ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 523 ขาดทุน (ปลาย)

ตอนที่ 523 ขาดทุน (ปลาย)

“​ไม่รู้​ว่า​พี่​สาม​และ​พี่สะใภ้​สาม​ปรึกษาหารือ​กัน​อย่างไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้น​ ​“​ที่​เขียนจดหมาย​มาหา​ข้า​ ​ก็​เพื่อให้​ข้า​ไป​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​ท่าน​แม่​”

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​สัญญา​ก่อนหน้านี้

คุย​กัน​เสร็จสรรพ​เรียบร้อย​ว่า​รอ​อีก​สัก​หลาย​ปี​หน่อย​ ​แล้วจึง​ค่อย​แยกย้าย​ ​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​ครอบครัว​ของ​คุณชาย​สาม​จะ​รีบร้อน​ขนาด​นี้​!

“​แล้ว​ท่าน​โหว​คิดเห็น​อย่างไร​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​หันไป​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋

“​ช่างเถิด​ ​แตง​ที่​ถูก​ฝืน​เด็ด​จาก​ต้น​มัก​ไม่​หวาน​”​ ​เสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ค่อนข้าง​ตรงไปตรงมา​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​สีหน้า​ของ​เขา​ไม่​ค่อย​ดี​เท่าไร​นัก​ ​“​ในเมื่อ​พี่​สาม​และ​พี่สะใภ้​สาม​ตั้งใจ​จะ​ไป​ใช้ชีวิต​ของ​ตนเอง​แล้ว​ ​หาก​เรา​ไม่เห็นด้วย​ ​จะ​เป็นการ​ผิดใจกัน​ใน​วันข้างหน้า​เสียเปล่า​ ​พี่สะใภ้​สาม​ก็​จะ​เอาแต่​ไป​พูดลับหลัง​ไม่​หยุด​ ​ตอนนี้​ก็ได้​สู่ขอ​หลาน​สะใภ้​แล้ว​ ​หาก​จะ​ยืดเยื้อ​กันต​่อ​ ​ก็​จะ​กลายเป็น​ที่​น่าขบขัน​ของ​เด็ก​ๆ​ ​และ​เป็น​แบบอย่าง​ที่​ไม่ดี​ให้​กับ​พวกเขา​เอา​ได้​ ​อีก​อย่าง​ไม่ว่า​พวกเขา​จะ​ย้ายออก​ไป​หรือไม่​ ​ฉิน​เกอ​และ​เจี่ยน​เกอ​เดือดร้อน​อะไร​ ​เรา​ก็​จะ​ต้อง​ยื่นมือ​เข้าไป​ช่วยเหลือ​อยู่​แล้ว​ ​สู้​ทำตาม​ความตั้งใจ​ของ​พี่​สาม​ ​‘​แยก​บ้าน​อยู่​แต่​ไม่​แยก​สกุล​’​ ​ให้​ฉิน​เกอ​และ​เจี่ยน​เกอ​ไปร​่ำ​เรียน​ที่​ตรอก​ซาน​จิ​่ง​ ​ธุระ​ภายใน​จวน​ก็​ให้​ฟัง​ซื่อ​เป็น​คนดู​แล​จัดการ​ ​หาก​พวกเขา​สามารถ​ยืนหยัด​และ​ใช้ชีวิต​กันเอง​ได้​ ​เช่นนั้น​ยัง​จะ​มี​อะไร​ให้​พูด​อีก​ ​ส่วน​ทาง​ฝั่ง​พี่​สาม​และ​พี่สะใภ้​สาม​ก็​คงจะ​ต้อง​ใช้ชีวิต​ด้วย​ตนเอง​แล้ว​ ​ตอนที่​พี่​สาม​และ​พี่สะใภ้​สาม​ไม่อยู่​ ​พวกเรา​ที่​เป็น​อาช​่ว​ยอ​อก​หน้า​ก็​ถือเป็น​เรื่อง​ที่​เหมาะสม​ ​ไม่มี​เรื่อง​อัน​ใด​อย่างแน่นอน​!​”

ก็​จริง​!

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​ฟัง​ซื่อ​ที่พึ่ง​เข้า​จวน​มา​ ​นึกถึง​ตอนที่​นาง​มา​เที่ยวหา​ก็​ยัง​ต้อง​อาศัย​ตอนที่ฮู​หยิน​สาม​ไม่อยู่​ ​ใน​ใจ​แอบ​รู้สึก​ลาง​ๆ​ ​ว่าความ​สนิทสนม​ของฮู​หยิน​สาม​ที่​มีต​่อ​ฟัง​ซื่อ​นั้น​ขัดกัน​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก​ ​ก็​ยิ่ง​ไม่​อยาก​เข้าไป​ยุ่งเกี่ยว​กับ​ปัญหา​ภายใน​ของ​ครอบครัว​คุณชาย​สาม​เข้าไป​ใหญ่

การ​ใช้ชีวิต​ ​หาก​สามารถ​เรียบง่าย​ได้​ก็​ควร​เรียบง่าย​ดีกว่า

“​ในเมื่อ​ท่าน​โหวตัด​สิน​ใจ​ได้​แล้ว​”​ ​นาง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ไป​คุย​เรื่อง​นี้​กับ​ท่าน​แม่​เถิด​!​ ​คำพูด​เช่นนี้​คุณชาย​สาม​จะ​กล้า​เอ่ย​กับ​ท่าน​แม่​ได้​อย่างไร​กัน​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​หลัง​พิธี​ครบรอบ​หนึ่ง​ขวบ​ของ​จิ​่น​เกอ​ผ่าน​ไป​แล้ว​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ ​ฉิน​เกอ​ก็​แต่งงาน​ครบ​เดือน​พอดี​!​”

เดือน​แรก​ของ​การ​แต่งงาน​ห้าม​ให้​เรือนหอ​ว่างเปล่า​ ​และ​ยิ่ง​ห้าม​ย้ายบ้าน​เข้าไป​ใหญ่

บทสนทนา​ของ​ทั้งคู่​ก็​วกกลับ​ไป​เรื่อง​งานพิธี​ครบรอบ​หนึ่ง​ขวบ​ของ​จิ​่น​เกอ

“​…​ท่าน​แม่​อายุ​มาก​แล้ว​ ​พึ่ง​จะ​เหนื่อย​จาก​งานแต่ง​ของ​ฉิน​เกอ​เสร็จ​ก็​ต้อง​มา​เหนื่อย​กับ​พิธี​ครบรอบ​หนึ่ง​ขวบ​ของ​จิ​่น​เกอ​ต่อ​ ​ข้า​กลัว​ว่านาง​จะ​เหนื่อย​เกินไป​ ​จน​ร่างกาย​รับ​ไม่ไหว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ข้าว​่า​พิธี​ครบรอบ​หนึ่ง​ขวบ​ของ​จิ​่น​เกอ​จัด​แบบ​เรียบง่าย​จะ​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ค่อนข้าง​ลังเลใจ

สือ​อี​เหนียง​รีบ​พูด​ขึ้น​อีกว่า​ ​“​อีก​อย่าง​จิ​่น​เกอ​ยัง​จะ​ต้อง​จับ​เสี่ยงทาย​อีกด้วย​ ​ให้​คน​มาดู​เยอะแยะ​ทำไม​กัน​ ​สิ่ง​สำคัญ​คือ​จิ​่น​เกอ​จะ​จับ​อะไร​บ้าง​ต่างหาก​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ถูก​เบี่ยงเบน​ความสนใจ​ไป​ที่​เรื่อง​การ​จับ​เสี่ยงทาย​ครบ​หนึ่ง​ขวบ​ของ​จิ​่น​เกอ​แทน

“​เช่นนั้น​ก็​จัด​แบบ​เรียบง่าย​ดีกว่า​!​”​ ​เขา​เอนกาย​ลงนอน​พลาง​โอบกอด​สือ​อี​เหนียง​ไว้​ ​“​เจ้า​ว่า​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ ​จิ​่น​เกอ​จะ​จับ​อะไร​เป็น​ของ​สิ่ง​แรก​ ​จับ​มีด​สัก​เล่ม​ดีกว่า​ ​จะ​ได้​ส่ง​ไป​ฝึกฝน​ที่​ค่าย​ใหญ่​ซี​ซาน​ ​อย่างน้อย​ก็ได้​เป็น​ผู้บัญชาการ​ระดับ​สาม​อย่างแน่นอน​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​ฟัง​ดู​มั่นใจ​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เหงื่อ​ตก

ไป​ที่​ค่าย​ใหญ่​ซี​ซาน​?​ ​จากนั้น​ก็​อาศัย​บารมี​ของ​บรรพบุรุษ​เข้าไป​ใน​ค่าย​ใหญ่​ซี​ซาน​เหมือน​คน​เหล่านั้น​ ​ใช้ชีวิต​แบบ​นั้น​ทั้ง​ชีวิต​น่ะ​หรือ

“​ค่าย​ใหญ่​ซี​ซาน​มี​อะไร​ให้​น่า​ไป​กัน​!​”​ ​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูด​ขึ้น​ ​“​ข้า​หวัง​ให้​เขา​จับ​หนังสือ​สัก​เล่ม​หรือ​กำ​ต้นหอม​สัก​หนึ่ง​กำมือ​เสียมา​กก​ว่า​ ​เล่าเรียน​หนังสือ​ตำรา​ ​เรียนรู้​การ​ใช้ชีวิต​ ​พอ​เติบโต​ก็​ออกเดินทาง​ท่องเที่ยว​เปิดหูเปิดตา​ ​จะ​ได้​ไม่​เสียที​ที่เกิด​มาทั​้ง​ที​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​นึก​ภาพ​จิ​่น​เกอ​ที่​สวม​เสื้อแขนยาว​กำลัง​ขับ​ขาน​อ่าน​ม้วน​หนังสือ​ใน​มือ​ไม่​ออก​เลย​!​”

สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​แล้วก็​ฉุนเฉียว​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​ข้า​นึก​ภาพ​จิ​่น​เกอ​ที่​วัน​ๆ​ ​เอาแต่​เที่ยวเล่น​เตร็ดเตร่​ไม่​ออก​เสียมา​กก​ว่า​!​”

“​จะ​เป็นไปได้​อย่างไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ผู้บังคับบัญชา​ของ​ค่าย​ใหญ่​ซี​ซาน​นั้น​ไม่ใช่​ใคร​ก็​จะ​สามารถ​เป็นได้​ ​นอกจาก​ต้อง​มี​ศักดินา​และ​ชาติกำเนิด​ที่​ดี​แล้ว​ ​ยัง​ต้อง​เก่งกาจ​และ​มี​ความสามารถ​ถึง​จะ​เป็นได้​”

ในเมื่อ​กำลัง​เกลือกกลิ้ง​อยู่​บน​กอง​ฝุ่น​อยู่​แล้ว​ ​สู้​เป็น​ขุนนาง​ข้าราชการ​ไป​เลย​ไม่ดี​กว่า​หรือ​ ​สร้าง​สะพาน​ ​ปู​ถนนหนทาง​ ​ขุด​ลอก​เพิ่ม​คู​คลอง​ ​เพื่อปรับปรุงการ​เป็นอยู่​ของ​ราษฎร​ให้​ดีขึ้น

แต่​ไม่ว่า​จะ​ไป​ที่​ค่าย​ใหญ่​ซี​ซาน​หรือ​ร่ำเรียน​หนังสือเดินทาง​ท่องเที่ยว​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ควรจะ​เคารพ​ใน​ความชอบ​ของ​เด็ก​ถึง​จะ​ถูก​ ​ตอนนี้​พูด​ไป​ก็​จะ​เป็นการ​ยัดเยียด​ความปรารถนา​ของ​พ่อแม่​เสียมา​กก​ว่า

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ตัดสินใจ​จบ​บทสนทนา​นี้​ไป​ ​เหตุใด​ถึง​ต้อง​ไป​ถกเถียง​เพียง​เพราะ​เรื่อง​ที่​ยัง​ไม่ทัน​จะ​ได้​เกิดขึ้น​เสียด​้วย​ซ้ำ

“​จัดการ​เรื่อง​พิธี​ครบรอบ​หนึ่ง​ขวบ​ของ​จิ​่น​เกอ​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ค่อย​มา​ว่า​กัน​อีกที​จะ​ดีกว่า​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​ไม่แน่​บางที​จิ​่น​เกอ​อาจจะ​จับ​ตลับ​ชาด​แดง​ขึ้น​มาก​็​เป็นได้​!​”

การ​จับ​เสี่ยงทาย​ครบ​ขวบ​เป็นเรื่อง​ที่​ต้อง​จัดเตรียม​ล่วงหน้า​ ​ส่วนใหญ่​ก็​จะ​วาง​สิ่งของ​ที่​เป็น​สิริมงคล​ ​ใคร​เขา​จะ​ไป​วาง​ตลับ​ชาด​แดง​กัน​!

รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​ล้อเล่น​ ​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลอง​คิด​แล้ว​กลับ​รู้สึก​ว่าน​่า​สนใจ​ดี​ ​เขา​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ถึง​เวลา​นั้น​เรา​วาง​ตลับ​ชาด​แดง​ไว้​บน​โต๊ะ​สัก​ตลับ​ดี​หรือไม่​ ​ไม่แน่​บางที​เขา​อาจจะ​เลือก​หยิบ​ตลับ​ชาด​แดง​ขึ้น​มาก​็​เป็นได้​!​”

“​จะ​วาง​ก็แล้วแต่​ท่าน​โหว​เถิด​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​กลัว​ก็​แต่​ตอนที่​จิ​่น​เกอ​โต​ขึ้น​จะ​รู้สึก​ว่า​เรา​เป็น​พ่อแม่​ที่​ไม่ชอบธรรม​เสียมา​กก​ว่า​!​”

“​นี่​เป็น​สิ่ง​ที่​เจ้า​พูด​เอง​ไม่ใช่​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​หันมา​หา​สือ​อี​เหนียง

ภายใต้​แสงไฟ​ของ​ตะเกียง​ ​ผิว​ของ​นาง​ขาว​เนียน​ละเอียด​ราวกับ​หิมะ​ ​เนียน​เงา​จน​สะท้อน​แสงไฟ​อย่างเห็นได้ชัด

ใน​ใจ​ของ​เขา​หวั่นไหว​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​สูด​ลมหายใจ​เข้า​ลึก​ ​สั่ง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​อาการ​ติดอ่าง​ว่า​ ​“​ดับ​…​ดับ​ตะเกียง​ไฟ​ก่อน​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​เสียง​เบา

จากนั้น​ก็​หันไป​ดับ​ตะเกียง​ไฟ​ตาม​คำเรียกร้อง​ของ​สือ​อี​เหนียง

******

เช้าตรู่​หลังจากที่​ตื่นนอน​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ขมวดคิ้ว​ในขณะที่​นาง​กำลัง​จ้องมอง​คนที​่​นั่ง​อยู่​ใน​กระจก​ราวกับ​ต้นสน​ที่​ไม่​อาจ​ซ่อน​ความเย่อหยิ่ง​กลาง​หว่าง​คิ้ว​ของ​ตน​ได้​ ​แม่นม​กู้​ก็​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​เดิน​เข้ามา​พอดี

สือ​อี​เหนียง​ทอดถอนใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​ทิ้ง​เหตุการณ์​เมื่อครู่นี้​ฝัง​เข้า​ไว้​ใน​ส่วนลึก​ของ​หัวใจ​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ไป​อุ้ม​บุตรชาย

“​จิ​่น​เกอ​ ​เจ้า​ตื่น​แล้ว​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หอม​หน้าผาก​ของ​บุตรชาย​เบา​ๆ​ ​“​เมื่อคืนนี้​เจ้า​หลับ​สบายดี​หรือไม่​”

จิ​่น​เกอ​ฉีก​ยิ้ม​กว้าง​ให้​กับ​นาง​ ​แต่กลับ​ไม่ยอม​พูด​อะไร​ออกมา

สายตา​ของ​นาง​หมอง​หม่น​ลง​ไป​เล็กน้อย

ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะอะไร​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​ยัง​ไม่ยอม​เริ่ม​ฝึก​พูด​อยู่ดี

แม่นม​กู้​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​นอนหลับ​ค่อนข้าง​ลึก​ ​กลางดึก​พลิกตัว​แค่​สองครั​้ง​ ​จากนั้น​ก็​นอน​ยาว​จนถึง​เช้า​เลย​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ขึ้นไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา​ใหญ่​ริม​หน้าต่าง

จู่ๆ​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​คลาน​ออกจาก​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​ยื่นมือ​เข้าไป​หยิบ​ไม้​เคาะ​ที่​แย่ง​มาจาก​ไท่ฮู​หยิน​ออกมา​จาก​ใต้​เตียง​เตา​ ​โบก​ไม้​เคาะ​ไปมา​ต่อหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สีหน้า​ที่​ภาคภูมิใจ

สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​จะ​ยิ้ม​หรือ​ร้องไห้​ดี​ ​นาง​ยื่นมือ​ไป​ลูบ​ศีรษะ​ของ​เขา​เบา​ๆ​ ​“​มิน่าเล่า​ ​เมื่อวาน​นี้​ข้า​ถึง​ได้​หาไม่​เจอ​ ​ที่แท้​แล้ว​เจ้า​ก็​เอา​มาซ​่อ​นอยู​่​ตรงนี้​นี่เอง​!​”

จิ​่น​เกอ​หัวเราะ​เสียงดัง​ด้วย​ความชอบ​ใจ​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​คลาน​เข้าไป​ใน​อ้อมกอด​ของ​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​อุ้ม​เขา​มา​หอม​หนึ่ง​ครั้ง​ ​ก่อน​จะ​หันไป​ถาม​แม่นม​กู้​ว่า​ ​“​สอง​วัน​มานี​้​เขา​ยอม​ทานข้าว​ต้ม​ผัก​แล้ว​หรือยัง​”

ภายใต้​สายตา​ที่​คมกริบ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​แม่นม​กู้​หลุบ​ตาลง​ต่ำ​พร้อมกับ​ตอบกลับ​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​ยัง​ไม่ยอม​ทาน​เหมือนเดิม​เจ้าค่ะ​!​”

“​เจ้า​ไป​คิด​หาวิ​ธีมา​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หันไป​พูด​กับ​นาง​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เรียบ​เฉย​ ​“​ข้า​และ​คน​ของ​จวน​แม่นม​ได้​พูดคุย​กัน​ก่อน​แล้ว​ ​ห้า​ปีนี​้​ ​ไม่ว่า​จิ​่น​เกอ​จะ​ดื่ม​นม​หรือไม่​ ​เจ้า​เอง​ก็​เคย​ให้นม​เขา​ ​เป็น​แม่นม​ของ​เขา​มาก​่อน​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ก็​ควรจะ​ทำให้​ถูกต้อง​ ​ไม่​ควร​โอนอ่อน​ตาม​นิสัย​ของ​เขา​เช่นนี้​ ​เจ้า​เข้าใจ​หรือไม่​”

ใบหน้า​ของ​แม่นม​กู้​เต็มไปด้วย​สีหน้า​ที่​ตื่นตระหนก​ ​นาง​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​แล้ว​รีบ​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ทันที

สวี​ลิ่ง​อี๋​เดิน​เข้ามา​ด้วย​หน้าตา​ที่​สดใส​และ​มีชีวิตชีวา

“​บังคับ​จิ​่น​เกอ​ของ​ข้า​ทานข้าว​ต้ม​ผัก​อีกแล้ว​หรือ​!​”​ ​เขา​พึ่ง​จะ​ฝึก​รำ​กระบี่​เสร็จ​ ​หน้าผาก​ของ​เขา​จึง​เต็มไปด้วย​เม็ด​เหงื่อ

เมื่อ​จิ​่น​เกอ​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ดวงตา​ของ​เขา​ก็​เป็นประกาย​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​รีบ​ยื่นมือ​หา​สวี​ลิ่ง​อี๋​พร้อมกับ​ร้อง​ ​“​อา​…​อา​…​”​ ​ไม่​หยุด

สวี​ลิ่ง​อี๋​จ้องมอง​ใบหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ของ​เขา​ ​จากนั้น​ก็​ยื่นมือ​ไป​อุ้ม​เขา​มา

แต่​จิ​่น​เกอ​กลับ​เอาแต่​ดิ้น​ไปมา​ ​ราวกับว่า​มี​หนาม​กำลัง​ทิ่มตำ​ก้น​ของ​เขา​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​โวยวาย​เอาแต่ใจ​ ​ทั้ง​ดิ้น​ทั้ง​กลิ้ง​อยู่​ใน​อ้อมกอด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​หยุด

สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​เขา​จึง​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ขึ้น​มา​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​โยน​ขึ้นไป​กลางอากาศ

เรือน​ทั้ง​เรือน​ก็​เต็มไปด้วย​เสียงหัวเราะ​ที่​ใส​ซื่อ​บริสุทธิ์​ไร้​ซึ่ง​สิ่งเจือปน​ของ​จิ​่น​เกอ

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กุมขมับ

จิ​่น​เกอ​เห็น​หน้า​บิดา​ของ​เขา​ทีไร​ก็​จะ​เล่น​แบบนี้​ให้​ได้​ทุกครั้ง

สือ​อี​เหนียง​ก็​รีบ​เข้าไป​ห้าม​ทันที​ ​“​เช้าตรู่​เช่นนี้​ ​ท่าน​โหวก​็​เหงื่อ​ท่วม​ทั้งตัว​ ​ลูก​ก็​พึ่ง​จะ​ทาน​นม​เสร็จ​ ​ระวัง​จะ​ไม่สบาย​ท้อง​เอา​ได้​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ชอบ​เล่น​แบบนี้​กับ​จิ​่น​เกอ​เป็นประจำ​ ​ได้ยิน​แล้วก็​โยน​จิ​่น​เกอ​อีก​สองครั​้ง​ ​จากนั้น​ก็​หมุนตัว​ยื่น​จิ​่น​เกอ​ให้​กับ​ป้า​ตู้

แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ยื่นมือ​ไปรับ​แทน

สวี​ลิ่ง​อี๋​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ข้าว​่า​เจ้า​ควร​ไป​นอน​พัก​สักหน่อย​ดีกว่า​กระมัง​!​”

ใบหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​พลัน​แดงก่ำ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​นาง​พยายาม​ฝืน​ทำ​สีหน้า​ให้​ปกติ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ยัง​ไม่ได้​ล้าง​เนื้อ​ล้าง​ตัว​เลย​!​ ​อีก​ประเดี๋ยว​เด็ก​ๆ​ ​ก็​จะ​พากั​นมา​คารวะ​แล้ว​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​จ้องมอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​รอยยิ้ม​ที่​กรุ้มกริ่ม​ ​จากนั้น​ก็​หมุนตัว​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​ชำระ

จิ​่น​เกอ​ที่​กำลัง​เล่น​อย่างสนุกสนาน​อยู่​นั้น​จู่ๆ​ ​ก็​ถูก​ทิ้ง​ไป​ ​เขา​จึง​โมโห​และ​ไม่พอใจ​เป็นอย่างมาก​ ​พยายาม​กระโดด​และ​ดีด​ตัว​ใน​อ้อมกอด​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​หยุด​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​สือ​อี​เหนียง​รู้ทัน​เขา​แต่แรก​ว่า​เขา​จะ​ต้อง​เป็น​แบบนี้​ ​เกรง​ว่า​ตอนนี้​คงจะ​ดิ้น​จน​ตก​พื้น​ไป​แล้ว

แม่นม​กู้​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ประจบ​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​ของ​เรา​ร่างกาย​กำยำล่ำสัน​จริง​เชียว​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​มอง​นาง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ขึ้นไป​นั่งเล่น​กับ​จิ​่น​เกอ​บน​เตียง​เตา

จู๋​เซียง​เดิน​เข้ามา​ใน​ห้อง​พอดี​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ดูเหมือนว่า​มีเรื่อง​จะ​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​จึง​หันไป​สั่ง​กับ​บ่าว​รับใช้​ที่​ปรนนิบัติ​อยู่​ใน​ห้อง​ว่า​ ​“​ไป​เตรียม​โต๊ะอาหาร​ได้​แล้ว​!​”

เหล่า​บรรดา​สาวใช้​ต่าง​พากัน​ถอย​ออก​ไป​จาก​ห้อง​อย่างเบามือ​เบา​เท้า

จู๋​เซียง​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​สาม​พา​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ใน​ตอนแรก​ก็​ยัง​พูด​เอาใจ​ไท่ฮู​หยิน​ ​หลังจากนั้น​ก็ได้​พูดถึง​เรื่อง​ของขวัญ​ร่วม​แสดงความยินดี​ที่​ได้มา​จาก​แขก​ขึ้น​มา​เจ้าค่ะ​!​”

สุดท้าย​แล้วฮู​หยิน​สาม​ก็​อด​รน​ทนไม่ไหว

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​ความคิด​ของ​ครอบครัว​คุณชาย​สาม​ที่ว่า​ ​‘​แยก​บ้าน​อยู่​แต่​ไม่​แยก​สกุล​’

มิน่าเล่า​นาง​ถึง​ได้​รีบร้อน​ขนาด​นี้

หากว่า​ไม่​สามารถ​นำ​ของขวัญ​ร่วม​แสดงความยินดี​ที่​ได้มา​จาก​แขก​มา​ไว้​ใน​มือ​ก่อนที่จะ​เดิน​ออกจาก​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ ​วันข้างหน้า​เห็นที​ก็​คงจะ​ไม่มี​โอกาส​อีกแล้ว​!

“​ไท่ฮู​หยิน​ว่า​อย่างไรบ้าง​”

“​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ถามฮู​หยิน​สาม​ว่า​ ​ต่อไป​ภายภาคหน้า​เรื่อง​งานพิธี​ต่างๆ​ ​จะ​เก็บของ​ขวัญ​ร่วม​แสดงความยินดี​ของ​แต่ละ​เรือน​เอง​ใช่​หรือไม่​”​ ​น้ำเสียง​ของ​จู๋​เซียง​เคล้า​ไป​ด้วย​ความตลกขบขัน​ ​“​ยัง​บอกอี​กว่า​เช่นนั้น​ก็​เรียก​ท่าน​และ​ครอบครัว​คุณชาย​ห้ามา​คุย​ให้​ชัดเจน​ ​ทาง​ฝั่ง​ท่าน​เป็น​ทายาท​หลัก​ ​ของขวัญ​ร่วม​แสดงความยินดี​ที่​ได้มา​จาก​จวน​หย่ง​ชัง​โหว​ ​จวน​จง​ชัง​โหว​และ​จวน​จง​ฉินปั​๋​วก​็​ย่อม​ต้อง​ให้​เรือน​ของ​ท่าน​อยู่​แล้ว​ ​ส่วน​ของขวัญ​ร่วม​แสดงความยินดี​ที่​ได้มา​จาก​ทาง​ตรอก​หง​เติ​งก​็​ต้อง​เป็น​ของ​เรือนฮู​หยิน​ห้า​ ​นอกจาก​ของขวัญ​ร่วม​แสดงความยินดี​ของ​กานฮู​หยิน​แล้ว​ ​ของขวัญ​ร่วม​แสดงความยินดี​รายการ​อื่นๆ​ ​ก็​จะ​เป็น​ของฮู​หยิน​สาม​ ​ใคร​เก็บ​เอา​ของขวัญ​ร่วม​แสดงความยินดี​ไป​เป็น​ของส่วนตัว​ก็​จะ​ต้อง​เป็น​คนรับ​ผิด​ชอบ​ค่าใช้จ่าย​ใน​การ​จัดงาน​เลี้ยง​เอง​ ​ถึง​เวลา​นั้น​หาก​นับ​ตาม​จำนวน​คน​แล้ว​ ​ก็​จะ​รู้​ว่าแต่​ละ​เรือน​มีค่า​ใช้จ่าย​ทั้งหมด​เท่าไร​”

ของขวัญ​ที่​แต่ละ​จวน​ส่ง​มา​ให้​ล้วน​เป็น​ขวัญ​ที่​ล้ำค่า​ทั้งนั้น​ ​ไม่​เหมือน​ของขวัญ​ที่​มอบให้​โดยส่วนตัว​ ​ส่วนใหญ่​แล้ว​เป็น​เพียง​ของขวัญ​เล็ก​ๆ​ ​หาก​เป็น​เช่นนี้​ ​บ้าน​คุณชาย​ห้า​และ​บ้าน​คุณชาย​สาม​ก็​จะ​ต้อง​ขาดทุน​อย่างแน่นอน​ ​แต่​สวี​ซื่อ​ฉิน​แต่งงาน​ครั้งนี้​ ​แขก​ทาง​ฝั่ง​ตรอก​หง​เติ​งมี​เพียง​หนึ่ง​โต๊ะ​เท่านั้น​ ​จะ​ขาดทุน​อย่างไร​ก็​ไม่ได้​หนักหนา​สาหัส​เท่าไร​นัก​ ​แต่​สกุล​กาน​กลับ​มี​แขก​ตั้ง​สิบ​โต๊ะ​…

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​สาม​ย่อม​ไม่กล้า​ตอบ​อยู่​แล้ว​!​”

“ฮู​หยิน​สาม​ได้ยิน​แล้วก็​รับปาก​อย่าง​ส่ง​ๆ​ ​ไป​”​ ​จู๋​เซียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​จากนั้น​ไท่ฮู​หยิน​ก็​พูดถึง​เรื่อง​ของ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​ขึ้น​มา​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ค่อนข้าง​รู้สึก​แปลกใจ

จู๋​เซียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ต่อไป​ว่า​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​ว่า​ระยะทาง​ร่วม​สิบ​ลี้​ ​ประเพณี​ก็​ไม่​เหมือนกัน​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​เติบโต​ที่​เจียง​หนาน​ ​ตอนนี้​มา​เป็น​สะใภ้​แล้ว​ ​ย่อม​มีเรื่อง​มากมาย​ที่​ไม่​คุ้นชิน​หรือยัง​ปรับตัว​ไม่ได้​อย่างแน่นอน​ ​ให้ฮู​หยิน​สาม​อบรม​ชี้แนะ​เกี่ยวกับ​เรื่อง​กฎระเบียบ​และ​ขนบธรรมเนียม​ให้​กับ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​ดี​ๆ​ ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​จะ​ได้​ไม่ต้อง​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​ทำตัว​ไม่​ถูก​”

สอน​เรื่อง​กฎระเบียบ​และ​ขนบธรรมเนียม​แก่​ลูกสะใภ้​ ​แน่นอน​ว่าย​่​อมต​้​อง​ให้​ลูกสะใภ้​คอย​ติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​เพื่อที่จะ​สะดวก​ต่อ​การสอน​ ฮู​หยิน​สาม​ให้​สวี​ซื่อ​ฉิน​อยู่​ที่​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​นาง​อยาก​จะ​อบรม​สอนสั่ง​และ​ชี้แนะ​ลูกสะใภ้​ ​แน่นอน​ว่า​ต้อง​อยู่​ที่​จวน​หย่ง​ผิง​โหวต​่อ​ ​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ก็​เท่ากับ​ว่านาง​จะ​ต้อง​กลับมา​ใช้ชีวิต​ที่​ต้อง​อดทน​อดกลั้น​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​เหมือนเดิม​ ​ชีวิต​ที่​เบื้องบน​มี​แม่​สามี​ ​เบื้องล่าง​มีลูก​สะใภ้​ ​และ​รอบข้าง​ล้อมรอบ​ไป​ด้วย​เหล่า​บรรดา​สตรี​ใน​ครอบครัว​ ​แต่​คุณชาย​สาม​นั้น​อยู่​ที่​ซาน​หยาง…

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท