ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 559 ก้มหัว (กลาง)

ตอนที่ 559 ก้มหัว (กลาง)

ประโยค​ที่ว่า​ ​‘​เชิญ​แค่​ฉิน​เกอ​สอง​สามีภรรยา​และ​เจี่ยน​เกอ​’​ ​คือ​ประเด็นสำคัญ​ใช่​หรือไม่​!

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ขานรับ​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​ป้า​ซ่ง​นำ​เทียบ​เชิญ​ไป​ส่ง

​ป้า​ซ่ง​กลับมา​รายงาน​ ​“ฮู​หยิน​สาม​เค้น​ถาม​ว่า​ใคร​เป็น​คน​บอก​ให้​เชิญ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​เจ้าค่ะ​ ​บ่าว​จึง​บอกว่า​ ​คุณชาย​และ​คุณหนู​สอง​สาม​คน​ก็​ไป​ด้วย​ ​แน่นอน​ว่า​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​และ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​ก็​ต้อง​ไป​ด้วย​เจ้าค่ะ​ ฮู​หยิน​สาม​ยัง​อยาก​จะ​ถาม​ต่อ​ ​แต่​คุณชาย​สาม​จะ​ออก​ไป​ข้างนอก​ ฮู​หยิน​สาม​จึง​ต้อง​ไปรับ​ใช้​เขา​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​นาง​ถึง​ได้​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​เจ้าค่ะ​”

​ขณะที่​นาง​กำลัง​พูด​ ​จู๋​เซียง​ก็​มา​พอดี​ ​“​ฝ่าย​รายงาน​ถาม​ว่า​เรา​จะ​พา​ผู้ติดตาม​ไป​วัด​อวิ​๋นจ​วี​ด้วย​กี่​คน​เจ้าค่ะ​ ​บ่าว​เขียน​รายชื่อ​เอาไว้​แล้ว​ ​นำมา​ให้ฮู​หยิน​ดูก่อน​เจ้าค่ะ​!​”

​ป้า​ซ่ง​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​มีธุระ​ ​นาง​จึง​เดิน​ออก​ไป​เงียบๆ​ ​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​สาวใช้​ตัว​น้อย​สอง​สาม​คน​สุมหัว​พูด​อะไร​กัน​ ​ทันทีที่​เห็น​ป้า​ซ่ง​ ​พวก​นาง​ก็​รีบ​ตะโกนเรียก​ ​“​ป้า​ซ่ง​”​ ​แล้ว​แยกย้าย​กัน​ไป

​“​ทำ​อะไร​กัน​”​ ​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ขมวดคิ้ว

​สาวใช้​ที่​เฝ้ายาม​อยู่​ที่​ประตู​ยิ้ม​ขึ้น​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่าฮู​หยิน​จะ​ไป​วัด​ ​สาวใช้​น้อย​สอง​สาม​คนเล​ยอยา​กติด​ตาม​ไปรับ​ใช้​เจ้าค่ะ​!​”

​ป้า​ซ่ง​พยักหน้า​ ​เห็น​จิ​่น​เกอ​เดิน​ข้าม​ธรณีประตู​เข้ามา​แล้ว​วิ่งเหยาะๆ​ ​ไป​เรือน​หลัก​ ​ข้างหลัง​ก็ตาม​มาด​้วย​บ่าว​รับใช้

​นาง​รีบ​เดิน​เข้าไป​ต้อนรับ​เขา

​“​คุณชาย​น้อย​ของ​บ่าว​เจ้า​คะ​ ​เดิน​ช้าๆ​ ​หน่อย​เจ้าค่ะ​”​ ​ป้า​ซ่ง​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ ​“​หาก​ล้ม​ไป​จะ​ทำ​เช่นไร​เจ้า​คะ​”

​จิ​่น​เกอ​ยิ้ม​พลาง​ดิ้น​ไปมา​อยาก​จะ​ลง​บน​พื้น

​ป้า​ซ่ง​เดินตาม​เขา​เข้าไป​เรือน​หลัก

​จิ​่น​เกอ​พุ่ง​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​แม่​ ​เตะ​ลูก​หนัง​ขอรับ​”

​ตอนนี้​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยกำ​ลัง​เรียน​อยู่

​สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​เขา​อยาก​ไปหา​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​จึง​แสร้งทำ​เป็น​ไม่เข้าใจ​ ​นาง​เลิก​คิด​เรื่อง​ใน​ใจ​แล้ว​ถาม​เขา​ด้วย​ความอดทน​ ​“​พี่ชาย​ของ​เจ้า​เล่า​ ​หาก​เจ้า​อยาก​เตะ​ลูก​หนัง​ ​ก็​ไป​เตะ​กับ​พี่ชาย​ของ​เจ้า​สิ​”

​หง​เหวิ​นที​่​อยู่​ข้างๆ​ ​รีบ​อธิบาย​ ​“​คุณชาย​น้อย​ห้า​…​ ​“​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​สะบัด​มือ​ ​บอก​ให้​นาง​อย่า​พูด​

​จิ​่น​เกอ​ใจร้อน​ ​“​พี่ชาย​ ​เตะ​ลูก​หนัง​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ลูบ​หัว​เขา​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​ไป​ชวน​พี่ชาย​ของ​เจ้า​เตะ​ลูก​หนัง​สิ​!​”

​จิ​่น​เกอ​หน้าแดง​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​พี่ชาย​ไม่​เตะ​ลูก​หนัง​”

​หก​คำ​!

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​หน้าบาน​

​นาง​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​แน่น​ ​“​พี่ชาย​ไป​เรียน​ ​ไม่​เตะ​ลูก​หนัง​กับ​เจ้า​ใช่​หรือไม่​”

​จิ​่น​เกอ​พยักหน้า​ไปมา​ราวกับ​ไก่​ที่​กำลัง​จิก​เม็ด​ข้าวสาร​ก็​ไม่​ปาน

​“​เช่นนั้น​ก็​รอ​ให้​พี่ชาย​ของ​เจ้า​เลิก​เรียก​แล้ว​ค่อย​มา​เตะ​ลูก​หนัง​กับ​เจ้า​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​อุ้ม​เขา​ไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​ใน​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันออก​ ​“​ท่าน​แม่​เล่านิทาน​ให้​เจ้า​ฟัง​ดี​หรือไม่​”

​จิ​่น​เกอ​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​มุด​ตัว​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง

​สือ​อี​เหนียง​ปล่อย​ให้​เขา​มุด​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​ตัวเอง​ ​แต่​ใน​ใจ​กลับ​คิด​หาวิ​ธี​ฝึกฝน​บ่าว​รับใช้​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​เขา​ทำ​อะไร​เอง​ไม่​เป็น​เช่นนี้​ ​พูด​อะไร​นิดหน่อย​ทุกคน​ก็​ต้อง​พยายาม​เดา​ ​ถือเป็น​อุปสรรค​ต่อ​การ​สร้าง​นิสัย​ของ​เขา​…

​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ ​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​นึกถึง​หยวน​เหนียง​ขึ้น​มา​

ตอนนั้น​บ่าว​รับใช้​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​มีมาก​กว่า​จิ​่น​เกอ​เสียอีก​ ​แล้ว​หยวน​เหนียง​ก็​ไม่สบาย​ ​ไม่มีแรง​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​เช่นนี้​ ​แต่​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​ไม่ได้​โตมา​เป็น​ลูก​ผู้ลากมากดี​ที่​เย่อหยิ่ง​…​บุตรชาย​ของ​นาง​ ​นาง​ก็​คงจะ​คิดหนัก​เหมือน​ตน​ใช่​หรือไม่​!

​คิด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ตกอยู่ในภวังค์​ครู่หนึ่ง

​*****

​เมื่อถึง​วันที่​สิบ​หก​เดือน​ห้า​ ​ฟ้า​พึ่ง​จะ​สว่าง​ ​ประตู​ใหญ่​ของ​จวน​สกุล​สวี​ค่อยๆ​ ​เปิด​ออก​ ​มี​รถม้า​สิบ​กว่า​คันที​่​อยู่​ท่ามกลาง​ผู้คุ้มกัน​ที่​สวม​ชุด​ผ้าไหม​สีฟ้า​ ​ขี่ม้า​สีแดง​ตัว​ใหญ่​แล่น​ออก​ไป​

​ตระกูล​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​ตรอก​เหอฮ​วาห​ลี่​ ​คือ​ตระกูล​ที่​ร่ำรวย​ ​ปกติ​เลย​ไม่​ค่อย​มี​คน​สัญจร​ไปมา​ใน​ตรอก​ ​เมื่อ​รถม้า​แล่น​ไป​ถึง​ถนน​ซี​ต้า​ ​ถึง​ได้​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​ผู้คน​

​มีเสียง​ดัง​เอะอะ​ดัง​เข้ามา​ใน​หู​ของ​สือ​อี​เหนียง

​จิ​่น​เกอ​นั่ง​พิง​หน้าต่าง​ ​หันหน้า​แนบ​ผ้าม่าน​สีเขียว​แล้ว​มองออก​ไป​ข้างนอก

​“​ท่าน​แม่​ ​คน​เยอะแยะ​!​”

​เขา​ตื่นเต้น​จน​สายตา​เป็นประกาย​

​สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​ ​จากนั้น​ก็​พิง​หน้าต่าง​กับ​บุตรชาย​ ​มองออก​ไป​ข้างนอก​แล้ว​ฟัง​เขา​พูด​ภาษา​เด็กน้อย

​ออกมา​จาก​ตัวเมือง​มา​ ​ผู้คน​ก็​เริ่ม​บางตา​เรื่อยๆ​ ​สถานะ​ของ​พวกเขา​ก็​เปลี่ยนไป​ ​คน​บน​ถนน​ซี​ต้าส​่​วน​ใหญ่​เป็น​คน​เยี​่​ยน​จิง​ ​แต่งตัว​หรูหรา​ ​เต็มไปด้วย​ความสวยงาม​ ​บ่าว​รับใช้​ที่​ออกมา​ต้อนรับ​ลูกค้า​ก็​หน้าตา​ดี​ ​ตอนนี้​ภาพ​ที่​พวกเขา​เห็น​ก็​คือ​คนที​่​เลือก​ไก่​เลือก​เป็ด​ไป​ขาย​ใน​เมือง​บ้าง​ ​คนที​่​แบก​ถุง​ผ้า​เดินทาง​มาจาก​ต่างแดน​บ้าง​ ​และ​พ่อค้า​ที่​ลาก​เกวียน​ที่​เต็มไปด้วย​สินค้า​บ้าง​ ​จิ​่น​เกอ​เบิกตา​กว้าง​

​“​ท่าน​แม่​ ​ไก่​ ​ไก่​!​”​ ​เขา​ชี้​ไป​ที่​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​แต่งตัว​เหมือน​ชาวนา​ข้าง​ถนน​แล้ว​ตะโกน

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​หอม​แก้ม​เขา​ ​“​จิ​่น​เกอ​ฉลาด​มาก​ ​นั่น​คือ​ไก่​!​”

​เขา​เคย​เห็น​แค่​ใน​ภาพวาด

​สือ​อี​เหนียง​ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​กระโดด​ขึ้น​มา​ ​“​ท่าน​แม่​ ​วัว​ ​วัว​ ​วัว​!​”

​“​ใช่​แล้ว​!​”​ ​นาง​หัวเราะ​ ​“​ตัว​ที่​มี​เขา​นั่น​คือ​วัว​”

​จิ​่น​เกอ​มองดู​ทุกอย่าง​ระหว่างทาง​อย่าง​สนอกสนใจ​ ​มาถึง​ประตู​เขา​ของวัด​อวิ​๋นจ​วี​ ​ลงมา​จาก​รถม้า​แล้ว​เขา​ก็​ยังคง​ตื่นเต้น

​เขา​วิ่ง​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​ที่​กำลัง​พูด​กับ​ผู้ดูแล​วัด​ ​“​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​ย่า​ ​ข้า​เห็น​ไก่​ ​ไก่​ขาว​ ​วัว​ ​แล้วยัง​มี​ม้า​…​”

​เขา​ยัง​แยกแยะ​ความแตกต่าง​ระหว่าง​ไก่​ ​เป็ด​และ​ห่าน​ไม่​ออก​ ​จึง​เรียก​ห่าน​ว่า​ไก่​ขาว​

​ไท่ฮู​หยิน​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​หัวเราะ

​เจ้าอาวาส​วัด​คือ​พระภิกษุ​ที่​อายุ​ราว​ห้าสิบ​ปี​ ​รูปร่าง​ปานกลาง​เหมือน​คน​ทั่วไป​ใน​วัย​นี้​ ​อ้วนท้วม​เล็กน้อย​แต่​ไม่ได้​อ้วน​จน​เกินไป​ ​สายตา​เป็นประกาย​ ​ดูก​็​รู้​ว่า​เป็น​คน​มีความรู้​และ​มี​ความสามารถ

​เขา​รีบ​โค้ง​ตัว​ลง​ ​มอง​จิ​่น​เกอ​ด้วย​รอยยิ้ม​ที่​เป็นมิตร​ ​“​นี่​คือ​คุณชาย​น้อย​หก​ใช่​หรือไม่​ ​ช่าง​เป็น​คน​มี​วาสนา​เสีย​จริง​!​”

​“​ท่าน​ชม​เกินไป​แล้ว​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ถ่อมตน​ ​แต่​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ที่เก็บ​ไม่อยู่​ของ​นาง​กลับ​เผย​ให้​เห็น​ความคิด​ที่แท้​จริง​ของ​นาง​ ​นาง​หันไป​พูด​กับ​จิ​่น​เกอ​ ​“​เรียก​ท่าน​เจิ​้ง​เหอ​เร็ว​เข้า​”

​จิ​่น​เกอ​ตะโกนเรียก​ ​“​ท่าน​เจิ​้ง​เหอ​”​ ​เสียงดัง

​ทำเอา​เจ้าอาวาส​เจิ​้ง​เหอ​ชอบ​อก​ชอบใจ​ ​เอ่ย​ชื่นชม​จิ​่น​เกอ​ ​“​ท่าทาง​ใจกว้าง​ ​นิสัย​ร่าเริง​ ​เป็น​คน​มีพรสวรรค์​”

​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​จับมือ​จิ​่น​เกอ​เดิน​เข้า​ประตู​ไป​ ​พาลูก​สะใภ้​ ​หลานชาย​และ​หลานสาว​ไป​สักการะ​พระโพธิสัตว์​ใน​ตำหนัก​ต้าส​ยง​เป่า​ ​จากนั้น​ก็​ไป​พักผ่อน​ที่​เรือน​ปีก​กับ​เจ้าอาวาส​เจิ​้ง​เหอ

​จิ​่น​เกอ​ยัง​เด็ก​ ​วิ่ง​ตาม​ไปร​อบ​ๆ​ ​เช่นนี้​ ​เขา​ก็​เหนื่อย​จน​ผล็อย​หลับ​ไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​แม่นม​กู้

​สวี​ซื่อ​ฉิน​พาส​วี​ซื่อ​เจี่ยน​ ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​ไป​ที่​ถ้ำ​คัมภีร์​กับ​เจ้าอาวาส​เจิ​้ง​เหอ

ฮู​หยิน​ห้า​อยาก​ไป​ปล่อยนก​ปล่อย​ปลา​ ​ฟัง​ซื่อ​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​สายตา​เป็นประกาย​

​จิ​่น​เกอ​ไม่ได้​ออกมา​ข้างนอก​บ่อยๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​เลย​อยาก​พา​เขา​ไป​เดิน​ดูร​อบ​ๆ​

​“​หรือว่า​ ​ข้า​ดู​เซิน​เกอ​ให้​เจ้า​ก็ได้​!​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​เจ้า​พา​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​เถิด​”

​ไท่ฮู​หยิน​ที่​เอน​ตัว​อยู่​บน​เตียง​ ​ให้ฮู​หยิน​สอง​นวด​ขา​ให้​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูด​กับฮู​หยิน​สอง​ ​“​เจ้า​ก็​ไป​ด้วย​เถิด​ ​ไม่ได้​ออกมา​บ่อยๆ​ ​ออก​ไป​เดินเล่น​พักผ่อนหย่อนใจ​เถิด​!​”

ฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​น้อง​สะใภ้​สี่​ต้อง​ดูแล​เด็ก​ๆ​ ​หาก​ข้า​ไป​แล้ว​ ​ใคร​จะ​รับใช้​ท่าน​เล่า​เจ้า​คะ​!​”

​“ฮู​หยิน​สอง​พูด​อะไร​กัน​เจ้า​คะ​”​ ​ป้า​ตู้​ยืน​พูด​อยู่​ข้างๆ​ ​“​ถึงแม้​บ่าว​จะ​แก่​แล้ว​ ​แต่​เรื่อง​การรับใช้​ปรนนิบัติ​ไท่ฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​สอง​อาจจะ​ไม่​ละเอียด​รอบคอบ​เท่า​บ่าว​ก็ได้​เจ้าค่ะ​”

​ไท่ฮู​หยิน​ได้​ฟัง​ก็​หัวเราะ​ ​จากนั้น​ก็​เรียกฮู​หยิน​ห้า​ ​“​เจ้า​เชิญ​พี่สะใภ้​สอง​ไป​ด้วย​เถิด​”

ฮู​หยิน​ห้า​จึง​กอด​แขนฮู​หยิน​สอง​ ​“​หาก​พี่สะใภ้​สอง​ไม่​ไป​ ​พวกเรา​ก็​ไป​ไม่ได้​นะ​เจ้า​คะ​!​”

ฮู​หยิน​สอง​จึง​วาง​ค้อน​เหม่ย​เห​ริน​ลง​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​กับฮู​หยิน​ห้า​ ​ฟัง​ซื่อ​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

​ป้า​ตู้​ทุบ​ขา​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​สือ​อี​เหนียง​พัด​ให้​จิ​่น​เกอ​และ​เซิน​เกอ​ที่นอน​อยู่​ข้าง​กัน​บน​เตียง​เตา

​มี​หลวงจีน​น้อย​วิ่ง​เข้ามา​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​ของ​ใต้เท้า​จิน​ ​รอง​ผู้บัญชาการ​กอง​ปัญจ​ทิศ​รักษา​นคร​ตะวันออก​พาบุ​ตร​สาว​มา​แก้บน​ที่​วัด​ ​ได้ยิน​ว่า​ท่าน​อยู่​ที่นี่​จึง​อยาก​มาก​้​มหัว​ให้ท่า​นข​อรับ​”

​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​อุทาน​ ​“​อ้อ​”​ ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เชิญ​จินฮู​หยิน​เข้ามา​เถิด​!​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ใต้เท้า​จิน​คน​นี้​ ​บรรพบุรุษ​เคย​เป็น​หัวหน้า​หน่วย​ ​รับ​ตำแหน่ง​อยู่​ที่​ค่าย​ใหญ่​ซี​ซาน​ ​ต่อมา​รบ​ชนะ​ที่เ​เคว​้น​เหมียว​เจียง​กับ​คุณชาย​สี่​ ​จึง​กลับมา​ก็​เข้าไป​รับ​ตำแหน่ง​ที่​กอง​ปัญจ​ทิศ​รักษา​นคร​ ​ตอนนี้​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​ขุนนาง​ระดับ​เจ็ด​ ​แต่​เป็น​คนดู​แลค​วาม​สงบ​ของ​ถนน​ตง​ต้า​ ​เขา​เป็น​คนซื่อ​สัตย์​ ​สอง​สาม​ปี​มานี​้​ ​ตระกูล​ของ​เขา​ยิ่ง​รุ่งเรือง​ขึ้น​เรื่อยๆ​”

ถึงแม้​จะ​เป็น​เช่นนี้​ ​แต่​ด้วย​สถานะ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ใต้เท้า​จิน​ไม่ได้​มีบุญ​คุณ​ต่อสกุล​สวี​ ​ไท่ฮู​หยิน​รู้จัก​เขา​ดี​เกินไป​หรือไม่​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​การ​ที่​ไท่ฮู​หยิน​พาลูก​สะใภ้​และ​หลาน​ๆ​ ​มา​จุด​ธูป​ที่​วัด​วันนี้​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลัว​ว่า​จะ​มี​อะไร​ผิดพลาด​ ​เขา​ส่ง​คน​มาบ​อก​ที่​วัด​ตั้งแต่​วันที่​สิบ​ ​แม้แต่​อาหารการกิน​ก็​ต้อง​ให้​บ่าว​รับใช้​ของ​สกุล​สวี​ลอง​ชิม​ดูก่อน​แล้ว​ถึง​จะ​ส่ง​ไป​ที่​โรง​ครัว​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ที่จะ​มี​คนนอก​เข้ามา​แก้บน​ใน​วัด​ ​แต่​จินฮู​หยิน​คน​นี้​กลับ​พาบุ​ตร​สาว​มา​แก้บน​ ​เรื่อง​นี้​บังเอิญ​เกินไป​กระมัง

​เมื่อ​จินฮู​หยิน​เข้ามา​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​มอง​คุณหนู​สกุล​จินตั​้ง​แต่​หัว​จรด​เท้า

​คุณหนู​สกุล​จิน​อายุ​ราว​สิบสอง​สิบ​สาม​ปี​ ​ผิวขาว​ราวกับ​หิมะ​ ​ใบหน้า​กลม​และ​แดง​ระเรื่อ​ ​เวลา​ยิ้ม​ดวงตา​ของ​นาง​กลายเป็น​ตา​พระจันทร์​ครึ่ง​เสี้ยว​ ​ยาม​ที่​คนอื่น​พูด​นาง​ก็​เบิกตา​โต​ฟัง​ด้วย​สีหน้า​ตั้งใจ​ ​น่ารัก​ราวกับ​น้องสาว​ครอบครัว​เดียวกัน​ ​พลอย​ทำให้​คนที​่​เห็น​รู้สึก​ชื่นชอบ​นาง

​เมื่อ​ไท่ฮู​หยิน​และ​จินฮู​หยิน​พูดคุย​กัน​ ​จิ​่น​เกอ​และ​เซิน​เกอ​ก็​ตื่น​แล้ว​ ​จิ​่น​เกอ​ขยี้ตา​แล้ว​ตะโกนเรียก​ ​“​ท่าน​แม่​”​ ​แต่​เซิน​เกอ​กลับ​พลิกตัว​ลุกขึ้น​ ​จากนั้น​ก็​ร้องไห้

​คุณหนู​สกุล​จินตื​่น​ตระหนก​ ​มองดู​เด็ก​สอง​คน​นั้น​อย่าง​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก

​เห็นได้ชัด​ว่านาง​ไม่เคย​เจอ​กับ​สถานการณ์​เช่นนี้

​จินฮู​หยิน​รีบ​อธิบาย​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง​ ​“​นาง​เด็ก​ที่สุด​ใน​จวน​แล้ว​เจ้าค่ะ​…​”

​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​อย่าง​เป็นมิตร​ ​“​ไม่ใช่​ตระกูล​ยากจน​ที่​ต้อง​ให้​คนโต​มาดู​แลคน​เล็ก​”

​จิน​ไฮู​หยิน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

​สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พึมพำ​ใน​ใจ

หรือว่า​ไท่ฮู​หยิน​ถูกใจ​คุณหนู​สกุล​จิน​คน​นี้​?

​จินฮู​หยิน​และ​คุณหนู​สกุล​จิน​นั่ง​อยู่​ครู่หนึ่ง​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา​

​แม่นม​ของ​เซิน​เกอ​อุ้ม​เขา​ไป​ป้อน​นม​ ​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​ป้อน​น้ำ​ให้​จิ​่น​เกอ

​ไท่ฮู​หยิน​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​คุณหนู​สกุล​จิน​คน​นี้​เป็น​เช่นไร​บ้าง​”

คุณหนู​สกุล​จิน​คน​นี้​แค่​ดูก​็​รู้​ว่า​โตมา​ใน​ครอบครัว​ที่​มีความสุข​และ​สมบูรณ์แบบ​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​คงจะ​ไม่มี​รอยยิ้ม​ที่​ร่าเริง​สดใส​ขนาด​นี้

​สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่านาง​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว

​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​ไม่พูดถึง​เรื่อง​ของ​คุณหนู​สกุล​จิน​อีก

​ทานข้าว​บิณฑบาต​ที่​วัด​ ฮู​หยิน​สอง​รับใช้​ไท่ฮู​หยิน​นอน​กลางวัน​ที่​เรือน​ปีก​ ​สวื​่อ​ฉิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ไปดู​หอคอย​สุสาน​ ​สือ​อี​เหนียง​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​เดินเล่น​ใน​วัด​ ฮู​หยิน​ห้า​และ​คนอื่นๆ​ ​เห็น​เช่นนี้​ก็​เดินเล่น​อยู่​ใน​วัด​กับ​สือ​อี​เหนียง

​ใบหน้า​ของ​รูปปั้น​เทพเจ้า​เหล่านั้น​ดู​โหดร้าย​ ​สือ​อี​เหนียง​กลัว​จิ​่น​เกอ​จะ​ตกใจ​ ​จึง​พา​เขา​เดินเล่น​นอก​ตำหนัก

​นอก​ตำหนัก​มีทาง​เดิน​ที่​กว้างขวาง​ ​บน​ทางเดิน​แกะสลัก​เรื่องราว​ทาง​พุทธศาสนา​ต่างๆ​ ​นา​ๆ​ ​แล้วยัง​มี​หิน​มงคล​แกะสลัก​นก​กระ​เรียน​และ​เต่า​ยืน​อยู่​ข้าง​บันได​บน​และ​ล่าง​ ​จิ​่น​เกอ​และ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​วิ่ง​ไปร​อบ​ๆ​ ​จับ​นั่น​จับ​นี่​ ​มีความสุข​เป็นอย่างมาก

​กลับ​ไป​เล่า​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​ตั้ง​นาน​ ​จากนั้น​ก็​หลับ​ไป

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถึง​ได้​มีโอกาส​ถาม​ภรรยา​ที่​เอาแต่​มองดู​บุตรชาย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท