ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 527 เกิดความขัดแย้ง (ต้น)

ตอนที่ 527 เกิดความขัดแย้ง (ต้น)

​สือ​อี​เหนียง​พลัน​โล่งใจ​ทันที​ ​นาง​รีบ​เดิน​เข้าไป​ต้อนรับ​ ​“​พี่​หญิง​สี่​ทำไม​พึ่ง​มา​เล่า​เจ้า​คะ​”​ ​เห็น​นาง​พาสาว​ใช้​มาด​้วย​แค่​คนเดียว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ถาม​ด้วย​ความสงสัย​ ​“​แล้ว​เหตุใด​ถึง​ไม่​พา​ฉี่​เกอ​มาด​้วย​”

​บุตรชาย​คนที​่​สาม​ของ​ซื่อ​เหนียง​มีนาม​ว่า​ฉี่​เกอ

​“​เขา​ยัง​เด็ก​เกินไป​”​ ​ซื่อ​เหนียง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​กลัว​เขา​จะ​เอะอะโวยวาย​ ​รอ​อีก​สอง​สาม​วัน​ ​รอ​เจ้า​หาย​ยุ่ง​แล้ว​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​ค่อย​พา​เขา​มาหา​เจ้า​”​ ​เมื่อ​เห็น​โต๊ะ​ยาว​ที่​เต็มไปด้วย​สิ่งของ​จับ​เสี่ยงทาย​ใน​ห้องโถง​ ​นาง​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​อีก​เดี๋ยว​ก็​จะ​จับ​เสี่ยงทาย​แล้ว​ใช่​หรือไม่​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​สนใจ​ข้า​หรอก​ ​ไป​จัดการ​เรื่อง​ของ​เจ้า​เถิด​”

​ระหว่าง​ที่นา​งกำ​ลัง​พูด​ ​ไท่ฮู​หยิน​และ​หวงฮู​หยิน​ก็​เดิน​ไป​ที่​หน้า​โต๊ะ​ยาว​ ​รอดู​จิ​่น​เกอ​จับ​เสี่ยงทาย​

​สือ​อี​เหนียง​ไม่มีเวลา​คุย​กับ​ซื่อ​เหนียง​ ​นาง​รีบ​พูด​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​ไป​ก่อน​นะ​เจ้า​คะ​”​ ​จากนั้น​ก็​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ไป​ที่​โต๊ะ​ยาว

​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​กอด​แขน​ซื่อ​เหนียง​ ​เรียก​นาง​ว่า​พี่​หญิง​สี่​อย่างสนิทสนม​แล้ว​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ทาน​ยาที​่​พี่​หญิง​สี่​นำมา​ให้​ ​ดวงตา​ของ​ท่าน​แม่​ดีขึ้น​มาก​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​บอกว่า​หาก​ข้า​เจอ​พี่​หญิง​สี่​ต้อง​มา​ขอบพระคุณ​พี่​หญิง​สี่​ให้​ได้​”

​“​พี่น้อง​กัน​ ​อย่า​พูด​เช่นนี้​เลย​”​ ​ซื่อ​เหนียง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ยา​ได้ผล​ก็ดี​ ​มัน​ไม่ใช่​ของ​หายาก​อะไร​ ​ก็​แค่​ทาน​ยา​ถูก​กับ​อาการ​ ​หาก​หมด​แล้วก็​ไป​ขอที​่​จวน​ข้า​เพิ่ม​ก็ได้​”

​“​จะ​ให้​พี่​หญิง​สี่​ช่วย​ซื้อ​ยา​ให้​ได้​เช่นไร​กัน​”​ ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​พี่​หญิง​สี่​ไม่​สู้​บอก​ข้าว​่า​ยานั​้น​ซื้อ​มาจาก​ที่ไหน​ ​พี่​หญิง​สี่​จะ​ได้​ไม่ต้อง​ออก​ไปร​้า​นขาย​ยา​เอง​”

​“​ได้​สิ​!​”​ ​ซื่อ​เหนียง​ตอบกลับ​อย่างตรงไปตรงมา​ ​“​ร้าน​ยาร​้า​นนั​้​นมี​สูตร​ลับ​การรักษา​โรค​เกี่ยวกับ​ดวงตา​ที่​สืบทอด​มาจาก​บรรพบุรุษ​ ​เจ้า​พา​แม่​สามี​ของ​เจ้า​ไป​จับชีพจร​ที่นั่น​เถิด​”​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ที่ตั้ง​ของ​ร้านขายยา​ให้​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ฟัง

​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​จดจำ​เอาไว้​ได้​แล้ว

​จากนั้น​ซื่อ​เหนียง​ก็​มอง​ไป​ทาง​ห้องโถง​ ​“​ทำไม​ไม่เห็น​อู่​เหนียง​เล่า​”

​“​เมื่อครู่นี้​ยังอยู่​ที่นี่​อยู่​เลย​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​มอง​ไป​ที่​ห้องโถง​ตาม​ซื่อ​เหนียง​ ​“​คุย​กับ​นาย​หญิง​สี่​สกุล​ถัง​ใน​ห้องโถง​ ​แต่​ตอนนี้​หาย​ไป​ไหน​แล้วก็​ไม่รู้​”​ ​ทันทีที่​พูด​จบ​ ​ก็ได้​ยิน​เสียงหัวเราะ​ดัง​มาจาก​โต๊ะ​ยาว​ใน​ห้องโถง​ ​มี​คนพูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​จิ​่น​เกอ​ของ​เรา​จับ​หมวก​แม่ทัพ​”

​พวก​นาง​สอง​คน​ก็​ไม่สน​ใจ​อู่​เหนียง​อีกต่อไป​ ​รีบ​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้องโถง​อย่างรวดเร็ว

​จิ​่น​เกอ​ที่​สวม​เสื้อ​อ่าว​สีแดง​และ​ห้อย​สร้อย​สีทอง​ ​ทิ้ง​หมวก​แม่ทัพ​ใน​มือ​ออก​แล้ว​หันหน้า​ไป​จับ​กระบอก​สุรา​ที่​วาง​อยู่​ข้างๆ​

​“​ไอ​๊​หยา​ ​จับ​กระบอก​สุรา​ต่างหาก​”​ ​มี​คน​หัวเราะ​ขึ้น​มา​ ​แต่​จู่ๆ​ ​ก็​มี​คนพูด​ว่า​ ​“​อัธยาศัย​ดี​ ​มีส​หาย​ทั่วทุก​หน​แห่ง​”

​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​เห็น​จิ​่น​เกอ​นั่ง​กัด​กระบอก​สุรา​อยู่​ตรงนั้น​อย่าง​มีความสุข​ ​ราวกับ​กำลัง​ลอง​กัด​ดู​ว่า​มัน​ทนทาน​หรือไม่​ ​นาง​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​“​พี่​หญิง​สี่​เจ้า​คะ​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​จิ​่น​เกอ​จะ​จับ​กระบอก​สุรา​”

​ซื่อ​เหนียง​เห็นท่า​ที​ของ​จิ​่น​เกอ​นาง​ก็​ขบขัน​เช่นกัน​ ​นาง​เป็น​คนฉลาด​ ​รู้​ว่าการ​จับ​เสี่ยงทาย​ก็​มี​เทคนิค​เหมือนกัน​ ​นาง​ไม่ได้​คิด​ว่า​คน​คน​หนึ่ง​จับได้​อะไร​แล้ว​โตมา​จะ​เป็น​เช่นนั้น​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​กระบอก​สุราชิ​้​นนั​้น​สวยงาม​สะดุดตา​จน​เกินไป​ ​ไม่​แปลกที่​จิ​่น​เกอ​จะ​เลือก​จับ​มัน​”

​กระบอก​สุรา​สีฟ้า​ ​ลวดลาย​แกะสลัก​ประณีต​งดงาม​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เด็กน้อย​ ​แม้แต่​ผู้ใหญ่​เอง​เห็น​เช่นนี้​ก็​ยัง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​จับ​มาดู​

​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​รู้สึก​ว่า​ซื่อ​เหนียง​พูด​มีเหตุผล​ ​“​แต่ว่า​หมวก​แม่ทัพ​ก็​สวย​เหมือนกัน​นี่​เจ้า​คะ​ ​ส่งแสง​เปล่งประกาย​ ​แล้วยัง​ประดับ​ด้วย​ผ้า​สีแดง​…​”

​พวก​นาง​กำลัง​พูดคุย​กัน​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ยิ้ม​แล้ว​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ขึ้น​มา​ ​“​ดี​ ​ดี​ ​ดี​ ​ต่อไป​จิ​่น​เกอ​ของ​เรา​ก็​จะ​เป็น​เมิ​่ง​ฉังจ​วิน​!​”

​ทุกคน​พากัน​เอ่ย​แสดงความยินดี

ฮู​หยิน​สาม​หัวเราะ​แล้ว​ตะโกน​เสียงดัง​ ​“ฮู​หยิน​ทุกท่าน​เชิญ​นั่ง​ก่อน​แล้ว​ทาน​บะหมี่​อายุ​ยืน​ของ​เรา​เถิด​!​”

​ทุกคน​หัวเราะ​อย่าง​สุขสันต์​แล้ว​แยกย้าย​กัน​ไป

​ท่าน​ป้า​ผู้ดูแล​รีบ​เก็บของ​จับ​เสี่ยงทาย​บน​โต๊ะ

ฮู​หยิน​สาม​เห็น​เช่นนี้​ก็​ยืน​อกผาย​ไหล่​ผึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​ฟัง​ซื่อ​เบา​ๆ​ ​“​จิ​่น​เกอ​จับ​กระบอก​สุรา​!​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​มีกลิ่น​อาย​ของ​การ​มีความสุข​บน​ความทุกข์​ของ​ผู้อื่น​

​ฟัง​ซื่อ​ขมวดคิ้ว​แต่กลับ​ไม่​พูด​อะไร

ฮู​หยิน​สาม​รู้สึก​ว่า​ลูกสะใภ้​คน​นี้​ของ​ตัวเอง​ดีทุ​กอย​่าง​ ​แต่​พูดน้อย​เกินไป​ ​พูด​อะไร​ไป​ก็​ไม่มี​ปฏิกิริยา​กลับมา​ ​ทำให้​นาง​รู้สึก​เหมือน​กำลัง​กำหมัด​ชก​ผ้าฝ้าย​ ​นาง​ไม่​ค่อย​พอใจ​สัก​เท่าไร​นัก

​คิด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ตัดสินใจ​ไม่​คิดเล็กคิดน้อย​กับ​ลูกสะใภ้​ของ​ตัวเอง​

พูดน้อย​ก็​มี​ข้อดี​ของ​การ​พูดน้อย​ ​อย่างน้อย​ก็​ไม่​เล่าเรื่อง​ใน​ครอบครัว​ให้​สือ​อี​เหนียง​หรือว่า​ตาน​หยาง​ฟัง​

​นาง​กลับมา​ยิ้ม​อีกครั้ง​ ​แล้วยัง​ยิ้มแย้มแจ่มใส​มากกว่า​เดิม​ ฮู​หยิน​สาม​พูด​กับ​ท่าน​ป้า​ผู้ดูแล​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​“​บอก​ให้​บ่าว​รับใช้​เหล่านั้น​เร่งมือ​หน่อย​ ​หลังจาก​งานเลี้ยง​ที่นี่​สิ้นสุดลง​แล้ว​ ​ก็​จะ​ย้าย​ไป​ดื่ม​ชา​ ​ฟัง​งิ้ว​ที่​โถง​เตี่ยน​ชุน​”

​ท่าน​ป้า​ผู้ดูแล​รีบ​พูด​ ​“​ท่าน​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​เจ้าค่ะ​ ​เมื่อย​กอา​หาร​ชาม​ที่​แปด​เข้ามา​แล้ว​ ​บ่าว​จะ​บอก​ให้​สาวใช้​ส่วนหนึ่ง​ไป​จัดการ​สถานที่​ทันที​”

ฮู​หยิน​สาม​พยักหน้า​อย่าง​พอใจ​ ​จากนั้น​นาง​ก็​มอง​ไป​ที่​อู่​เหนียง​ที่นั่ง​กระซิบกระซาบ​กับ​นาย​หญิง​สี่​สกุล​ถัง​

อู่​เหนียง​คน​นี้​ ​ช่าง​เป็น​คนฉลาด​ ​ทันทีที่​เข้ามา​ก็​เอาแต่​ตัว​ติดกับ​นาย​หญิง​สี่​สกุล​ถัง​ ​แล้วยัง​ปรึกษา​กัน​ว่า​จะ​ทำ​กิจการ​ใบชา​อะไร​ดี.​..

​คิด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​รีบ​หันไป​พูด​กับ​ฟัง​ซื่อ​ ​“​เจ้า​เห็น​สตรีที​่​สวม​ชุด​อ่าว​สีน้ำเงิน​ที่นั่ง​ตรงนั้น​หรือไม่​ ​นั่น​คือ​นาย​หญิง​สี่​สกุล​จง​ซาน​โหว​ ​สกุล​ของ​พวก​นาง​มีอำนาจ​มาก​ที่สุด​ ​แล้วยัง​พูดจา​เป็น​ ​ต่อไป​หาก​เจ้า​เจอ​นาง​ ​ต้อง​คอย​ระมัดระวัง​ให้​มาก​ ​รู้​หรือไม่​”

​ฟัง​ซื่อ​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​บอก​ให้​สาวใช้​ยก​ของว่าง​และ​น้ำชา​เข้ามา​ตอนที่ฮู​หยิน​สาม​กำลัง​พูดคุย​กับ​คนอื่น​ ​ช่วย​หวงฮู​หยิน​และ​คนอื่นๆ​ ​จัดการ​สถานที่​สำหรับ​เล่นไพ่​ ​จากนั้น​ก็​ตรวจสอบ​อาหาร​มื้อ​เย็น​ของ​งานเลี้ยง​…

​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​กลัว​ว่า​เสียง​งิ้ว​จะ​ทำให้​จิ​่น​เกอ​ตกใจ​ ​จึง​อุ้ม​เขา​เดิน​ไปร​อบ​ๆ​ ​หนึ่ง​รอบ​แล้วก็​พา​เขา​กลับ​ไป​ที่​เรือน​หลัก

​ซื่อ​เหนียง​เห็น​เช่นนี้​ก็​เดินตาม​ไป​ ​หยิบ​กล่อง​กล่อง​หนึ่ง​ออกมา​มอบให้​สือ​อี​เหนียง​ ​“​นี่​คือ​ของขวัญ​ของ​ชี​เหนียง​”

​สือ​อี​เหนียง​รับ​มา​แล้ว​เอ่ย​ขอบคุณ​ ​จากนั้น​ก็​นั่งลง​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​กับ​ซื่อ​เหนียง​ ​“​ช่วงนี้​พี่​หญิง​เจ็ด​กำลัง​ยุ่ง​อะไร​อยู่​หรือ​ ​ข้า​ส่งจดหมาย​ไป​ให้​นาง​ ​น้อง​สะใภ้​ห้า​ก็​ส่งจดหมาย​ไป​ให้​นาง​ตั้ง​สาม​ฉบับ​ ​บอก​ให้​นาง​มา​เที่ยว​เยี​่​ยน​จิง​ ​นาง​ตอบกลับ​มา​แค่​ว่าที่​จวน​กำลัง​ยุ่ง​ ​รอ​ให้​เรื่อง​ที่​จวน​เรียบร้อย​แล้ว​ถึง​จะ​ออกเดินทาง​ ​แต่​สุดท้าย​แล้ว​พวก​ข้า​รอ​จนถึง​วันนี้​นาง​ก็​ยัง​ไม่​มา​เจ้าค่ะ​”

​ซื่อ​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​ชี​เหนียง​มาถึง​เยี​่​ยน​จิง​ตั้งแต่​เดือนก่อน​แล้ว​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​แล้วก็​ตกใจ​ ​“​ในเมื่อ​มาถึง​แล้ว​ทำไม​ถึง​ไม่​มาหา​ข้า​เล่า​”​ ​นาง​นึกถึง​นิสัย​ที่​สดใส​ร่าเริง​ของ​ชี​เหนียง​ ​มาถึง​เยี​่​ยน​จิง​ตั้ง​นาน​แล้วแต่​กลับ​ไม่​มา​จวน​สกุล​สวี​ ​ช่าง​ขัด​กับ​นิสัย​ของ​นาง​โดยสิ้นเชิง​ ​แล้ว​พลัน​นึกถึง​เรื่อง​ที่นาง​ไม่มี​ลูก​ ​ไม่​รอ​ให้​ซื่อ​เหนียง​ตอบกลับ​นาง​ก็​พูด​ด้วย​ความเป็นห่วง​ ​“​พี่​หญิง​สี่​เจ้า​คะ​ ​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​พี่​หญิง​เจ็ด​หรือ​”

​ใน​บรรดา​พี่น้อง​ทั้งหมด​ ​สือ​อี​เหนียง​เป็น​คนที​่​ทำ​อะไร​รอบคอบ​ที่สุด​ ​แล้วยัง​แต่งงาน​กับ​ตระกูล​ที่สูง​ศักดิ์​ ​การ​ที่นาง​เล่า​ให้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​ ​ก็เพราะว่า​อยาก​จะ​ปรึกษา​สือ​อี​เหนียง

​“​ก็​เพราะ​เรื่อง​ลูก​นั่นแหละ​”​ ​นาง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​คน​สกุล​จู​เปิด​ศาล​บรรพชน​ ​บอก​ให้​น้องเขย​เจ็ด​ตัดสินใจ​ว่า​จะ​หย่า​ ​จะ​รับ​อนุภรรยา​ ​หรือว่า​จะ​รับ​บุตรบุญธรรม​มา​เลี้ยง​”

​“​แล้ว​พี่เขย​เจ็ด​ตอบ​ว่า​อย่างไร​เจ้า​คะ​”​ ​หัวใจ​ของ​สือ​อี​เหนียง​เต้น​แรง

​“​น้องเขย​เจ็ด​ตกลง​รับ​บุตรบุญธรรม​มา​เลี้ยง​”

​สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

​“​แต่​นาย​หญิง​ผู้เฒ่า​สกุล​จู​กลับ​ไม่เห็นด้วย​”​ ​ซื่อ​เหนียง​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​จึง​ทะเลาะ​กัน​ ​กว่าน​้​อง​เขย​เจ็ด​จะ​สงบสติอารมณ์​ลง​ได้​ ​คน​สกุล​จู​ก็​เอะอะโวยวาย​เรื่อง​ที่จะ​รับ​บุตรบุญธรรม​มา​เลี้ยง​อีกครั้ง​”

​ถึงแม้ว่า​จู​อาน​ผิง​จะ​เกิด​ใน​สกุล​ใหญ่​สกุล​โต​ ​แล้วยัง​ร่ำรวย​มั่งคั่ง​ ​แต่​สังคม​นี้​ให้ความสำคัญ​กับ​เลือดเนื้อเชื้อไข​และ​ลูกหลาน​ของ​ตัวเอง​อย่างมาก​ ​ผู้​ที่​ไม่​ขัดสน​อาจจะ​ไม่ยอม​ให้​บุตร​ของ​ตัวเอง​มา​เป็น​บุตรบุญธรรม​ของ​คนอื่น​ ​ส่วน​คนที​่​โลภมาก​ ​นิสัย​ของ​เด็ก​มักจะ​น่าเป็นห่วง​ ​ยิ่ง​กลัว​ว่า​เมื่อ​เด็กโต​ขึ้น​แล้ว​จะ​ถูก​พ่อแม่​แท้ๆ​ ​ยั่วยุ​ ​ทำให้​ตระกูล​ไม่​สงบสุข​

​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ ​“​เรื่อง​การ​รับ​บุตรบุญธรรม​มา​เลี้ยง​หรือ​เจ้า​คะ​”

​ซื่อ​เหนียง​พยักหน้า​ ​“​เรื่อง​ของ​นาย​หญิง​ผู้เฒ่า​สกุล​จู​ไม่ใช่​เรื่อง​ยาก​ ​เพราะ​เป็น​ครอบครัว​เดียวกัน​ ​แต่​ครั้งนี้​ ​มัน​เป็นเรื่อง​ของ​สกุล​ ​จู​อาน​ผิง​ลำบากใจ​ ​ชี​เหนียง​มี​ความคิด​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ​นาง​จึง​มาที​่​เยี​่​ยน​จิง​ ​งาน​วันเกิด​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​เดิมที​ข้า​เกลี้ยกล่อม​ให้​นาง​มาด​้วย​ ​แต่​นาง​บอกว่า​ ​ตัวเอง​เป็น​เช่นนี้​ ​ไป​ก็​มี​แต่​คน​หัวเราะเยาะ​ ​จึง​ไม่ยอม​มา​ ​ข้า​เกลี้ยกล่อม​อยู่​ตั้ง​นาน​ก็​ไม่ได้ผล​ ​ข้า​จึง​ให้​นาง​ดูแล​ฉี่​เกอ​แล้ว​มาคน​เดียว​”

​แม่​พวก​นาง​จะ​เป็น​บุตรสาว​จาก​สกุล​หลัว​เหมือนกัน​ ​แต่​พวก​นาง​คือ​บุตรสาว​ของ​นายท่าน​ใหญ่​กับ​บุตรสาว​ของ​นายท่าน​สอง​ซึ่ง​คนละ​บ้าน​กัน​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​ชี​เหนียง​คง​ไม่มีทาง​มาหา​ซื่อ​เหนียง​ทันที​ใน​ช่วงเวลา​คับขัน​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​ผลประโยชน์​ของ​ตัวเอง​เช่นนี้​ ​เพราะ​พวก​นาง​คือ​พี่น้อง​มารดา​คนเดียว​กัน​ ​ตอนนี้​ซื่อ​เหนียง​เล่าเรื่อง​ของ​ชี​เหนียง​ให้​ตัวเอง​ฟัง​ ​นาง​จึง​พอ​จะเข้า​ใจ​ได้

​“​พี่​หญิง​เจ็ด​มี​ความคิด​ของ​ตัวเอง​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​ ​“​เช่นนั้น​พี่​หญิง​เจ็ด​จะ​ทำ​เช่นไร​ต่อไป​”

​สายตา​ของ​ซื่อ​เหนียง​มี​ความ​โล่งใจ

คุย​กับ​คนฉลาด​อย่าง​สือ​อี​เหนียง​นั้น​ช่าง​ง่ายดาย​จริงๆ

​“​ชี​เหนียง​ยอมรับ​บุตรบุญธรรม​มา​เลี้ยง​ ​แต่​ต้อง​เป็น​คนที​่​นาง​เลือก​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​นาง​ยอม​ที่จะ​หย่า​”

ชี​เหนียง​กลัว​ว่า​จะ​บุตรบุญธรรม​คน​นั้น​จะ​ไม่​ดูแล​ครอบครัว​ใช่​หรือไม่​!

​สือ​อี​เหนียง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​พี่เขย​เจ็ด​เห็นด้วย​หรือไม่​”

​“​น้อย​เขย​เจ็ด​ก็​เห็นด้วย​ ​แต่​การ​เลือก​คน​…​”​ ​ซื่อ​เหนียง​ลังเล

​สือ​อี​เหนียง​มองดู​นาง​เงียบๆ

​นาง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ ​“​ชี​เหนียง​อยาก​รับ​ฉี่​เกอ​ของ​ข้า​ไป​เลี้ยง​”

​“​สกุล​จู​คง​ไม่มีทาง​เห็นด้วย​แน่นอน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​แล้ว​พี่เขย​สี่​เล่า​ ​พี่เขย​สี่​เห็นด้วย​หรือไม่​”

​“​พี่เขย​สี่​ของ​เจ้า​ไม่ใช่​เรื่อง​ยาก​”​ ​สายตา​ของ​ซื่อ​เหนียง​เป็นประกาย​ ​“​หาก​เป็น​เช่นนั้น​จริงๆ​ ​ให้ท่า​นพ​่อ​และ​ท่าน​แม่​มา​เกลี้ยกล่อม​พี่เขย​สี่​ของ​เจ้า​ก็ได้​ ​แต่ว่า​คนใน​สกุล​จูน​อก​จาก​น้องเขย​เจ็ด​ที่​เห็นด้วย​แล้ว​ ​คนอื่น​นั้น​ไม่ยอม​เห็นด้วย​”

นายท่าน​สอง​และ​นาย​หญิง​สอง​มีบุญ​คุณ​ต่อ​อวี​๋​อี๋​ชิง​ ​หาก​พวกเขา​สอง​คน​ยอม​พูด​ให้​ ​ถึงแม้ว่า​อวี​๋​อี๋​ชิง​จะ​ไม่พอใจ​มาก​แค่ไหน​ ​เกรง​ว่า​เขา​ก็​คงจะ​ต้อง​ขบคิด​อยู่​บ้าง​ ​เรื่อง​นี้​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่​ไม่มี​ความเป็นไปได้​เลย​แม้แต่น้อย​ ​แต่​หาก​คนใน​สกุล​จู​ไม่เห็นด้วย​…​เรื่อง​ภายใน​ของ​ตระกูล​ ​แม้แต่​ศาลปกครอง​ก็​ไม่มี​สิทธิ์​เข้ามา​ยุ่ง​ ​หรือว่า​จะ​ให้​สกุล​สวี​ใช้อำนาจ​ของ​ขุนนาง​ไป​ข่มขู่​สกุล​จู​?​ ​แต่​หาก​ทำ​เช่นนั้น​ ​อวี​๋​อี๋​ชิง​เอง​ก็​ทำได้​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ให้​สกุล​สวี​ออกหน้า​แทน​กระมัง​!

​ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​พูดว่า​ ​“​พี่​หญิง​สี่​หมายความว่า​อย่างไร​หรือ​”

​ซื่อ​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​ข่ม​ขื่น​ ​“​หาก​เรื่องราว​ไป​ถึงขั้น​นั้น​ ​พี่เขย​สี่​ของ​เจ้า​ ​ข้า​จะ​บอกว่า​เป็นความ​ต้องการ​ของ​น้อย​เขย​เจ็ด​ ​ไม่มีทาง​บอกว่า​สกุล​จู​ไม่เห็นด้วย​ ​ส่วน​เรื่อง​เกลี้ยกล่อม​คน​สกุล​จู​ ​คงจะ​รบกวน​ให้ท่าน​โหว​ออกหน้า​ช่วย​พูด​ให้​!​”

​“​เรื่อง​นี้​เป็นเรื่อง​ใหญ่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ ​“​ข้า​ฟัง​ความคิด​ของ​ท่าน​โหวก​่อน​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ตอบ​ตกลง​ที่จะ​พูด​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ก็​ทำเอา​ซื่อ​เหนียง​ซาบซึ้ง​มาก​พอแล้ว​ ​นาง​เอ่ย​ขอบคุณ​สือ​อี​เหนียง​ซ้ำไปซ้ำมา​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​กำลัง​นึกถึง​เรื่อง​อื่น​

​“​พี่​หญิง​สี่​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​พูด​ ​“​หาก​เรื่อง​นี้​สำเร็จ​ ​ฉี่​เกอ​…​”

​น้ำตา​ของ​ซื่อ​เหนียง​ไหลริน​ออกมา​ ​“​ข้า​จะ​คิด​เสียว​่า​เด็ก​คน​นี้​เกิด​มา​เพื่อ​ชี​เหนียง​!​”​ ​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ร่ำไห้​

​สือ​อี​เหนียง​มองดู​ซื่อ​เหนียง​ร้องไห้​อย่าง​เงียบงัน

​ตกดึก​เมื่อ​กลับมา​นอน​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​นาง​ก็​เกิด​ความขัดแย้ง​ขึ้น​ใน​ใจ​ ​หาก​บอก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​เรื่อง​นี้​อาจจะ​สำเร็จ​ ​แต่​หาก​ไม่​บอก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​เรื่อง​นี้​ไม่มีทาง​สำเร็จ​แน่นอน​ ​ด้าน​หนึ่ง​คือ​อนาคต​ของ​ชี​เหนียง​ ​อีก​ด้าน​หนึ่ง​คือ​ความลำบาก​ใจ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​…​เมื่อ​ชั่งน้ำหนัก​ความสำคัญ​ใน​ใจ​ดูแล​้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เข้าใจ​ดี​ ​แต่​นาง​กลับ​ไม่รู้​ว่า​จะ​เปิดปาก​พูด​ออกมา​อย่างไร​

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท