ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 463 แรกเกิด(กลาง)

ตอนที่ 463 แรกเกิด(กลาง)

ท่ามกลาง​ความ​งงงวย​ ​ดูเหมือน​สือ​อี​เหนียง​จะ​ได้ยิน​เสียง​เด็ก​ร้องไห้

นาง​ลุกขึ้น​มานั​่​งอย​่า​งกะ​ทัน​หัน​ ​แต่กลับ​เห็น​ป้าวั​่​นนั​่​งอยู​่​บน​เตียง​เตา​ ​กำลัง​ตบ​ตัว​จิ​่น​เกอ​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​เบา​ๆ

“ฮู​หยิน​”​ ​ชิว​อวี​่​ที่​คอย​รับใช้​อยู่​ข้างๆ​ ​เดิน​เข้ามา​สอบถาม​ ​“​ท่าน​เป็น​อะไร​หรือ​เจ้า​คะ​”

ป้าวั​่​นที​่​ได้ยิน​เสียง​ก็​หันหน้า​มาม​อง

ตอนกลางวัน​มีเรื่อง​กังวลใจ​ ​ตอนกลางคืน​จึง​เก็บ​ไป​ฝัน​ ​ยิ่ง​บุตรชาย​ไม่ยอม​ทาน​อะไร​ ​นาง​จะ​นอนหลับ​อย่างสบายใจ​ได้​เช่นไร​!

“​ไม่มี​อะไร​ ​ไม่มี​อะไร​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พิง​หมอน​ช้าๆ​ ​“​จิ​่น​เกอ​เป็น​เช่นไร​บ้าง​”

ชิว​อวี​่​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​สีหน้า​มืดมน​ลง​ ​“​ตื่นขึ้น​มาค​รั้ง​หนึ่ง​ ​ป้าวั​่​นบ​อก​ให้​แม่นม​กู้​มาป​้​อนนม​คุณชาย​น้อย​หก​ ​แต่​คุณชาย​น้อย​หก​ก็​ไม่ยอม​ทาน​เจ้าค่ะ​ ​ป้าวั​่น​จึง​ป้อน​น้ำเปล่า​เขา​นิดหน่อย​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​เป็นกังวล​ ​“​ตอนนี้​ยาม​ใด​แล้ว​”

ชิว​อวี​่​พูด​ ​“​อีก​หนึ่ง​เค​่อ​จะ​ถึง​ยาม​อู่​เจ้าค่ะ​”

“​ให้​หมอ​หลวง​อู๋​ดูแล​้ว​หรือยัง​”

ชิว​อวี​่​ส่ายหน้า​เบา​ๆ​ ​“​บ่าว​รับใช้​บอกว่า​ ​วันนี้​หมอ​หลวง​อู๋​เข้า​วัง​ ​ต้อง​รอ​ถึง​ยาม​เว​่ย​ถึง​จะ​ออกมา​ได้​เจ้าค่ะ​”

ออกมา​จาก​พระราชวัง​ ​กว่า​จะ​มาถึง​เหอฮ​วาห​ลี่​ ​ก็​ยาม​เซิน​แล้ว​กระมัง

ป้าวั​่​นอุ​้ม​จิ​่น​เกอ​เดิน​เข้ามา

“ฮู​หยิน​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​เจ้าค่ะ​ ​ท่าน​โหว​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รีบ​ไป​พระราชวัง​ทันที​!​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​“​ตั้งแต่​เมื่อไร​”

ป้าวั​่​นพูด​ ​“​ไป​ตั้งแต่​ยาม​ซื่อ​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​ออก​ไป​เกือบ​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​แล้ว

ยื่น​ป้ายชื่อ​ ​พบ​ฮ่องเต้​ ​ขอพระ​ราชโองการ​ ​กลับมา​เหอฮ​วาห​ลี่​…​เรื่อง​พวก​นี้​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ราบรื่น​ทุกอย่าง​ ​แต่​ก็​ต้อง​รอ​ถึง​ยาม​เว​่ย​ ​ถึง​ตอนนั้น​ ​หมอ​หลวง​อู๋​ก็​คงจะ​ออกมา​จาก​พระราชวัง​แล้ว​ ​แทนที่จะ​เข้าไป​ขอพระ​ราชโองการ​จาก​ฮ่องเต้​ใน​พระราชวัง​ ​ไม่​สู้​ส่ง​ผู้ดูแล​ไปรอ​ที่​นอก​ประตู​พระราชวัง​ยัง​จะ​ดีกว่า​!

คิด​เช่นนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​หยุดชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง

สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้าออก​พระราชวัง​บ่อยครั้ง​ ​เขา​ต้อง​รู้​ข้อดี​กับ​ข้อเสีย​มากกว่า​นาง​แน่นอน​ ​แต่​เขา​ก็​ยัง​เลือก​ที่จะ​ไป​…​เพราะว่า​แทนที่จะ​รอ​อยู่​เฉยๆ​ ​ไม่​สู้​ทำ​อะไร​ให้​ตัวเอง​รู้สึก​สบายใจ​ดีกว่า​กระมัง

สือ​อี​เหนียง​รับ​จิ​่น​เกอ​มาจาก​ป้าวั​่น​ ​มองดู​ใบหน้า​เล็ก​ๆ​ ​ที่​กำลัง​หลับสนิท​ของ​เขา​ ​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​โน้มตัว​ลง​ไป​หอม​แก้ม​เขา

แก้ม​ของ​เขา​นุ่ม​ละมุน​ ​สม​กับ​เป็น​ผิว​ของ​เด็กทารก

ตั้งแต่​คลอด​ออกมา​จนถึง​ตอนนี้​ ​ก็​ผ่าน​ไป​เกือบ​ครึ่ง​ค่อนวัน​แล้ว​ ​ทาน​แค่น​้ำ​เปล่า​สอง​สาม​ครั้ง​…​เจ้า​เป็น​อะไร​กัน​แน่​ ​ไม่​อยาก​ทาน​น้ำนม​ของ​แม่นม​?​ ​หรือว่า​ไม่สบาย​ตรงไหน​แต่​ยัง​พูด​บอก​ไม่ได้​…​

คิด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ดึง​ผ้าอ้อม​ของ​เขา​ด้วย​ความไม่สบายใจ

มีสาว​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​คุณหนู​ใหญ่​มา​เจ้าค่ะ​!​”

ชิว​อวี​่​รีบ​อธิบาย​ ​“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​พึ่ง​จะ​นอนหลับ​ไป​คุณหนู​ใหญ่​ก็​มา​พอดี​ ​เห็น​ว่า​ท่าน​และ​คุณชาย​น้อย​หก​กำลัง​หลับ​อยู่​ ​คุณหนู​ใหญ่​จึง​มาดู​คุณชาย​น้อย​หก​แล้ว​กลับ​ไป​ก่อน​ ​บอกว่า​ประเดี๋ยว​ค่อย​มาหา​ท่าน​ใหม่​”​ ฮู​หยิน​ตื่นขึ้น​มาก​็​ถามหา​ลูก​ ​ตอนนั้น​นาง​จึง​ไม่มี​โอกาส​เล่าเรื่อง​นี้​ ​จากนั้น​ก็​หยิบ​กล่อง​เล็ก​ๆ​ ​ออกมา​จาก​ตู้เสื้อผ้า​ข้างๆ​ ​“​คุณหนู​ใหญ่​นำมา​ให้​ตั้งแต่​เช้า​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​เปิด​ออก​ ​มัน​คือ​กำไลทอง​คำ​เล็ก​ๆ​ ​ที่​ห้อย​ดอก​ไห่​ถัง​ ​สวยงาม​เป็นอย่างมาก

นาง​รีบ​เอ่ย​บอก​ ​“​รีบ​เชิญ​คุณหนู​ใหญ่​เข้ามา​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​สวม​เสื้อ​สีขาว​ ​เสื้อกั๊ก​สีแดง​กุหลาบ​ ​ใน​ช่วงต้น​ฤดูหนาว​ ​ทำให้​นาง​ดู​อบอุ่น​และ​สดใส

สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​ชิว​อวี​่​ยก​เก้าอี้​มา​ให้​นาง​ ​ชี้​ไป​ที่​กล่อง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​นี่​คือ​อะไร​ ​มีค่า​เกินไป​แล้ว​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ ​นาง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​พี่​สอง​มอบให้​ข้า​ก่อนที่จะ​ไป​เขาลั​่ว​เย​่ว​์​เจ้าค่ะ​ ​บอกว่า​เก็บ​ไว้​ให้​น้อง​หก​”

จริง​หรือ​?

สือ​อี​เหนียง​มองดู​ดอก​ไห่​ถัง​ที่​ห้อย​อยู่​บน​กำไลทอง​คำ

ดอก​ไห่​ถัง​ ​ส่วนใหญ่​จะ​มอบให้​เด็กผู้หญิง​ ​ตอนนั้น​นาง​ยัง​ไม่​คลอด​ ​ไม่รู้​ว่า​คือ​ลูกผู้ชาย​หรือ​ลูกผู้หญิง​ ​แล้ว​ลูก​ของ​นาง​ก็​เป็น​บุตร​ภรรยา​เอก​คนที​่​สอง​ ​ด้วย​นิสัย​ที่​รอบคอบ​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​หาก​เขา​ต้องการ​มอบ​ของขวัญ​ให้​จิ​่น​เกอ​จริงๆ​ ​ก็​ต้อง​ให้​กำไลทอง​ที่​แกะสลัก​คำ​ว่า​ ​‘​อายุ​ยืนยาว​’​ ​หรือ​ ​‘​ร่ำรวย​เงินทอง​’​ ​จะ​มอบ​กำไล​ดอก​ไห่​ถัง​ได้​เช่นไร

หรือว่า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​นำมา​ให้​เอง​…​กำไล​นี่​คือ​กำไล​ที่นาง​เคย​สวม​ตอน​เด็ก​ๆ​?

คิด​เช่นนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ทำไม​เจ้า​พึ่ง​มาต​อนนี​้​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เด็ก​กว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​แค่​ไม่​กี่​วัน​ ​ถึงแม้ว่า​พวกเขา​จะ​ไม่ได้​โตมา​ด้วยกัน​เหมือน​พี่น้อง​คนอื่นๆ​ ​แต่​ตั้งแต่​นาง​จำความได้​ ​นาง​ก็​มักจะ​ได้ยิน​บรรดา​สาวใช้​และ​ท่าน​ป้า​พูดถึง​คุณชาย​น้อย​สอง​อยู่​ตลอด​ ​นาง​จึง​อยาก​เจอ​พี่​สอง​คน​นี้​มาก​ ​เมื่อ​เจอ​กับ​เขา​แล้ว​ ​เขา​เป็น​คนฉลาด​และ​ร่าเริง​ ​แล้วยัง​กล้า​นั่ง​ตรง​บันได​ ​ไม่​เหมือน​นาง​ ​แค่นั​่​งบน​ตั่ง​นั่ง​เหม่ย​เห​ริน​ยัง​ต้อง​มี​เบาะ​รอง​นั่ง​ ​กลัว​เสื้อผ้า​สกปรก​แล้ว​ไท่ฮู​หยิน​จะ​ไม่พอใจ​ ​นาง​อิจฉา​เขา​เป็นอย่างมาก​…​ ​ต่อมา​ ​นาง​ก็​รู้สึก​ว่า​เขา​น่าสงสาร​…​โดยเฉพาะ​หลังจากที่​ฉิน​อี๋​เหนียง​เสียชีวิต​ไป​แล้ว​ ​ท่าน​พ่อ​และ​ท่าน​แม่​ไม่เคย​แตะต้อง​ของ​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​เลย​แม้แต่น้อย​ ​เรียน​ลูกคิด​กับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​ต่อมา​ซิ่ว​หลาน​ที่​สือ​อี​เหนียง​ย้าย​ให้​ไป​ทำงาน​ที่​เรือน​ของ​นาง​ได้ยิน​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​บอกว่า​ ​นอกจาก​ข้าวของ​ที่อยู่​ใน​บัญชี​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ใช้​เงินราง​วัล​และ​เครื่องประดับ​ของ​พี่​สอง​ไป​จน​หมด​ ​เหลือ​ไว้​เพียง​เงิน​หนึ่งร้อย​ตำลึง​…​เมื่อ​นาง​ได้ยิน​บรรดา​ท่าน​ป้า​ผู้ดูแล​ปรึกษา​กัน​ว่า​จะ​นำ​ของขวัญ​อะไร​มอบให้​น้อง​หก​ ​นาง​กลัว​สวี​ซื่อ​อวี​้​จะ​ลำบากใจ​ ​โชคดี​ที่สอง​สาม​วันก่อน​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​นำ​เครื่องประดับ​ที่​ตัวเอง​ช่วย​นาง​ดูแล​คืนให้​นาง​ ​นาง​จึง​หากำ​ไล​ที่​สกุล​เหวิ​นม​อบ​ให้​นาง​ตอนที่​นางอายุ​ครบ​หนึ่ง​เดือน​ ​แต่กลับ​ไม่เคย​สวม​มัน​เลย​สักครั้ง​ออกมา​…​แล้วก็​กลัว​ว่า​ท่าน​ป้า​สอง​จะ​ถาม​ ​จึง​ตั้งใจ​มาหา​สือ​อี​เหนียง​ช้า​หน่อย

นาง​ไม่สบายใจ​ ​“​ข้า​ ​เมื่อวาน​ข้า​รอ​ข่าว​จาก​ท่าน​แม่​ตลอด​เจ้าค่ะ​…​เลย​นอน​ดึก​…​จึง​ตื่น​สาย​เจ้าค่ะ​”​ ​ยิ่ง​พูด​ยิ่ง​รู้สึก​ผิด​ ​นึกถึง​เรื่อง​ที่​สือ​อี​เหนียง​เคย​สอน​นาง​ ​หาก​ไม่รู้​จะ​พูด​อะไร​ก็​อย่า​พูด​ ​ดีกว่า​พูดโกหก​เสียอีก​ ​นาง​รีบ​นั่ง​ตัวตรง​แล้ว​พูดเสี​ยง​ดัง​ขึ้น​ ​“​ท่าน​แม่เจ้า​คะ​ ​ข้า​ได้ยิน​ป้าวั​่​นบ​อก​ว่า​ ​ท่าน​พ่อ​ตั้งชื่อ​น้อง​หก​ว่า​ ​’​จิ​่น​’​ ​จริง​หรือ​เจ้า​คะ​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ่ง​มั่นใจ​ว่า​ตัวเอง​เดา​ถูก

ถึงแม้ว่า​นาง​จะ​ไม่รู้​ว่า​เด็ก​สอง​คน​นี้​กำลัง​เล่น​อะไร​กัน​ ​แต่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ปกป้อง​สวี​ซื่อ​อวี​้​เช่นนี้​ ​ก็ดี​กว่า​เหยียบย่ำ​เขา​ ​นาง​จึง​ปล่อย​เรื่อง​นั้น​ทิ้ง​ไป​แล้ว​ทำเป็น​คล้อยตาม​คำพูด​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​พ่อ​ของ​เจ้า​กับ​ข้า​คิด​ว่า​ชื่อ​นี้​ไม่เลว​…​”

นาง​ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​ร้องไห้​ขึ้น​มา

สือ​อี​เหนียง​รีบ​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​แล้ว​เรียก​ป้าวั​่น​ ​“​ถ่าย​เบา​อีกแล้ว​หรือ​”

ป้าวั​่น​เดิน​เข้ามา​ ​เปิด​ผ้าอ้อม​ออก​ดูก​็​พบ​ว่า​ไม่​เปียก​แต่อย่างใด

“​หรือว่า​อยาก​ดื่ม​น้ำ​เจ้า​คะ​”​ ​ป้าวั​่​นลัง​เล

“​เช่นนั้น​ก็​ป้อน​น้ำ​เขา​!​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​มอง​ด้วย​ความสงสัย

จิ​่น​เกอ​มุ่ย​ปาก​แล้ว​คาย​น้ำ​ที่​ป้อน​ออกมา​

“​หรือว่า​หิว​แล้ว​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​สงสัย

หง​เหวิ​นรี​บอ​อก​ไป​เรียก​แม่นม​กู้​เข้ามา

ครั้งนี้​จิ​่น​เกอ​ทาน​นม​อย่างราบรื่น​ ​แต่​พึ่ง​จะ​ดูด​สองครั​้ง​ ​เขา​ก็​ร้องไห้​ขึ้น​มา​อีก

แม่นม​กู้​สีหน้า​ซีดเซียว​ทันที

ป้าวั​่น​ไม่สน​ใจ​นาง​ ​รีบ​เรียก​แม่นม​อีก​คน​หนึ่ง​เข้ามา

จิ​่น​เกอ​หันหน้า​หนี​แล้ว​ร้องไห้​ ​ไม่​เพียงแค่​นั้น​ ​เขา​ไอ​ราวกับ​สำลัก​อะไร​อยู่​ใน​คอ

ป้าวั​่​นอุ​้ม​เขา​มาตบ​หลัง​เบา​ๆ​ ​เขา​ยิ่ง​ร้องไห้​หนัก​กว่า​เดิม​ ​ทั้ง​ร้องไห้​ไป​ด้วย​ทั้ง​ไอ​ไป​ด้วย

“​ไม่​ถ่าย​เบา​ ​แล้วก็​ไม่​หิว​ ​ดูดนม​ไป​สอง​ที​ก็​ไม่เอา​แล้ว​ ​เขา​เป็น​อะไร​กัน​แน่​ ​หรือว่า​มีปัญหา​อะไร​อย่าง​อื่น​”​ ​นึกถึง​ตอน​คลอด​ ​หมอตำแย​บอกว่า​ไหล่​ของ​เขา​ติด​ ​สือ​อี​เหนียง​เปิด​ผ้าห่ม​ลุก​ออกมา​จาก​เตียง

“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​ลุก​ไม่ได้​นะ​เจ้า​คะ​”​ ​ป้าวั​่​นรีบ​เรียก​นาง​ ​“​หมอ​หลวง​บอกว่า​ท่าน​ต้อง​นอน​พัก​สอง​สาม​วัน​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​อาจจะ​มี​โรค​จาก​การ​อยู่​เดือน​นะ​เจ้า​คะ​”​ ​อยาก​จะ​อุ้ม​ลูก​ไป​ให้​นาง​ ​แต่​เห็น​ว่า​เขา​ไอ​ไม่​หยุด​จึง​ไม่กล้า​ให้​เขา​เอน​ตัว​นอน​ ​อยาก​ไป​ห้าม​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่​ก็​จะ​ให้​คนอื่น​อุ้ม​เขา​ไม่ได้​ ​นาง​จึง​เรียก​ชิว​อวี​่​ ​“​รีบ​รับใช้ฮู​หยิน​นอนลง​เร็ว​เข้า​”

จิ​่น​เกอ​ร้องไห้​จน​หัวใจ​สือ​อี​เหนียง​แทบ​แตกสลาย​ ​เดิมที​ก็ได้​ยิน​เขา​ร้องไห้​ไม่ได้​อยู่​แล้ว​ ​ยืนกราน​ที่จะ​ลุกขึ้น​มา​อุ้ม​เขา​ ​แล้วยัง​เดินไปเดินมา​ตบหลัง​เขา​เบา​ๆ​

ป้าวั​่​นรา​วกับ​หัว​จะ​ระเบิด

นึกถึง​เรื่อง​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​อยู่​ใน​ห้อง​คลอด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​แค่​ได้ยิน​ว่า​ลูก​ไม่สบาย​ก็​รีบ​เข้าไป​พระราชวัง​…​

หากฮู​หยิน​เป็น​อะไร​ไป​…

หวัง​แค่​ว่า​ป้า​เถี​ยน​ที่​ไป​สอน​แม่ครัว​ทำอาหาร​ให้​สือ​อี​เหนียง​ที่​โรง​ครัว​เล็ก​จะ​รีบ​กลับมา​เร็ว​ๆ​

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​เห็น​แม่นม​ป้อน​นม​จิ​่น​เกอ​ ​นาง​ก็​รู้สึก​เขินอาย​ ​ต่อมา​เห็น​จิ​่น​เกอ​ร้องไห้​ ​นาง​ก็​รู้สึก​เป็นห่วง​ ​นาง​จับ​แขน​ป้าวั​่​นพ​ลาง​เอ่ย​ถาม​ ​“​ทำ​เช่นไร​ดี​”

แม้​ป้าวั​่น​จะ​เป็นกังวล​ ​แต่​นาง​ยังคง​มีไหวพริบ​ ​กัดฟัน​พูด​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​คิด​ว่า​ ​เรียก​หมอ​หญิง​เผิ​งมา​ดูดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

สือ​อี​เหนียง​แปลกใจ​ ​“​หมอ​หญิง​เผิง​ยังอยู่​ที่​จวน​หรือ​”

ป้าวั​่​นพ​ยัก​หน้า​ ​“​หมอตำแย​สอง​คน​และ​หมอ​หญิง​เผิง​ล้วนแต่​ยังอยู่​ที่​จวน​เจ้าค่ะ​”​ ​พูด​จบ​ก็​กลัว​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​ไม่เข้าใจ​ ​จึง​พูด​อีกว่า​ ​“​เพราะ​ท่าน​โหวดี​ใจมาก​เลย​บอก​ให้​พวก​นาง​อยู่ร่วม​พิธี​สรง​สาม​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​แล้ว​ค่อย​กลับ​ไป​เจ้าค่ะ​”

ให้​หมอตำแย​เป็น​คน​จัด​พิธี​สรง​สาม​ ​ถึง​ตอนนั้น​เหรียญ​ใน​อ่าง​หมอตำแย​ก็​สามารถ​นำ​กลับ​ไป​ได้​

แต่​เมื่อ​นึกถึง​พฤติกรรม​ของ​หมอ​หญิง​เผิง​วันที่​คลอด​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ลังเล

ตอนนี้​ป้าวั​่​นคิด​เพียง​อยาก​จะ​เกลี้ยกล่อม​ให้​สือ​อี​เหนียง​ไป​นอน​บน​เตียง​

“​หมอ​หญิง​เผิ​งค​นนั​้​นบ​อก​แล้ว​ไม่ใช่​หรือว่า​นาง​ทำคลอด​ไม่​เป็น​ ​ฮองเฮา​ส่ง​นาง​มาก​็​เพื่อให้​นาง​มาดู​อาการ​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​เดิน​เข้าไป​ประคอง​สือ​อี​เหนียง​ ​พาสื​ออี​เหนียง​เดิน​ไป​ที่​เตียง​ ​“​ในเมื่อ​มาจาก​พระราชวัง​ ​ก็​ต้อง​มีความรู้​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​หมอ​หลวง​ของ​สำนัก​หมอ​หลวง​ก็​คงจะ​ไม่ยอม​นาง​ ​ท่าน​ไม่​สู้​ลอง​ให้​นาง​มาดู​คุณชาย​น้อย​หก​ ​หาก​นาง​พูด​มีเหตุผล​ ​เรา​ก็​ทำตาม​ที่นา​งบ​อก​ ​หาก​นาง​พูด​ไม่มีเหตุผล​ ​เรา​ก็​เชิญ​หมอ​หลวง​มาดี​กว่า​”

สือ​อี​เหนียง​มองดู​บุตรชาย​ที่​ร้องไห้​ไม่​หยุด​ ​แล้วก็​นึกถึง​สวี​ลิ่ง​อี๋​

หาก​ทุกอย่าง​ราบรื่น​ ​กว่า​หมอ​หลวง​อู๋​จะ​มาถึง​ก็​ต้อง​รอ​อีก​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ​หรือว่า​จะ​ดู​เขา​ร้องไห้​เช่นนี้​ไป​จนกระทั่ง​ถึง​ตอนนั้น​อย่างนั้น​หรือ

พด​คิดได้​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ไม่​ลังเล​อีกต่อไป​ ​“​ให้​นาง​มาดู​เถิด​!​”

หง​เหวิน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​รีบ​วิ่ง​ออก​ไป​ทันที

ป้าวั​่น​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ที่​ร้องไห้​ไม่​หยุด​มา​เอ่ย​ปลอบ​ด้วย​ความอดทน

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​เจ็บปวด​ตรง​ช่วง​ล่าง​จึง​ปล่อย​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รับใช้​ตัวเอง​มานอ​นบน​เตียง

เวลา​ผ่าน​ไป​ไม่​ถึง​ครึ่ง​ถ้วย​ชา​ ​หมอ​หญิง​เผิ​งก​็​มาถึง

ครั้งนี้​นาง​สวม​เสื้อกั๊ก​ยาว​สีม่วง​ ​มองดู​แปลกตา​เหมือนเดิม

ป้าวั​่​นอุ​้ม​จิ​่น​เกอ​ไป​ให้​นาง​ดู

นาง​ถาม​สาเหตุ​ที่​เรียก​นาง​มาตั​้ง​แต่​ระหว่างทาง​แล้ว​ ​พอ​เข้ามา​ก็​จับชีพจร​ให้​จิ​่น​เกอ​ทันที

แขน​ของ​จิ​่น​เกอ​เล็ก​นิดเดียว​ ​นิ้ว​ของ​หมอ​หญิง​เผิง​ใหญ่​ ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่านาง​ไม่ได้​จับ​ตรง​ชีพจร​ก็​รู้สึก​ไม่พอใจ​ ​เห็น​ดวงตา​ของ​นาง​เลิ​่​กลั​่ก​ไปมา​ ​ท่าที​ไม่​เหมือน​กำลัง​จดจ่อ​อยู่​กับ​การ​จับชีพจร​ ​เลย​สงสัย​ว่านาง​จับชีพจร​เป็นจริง​หรือไม่​ ​แต่​นาง​ก็​เอ่ย​ผล​วินิจฉัย​ขึ้น​มา​พอดี​ ​“​ตอน​คลอด​คุณชาย​น้อย​หก​สำลัก​อะไร​บางอย่าง​ใน​ลำคอ​ ​ข้ามี​ยา​หุย​ชุน​ตัน​ของ​บรรพบุรุษ​ ​ให้​คุณชาย​น้อย​หก​ทาน​สาม​เม็ด​ก็​ไม่มีปัญหา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​พูด​จบ​ ​ก็​นำ​ยาสาม​เม็ด​ที่​ขนาด​เท่า​ไข่​นก​กระทา​ออกจาก​ถุง​ผ้า​ ​“​นำ​ไป​ละลาย​น้ำ​แล้ว​ดื่ม​สาม​ครั้ง​”

หาก​เป็น​ยาม​ปกติ​ ​สือ​อี​เหนียง​คงจะ​ให้เงิน​นาง​สอง​สาม​ตำลึง​แล้ว​ไล่​นาง​ออก​ไป​ ​แต่​ครั้งนี้​นาง​รู้สึก​ไม่เชื่อใจ

หาก​เจ้า​อยาก​หลอก​เอา​เงิน​ก็​ต้อง​ดู​สถานการณ์​ ​ให้​เด็ก​ตัว​แค่นี้​ทาน​ยา​ ​หาก​เป็น​อะไร​ขึ้น​มา​จะ​ทำ​เช่นไร​ ​ไม่มี​ความรับผิดชอบ​เกินไป​แล้ว​!

สีหน้า​ของ​นาง​มืดมน​ลง​ ​ไม่​บอก​ให้​คนรับ​ยานั​้​นมา​ ​นาง​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​ชีพจร​ลอย​คล้าย​ท่อนซุง​ลอยน้ำ​ ​ชีพจร​เต็ม​เต้น​ชน​นิ้วมือ​คล้าย​สายน้ำ​โหมกระหน่ำ​ ​ชีพจร​พร่อง​ที่​เต้น​อ่อน​ไม่มีแรง​ ​ไม่รู้​ว่า​ชีพจร​ของ​จิ​่น​เกอ​เป็น​อย่างไร​หรือ​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท