ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 543 พี่น้อง

ตอนที่ 543 พี่น้อง

​จิ​่น​เกอ​งอแง​ไม่ยอม​ ​ยังคง​ร้องไห้​ราวกับ​จะ​ขาดใจ​ก็​ไม่​ปาน

​“​ข้า​จะ​หา​ท่าน​พ่อ​ ​ข้า​จะ​หา​ท่าน​พ่อ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่า​เขา​ร้องไห้​หนัก​มาก​จึง​ตบหลัง​เขา​เบา​ๆ​ ​แล้ว​พูด​ปลอบ​เขา​ว่า​ ​“​เอาล่ะ​ ​เอาล่ะ​ ​หยุด​ร้อง​ได้​แล้ว​!​”

​แต่​เสียงร้อง​ของ​จิ​่น​เกอ​กลับ​ไม่เบา​ลง​เลย​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​เขา​น้ำตา​นองหน้า​ ​ก็​ปวดใจ​แทบ​ทนไม่ไหว​ ​ลูบ​หลัง​เขา​อย่าง​อ่อนโยน​กว่า​เดิม​ ​น้ำเสียง​นุ่มนวล​กว่า​เดิม​ ​เผย​ให้​เห็น​ความอดทน​ที่​ไม่มีที่สิ้นสุด​ ​“​อย่า​ร้อง​ ​จิ​่น​เกอ​ไม่ต้อง​ร้องไห้​แล้ว​!​”

​จิ​่น​เกอ​เอาหน้า​ซบ​ลง​บน​ไหล่​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​เสียงร้อง​ค่อยๆ​ ​เบา​ลง

​ความประหลาดใจ​ใน​ตอนแรก​ของ​สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​ผ่อนคลาย​ลง​ ​กลับมา​มีสี​หน้า​สงบนิ่ง​เช่น​เดิม

​นาง​ถาม​แม่นม​กู้​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​”

​แม่นม​กู้​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ท่าน​โหวกำ​ลังเล​่​นอยู​่​กับ​คุณชาย​น้อย​หก​ ​พอคุณ​ชายน้อย​สี่​ออกมา​จาก​ห้อง​ด้านใน​ ​ท่าน​โหวก​็​ส่ง​คุณชาย​น้อย​หก​ให้​ข้า​แล้ว​ออก​ไป​ข้างนอก​กับ​คุณชาย​น้อย​สี่​เจ้าค่ะ​…​”​ ​ขณะที่​พูด​ ​นาง​ก็​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความหวาดกลัว​เล็กน้อย​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​รีบ​กระโดด​ลง​จาก​เตียง​ ​แต่​ท่าน​โหวกับ​คุณชาย​น้อย​สี่​เดิน​ออก​ไป​แล้ว​ ​คุณชาย​น้อย​หก​ก็​เลย​ร้องไห้​ขึ้น​มา​…​”

​สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย

​นาง​เดิน​เข้าไป​อย่าง​เงียบๆ​

​“​ท่าน​โหว​ ​ให้​ข้า​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​เถิด​!​”​ ​พูด​พลาง​เอื้อมมือ​ไปรั​บบุ​ตร​ชาย​ ​“​ท่าน​นัด​กับ​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​ไว้​ยาม​ซื่อ​ ​หาก​สาย​กว่านี​้​ก็​จะ​เลยเวลา​แล้ว​”

​สือ​อี​เหนียง​พึ่ง​จะ​แตะ​โดน​ตัว​จิ​่น​เกอ​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​ร้องไห้​ขึ้น​มา​เสียงดัง​ราวกับว่า​ถูก​ใคร​หยิก​เสีย​อย่างนั้น

​แววตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดู​ลังเล​เล็กน้อย

​สือ​อี​เหนียง​อด​หันไป​มอง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่ได้​

​เขา​ยังคง​มีสี​หน้า​ตกใจ​ ​แต่​ดวงตา​ดู​สงบนิ่ง

​เมื่อ​รู้สึก​ถึง​สายตา​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​เขา​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​แล้ว​มอง​มา​พลาง​ยิ้ม​ให้​สือ​อี​เหนียง​อย่าง​แผ่วเบา

​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ ​จู่ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ถึง​รู้สึก​โล่งอก

​นาง​หันไป​มอง​สวี​ซื่อ​จุน

​สวี​ซื่อ​จุน​ที่​อายุ​สิบเอ็ด​ปี​เอียง​คอม​อง​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​จิ​่น​เกอ​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​สีหน้า​มึนงง​เหมือน​เด็กน้อย

​สือ​อี​เหนียง​อด​ยิ้ม​ไม่ได้

​นาง​ไม่สน​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​รู้สึก​อย่างไร​ ​ไม่สน​ว่า​จิ​่น​เกอ​จะ​งอแง​เพียงใด​ ​ฝืน​อุ้ม​บุตรชาย​มา​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ ​“​เด็กน้อย​ก็​เป็น​เช่นนี้​ ​โอ๋​สักหน่อย​ก็ดี​ขึ้น​แล้ว​ ​ท่าน​โหวกับ​จุน​เกอ​รีบ​ไป​เถิด​!​ ​มี​อวี​้​เกอ​คอย​ช่วย​ข้า​ ​ไม่เป็นไร​แน่นอน​เจ้าค่ะ​”​

​จิ​่น​เกอ​ดึง​เสื้อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไว้​ไม่ยอม​ปล่อย​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​ท่าน​พ่อ​!​”​ ​ร้องไห้​เหมือน​จะ​ขาดใจ

​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​เขา​แสดง​สีหน้า​อ้อนวอน​ราวกับ​จะ​พูดว่า​ ​‘​เจ้า​ช่วย​คิด​หาวิ​ธี​ทำให้​เขา​หยุด​ร้องไห้​ที​!​’

​สือ​อี​เหนียง​ใจเต้น​แรง

นี่​เพียงแค่​พึ่ง​จะ​เรียก​คำ​ว่า​ ​‘​พ่อ​’​ ​เป็น​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​เริ่ม​ลังเล​แล้ว​ ​ถ้าหาก​เขา​พูด​ได้​ ​ออดอ้อน​ได้​แล้ว​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่​ยิ่ง​ลำบากใจ​หรือ​ ​เขา​เป็น​เสาหลัก​ของ​ครอบครัว​ ​ทุกคน​ต่าง​ทำตาม​ความประสงค์​ของ​เขา​ ​ถ้าหาก​เขา​ทำตัว​ไม่ชัด​เจน​ ​ถึงขั้น​ทำ​เรื่อง​ที่​ไม่​ถูกต้อง​ ​บ่าว​รับใช้​ใน​เรือน​ก็​จะ​พากัน​ประจบประแจง​จิ​่น​เกอ​เพื่อให้​ได้มา​ซึ่ง​ยศ​ตำแหน่ง​ ​นาง​กลัว​ว่า​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​เกรง​ว่า​ต่อให้​อยาก​ควบคุม​แค่ไหน​ก็​คงจะ​ไร้​กำลัง

เด็ก​มักจะ​ถูกตาม​ใจ​จน​เสียคน​ด้วยเหตุนี้

ใน​ฐานะ​คน​เป็น​พ่อ​เป็น​แม่​ ​จะ​ต้องใจ​แข็ง​และ​ใจเย็น

ดูแล​้ว​สวี​ลิ่ง​อี๋​คงจะ​ช่วย​อะไร​ไม่ได้

​นาง​ถอนหายใจ​ใน​ใจ​ ​ความคิด​แน่วแน่​ยิ่งกว่า​เดิม​ ​แกะ​มือ​ของ​จิ​่น​เกอ​ออกจาก​เสื้อ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​อุ้ม​เขา​พลาง​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​“​ท่าน​โหว​วางใจ​ได้​ ​ท่าน​ไป​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”

​จิ​่น​เกอ​ร้องไห้​ราวกับ​ฟ้า​ถล่ม​ดิน​ทลาย​ ​ตะโกน​เสียงดัง​ ​“​ท่าน​พ่อ​”​ ​พลาง​ดิ้น​ไปมา​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง

​สวี​ลิ่ง​อี๋​หยุด​อยู่​ตรงนั้น​ ​มี​ความลังเล​เล็กน้อย

​“​ท่าน​แม่​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ที่​ยืน​เงียบ​อยู่​ด้าน​ข้าง​พลัน​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ให้​ข้า​พาน​้​อง​หก​ไป​เล่น​ที่​สวนดอกไม้​สักพัก​ดี​หรือไม่​ขอรับ​”​ ​น้ำเสียง​เหมือน​กำลัง​ครุ่นคิด

​สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

​แม้ว่า​จิ​่น​เกอ​จะ​ยัง​เด็ก​ ​แต่กลับ​อารมณ์ร้าย​มาก​ ​แทนที่จะ​ปล่อย​ให้​ร้องไห้​หนัก​จน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​อาจ​ก้าว​เท้า​เดิน​ออก​ไป​ได้​ ​ไม่​สู้​ไปให้พ้น​สายตา​เลย​จะ​ดีกว่า​ ​จะ​ได้​ไม่รู้​สึก​เจ็บปวด

​“​เช่นนั้น​ก็​รบกวน​เจ้า​แล้ว​”​ ​นาง​พูด​อย่างเกรงใจ​แล้ว​ส่ง​จิ​่น​เกอ​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้

​สวี​ซื่อ​อวี​้​มอง​สือ​อี​เหนียง​อย่างลึกซึ้ง​ ​รับ​จิ​่น​เกอ​มา​อย่างระมัดระวัง​ ​จิ​่น​เกอ​กลับ​ดิ้น​ไปมา​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา​จน​เกือบจะ​ตกลง​มา

​แม่นม​กู้​ตกใจ​จน​เหงื่อ​ออก

​โชคดี​ที่​แม้ว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​จะ​ดู​ผ่ายผอม​ ​แต่กลับ​แข็งแรง​มาก​ ​จึง​เป็น​เพียงแค่​ความตกใจ​ที่​ไม่ได้​มี​อะไร​เกิดขึ้น

​สือ​อี​เหนียง​กำชับ​แม่นม​กู้​ ​“​พวก​เจ้า​คอย​รับใช้​อยู่​ข้างๆ​”

​ไม่​อาจ​เปลี่ยนความคิด​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ที่จะ​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​เล่น​ที่​สวนดอกไม้​ได้

​สวี​ซื่อ​อวี​้​กอด​จิ​่น​เกอ​ไว้​แน่น​ ​มี​กลุ่ม​สาวใช้​และ​หญิง​เฒ่า​เดิน​ห้อมล้อม​ออก​ประตู​ไป

​สือ​อี​เหนียง​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​สูด​หายใจเข้า​ลึก

​“​ส่ง​คน​ติดตาม​ไป​อีก​สอง​สาม​คนดี​หรือไม่​”​ ​เขา​พูด​พึมพำ​ ​“​อวี​้​เกอ​เอง​ก็​ยัง​เด็ก​อยู่​”

​“​แต่ไหนแต่ไรมา​อวี​้​เกอ​ก็​เป็น​คน​ใจเย็น​ ​อีกทั้ง​ยัง​มี​แม่นม​กู้​และ​คนอื่นๆ​ ​คอย​ดูแล​อยู่​ข้างๆ​ ​ทุกอย่าง​จะ​เรียบร้อย​ดีเจ​้า​ค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้าไป​ช่วย​จัด​เสื้อผ้า​ของ​เขา​ที่​ถูก​จิ​่น​เกอ​ดึง​จน​ยับ​ ​เห็น​ไหล่​ของ​เขา​ยัง​มี​คราบ​น้ำตา​ของ​จิ​่น​เกอ​อยู่​ก็​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ ​ให้​ข้า​ปรนนิบัติ​ท่าน​เปลี่ยนเสื้อ​เถิด​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอง​ก็​รู้สึก​ว่า​เช่นนี้​ไม่เหมาะสม​ ​จึง​ตอบ​ตกลง​แล้ว​ให้​สือ​อี​เหนียง​เปลี่ยนเสื้อ​ให้

​สวี​ซื่อ​จุน​ยืน​มอง​อยู่​เงียบๆ​ ​มาต​ลอด​ ​จนกระทั่ง​สวี​ซื่อ​เจี้ยวิ​่ง​เข้ามา​ ​“​ไอ​๊​หยา​!​ ​พี่​สี่​ ​เหตุใด​ท่าน​ถึง​ยัง​ไม่​ไป​อีก​”​ ​ขณะที่​พูด​ก็​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สือ​อี​เหนียง​เดิน​ออกมา​จาก​ห้อง​ด้านใน​ ​เขา​รีบ​เดิน​เข้าไป​คำนับ​ทั้งสอง​คน​ ​จากนั้น​ก็​ถาม​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​วันนี้​ท่าน​พ่อ​ยัง​จะ​พา​พี่​สี่​ออก​ไป​ข้างนอก​อยู่​หรือไม่​”

​ยิ่ง​เวลา​ผ่าน​ไป​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​ยิ่ง​ร่าเริง​และ​มีชีวิตชีวา​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​สวี​ลิ่ง​อี๋​เขา​ก็​ไม่ได้​มีท​่า​ทีน​อบ​น้อม​ตลอดเวลา​เหมือน​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​และ​ไม่ได้​มีท​่า​ที​หวาดกลัว​เผยอ​อก​มา​เหมือน​สวี​ซื่อ​จุน​ ​เหมือน​บุตรชาย​ทั่วไป​ที่อยู่​ต่อหน้า​บิดา​ของ​ตัวเอง​ ​เมื่อ​บิดา​สีหน้า​ดู​มีความสุข​เขา​ก็​จะ​กล้า​ทำ​เรื่อง​ต่างๆ​ ​ที่​เหมาะสม​ ​เมื่อ​บิดา​มีสี​หน้าเป็น​กังวล​เขา​ก็​จะ​หลบเลี่ยง​ไป​อย่าง​เงียบๆ​

​บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​เขา​เป็น​หลาน​ ​หรือ​อาจ​เป็น​เพราะ​ไม่ได้​คาดหวัง​กับ​สวี​ซื่อ​เจี้ยมาก​นัก​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​มักจะ​มีสี​หน้า​รื่นรมย์​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​เขา​ ​บรรยากาศ​จึง​ดูเบา​สบาย​และ​เบิกบานใจ

​“​เจ้า​อยาก​จะ​ทำ​อะไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พลาง​ถาม​เขา

​ครั้ง​ที่แล้ว​เขา​ก็​ถาม​เช่นนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​นึก​ว่า​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​จะ​บอกว่า​อยาก​ไป​ด้วย​ ​สุดท้าย​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เพียงแค่​อยาก​จะ​พา​จุน​เกอ​ไป​เล่น​ว่าว​เท่านั้น

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยิ้ม​พลาง​พูดว่า​ ​“​ถ้าหาก​ท่าน​พ่อ​กับ​พี่​สี่​จะ​ออก​จวน​ ​ข้า​จะ​ไป​ส่ง​ท่าน​แทน​ท่าน​แม่​ที่​ประตู​เอง​ขอรับ​!​”

​“​อ้อ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​อาจารย์​จ้าว​สอน​คัมภีร์​วิจารณ์​พจน์​ให้​เจ้า​แล้ว​หรือ​”

​“​เปล่า​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยิ้ม​อย่าง​เขินอาย​ ​“​ตอนที่​อาจารย์​จ้าว​สอน​เรื่อง​พี่น้อง​กับ​ข้า​ ​ได้​พูด​เรื่อง​ ​‘​ความกตัญญู​ของ​จื่อ​เสีย​’​”

​เรื่อง​พี่น้อง​เป็น​บทเรียน​ใน​ตำรา​ปฐมวัย

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ดี​แล้ว​ ​เช่นนั้น​เจ้า​ก็​ไป​ส่ง​ข้า​กับ​พี่​สี่​ของ​เจ้า​เถิด​!​”

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ทำท่า​ทาง​เหมือน​ผู้ใหญ่​ ​ยกมือ​ขึ้น​คำนับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ศิษย์​น้อม​รับคำ​สั่ง​!​”

​แม้แต่​สือ​อี​เหนียง​เอง​ที่​เห็น​เช่นนี้​ก็​ยัง​หัวเราะ​ ​เดิน​เข้าไป​จับ​ไหล่เขา​อย่าง​เอ็นดู

​สวี​ซื่อ​จุน​เห็น​ดังนั้น​ก็​หลุบ​ตาลง​เล็กน้อย

​เมื่อ​กลับมา​จาก​จวน​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​ ​เขา​ก็​ไม่ได้​รีบร้อน​กลับ​เรือน​ตัวเอง​ ​แต่กลับ​พูดคุย​กับ​อิ​๋น​เจิน​บ่าว​รับใช้​ข้าง​กาย​ว่า​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​อาศัย​อยู่​เรือน​ใน​นั้น​ดีกว่า​”

​อิ​๋น​เจิน​กับ​พ่อบ้าน​ไป๋​สนิทสนม​กัน​อยู่​บ้าง​ ​เป็น​เพราะ​ได้รับ​การ​พึ่งพา​จาก​พ่อบ้าน​ไป๋​จึง​ได้มา​รับใช้​ข้าง​กาย​จุน​เกอ​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​พูด​เช่นนี้​ ​แต่​หาก​เขา​ไม่ใช่​คนฉลาด​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​ก็​ไม่กล้า​ให้​เขา​มา​อยู่​ข้าง​กาย​จุน​เกอ​ ​เพราะ​บางครั้ง​โอกาส​ก็​หมายถึง​ความเสี่ยง​เช่นกัน

“​คุณชาย​น้อย​สี่​พูด​เช่นนี้​ทำให้​บ่าว​ประหลาดใจ​นัก​!​”​ ​อิ​๋น​เจิน​ยิ้ม​ ​น้ำเสียง​แฝง​ไว้​ด้วย​ความระมัดระวัง​ที่​ไม่​สามารถ​สังเกตเห็น​ได้​ ​“​คุณชาย​น้อย​สาม​ย้าย​ไป​ที่​ตรอก​ซาน​จิ​่ง​ ​คราว​ที่แล้ว​ตอน​กลับมา​ยัง​บอกว่า​ ​‘​ท้องฟ้า​กว้างใหญ่​มี​ไว้​ให้​นก​บิน​ ​มหาสมุทร​ลึก​มี​ไว้​ให้​ปลา​กระโดด​’​ ​เหตุใด​ท่าน​กลับ​คิด​ว่า​อาศัย​อยู่​ที่​เรือน​ใน​ดีกว่า​เล่า​ขอรับ​”​

​จุน​เกอ​หัวเราะ​ ​เขา​เคาะ​หัว​อิ​๋น​เจิน​ที่สูง​กว่า​ตัวเอง​หนึ่ง​ที​ ​“​ปลา​กระโดด​ไปมา​ได้​อย่าง​อิสระ​ใน​มหาสมุทร​อะไร​กัน​ ​วัน​ๆ​ ​เจ้า​อยู่​ข้าง​กาย​ข้า​ก็​ไม่​ตั้งใจ​เรียน​ ​เจ้า​หัด​ดู​ฮั่ว​ชิง​บ้าง​ ​ตำรา​ปฐมวัย​ก็​เรียน​ไป​จนถึง​บท​ที่สอง​แล้ว​ ​เขา​เรียกว่า​ ​‘​มหาสมุทร​ลึก​มี​ไว้​ให้​ปลา​แหวกว่าย​’​ ​ต่างหาก​!​”

​ฮั่ว​ชิง​คือ​บ่าว​รับใช้​ข้าง​กาย​อีก​คน​ของ​เขา

​อิ​๋น​เจิน​ลูบ​หน้าผาก​ตัวเอง​ด้วย​ความ​เขินอาย​ ​“​บ่าว​ก็​กำลัง​เรียน​อยู่​เพียงแต่ว่า​ช้า​กว่า​ฮั่ว​ชิง​นิดหน่อย​เท่านั้นเอง​ขอรับ​”​ ​จากนั้น​ก็​มีสี​หน้า​ตกใจ​ ​ถาม​จุน​เกอ​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​สี่​ ​คุณชาย​น้อย​สาม​เคย​บอกว่า​อีก​ไม่​กี่​วัน​จะ​ไป​เล่น​ที่​วัด​เซียงกั​๋​วกั​บท​่าน​ ​ท่าน​จะ​ไป​หรือไม่​ขอรับ​”

​สวี​ซื่อ​จุน​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​ห่อ​ไหล่​ลง​เล็กน้อย​ ​“​ข้า​ไม่รู้​ว่า​จะ​บอก​กับ​ท่าน​พ่อ​อย่างไร​ ​คราว​ที่แล้ว​ที่​ท่าน​พ่อ​ทดสอบ​การบ้าน​ข้า​ ​ข้า​ก็​ตอบ​ได้​ไม่ดี​!​”

​อิ​๋น​เจิน​ช่วย​ออก​ความคิดเห็น​ให้​เขา​ ​“​เช่นนั้น​คุณชาย​น้อย​สี่​ไป​ถามฮู​หยิน​ดี​หรือไม่​ ​หากฮู​หยิน​ตกลง​ ​ท่าน​โหวก​็​จะ​ต้อง​ตกลง​แน่นอน​ขอรับ​!​”

​“​จริง​ด้วย​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ตา​เป็นประกาย​ ​“​เหตุใด​ข้า​นึกไม่ถึง​กัน​!​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ด้วย​ความดี​อก​ดีใจ​ว่า​ ​“​ไป​!​ ​พวกเรา​ไปหา​ท่าน​แม่​กัน​”​ ​พูด​พลาง​รีบ​มุ่งหน้า​ไป​ที่​เรือน​ใน

​สุดท้าย​ก็​ลืม​หัวข้อ​สนทนา​ที่ว่า​ ​‘​อาศัย​อยู่​ที่​เรือน​ใน​นั้น​ดีกว่า​’​ ​ไป​แล้ว

​อิ​๋น​เจิน​ที่​เดินตาม​อยู่​ด้านหลัง​ไม่​กี่​ก้าว​ก็​ยกมือ​ขึ้น​ลูบ​แผ่น​อก​ตัวเอง​เบา​ๆ​ ​ใน​ใจ​พลัน​ตะโกน​ว่า​ ​‘​ค่อยยังชั่ว​’​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​เดินตาม​ไป

​******

​เมื่อ​กลับมา​ที่​เรือน​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่ได้​นั่ง​อยู่​ใต้​ตะเกียง​และ​อ่านหนังสือ​ตามปกติ​ ​แต่กลับ​นั่ง​เท้าคาง​ ​เอนกาย​พิง​หมอนอิง​ใบ​ใหญ่​เหม่อมอง​ผ้าม่าน

​เหวิน​จู๋​ที่​กำลัง​นั่ง​ทำงาน​เย็บ​ปัก​อยู่​ข้างๆ​ ​ชะเง้อ​คอ​เหลือบมอง​นาฬิกาไขลาน​ที่อยู่​ตรง​มุม​ผนังห้อง

คุณชาย​น้อย​สอง​เป็น​เช่นนี้​มาส​อง​เค​่อ​แล้ว​!

​นาง​ลอบ​สำรวจ​สีหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้

​เขา​มีสี​หน้า​สงบนิ่ง​ ​มุม​ปาก​มี​รอยยิ้ม​เล็กน้อย​ ​ดู​สบายใจ​เป็นอย่างมาก

​เหวิน​จู๋​จึง​ได้​วางใจ​ ​ช่วย​สวี​ซื่อ​อวี​้​เปลี่ยน​ถ้วย​ชา​อย่างเบามือ​

​เมื่อ​ได้ยิน​การเคลื่อนไหว​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​หันกลับ​มา

​เขา​พูด​เพียง​ ​“​อ้อ​”​ ​แล้ว​นั่ง​ตัวตรง​ ​“​เจ้า​ยังอยู่​ใน​ห้อง​หรือ​”

​เหวิน​จู๋​ทำตัว​ไม่​ถูก​ ​“​บ่าว​นั่ง​ทำงาน​เย็บ​ปัก​อยู่​ที่นี่​มา​เกือบ​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​หัวเราะ

​รอยยิ้ม​นั้น​ทำให้​เหวิน​จู๋​นึกถึง​ใบชา​ที่​แช่​ใน​น้ำร้อน​ที่​คลายตัวย

​นาง​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ​อด​ถาม​เสียง​เบา​ไม่ได้​ ​“​คุณชาย​น้อย​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​หรือ​เจ้า​คะ​ ​ขนาด​บ่าว​อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​ยัง​ไม่รู้​!​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​เงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ข้า​กำลัง​คิดถึง​จิ​่น​เกอ​!​”​ ​ขณะที่​พูด​ ​ใบหน้า​ก็​เอ่อล้น​ไป​ด้าย​ความสุข

​เหวิน​จู๋​ประหลาดใจ​อีกครั้ง

​สวี​ซื่อ​อวี​้​เอน​พิง​หมอนอิง​อีกครั้ง

​“​จิ​่น​เกอ​งอแง​ไม่ยอม​หยุด​ ​ท่าน​แม่​จึง​ยอมให้​ข้า​พา​เขา​ไป​เล่น​ใน​สวนดอกไม้​”​ ​เขา​เอา​มือ​ประสาน​ที่​ท้ายทอย​ ​สายตา​จับจ้อง​ไป​ยัง​ผ้าม่าน​ราวกับว่า​เป็น​ภาพวาด​ลวดลาย​งดงาม​ ​“​มี​เพียง​คน​ปรนนิบัติ​ข้าง​กาย​จิ​่น​เกอ​ที่​ตามมา​…​”​ ​น้ำเสียง​ฟัง​ดู​ทอดถอนใจ​ ​“​กลัว​ว่า​ข้า​จะ​ไม่รู้​ว่า​ควร​ดูแล​จิ​่น​เกอ​อย่างไร​…​”​ ​ราวกับว่า​กำลัง​อธิบาย​บางอย่าง​ ​“​เขา​อารมณ์​รุนแรง​มาก​ ​ยึดติด​กับ​สิ่ง​เดียว​ ​ข้า​พูด​ปลอบประโลม​อย่างไร​ก็​ไม่​เป็นผล​ ​ร้องไห้​อยู่​อย่างนั้น​เกือบ​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​…​”​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​กำลัง​บ่น​ ​แต่​ใบหน้า​กลับ​เผย​ให้​เห็น​รอยยิ้ม​ ​“​ทำเอา​ข้า​หมดปัญญา​ ​แต่​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ตอน​เด็ก​ๆ​ ​ตัวเอง​ชอบ​พาย​เรือ​มาก​ที่สุด​ ​จึง​พา​เขา​ไป​ที่​ท่าเรือ​หลิว​ฟัง​…​”

​เหวิน​จู๋​หน้าซีด​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​…​”​ ​น้ำเสียง​ฟัง​ดู​หวาดกลัว

สามารถ​นั่ง​เรือ​ใน​บึง​ปี้​อี​ได้​ ​แต่​น้ำ​ลึก​มาก​ ​หาก​ไม่​ระวัง​เกิด​เรือ​คว่ำ​ขึ้น​มา​…​หาก​เป็น​เช่นนั้น​ใคร​จะ​สามารถ​อธิบาย​ได้​!

​สวี​ซื่อ​อวี​้​หันมา​มอง​ ​“​แม่นม​กู้​บอกว่า​ตอนนี้​ไม่ใช่​ฤดู​พาย​เรือ​ ​เกรง​ว่า​เรือ​เหล่านั้น​จะ​ถูก​เอา​ไป​เก็บ​หมด​แล้ว​ ​ต้อง​ไป​ขอ​ป้าย​คู่​จาก​ท่าน​แม่​จึง​จะ​ทำได้​!​”​ ​เขา​ท่าทาง​สงบนิ่ง​เป็นอย่างมาก​ ​มอง​ไม่​ออก​ว่า​สุข​หรือ​เศร้า

​เหวิน​จู๋​เป็นกังวล​ ​“​เช่นนั้นฮู​หยิน​สี่​…​”

​“​ท่าน​แม่​ให้​ป้าย​คู่​แม่นม​กู้​มา​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​พูด​อย่าง​ช้าๆ​ ​ว่า​ ​“​ข้า​ก็​เลย​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​พาย​เรือ​เล่น​”

​เหวิน​จู๋​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ควรจะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​ ​แต่​เมื่อ​นึกถึง​สีหน้า​ที่​มีความสุข​เมื่อ​ครู่​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​นาง​ก็​กลืน​คำพูด​ลง​ไป​ ​เผย​รอยยิ้ม​ที่​มีความสุข​ ​“​เช่นนั้น​คุณชาย​น้อย​หก​ยัง​ร้องไห้​งอแง​อยู่​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​นึกถึง​สถานการณ์​ใน​ตอนนั้น​แล้วก็​อด​หัวเราะ​ออกมา​ไม่ได้​ ​“​เขา​ไม่​เพียงแค่​หยุด​ร้อง​เท่านั้น​ ​ซ้ำ​ยัง​สนุก​จน​ไม่​อยาก​กลับ​เรือน​ ​จะ​ทำ​อย่างไร​ก็​ไม่ยอม​ขึ้นฝั่ง​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ท่าน​แม่​ฝืน​บังคับ​อุ้ม​เขา​ไป​ ​ข้า​เกรง​ว่า​จนถึง​ตอนนี้​ก็​คง​ยัง​พาย​เรือ​อยู่​ใน​บึง​ปี้​อีก​ระ​มัง​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท