไท่ฮู​หยิน​และ​ท่าน​โหว​ ​บ่าว​ว่า​ใช้​คน​แปด​คน​แห่​ขบวน​ศพ​ ​แล้ว​เชิญ​ท่าน​อาจารย์​ที่​วัด​ฉือ​หยวน​มาช​่ว​ยสวด​ ​‘​บท​สวด​ส่ง​ดวงวิญญาณ​’​ ​หลัง​ผ่าน​เจ็ด​วัน​ไป​แล้ว​ค่อย​นำ​ไป​ฝัง​ ​ท่าน​เห็น​ว่า​อย่างไร​เจ้า​คะ​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ

ป้า​ซ่ง​ก็ได้​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ส่วน​เรื่อง​ไว้ทุกข์​ ​ตาม​กฎ​หากฮู​หยิน​คน​ก่อน​ไม่อยู่​แล้ว​ ​คุณชาย​น้อย​สอง​คงจะ​ต้อง​สวม​ชุด​ไว้ทุกข์​ร่วม​สาม​ปี​ ​แต่​ตอนนี้​มีท​่าน​ ​สามารถ​ไว้ทุกข์​เพียงแค่​หนึ่ง​ปี​เท่านั้น​ ​ส่วน​คุณชาย​น้อย​สี่​ ​คุณชาย​น้อย​ห้า​และ​คุณหนู​ใหญ่​…​ต้อง​ดู​อีกที​ว่าที่​จวนจะ​วางแผน​และ​จัดการ​อย่างไร​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​ได้​ให้​คน​ไป​แจ้ง​เรื่อง​นี้​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่อยู่​ลาน​นอก

หลิน​ปัว​ก็ได้​กลับมา​บอกว่า​ ​“​ท่าน​โหว​บอกว่า​ให้​คุณชาย​น้อย​สอง​สวม​เสื้อผ้า​ไว้ทุกข์​เพียงแค่​หนึ่ง​ปีก​็​พอ​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​กำลัง​ตั้งครรภ์​ ​จึง​ไม่​สามารถ​ไปร​่ว​มงาน​โดยตรง​ได้​ ​ก็​เลย​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เป็น​คน​ไป​จัดการ​ทาง​ฝั่งลั​่ว​เย​่ว​์​แทน​ ​“​…​ไม่ว่า​อย่างไร​อวี​้​เกอ​ก็​ยัง​เป็น​เพียงแค่​เด็ก​คน​หนึ่ง​เท่านั้น​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ก็​ยัง​ต้อง​ให้​ผู้หลักผู้ใหญ่​ชี้แนะ​ถึง​จะ​ถูก​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​ฉิน​อี๋​เหนียง​เป็น​คนที​่​เคย​อาศัย​อยู่​เรือน​เดียวกัน​มา​เป็น​สิบ​ปี​ ​เดิมที​ก็​ไม่มี​เรื่อง​บาดหมาง​กัน​อยู่​แล้ว​ ​ตอนนี้​ฉิน​อี๋​เหนียง​มา​เสียชีวิต​ไป​ ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​เศร้าสลด​ ​นาง​จึง​พยักหน้า​พร้อมกับ​ทอดถอนใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ไป​เปลี่ยนเป็น​ชุด​เรียบๆ​ ​ที่​สะอาดสะอ้าน​ ​แล้วจึง​พาส​วี​ซื่อ​เจี​้ย​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​บุตรสาว​และ​บุตรชาย​ของ​อนุ​ไป​เคารพ​ศพ

สวี​ซื่อ​อวี​้​กำลัง​เฝ้า​ศพ​อยู่​ที่นั่น​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ไม่​ส่งผล​กระทบ​ไป​ถึง​ใน​จวน​ ​แต่​หาก​สูญเสีย​คนใดคนหนึ่ง​ไป​ ​จิตใจ​ของ​ทุกคน​ก็​พลอย​เศร้าหมอง​ไป​ด้วย

ร้องไห้​แสดง​ความกตัญญู​ ​ท่อง​บท​สวด​ ​ประกาศ​แจ้ง​เรื่อง​การ​เสียชีวิต​ ​หลังจากที่​ผ่าน​เจ็ด​วัน​แรก​ไป​แล้ว​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็ได้​สวม​ชุด​ไว้ทุกข์​กลับมา​ที่​จวน

“​…​ข้า​ได้​เขียนจดหมาย​ให้ท่า​นอา​จารย์​เจียง​เรียบร้อย​แล้ว​”​ ​เขา​ดู​ผอม​ลง​ค่อนข้าง​มาก​ ​สีหน้า​แววตา​ดู​นิ่ง​และ​ใจเย็น​กว่า​เดิม​มาก​ ​“​บอกเล่า​เกี่ยวกับ​สถานการณ์​ที่​บ้าน​ให้ท่า​นอา​จารย์​ฟัง​ ​ให้ท่า​นอา​จารย์​ช่วย​จด​รายการ​หนังสือ​ตำรา​ให้​ข้า​ ​ข้า​อยาก​สร้าง​กระท่อม​ที่ลั​่ว​เย​่ว​์​สัก​หลัง​เพื่อ​ไว้อาลัย​ให้​กับ​อี๋​เหนียง​ ​และ​ถือโอกาส​นี้​ตั้งใจ​อ่านหนังสือ​ตำรา​ดี​ๆ​ ​ขอรับ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​จ้องมอง​ใบหน้า​ที่​ละม้ายคล้ายคลึง​กับ​ตน​ ​กรอบหน้า​ที่​เห็น​สัน​กราม​ชัดเจน​ ​จากนั้น​ก็​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​แล้วจึง​พยักหน้า​สื่อ​ว่า​อนุญาต

สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็ได้​คารวะ​บิดา​แล้ว​ตรง​ไป​ยัง​เรือน​ชั้นใน

เขา​ไปหา​สือ​อี​เหนียง​ก่อน​ ​บอก​เรื่อง​ที่​เขา​อยาก​จะ​สร้าง​กระท่อม​ที่ลั​่ว​เย​่ว​์​และ​เรื่อง​เรียนหนังสือ​กับ​สือ​อี​เหนียง

คนที​่​ประสบความสำเร็จ​ ​ล้วนแล้วแต่​เป็น​คนที​่​มี​จิตใจ​เข้มแข็ง​และ​แรงกล้า​ ​กักตัว​อ่านหนังสือ​ตำรา​อยู่​แต่​ใน​เรือน​โดยที่​ไม่​ออก​ไป​ไหน​หนึ่ง​ปี​ ​สำหรับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​ถือว่า​เป็น​บท​ทดสอบ​อย่างหนึ่ง

สือ​อี​เหนียง​จึง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​หันไป​จ้องมอง​ใบหน้า​ที่​อ่อนเยาว์​ของ​เขา​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เตือนสติ​เขา​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​เจ้า​ได้​ตัดสินใจ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ภายภาคหน้า​หาก​เจอ​เรื่อง​ยากลำบาก​ ​ก็​จงอย​่า​ได้​ลืม​ความปรารถนา​ดั้งเดิม​ของ​ตน​”

แววตา​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​สั่น​ไหว​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​เขา​ก็​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​ยก​น้ำชา​ขึ้น​มาดื​่​มอย​่าง​เงียบๆ

บรรยากาศ​ใน​ห้อง​อึมครึม​ขึ้น​มา​เล็กน้อย

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​เป็น​เหมือน​ดัง​เขาวงกต​ ​ที่​ทั้ง​คด​โค้ง​และ​ซับซ้อน​ ​ซุกซ่อน​ความลับ​ไว้​มากมาย​ ​นาง​เอง​ก็​เป็น​คน​เช่นนี้​ ​แต่กลับ​รู้สึก​ไม่​ชอบ​คน​ประเภท​เดียวกัน​ ​นาง​รู้สึก​ชอบ​สวี​ซื่อ​จุน​ที่​อ่อนโยน​บริสุทธิ์​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่​ร่าเริง​แจ่มใส​และ​จริงใจ​เสียมา​กก​ว่า

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​ทำลาย​บรรยากาศ​ที่​เงียบสงบ​นั้น​ไป​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่าที่ลั​่ว​เย​่ว​์​ไม่มี​คน​อาศัย​นาน​แล้ว​ ​ข้า​เอง​ก็​ไม่เคย​ไป​ ​ไม่รู้​ว่าที่​นั่น​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​เจ้า​ไป​ครั้งนี้​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ไป​อาศัย​แค่​ปี​เดียว​ ​แต่​ก็​ห้าม​เลอะเลือน​โดย​เด็ดขาด​ ​ส่วน​ไหน​ที่​ควร​ต่อเติม​ก็​แค่​สั่ง​ให้​บ่าว​รับใช้​กลับมา​แจ้ง​ก็​พอ​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ได้ยิน​แล้วก็​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​เขา​ก็ได้​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​มีเรื่อง​ที่จะ​ขอร้อง​ท่าน​จริงๆ​”

สือ​อี​เหนียง​ตั้งใจฟัง​เขา​พูด

“​ข้า​อยากได้​บ่าว​รับใช้​ชาย​สอง​คน​ ​สาวใช้​น้อย​สอง​คน​ ​ป้า​รับใช้​สอง​คน​และ​บ่าว​ที่​ใช้​แรงงาน​อีก​สอง​คน​ติดตาม​ไป​ด้วย​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​พูด​ขึ้น​ช้าๆ​ ​ว่า​ ​“​ถ้า​จะ​ให้​ดี​ขอ​ป้า​รับใช้​และ​บ่าว​รับใช้​ชาย​ที่​เป็น​สอง​สามีภรรยา​ ​เช่นนี้​จะ​ดูแล​ง่าย​หน่อย​”​ ​เขา​ไม่ได้​เจาะจง​ชื่อ​แซ่​ ​น้ำเสียง​ฟัง​ดูรา​วกับ​ว่า​ต้องการ​ให้​สือ​อี​เหนียง​จัด​คน​ให้​ใหม่​อย่างไร​อย่างนั้น

สือ​อี​เหนียง​ก็​เลย​นึกถึง​เหลียน​เจียว​และ​เสี่ยว​ลู่​จื่อ​ขึ้น​มา​…​จึง​พอ​จะเข้า​ใจ​ได้

“​เดิมที​ข้า​อยาก​จะ​พา​เหวิน​จู๋​ที่อยู่​ใน​เรือน​ข้า​ติดตาม​ไป​ด้วย​ ​นาง​เป็น​คนที​่​ปรนนิบัติ​รับใช้​ข้ามา​นาน​ที่สุด​ ​ทั้ง​ยัง​ได้​ติดตาม​ข้า​ไป​ที่​เล่อ​อาน​ด้วย​ ​นาง​คุ้นเคย​งาน​ใน​เรือน​ข้า​เป็น​อย่างดี​ ​หาก​มีนาง​ติดตาม​ไป​ด้วย​ ​จะ​มี​คนที​่​คอย​ช่วย​ควบคุม​ดูแล​เหล่า​บรรดา​สาวใช้​ ​บ่าว​รับใช้​ชาย​หญิง​ ​หรือ​คนอื่นๆ​ ​ข้า​เอง​ก็​จะ​สามารถ​อ่านหนังสือ​ตำรา​ได้​อย่างสบายใจ​”

เช่นนี้​ก็ดี​ ​ถือว่า​เป็นการ​เริ่มต้น​ใหม่​ก็แล้วกัน!

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​เข้าใจ​แล้ว​”

จากนั้น​นาง​ก็​เห็น​สวี​ซื่อ​อวี​้​ถอน​ลมหายใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่​ด้วย​ความ​โล่งอก

ทั้งสอง​พูดคุย​กัน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​จึง​ค่อย​ขอตัว​ลาก​ลับ

สือ​อี​เหนียง​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เป็นเพื่อน​เขา

หลังจากที่​ไท่ฮู​หยิน​รู้เรื่อง​ว่า​เขา​จะ​ไป​สร้าง​กระท่อม​ที่ลั​่ว​เย​่ว​์​ ​ก็ได้​พยักหน้า​รับรู้​เบา​ๆ​ ​กำชับ​กับ​เขา​ว่า​ ​“​เจ้า​ควร​ไป​บอกกล่าว​กับ​ป้า​สะใภ้​สอง​ก่อน​ด้วย​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ขานรับ​ ​ตรง​ไป​ยัง​เรือน​ของฮู​หยิน​สอง​ทันที

ไท่ฮู​หยิน​ให้​สือ​อี​เหนียง​อยู่​คุย​ด้วย​ต่อ​ ​“​…​เช่นนั้น​ก่อนที่​สวี​ซื่อ​อวี​้​จะ​เดินทาง​ไป​ที่ลั​่ว​เย​่ว​์​ ​ก็​เปลี่ยน​เหล่า​บรรดา​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ใหม่​ให้​เสร็จสรรพ​ก่อน​ก็แล้วกัน​ ​อัน​ไหน​ที่​ควร​ชำระสะสาง​ก็​จัดการ​เสีย​ให้​เรียบร้อย​!​”

สือ​อี​เหนียง​ขานรับ​ ​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​ป้า​ซ่ง​ไป​ช่วย​คัดเลือก​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ของ​แต่ละ​เรือน

ป้า​ซ่ง​รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​อยาก​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้​เรียนรู้​งาน​ไป​ด้วย​ ​นาง​จึง​คอย​ชี้แนะ​อยู่​ข้างๆ​ ​ด้วย​ความเอาใจใส่​ ​ใช้เวลา​ไปราว​สี่​ห้าวั​นก​็​เลือก​สาวใช้​ได้​สิบ​กว่า​คน​ ​จากนั้น​ก็​แบ่ง​ไป​ตามแต่​ละ​เรือน​ ​ส่วน​สาวใช้​ที่​อายุ​มาก​แล้วก็​แต่งตั้ง​ตำแหน่ง​ให้​ ​บางคน​ก็​ถูก​ส่ง​ไป​ที่​สวน​ไร่นา​ ​คนที​่​ป่วย​ตาย​หรือ​ประสบอุบัติเหตุ​ ​ล้วน​เป็นเรื่อง​ที่​เอาไว้​คุย​กันตอน​หลัง

สวี​ซื่อ​อวี​้​ตั้งชื่อ​ให้​สาวใช้​ว่า​ ​‘​เซียง​จู๋​’​ ​และ​ตั้งชื่อ​ให้​บ่าว​รับใช้​ชาย​ ​‘​ว่า​มั่ว​จู๋​’​ ​และ​ ​‘​ซือ​จู๋​’​ ​ตาม​ชื่อ​ของ​เหวิน​จู๋

“​หวัง​ว่า​พวก​เจ้า​จะ​เหมือนเช่น​เหวิน​จู๋​ ​ไม่​พ่ายแพ้​ต่อ​หิมะ​ที่​ประสบ​พบ​เจอ​ ​แม้ว่า​จะ​หนาวเหน็บ​แต่​ก็​เข้มแข็ง​มิ​หวาดหวั่น​”

บิดา​มารดา​ของ​ทั้ง​สาม​คน​เป็น​เพียง​บ่าว​รับใช้​ระดับ​ล่าง​ของ​จวน​ ​การ​ที่​ถูก​เลือก​ถือเป็น​เรื่อง​ที่​น่ายินดี​เป็นอย่างมาก​ ​จึง​พากั​นขา​นรั​บอย​่าง​พร้อมเพรียงกัน​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​ ​ขอรับ​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​จ้องมอง​ทั้ง​สาม​คน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​หยิบ​หนังสือ​ขึ้น​มา​อ่าน​บน​เตียง​เตา​ใหญ่​ริม​หน้าต่าง

เหวิน​จู๋​ก็​รีบ​พาบ​่า​วรับ​ใช้​คน​ใหม่​ถอย​ออก​ไป

สวี​ซื่อ​อวี​้​จึง​ค่อย​วาง​หนังสือ​ลง​ ​จ้องมอง​ไป​ยัง​ต้น​การบูร​ที่​เขียวชอุ่ม​นอก​หน้าต่าง​ด้วย​อาการ​เหม่อลอย

ตอนที่​อี๋​เหนียง​สิ้นใจ​ ​นาง​ทรมาน​เป็นอย่างมาก

นาง​ร้อง​ครวญคราง​ด้วย​ความเจ็บปวด​ตลอดทั้ง​คืน​ ​ทั้ง​กระอัก​เลือด​และ​เรียกชื่อ​ของ​เขา​ไม่หยุดหย่อน​…

ตน​ไม่กล้า​ที่จะ​สืบสาว​ราว​ความ

การ​ที่​อี๋​เหนียง​กระอัก​เลือด​จน​เสียชีวิต​ ​เป็น​เพราะ​นาง​ป่วย​ระยะ​สุดท้าย​หรือว่า​มีสา​เหตุ​อื่น​กัน​แน่

ตน​ทำได้​เพียงแค่​กุมมือ​ของ​อี๋​เหนียง​แน่น​ ​ปล่อย​ให้​น้ำตาไหล​พราก​ท่วม​ใบหน้า

สวี​ซื่อ​อวี​้​ค่อยๆ​ ​หลับตา​ลง​อย่าง​ช้าๆ

คำพูด​ของฮู​หยิน​สอง​ยังคง​ดังก้อง​อยู่​ใน​หัว​ของ​เขา​ ​‘​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​คน​ด้วยกัน​เรา​ถือว่า​เป็น​บุพเพสันนิวาส​ ​บางที​เจ้า​กับ​อี๋​เหนียง​อาจมี​วาสนา​ต่อกัน​เพียง​ไม่​กี่​ปี​เท่านั้น​ ​ก็​เหมือน​เสี่ยว​ลู่​จื่อ​ ​ข้า​ส่ง​ให้​เขา​ไป​ปรนนิบัติ​รับใช้​อยู่​ข้าง​กาย​เจ้า​ ​เวลา​ที่​เจ้า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​ก็​จะ​ได้​มี​คน​มาแจ้ง​ข่าว​กับ​ข้า​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​เขา​จะ​เผา​ตัวเอง​เข้าไป​ใน​กองไฟ​ด้วย​ ​นี่​ก็​ถือเป็น​วาสนา​ระหว่าง​พวก​เจ้า​ ​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​นำมา​คิด​ฟุ้งซ่าน​ให้​ไม่สบายใจ​ ​ทุก​สรรพสิ่ง​ใน​ใต้​หล้า​นี้​ ​ล้วนแล้วแต่​เป็นวัฏจักร​ที่​ต้อง​วนเวียน​กลับมา​ทั้งสิ้น​ ​เหมือน​บุปผา​ที่​บาน​และ​ร่วงโรย​ ​ที่​มีทั​้ง​ช่วงเวลา​ที่​เบ่งบาน​และ​ช่วงเวลา​ที่​เหี่ยวเฉา​โรยรา​ ​เพียงแต่ว่า​บุปผา​บาง​ดอก​อาจจะ​เบ่งบาน​ได้​ยาวนาน​ ​และ​บาง​ดอก​อาจจะ​เบ่งบาน​ได้​เพียงแค่​ช่วงเวลา​สั้น​ๆ​ ​เท่านั้น​…​’

เสี่ยว​ลู่​จื่อ​เป็น​คนที​่​เข้ามา​หลัง​สุด​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​รู้เรื่อง​เหล่านั้น​แล้ว​อย่างไรเล่า

หากว่า​เขา​ไม่ใช่​บ่าว​รับใช้​ของ​ตน​ ​แต่​เป็น​บ่าว​รับใช้​ของ​ท่าน​พ่อ​หรือ​เป็น​ของ​ท่าน​อา​ห้า​ ​เกรง​ว่า​จุดจบ​คงจะ​ไม่​เหมือนกัน​กระมัง

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​เกิด​รู้สึก​กระวนกระวายใจ​ขึ้น​มา​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

จากนั้น​ก็​มี​คน​เดิน​เข้ามา​อย่างเบามือ​เบา​เท้า​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​กับ​คุณชาย​น้อย​สาม​มา​เยี่ยม​ท่าน​เจ้าค่ะ​!​”

“​เชิญ​พวกเขา​เข้ามา​!​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​หันหน้า​หนี​ ​ยกมือ​ขึ้น​แอบ​เช็ด​คราบ​น้ำตา​แล้วจึง​ค่อย​นั่ง​ตัวตรง

“​เหตุใด​ถึง​ต้อง​ไป​ที่ลั​่ว​เย​่ว​์​ด้วย​เล่า​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ยังคง​เป็น​คนที​่​ตรงไปตรงมา​อย่างเช่น​เคย​ ​“​อยู่​ที่​จวน​ไม่​เหมือนกัน​หรือ​ ​เหตุใด​ถึง​ต้อง​ยึดติด​กับ​รูปแบบ​เช่นนี้​”

“​ข้า​ก็​เพียงแค่​ต้องการ​สงบจิตสงบใจ​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ชี้​ไป​ยัง​ถ้วย​น้ำชา​ที่อยู่​ตรงหน้า​พวกเขา​ ​เชื้อเชิญ​ให้​พวกเขา​ดื่ม​ชา​ ​“​ใคร่ครวญ​ไตร่ตรอง​ ​ว่า​ภายภาคหน้า​จะ​ทำ​อย่างไร​”

“​ท่าน​น่ะ​กังวลใจ​เกิน​กว่า​เหตุ​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ไม่ได้​คิด​เช่นนั้น​ ​“​แม้แต่​ท่าน​ก็​ยัง​ต้อง​กังวลใจ​ ​แล้ว​พวก​ข้า​เล่า​จะ​ทำ​อย่างไร​”​ ​เขา​พูด​พลาง​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ครั้งนี้​กาน​เหล่า​เฉวียน​ได้รับ​คำสั่ง​จาก​บิดา​ของ​เขา​ ​ให้​กลับ​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​เพื่อ​เซ่นไหว้​นายท่านปั​๋ว​คน​ก่อน​ของ​จวน​จง​ฉินปั​๋ว​ ​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​เขา​แล้ว​ ​สถานการณ์​ทาง​ฝั่ง​บิดา​ของ​เขา​ค่อนข้าง​แย่​ ​มารดา​ของ​เขา​ก็​เลย​ให้​เขา​ไป​แจ้ง​ข่าว​กับ​ทาง​ฝั่ง​ท่าน​ตา​และ​ท่าน​ลุง​ของ​เขา​ ​ให้​ทาง​ฝั่ง​ท่าน​ตา​และ​ท่าน​ลุง​ของ​เขา​ช่วย​สร้าง​เรือน​ใน​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​สัก​หลัง​ ​เตรียมตัว​ขนย้าย​ข้าวของ​ที่​มีค่า​กลับมา​ ​ถึง​เวลา​จะ​ได้​ไม่ต้อง​ยุ่ง​วุ่นวาย​จน​ลืม​ข้าวของ​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ได้ยิน​แล้วก็​อึ้ง​ไป​เล็กน้อย​ ​“​ร้ายแรง​ขนาด​นั้น​เชียว​หรือ​”

สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ทอดถอนใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​เอง​ก็​ไม่รู้​เหมือนกัน​”

ทั้งสอง​ก็​พากัน​หันไป​มอง​สวี​ซื่อ​ฉิน​ที่​โตก​ว่า

สวี​ซื่อ​ฉิน​ไม่​อยาก​จะ​พูด​เรื่อง​เหล่านี้​ ​เขา​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​เป็น​คนที​่​ระมัดระวัง​มาโดยตลอด​ ​ครั้งนี้​ก็​เป็น​เพราะ​กังวลใจ​เท่านั้น​”​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยน​เรื่อง​ไป​คุย​อย่าง​อื่น​แทน​ ​และ​ได้​ถาม​สวี​ซื่อ​อวี​้​ว่า​ ​“​ทาง​ฝั่งลั​่ว​เย​่ว​์​เดินทาง​สะดวกสบาย​หรือไม่​ ​วันข้างหน้า​พวก​ข้า​สามารถ​ไป​เยี่ยม​เจ้า​บ่อยๆ​ ​ได้​หรือไม่​”

“​สะดวกสบาย​!​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​สวี​ซื่อ​ฉิน​ต่าง​ก็​รู้ใจ​กัน​อยู่​แล้ว​ ​แน่นอน​ว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​ย่อม​มอง​เจตนา​ของ​เขา​ออก​ ​จึง​ได้​พูด​กับ​เขา​ว่า​ ​“​อีกทั้ง​ยัง​ห่างไกล​และ​ทุรกันดาร​ ​เป็น​ที่​ที่​เหมาะสม​แก่​การ​อ่านหนังสือ​เป็น​อย่างยิ่ง​”​ ​พูด​จบ​เขา​ก็​หยุดชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​“​ปีนี​้​ข้า​อายุ​สิบ​สี่​ ​หลังจาก​ไว้ทุกข์​ครบ​หนึ่ง​ปี​ ​ข้า​ก็​จะ​อายุ​สิบห้า​แล้ว​…​ข้า​ไม่​อยาก​จะ​ลง​สอบ​ตอน​วัย​รู้​ชะตา​ฟ้า​ลิขิต​แล้ว​”

ในเมื่อ​เดิน​อยู่​บน​ถนน​สาย​นี้​แล้ว​ ​หาก​ไม่มี​ชื่อ​ปรากฏ​อยู่​บน​ประกาศ​ของ​ผู้​สอบผ่าน​ ​ก็​จะ​ไม่​สามารถ​สร้าง​ครอบครัว​ด้วยตัวเอง​เพียงลำพัง​ได้

สวี​ซื่อ​ฉิน​เข้าใจ​ใน​ความหมาย​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​เขา​จึง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็ดี​ ​หาก​อยู่​ที่​จวน​ก็​จะ​มีสิ​่ง​ที่​ต้อง​ทำ​มากมาย​จน​เกินไป​”​ ​จากนั้น​เขา​ก็ได้​นึกถึง​คำพูด​ของ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นน​้​อง​ชาย​ของ​เขา​ที่​มักจะ​ชอบ​พูดจา​ตามอำเภอใจ​ ​กลัว​ว่า​หาก​พูดมาก​ไป​กว่านี​้​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นที​่​พูด​ออกมา​อย่าง​ไม่ได้ตั้งใจ​ ​จะ​ถูก​คนที​่​ประสงค์ร้าย​นำ​ไป​เล่า​ต่อ​ด้วย​เจตนา​ที่​ไม่ดี​ ​พลอย​ทำให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​ลำบากใจ​ได้​ ​เขา​จึง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​แล้ว​เจ้า​จะ​เดินทาง​ตอน​ไหน​ ​ถึง​เวลา​นั้น​พวก​ข้า​ทั้งสอง​จะ​ไป​ส่ง​เจ้า​เดินทาง​ด้วย​!​”

“​ท่าน​อาจารย์​ของวัด​ฉือ​หยวน​จะ​สวด​ ​‘​บท​สวด​ส่ง​ดวงวิญญาณ​’​ ​ให้​อี๋​เหนียง​เจ็ด​วัน​ ​ข้า​ก็​เลย​จะ​เดินทาง​พรุ่งนี้​”

ขณะที่​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​มาหา​พอดี

“​ที่นั่น​ห่างไกล​และ​ยัง​ทุรกันดาร​ ​ข้า​คิด​ว่า​คงจะ​มียุ​งมด​แมลง​ค่อนข้าง​เยอะ​”​ ​นาง​นำ​ธูปหอม​ไล่​ยุง​มา​จำนวน​หนึ่ง​ ​และ​ยัง​มี​เสื้อผ้าอาภรณ์​รวมไปถึง​ถุงเท้า​รองเท้า​มา​ให้​เขา​ ​“​พี่​สอง​นำไปใช้​ก่อน​ ​หากว่า​ใช้​ดี​ ​ไว้​ข้า​จะ​ทำให้​ใหม่​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ตื้นตันใจ​เป็นอย่างมาก​ ​เพราะ​เรือน​นอก​และ​เรือน​ใน​มี​การ​แบ่งแยก​ชัดเจน​ ​จึง​ทำได้​แค่​เชิญ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อยู่​ดื่ม​ชา​เพียง​ถ้วย​เดียว​เท่านั้น

จากนั้น​สวี​ซื่อ​ฉิน​ก็​เดิน​ออก​ไป​ส่ง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​หน้า​ประตู

“​ได้ยิน​มา​ว่า​ช่วงนี้​น้อง​หญิง​ใหญ่​กำลัง​ช่วย​ท่าน​อาสะใภ้​สี่​ดูแล​จัดการ​ธุระ​ใน​จวน​หรือ​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​ก็​ไม่​ถึงขั้น​ดูแล​จัดการ​ ​เพียงแต่ว่า​ช่วงนี้​ท่าน​แม่​ไม่​ค่อย​สบาย​ตัว​ ​ป้า​ซ่ง​เอง​ก็​เป็น​เพียงแค่​บ่าว​รับใช้​ ​ก็​เลย​อาศัย​นาม​ของ​ข้า​ไป​ใช้​ก็​เท่านั้น​”​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​ค่อนข้าง​ถ่อมตน​และ​สุภาพอ่อนโยน

สวี​ซื่อ​ฉิน​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​ด้วย​จิตใจ​ที่​ไม่​ค่อย​อยู่​เนื้อ​กับ​ตัว​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​แล้ว​…​แล้ว​น้อง​หญิง​ใหญ่​ยัง​ได้​ติดตาม​ท่าน​อาสะใภ้​สี่​ออก​ไป​ข้างนอก​บ่อยๆ​ ​เช่น​เดิม​อยู่​หรือไม่​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ

สวี​ซื่อ​ฉิน​จึง​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ข้า​หมายถึง​น้อง​หญิง​ใหญ่​เคย​ติดตาม​ท่าน​อาสะใภ้​สี่​ไป​เยี่ยม​กาน​ไท่ฮู​หยิน​หรือไม่​”

เรื่อง​บาง​เรื่อง​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็ได้​ยิน​ลาง​ๆ​ ​มาบ​้าง

ท่าน​ตาของ​สวี​ซื่อ​ฉิน​ผิดใจกัน​กับ​จง​ฉินปั​๋ว​คน​ปัจจุบัน​เพราะ​เรื่อง​แบ่ง​มรดก​ ​ตอนนี้​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​ทั้งสอง​ตระกูล​ยัง​สู้​เพื่อนบ้าน​ไม่ได้​เสียด​้วย​ซ้ำ

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​เขา​ถาม​มา​เช่นนี้​ ​ก็​นึกถึง​เรื่อง​เมื่อวาน​ที่​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ขึ้น​มา​ ​สือ​อี​เหนียง​และ​อาจารย์​เจี่ยน​ได้​พูดถึง​เรื่อง​นายท่านปั​๋ว​คน​ก่อน​ว่า​เดือน​หน้า​ก็​จะ​สิ้นสุด​การ​ไว้ทุกข์​แล้ว​ ​จง​ฉินปั​๋ว​และฮู​หยิน​กำลัง​ยุ่ง​อยู่​กับ​การจัดเตรียม​สินเดิม​ให้​คุณหนู​สาม​เฉา​เอ๋อร​์​และ​คุณหนู​ใหญ่​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เพื่อ​เป็นหน้าเป็นตา​ให้​กับ​วงศ์ตระกูล​…

นาง​พูด​ขึ้น​อย่าง​สุภาพ​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​กำลัง​ตั้งครรภ์​ ​ก็​เลย​ยัง​ไม่ได้​ออก​ไป​ไหน​ ​แต่ทว่า​ ​ข้า​เคย​ได้ยิน​ท่าน​แม่​พูดคุย​กับ​อาจารย์​เจี่ย​นว​่า​จวน​สกุล​กาน​กำลัง​เตรียม​จะ​ให้​คุณหนู​สาม​แต่งงาน​ออกเรือน​ไป​ก่อน​ ​แล้วจึง​ค่อย​ให้​คุณหนู​ใหญ่​แต่งงาน​ออกเรือน​ ​ส่วน​เรื่อง​งานแต่ง​ของย​่​วน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เกรง​ว่า​คงจะ​ต้อง​เป็นต้น​ฤดูใบไม้ผลิ​ปีหน้า​เสีย​แล้ว​”

สวี​ซื่อ​ฉิน​ครุ่นคิด​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​เขา​เดิน​ไป​ส่ง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จนถึง​หน้า​ประตู​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออกมา​อีก

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท