เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค – ตอนที่ 505 ความขมปนหวานของเตาหนูผู้ขโมยเคล็ดลับ (4)

ตอนที่ 505 ความขมปนหวานของเตาหนูผู้ขโมยเคล็ดลับ (4)

ตระกูลเก่าแก่สุดยอดเหนือชั้นอะไรนั่นก็เป็นมนุษย์เหมือนกันมิใชหรือไร!

อีกอย่างนางก็ถูกใจบุรุษรูปงามเข้าแล้ว ใครจะกล้าทำให้นางรามือได้

จะกัดเขาไม่ปล่อยแน่!

อากาศร้อนอบอ้าวนัก

เพราะมีการช่วยเหลือของหนิงเซ่าชิงกับถงจื่อจิ้ง ยามนี้เรือนกระจกของมั่วเชียนเสวี่ยจึงสร้างขึ้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว

นอกจากตอนแรกเริ่มที่นางจะมาดูทุกวันแล้ว หลังจากช่วงนั้นมานางก็มอบอำนาจทั้งหมดให้หวังเทียนซงกับถงจื่อจิ้งไป ให้พวกเขาสองคนจับตาดูด้วยกัน

มั่วเชียนเสวี่ยกับหนิงเซ่าชิงแต่งงานกันโดยสมรสพระราชทานของฝ่าบาท อีกทั้งมั่วเชียนเสวี่ยก็เป็นสาวเต็มตัวแล้วด้วย

ดูๆ แล้วพิธีหมั้นก็น่าจะถึงเวลาจัดขึ้นแล้วเช่นกัน

มั่วหมัวมัวไม่อยู่ เรื่องพวกนี้ย่อมไม่มีใครจัดการให้นาง

ส่วนพวกคนที่พามาจากหมู่บ้านหวังจยา แม้ว่าจะมีคนชรา แต่ครอบครัวเกษตรกรเดิมทีก็ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าพิธีหมั้นอยู่แล้ว โดยมากหลังจากทั้งสองบ้านถูกใจกันแล้วก็เอาวันเดือนปีเกิดของทั้งสองคนไปทำนาย แล้วเลือกฤกษ์แต่งงานก็เป็นอันเสร็จ

ในเมืองหลวงพวกตระกูลชั้นสูงเดิมทีก็พิธีรีตองมากอยู่แล้ว การหมั้นหมายนี้ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ขาดไม่ได้ นางต้องจัดการให้ดี ถึงเวลานั้นจะได้ไม่โดนคนอื่นดูถูก

ก่อนหน้านี้หลายวัน จย่าฮูหยินจึงมาหาโดยเฉพาะเพื่อพูดคุยเรื่องนี้กับมั่วเชียนเสวี่ย และให้นางอย่าได้ลืมเป็นอันขาด ถึงเวลานั้นจะได้ไม่กลายเป็นเรื่องตลกของคนอื่น

อันที่จริงมั่วเชียนเสวี่ยยังอับอายอยู่จริงๆ เพราะหากมิใช่จย่าฮูหยินตักเตือนไว้ นางอาจจะลืมไปจริงๆ แล้วก็ได้

หมู่นี้มีเรื่องราวมากมายนัก แค่เรื่องเรือนกระจกอย่างเดียวก็ทำเอานางยุ่งเสียจนหัวหมุนไปหมดแล้ว นี่ยังไม่รวมเรื่องโรงงานเครื่องปรุงนะ

ยามนี้โรงงานเครื่องปรุงเชียนมั่วเมืองเทียนเซียงค่อยๆ เข้าที่เข้าทางแล้ว และทุกอย่างดำเนินไปอย่างมีลำดับขั้นตอนอย่างเร่งรีบ

ทว่าด้านโรงงานเครื่องปรุงยังไม่ได้เริ่มสร้างในขอบเขตแปลงที่ดินทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยวเลย

ต้องเป็นระเบียบ ต้องซื้อคน ต้องปลูกสร้าง…

นางยุ่งจะตายอยู่แล้ว!

อีกอย่างมั่วเชียนเสวี่ยก็เป็นดวงวิญญาณของคนยุคปัจจุบัน เดิมทีก็ไม่เข้าใจเรื่องการหมั้นหมายของคนโบราณเลยสักนิด จะจำไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

มั่วเชียนเสวี่ยไม่ค่อยได้ใส่ใจเรื่องการหมั้นหมายนี้เท่าใดนัก แต่หนิงเซ่าชิงกลับจำได้ตลอด

ไม่กี่วันก่อนเขาไปที่เรือนฉือหนิงเพื่อคารวะเหล่าฮูหยินแล้วเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจอยู่เลย

แม้ว่ายามนี้ในใจเขาจะรำคาญเหล่าฮูหยิน แต่เรื่องการหมั้นหมายนั้นต้องผ่านด่านเหล่าฮูหยินเสียก่อน จึงไม่มีอะไรต้องคิดเลย

เรื่องบางเรื่องเขาก็ทำได้แค่เลือกก้มหน้าก้มตาทน

ขอแค่เหล่าฮูหยินไม่ทำเกินไปอีก เขาก็จะยังดีต่อนางเหมือนเดิม อย่างไรเสียนางก็เป็นย่าแท้ๆ ของเขา บุญคุณในการเลี้ยงดูสั่งสอนยี่สิบกว่าปีก็ไม่ใช่ว่าจะลบล้างกันได้ตอนนี้เดี๋ยวนี้ เลือดย่อมข้นกว่าน้ำอยู่แล้ว

ญาติๆ รอบตัวเขาเดิมทีก็ไม่ได้มากมายอะไร

แน่นอนว่าความดีนั้นเป็นเพียงการเคารพและมารยาทเพียงผิวเผินเท่านั้น ภายในใจเขาไม่มีทางจริงจังจริงใจอีกอยู่แล้ว

“เหล่าฮูหยิน ท่านว่าหัวหน้าตระกูลจะจัดพิธีหมั้นกับคุณหนูใหญ่ตระกูลมั่วแล้ว พวกเราก็ต้องแสดงออกอะไรหน่อยหรือไม่”

ในเรือนฉือหนิงมีเหมยฮูหยิน จิ้งฮูหยินและจื่อฮูหยินนั่งอยู่ตรงตำแหน่งด้านล่าง มองหนิงเหล่าฮูหยินอย่างเคารพนบนอบ

เมื่อเทียบเหมยฮูหยินที่ไม่มีเรื่องอะไรก็ชอบหาเรื่องจิ้งเหล่าฮูหยินแล้ว จื่อฮูหยินก็แค่นั่งให้ที่มันครบๆ เท่านั้น ตอนที่ต้องการก็จะหัวเราะเสียงนุ่มๆ ไป

นางไม่ใช่สองคนตรงหน้านี้ที่ไม่ไว้หน้าใคร

แม้ว่ายามนี้พวกนางจะไม่ถูกใจมั่วเชียนเสวี่ยเพียงใด แต่คนเขาได้รับสมรสพระราชทานแล้ว เว้นเสียแต่ว่าฝ่าบาทจะเอ่ยปากยกเลิกการแต่งงานเอง หรือไม่ก็มั่วเชียนเสวี่ยตาย มิฉะนั้นไม่ว่าใครก็อย่าได้คิดแยกพวกเขาสองคนออกจากกันได้!

ทว่าฝ่าบาทเป็นใครกันล่ะ ตรัสแล้วไม่คืนคำ จะทรงกลับคำที่ตรัสออกไปแล้วได้อย่างไร

มั่วเชียนเสวี่ยมีคนมากมายคอยปกป้องอยู่ จะตายง่ายๆ ได้อย่างไรกันล่ะ

จื่อฮูหยินคิดในใจ มั่วเชียนเสวี่ยแต่งเข้าตระกูลหนิงไป นั่นล้วนเป็นเรื่องที่แน่เสียยิ่งกว่าแน่อีก! พวกนางสองคนไม่อยากประจบสอพลอโดยไร้สมอง นึกไม่ถึงว่ายังยิงธนูเย็นลับหลังคนเขา ช่างโง่เขลานัก!

ดูเสียก่อนสิว่าหัวหน้าตระกูลยามนี้มีท่าทีเช่นไรต่อมั่วเชียนเสวี่ย ภายหน้ามั่วเชียนเสวี่ยแต่งเข้ามายังจะได้รับความไม่เป็นธรรมอีกหรือ

จื่อฮูหยินดื่มชาเงียบๆ คำหนึ่ง นางไม่เอ่ยว่าร้ายตามคนอื่นๆ ด้วย

ส่วนคำพูดของเหมยฮูหยินนี้พูดแทงใจดำของหนิงเหล่าฮูหยินเข้าเสียแล้ว!

อวี่เหวินหันเหล่ยเป็นคนไร้ความสามารถ นางก็ไม่ได้หวังจะใช้อวี่เหวินหันเหล่ยมามัดใจหนิงเซ่าชิงเอาไว้อยู่แล้ว ดังนั้นนางจึงเขียนจดหมายกลับให้บ้านเดิม ให้บ้านเดิมส่งสตรีที่ฉลาดเฉลียวมาอีกสองคน

เดิมทีคิดว่าสามถึงห้าวันนี้ก็คงจะเดินทางมาแล้ว ทว่ายามนี้เกือบจะหนึ่งเดือนเข้าไปแล้วยังมาไม่ถึงเลย!

เดิมทีหนิงเหล่าฮูหยินก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนเรื่องนี้มีลับลมคมในอะไรซ่อนอยู่แล้ว ยามนี้นางมาได้ยินพวกนางเอ่ยถึงมั่วเชียนเสวี่ยขึ้นมาอีก จึงย่อมเดือดดาลขึ้นมากกว่าเดิม

“แสดงออกอะไรล่ะ เฮอะ!”

หนิงเหล่าฮูหยินท่าทางดูเหมือนไม่แยแส แต่คำพูดแทบจะแค่นออกมาจากจมูกอยู่แล้ว

“ก็แค่เด็กสาวไร้บิดาคนหนึ่ง นังเด็กที่เกิดจากตระกูลธรรมดาไร้ชนชั้น ไม่ใช่เพราะตอนนั้นบิดามีบุญคุณต่อฝ่าบาทจึงมีบุญได้ตำแหน่งมาหรือไร นึกไม่ถึงว่าจะกล้าคิดเพ้อฝันมาปีนความสัมพันธ์กับตระกูลใหญ่อย่างพวกเราตระกูลหนิง ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาเสียเลย! พวกเจ้าจำเอาไว้เลยนะ! ต้องแสร้งทำเป็นลืมเรื่องการหมั้นไป…”

นัยน์ตาคมกริบกวาดมองสตรีทั้งสามที่นั่งอยู่ด้านล่าง ก่อนสั่งว่า “เรื่องนี้ไม่ว่าใครก็อย่าได้พูดถึงเด็ดขาด! ตระกูลหนิงของพวกเราไม่ได้เป็นคนเริ่ม ข้าไม่เชื่อหรอกว่าตระกูลมั่วของนางจะสามารถหน้าด้านมาขอให้หมั้นหมายถึงที่ได้”

ยื้อเอาไว้! ต้องยืดเวลาออกไปให้ได้!

ต้องยืดเวลาจนถึงพวกหลานสาวบ้านเดิมของนางมาถึง หลังจากนั้นนางจะไล่ดูทีละคนก่อน จึงจะสามารถจัดพิธีหมั้นน่ารำคาญนี้ได้!

หนิงเหล่าฮูหยินคิดเสียเป็นเรื่องง่าย นั่นคือก่อนพิธีหมั้นก็ให้สตรีตระกูลอวี่เหวินมาล่อลวงใจหนิงเซ่าชิงเอาไว้ก่อน ทำแบบนี้แล้วตอนที่เขาไปหมั้นหมายที่บ้านตระกูลมั่วก็ไม่มีทางถูกใจแล้วล่ะ! และตบหน้านังแพศยามั่วเชียนเสวี่ยไปสักฉาดแรงๆ ด้วย!

อันที่จริงจะว่าไปแล้ว ในใจนางก็ยังโกรธเคืองมั่วเชียนเสวี่ยอยู่

อีกนัยหนึ่งคือไม่ใช่ว่าโกรธแค้นมั่วเชียนเสวี่ย แต่โกรธเคืองหลานชายแท้ๆ ของตัวเองอย่างหนิงเซ่าชิงต่างหาก แต่ไม่อาจโกรธหลานชายตัวเองได้ จึงได้เอาความโกรธนี้ไประบายใส่มั่วเชียนเสวี่ยอย่างไม่ละอายใจ

เชียนเสวี่ยผู้น่าสงสาร นอนอยู่เฉยๆ ก็ดันโดนยิงเสียได้!

สำหรับโทสะนี้ของเหล่าฮูหยิน เหมยฮูหยินและจิ้งฮูหยินย่อมไม่สนใจอยู่แล้ว

จนกระทั่งตอนนี้พวกนางต่างจำงานเลี้ยงชมดอกไม้ในตอนนั้นได้ขึ้นใจ ว่ามั่วเชียเสวี่ยทำพวกนางอเนจอนาถเพียงใด! ครานี้หากมั่วเชียนเสวี่ยขายหน้าในพิธีหมั้นหมายจริงๆ พวกนางคงหัวเราะกันได้เป็นเดือนๆ แน่!

ส่วนจื่อฮูหยินก็แค่หลุบตาเก็บงำประกายไว้ ไม่พูดไม่จาอะไร

เรื่องพรรค์นี้นางไม่ต้องไปสนใจเลยสักนิด และไม่ต้องไปเป็นคนดีบอกความลับด้วย เพราะนางรู้ดีอยู่แก่ใจว่าหนิงเซ่าชิงเห็นมั่วเชียนเสวี่ยเป็นของล้ำค่าเพียงนั้น พิธีหมั้นหมายเขาต้องจดจำไว้อย่างแม่นยำแน่!

อีกทั้งสมมติว่าต่อให้หนิงเซ่าชิงจำไม่ได้ แต่นายท่านก็ย่อมจำได้อยู่แล้ว! เรื่องพรรค์นี้ยังต้องให้นางเตือนนายท่านด้วยรึ

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

Status: Ongoing

เพราะสำลักน้ำชาจนขาดอากาศ(?)ทำให้ มั่วเชียนเสวี่ย สาวมั่นหัวการค้าทะลุมิติมาอยู่ในโลกยุคโบราณและในร่างของคนอื่น

แต่นั่นยังไม่น่าตระหนกเท่าการที่ร่างนี้กำลังจะแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้กับชายหนุ่มที่ป่วยร่อแร่เต็มที!

ในโลกที่หากขาดที่พึ่งผู้หญิงก็สามารถถูกขายเป็นทาสได้ตลอดเวลาสามีคนนี้ของนางนับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

ทั้งมีความรู้ สุภาพและไม่ใช้กำลังแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย เสียตรงร่างกายอ่อนแอไปหน่อยเท่านั้น

ชีวิตครอบครัวชนบทแสนยากจนของนางจึงเริ่มขึ้นที่ตรงนั้น… แต่อย่างไรนางไม่ยอมงอมืองอเท้ารับชะตากรรมแบบนี้แน่

ในเมื่อนางมีความรู้ความสามารถยังต้องกลัวสร้างกิจการไม่ได้อีกหรือ?!

เส้นทางร่ำรวยสายนี้นางจะบุกเบิกมันขึ้นมาด้วยตนเอง! และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นด้วยดี

เพราะเหมือน ‘ร่างนี้’ ของนางกับฐานะเดิมของสามีเหมือนจะไม่ค่อยธรรมดาเสียด้วยสิ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท