ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 582 ปลิวว่อน (ต้น)

ตอนที่ 582 ปลิวว่อน (ต้น)

สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​ยืน​ทอดสายตา​ไป​ยัง​ทะเลสาบ​ปี้​อี​อยู่​ตรงหน้า​ต่าง​ ​จับมือ​อัน​บอบบาง​ที่​กำลัง​โอบกอด​รอบเอว​ของ​ตัวเอง​ ​พูด​ขึ้น​เบา​ๆ​ ​“​ตอนนี้​ไม่​เหมือนกับ​ตอนที่​ข้า​พึ่ง​จะ​ลาออก​จาก​ตำแหน่ง​ ​ฮ่องเต้​ครองราชย์​บัลลังก์​มา​หลาย​ปี​ ​บวก​กับ​การ​ที่​ไท​เฮา​สิ้นพระชนม์​ ​ขุนนาง​ใน​ราชสำนัก​ไม่มีใคร​กล้า​คัดค้าน​การตัดสินใจ​ของ​ฮ่องเต้​อีกต่อไป​ ​เรื่อง​ที่​ฮ่องเต้​อยาก​จะ​ทำ​มีมาก​มาย​ ​เขา​จะ​มี​เวลา​มาสน​ใจ​พวกเรา​ได้​เช่นไร​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ช่วง​สอง​สาม​ปี​ที่​ข้า​เอาแต่​อยู่​ที่​จวน​ ​ใน​กองทัพ​มี​วีรบุรุษ​อายุ​น้อย​เพิ่มขึ้น​มากมาย​ ​เจี่ย​งอ​วิ​๋น​เฟ​ยก​็​มี​ความดี​ความชอบ​ ​ข้า​กำลัง​นึกถึง​หวัง​จิ​่ว​เป่า​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เสียใจ​ ​“​หาก​ไม่มี​หนังสือ​หมื่น​อักษร​ที่​เขามอบ​ให้​ฮ่องเต้​ ​ฮ่องเต้​ก็​ไม่มีทาง​ยกเลิก​คำสั่ง​ปิด​ทะเล​ได้​อย่างราบรื่น​เช่นนี้​…​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ราชสำนัก​ ​สกุล​ขุนนาง​ใน​เจียง​หนาน​ ​หรือ​กิจการ​ใน​หนาน​เป่ย​ ​ล้วนแต่​ได้รับ​ผลประโยชน์​ ​แต่​ช่วง​วิกฤติ​ ​กลับ​ไม่มีใคร​ยื่นมือ​มาช​่ว​ย.​..​ ​สกุล​หวัง​ถูก​กวาดล้าง​ ​สกุล​โอว​ขึ้น​มามี​อำนาจ​สูงสุด​ ​ราชสำนัก​ก็​ไม่มี​แม่ทัพ​ที่​เชี่ยวชาญ​สงคราม​ทางน้ำ​ ​ที่ทาง​ฝั่ง​ของฝู​เจี​้​ยน​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​มี​การพลิก​ผัน​…​สุดท้าย​คนที​่​ต้อง​ลำบาก​ก็​คือ​ราษฎร​…​สอง​สาม​ปี​มานี​้​ฮ่องเต้​ทำตาม​ใจ​ตัวเอง​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​ตอนแรก​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​เรียก​หวัง​จิ​่ว​เป่า​กลับมา​ ​ตอนนี้​เกิดเรื่อง​เช่นนี้​ขึ้นกับ​หวัง​จิ​่ว​เป่า​ ​ข้า​รู้สึก​ว่า​หวัง​จิ​่ว​เป่า​เพียง​ทำตาม​คำสั่ง​ ​แต่​ฮ่องเต้​ทรง​ไม่สน​ใจ​ราษฎร​ของ​แว่น​เคว​้น​ ​เกรง​ว่า​ถึง​ตอนนั้น​เขา​คงจะ​ต้อง​เสียใจ​ภายหลัง​!​”

ตัว​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แข็งทื่อ

หัวข้อ​นี้​ซับซ้อน​เกินไป​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​ควร​พูด​อะไร​ ​นาง​กอด​สวี​ลิ่ง​อี๋​แน่น​ ​ราวกับว่า​ทำ​เช่นนี้​แล้ว​จะ​สามารถ​ปลอบประโลม​เขา​ได้

พวกเขา​ทั้งสอง​คน​ยืน​เงียบ​อยู่​ตรงนั้น​สักพัก​ใหญ่​

พระอาทิตย์​ที่​เดิมที​ส่องแสง​เจิดจ้า​ ​แต่​ต่อมา​กลับ​หม่น​แสง​ลง​ ​จากนั้น​ก็​มี​เมฆ​หนา​ ​ฝน​เริ่ม​ตกหนัก

ความร้อน​ใน​ห้อง​ไม่ยอม​ระบาย​ออก​ไป​ ​ความ​เย็น​ข้างนอก​ห้อง​ก็​เข้ามา​ไม่ได้​ ​ทันใดนั้น​ ​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​ก็​เริ่ม​หนาแน่น

สวี​ลิ่ง​อี๋​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เรา​ออก​ไป​เดินเล่น​ข้างนอก​กัน​เถิด​”

พวกเขา​สอง​คน​เดิน​ออก​ไป​ใต้​ชายคา

บ่าว​รับใช้​ยก​เก้าอี้​ไม้​ไผ่​มา​ให้​พวกเขา

ฝน​พึ่ง​จะ​ตก​ทำให้​พื้น​เปียก​เพียง​ชั่วครู่​ ​แต่​จู่ๆ​ ​ก็​หยุด​ตก​อย่างกะทันหัน

สายรุ้ง​ปรากฏ​ขึ้น​มาบน​ท้องฟ้า​

สวี​ลิ่ง​อี๋​หยัด​กาย​ยืน​ขึ้น

“​จะ​ทิ้ง​เด็ก​คน​นั้น​ไม่ได้​”​ ​เขามอ​งดู​ท้องฟ้า​สีคราม​หลัง​ฝนตก​ ​“​เมื่อ​เขา​โต​ขึ้น​กว่านี​้​อีก​สักหน่อย​ ​ก็​ให้​เขา​มา​เป็น​บ่าว​รับใช้​ของ​จิ​่น​เกอ​เถิด​ ​ถึง​ตอนนั้น​ให้​เขา​เรียนหนังสือ​ ​เรียน​ขี่ม้า​ ​เรียน​ยิง​ธนู​กับ​จิ​่น​เกอ​…​จะ​ทำให้​ปู่​ของ​เขา​เสื่อมเสีย​ชื่อเสียง​ไม่ได้​”

“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มองดู​ใบหน้า​ที่​หล่อเหลา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ข้า​จะ​ดูแล​เขา​เป็น​อย่างดี​เจ้าค่ะ​!​”

ถึงแม้ว่า​นาง​จะ​พูด​เบา​ๆ​ ​แต่​น้ำเสียง​กลับ​ทรงพลัง​ ​ทำให้​บรรยากาศ​ดู​เคร่งขรึม​ขึ้น​ไม่น้อย

สวี​ลิ่ง​อี๋​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หันไป​มอง​นาง​ ​ก็​เห็น​ภรรยา​ยืน​ทำ​สีหน้า​หม่นหมอง​อยู่​ด้านหลัง​ตัวเอง​

เขา​อด​หัวเราะ​ขึ้น​มา​ไม่ได้

เรื่อง​ของ​ตน​ ​แต่กลับ​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​เป็นกังวล

“​เรา​ไป​กัน​เถิด​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จับมือ​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​มอง​พื้นที่​เปียกแฉะ​ ​เหลือบมอง​รองเท้า​พื้น​สีแดง​สด​ที่​ปัก​ลาย​ห่าน​สีเหลือง​ของ​ตัวเอง​ ​หาก​เดิน​ไป​ทาง​นี้​ ​รองเท้า​ของ​ตัวเอง​ต้อง​เละ​อย่างแน่นอน

ใบหน้า​ของ​นาง​มี​ความลังเลใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​แล้วก็​อด​หัวเราะ​ไม่ได้

สือ​อี​เหนียง​ช่าง​น่าสนใจ​เสีย​จริง​!

ไม่ว่า​เมื่อไร​ ​นาง​ก็​ไม่เคย​ลืม​รายละเอียด​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​พวก​นี้​ ​เกรง​ว่า​ชาติ​นี้​นาง​คง​ไม่เคย​ประสบ​พบ​เจอ​กับ​เหตุการณ์​ที่​น่าอนาถ​มาก​่อ​น.​..

เมื่อ​ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​รู้สึก​ภูมิใจ​ใน​ใจ

เมื่อก่อน​ตอน​อยู่​ที่​สกุล​เดิม​นาง​ไม่เคย​พบ​เจอ​ ​หรือว่า​อยู่​กับ​ตน​แล้วยัง​จะ​ให้​นาง​ต้อง​ลำบาก​เช่นนั้น​หรือ

คิด​เช่นนี้​ ​เขา​ก็​ขึ้นไป​ยืน​อยู่​บน​ขั้นบันได​แล้ว​ตบ​ไหล่​นาง​เบา​ๆ​ ​“​มา​ ​ข้า​แบก​เจ้า​เอง​!​”

สือ​อี​เหนียง​ตกตะลึง​ ​จากนั้น​นาง​ก็​รีบ​ปฏิเสธ​ทันที​ ​“​จะ​ให้ท่าน​โหว​แบก​ข้า​ได้​เช่นไร​กัน​…​”

ชีวิต​ของ​พวกเขา​เต็มไปด้วย​บ่าว​รับใช้​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ไม่มีใคร​อยู่​ข้างหน้า​พวกเขา​ตอนนี้​ ​แต่​ก็​รับประกัน​ไม่ได้​ว่า​จะ​ไม่มี​สาวใช้​หรือ​บ่าว​รับใช้​ยืน​ดู​พวกเขา​ ​เพื่อที่จะ​ได้​เดิน​ออกมา​รับใช้​พวกเขา​ได้​ทันเวลา​ ​คง​แอบ​อยู่​ข้างต้น​ไม้​ใหญ่​หรือ​หลัง​เสา​กระมัง

นาง​ไม่​อยาก​ทำตัว​ปีนเกลียว​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ต่อหน้า​คนอื่น​!

“​ท่าน​โหว​จะ​ไป​ไหน​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​ก้าว​เท้า​เดินลง​บันได

มีบ​่า​วรับ​ใช้​วิ่ง​เข้ามา​ ​เขา​ถือ​รองเท้า​ไม้​มาส​องคู​่

สือ​อี​เหนียง​แอบ​ดีใจ

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​นึก​สนุก​ขึ้น​มา​ ​เขา​สะบัด​มือ​ให้​บ่าว​รับใช้​คน​นั้นแล​้ว​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ข้า​แบก​เจ้า​เอง​ ​อากาศ​หลัง​ฝนตก​มักจะ​สดชื่น​ ​เรา​ไป​ศาลา​ชุน​เหยี​่​ยน​กัน​เถิด​”​ ​เขา​ห้าม​นาง​อยู่​ตรง​บันได

สือ​อี​เหนียง​คง​กลัว​ว่า​จะ​เสียชื่อเสียง​ใช่​หรือไม่

สวี​ลิ่ง​อี๋​แอบ​คิดในใจ​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​รับปาก​ ​“​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​เรื่อง​ของ​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ ​ไม่มีใคร​กล้า​พูด​แน่นอน​”​ ​พูด​ด้วย​สีหน้า​มั่นใจ

สือ​อี​เหนียง​เชื่อ​เขา​อยู่​แล้ว​ ​แต่​เมื่อม​อง​ดู​แผ่น​หลัง​ของ​บ่าว​รับใช้​คน​นั้น​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​บ่น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ถึง​จะ​เป็น​เช่นนี้​ก็​ไม่​ควร​ให้​คนอื่น​เห็น​!​”

“​สาวใช้​และ​บ่าว​รับใช้​เหล่านั้น​เห็นจะ​เป็น​อะไร​ไป​เล่า​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่พอใจ​ ​เขา​ขี้เกียจ​ที่จะ​เถียง​กับ​นาง​แล้ว​ ​จึง​อุ้ม​นาง​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​เรื่อง​เยอะ​แบบนี้​!​”​ ​บ่น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ออก​ไป

สือ​อี​เหนียง​รีบ​กอด​คอ​เขา​อย่าง​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​นาง​รีบ​พูด​ ​“​ท่าน​โหว​ปล่อย​ข้า​ลง​เถิด​ ​ข้า​อยาก​เดิน​เอง​เจ้าค่ะ​!​”

กลิ่นหอม​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​เขา​จะ​ยอม​ปล่อย​นาง​ลง​ได้​อย่างไร​กัน​ ​พูด​ขึ้น​เบา​ๆ​ ​“​ประเดี๋ยว​ก็​ถึง​แล้ว​!​”

ออกมา​จาก​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ ​ต้อง​เดินผ่าน​ซอย​เล็ก​ๆ​ ​แล้ว​เดิน​ขึ้น​บันได​สิบ​กว่า​ขั้น​ ​กว่า​จะ​ถึง​ศาลา​ชุน​เหยี​่​ยน

โกหก​หน้าตาย​!

สือ​อี​เหนียง​แอบ​บ่นพึมพำ​ใน​ใจ​ ​เงยหน้า​มองออก​ไป​ ​โชคดี​ที่​มองไม่เห็น​ใคร​ ​จากนั้น​ก็​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ออกแรง​เกร็ง​ไหล่​ ​นาง​รู้​ว่า​เขา​เป็น​คน​แข็งแรง​ ​แต่​อุ้ม​นาง​เดิน​มา​ไกล​เสีย​ขนาด​นี้​ ​ก็​คง​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่ายๆ

ในขณะที่​นาง​กำลัง​ลังเล​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​เดิน​เข้า​ซอย​เล็ก​ๆ​ ​ไป​แล้ว​ ​จาก​ตรงนี้​สามารถ​มองเห็น​บันได​ของ​ศาลา​ชุน​เหยี​่​ยน​ ​หันหน้า​กลับมา​ ​นาง​กลับ​มองเห็น​เหงื่อ​ตรง​ขมับ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

“​ท่าน​โหว​”​ ​นาง​กัด​ริมฝีปาก​ตัวเอง​ ​“​ท่าน​…​ท่าน​เปลี่ยนเป็น​แบก​ข้า​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​กลั้น​หัวเราะ

ไม่​เหมือน​ตอนที่​พึ่ง​แต่งงาน​กัน​ใหม่​ๆ​ ​สอง​สาม​ปี​ที่ผ่านมา​ ​สือ​อี​เหนียง​ทำตัว​สบาย​ๆ​ ​กับ​เขา​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​อย่าง​แรก​คือ​จัดการ​เรื่อง​เสื้อผ้า​อาหารการกิน​ของ​เขา​ ​ต่อมา​ก็​จัดการ​เรื่อง​การ​เดินทาง​ของ​เขา​ ​ตอนนี้​พัฒนา​มา​จนถึง​เครื่อง​หอม​บน​โต๊ะ​ใน​ห้อง​หนังสือ​ ​เรื่องเล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​นาง​ล้วน​เป็น​คน​จัดการ​

ตอน​เด็ก​เขา​มี​แม่นม​คอย​ดูแล​ ​โต​ขึ้น​มามี​สาวใช้​คอย​ดูแล​ ​ใน​กองทัพ​ก็​มีบ​่า​วรับ​ใช้​คอย​ดูแล​ ​ถึงแม้ว่า​ระหว่าง​นั้น​ไท่ฮู​หยิน​และ​หยวน​เหนียง​ก็​เคย​ทำ​รองเท้า​ให้​เขา​ ​แต่ว่า​คน​หนึ่ง​ทำให้​เขา​ตอนที่​เขา​ยัง​เป็น​ทารก​ ​เวลา​ผ่าน​ไป​นาน​มาก​แล้ว​ ​เขา​จำ​แทบ​ไม่ได้​แล้ว​ ​อีก​คน​หนึ่ง​ทำให้​เขา​ตอนที่​เขา​มีเรื่อง​ราว​มากมาย​ ​เขา​ไม่มีเวลา​สนใจ​ ​เขา​นำ​ไป​ให้​สาวใช้​เก็บ​เอาไว้​ก่อน​ ​จากนั้น​ก็​นำ​ไป​ให้​ห้อง​เย็บปักถักร้อย

ตอนที่​สือ​อี​เหนียง​พึ่ง​จะ​แต่งงาน​เข้ามา​ ​นาง​กำลัง​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​ทำความ​คุ้นเคย​กับ​สถานที่​ใหม่​ ​นาง​จึง​ไม่มีเวลา​เย็บปักถักร้อย​ให้​เขา​ ​ต่อมา​พวกเขา​สอง​คน​เริ่ม​สนิทสนม​กัน​ ​นาง​ทำ​รองเท้า​ฤดูร้อน​ให้​เขา​ด้วยตัวเอง​ด้วย​ความสุข​ที่​เขา​สัมผัส​ได้​ ​ถึงกระนั้น​ก็​คิดไม่ถึง​ว่านาง​จะ​ยืนหยัด​ทำ​มาต​ลอด​ ​ไม่​เพียงเท่านี้​ ​นาง​ยัง​ทำ​กางเกง​ให้​เขา​ ​มัน​ไม่ใช่​แค่​ความสนุก​เพียง​ชั่วคราว​ ​หรือ​เป็น​เพียง​การ​เย็บปักถักร้อย​ยาม​ว่าง​ ​ที่​พอตัว​เอง​ยุ่ง​ก็​โยน​ไป​ให้​คนอื่น​ทำต่อ​ ​แต่​มัน​คือ​การ​เย็บปักถักร้อย​ที่ตั้ง​ใจ​เย็บ​ทั้ง​กลางวัน​และ​กลางคืน​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​คน​ของ​ห้อง​เย็บปักถักร้อย​ ​หรือ​สาวใช้​คนสนิท​ก็​ไม่ได้​ช่วย​นาง​ทำเลย​แม้แต่น้อย​…​เขา​จึง​เริ่ม​ใจอ่อน

โดยเฉพาะ​ตอนที่​โจว​ซื่อ​เจิง​ป่าวประกาศ​ว่า​ตน​มี​ช่าง​ปัก​ที่​ทำ​รองเท้า​ฤดูร้อน​ได้ดี​ ​แต่​ตน​กลับ​อธิบาย​ให้​ใคร​ฟัง​ไม่ได้​ ​เลย​มักจะ​รู้สึก​แปลก​ๆ​ ​แล้วก็​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ว่า​ตัวเอง​ยัง​สวม​กางเกง​ที่​สือ​อี​เหนียง​ทำให้​อยู่​ ​นึกถึง​ตอนที่​สือ​อี​เหนียง​ทำ​กางเกง​ให้​ตน​ ​นาง​มักจะ​ไล่​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ออก​ไป​ข้างนอก​ ​ไม่​อยาก​ให้​คนอื่น​เห็น​ ​จากนั้น​ตน​ก็​เริ่ม​มีความรู้สึก​ที่​มี​ความลับ​กับ​นาง​แค่​สอง​คน

เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มองดู​สือ​อี​เหนียง

ยิ่ง​มอง​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว่านาง​น่ารัก​ ​ยิ่ง​ชอบ​ก็​ยิ่ง​อยาก​จะ​แกล้ง​นาง​เพื่อให้​ได้​เห็นท่า​ที​เขินอาย​ของ​นาง​ ​อยาก​เห็นท่า​ที​เจ้าเล่ห์​ที่​พูด​ปาก​ไม่​ตรง​กับ​ใจ​ของ​นาง​ ​และ​ท่าที​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ของ​นาง​…

เหมือนกับ​ตอนนี้​ ​ถึงแม้ว่า​นาง​จะ​ไม่ยอม​แค่ไหน​ ​แต่​เห็น​เขา​เดิน​มา​ไกล​ขนาด​นี้​ ​นาง​ก็​รู้สึก​ไม่สบายใจ​

จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ก็เพราะว่า​นาง​สงสาร​เขา

คิด​เช่นนี้​ ​หัวใจ​ของ​เขา​ก็​ร้อนผ่าว​ขึ้น​มา​ ​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​แปรเปลี่ยน​เป็นความ​ลังเล

เขา​ปล่อย​นาง​ลง​ข้างต้น​ไม้​ใน​ซอย​อย่างระมัดระวัง​ ​จากนั้น​ก็​ลูบ​ขมับ​นาง​เบา​ๆ​ ​“​ร้อน​หรือไม่​”

ร่างกาย​ของ​นาง​ไม่​ค่อย​แข็งแรง​ ​ประเดี๋ยว​ก็​ขี้​ร้อน​ ​ประเดี๋ยว​ก็​ขี้​หนาว

สือ​อี​เหนียง​ส่ายหน้า​ ​“​ที่นี่​ลมแรง​ ​เย็นสบาย​เจ้าค่ะ​”​ ​พูด​พลาง​ยิ้ม​หวาน

สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้สึก​อุ่นใจ

เขา​แบก​สือ​อี​เหนียง​ ​แล้ว​เดิน​ไป​ตาม​บันได​ของ​ศาลา​ชุน​เหยี​่​ยน

ป่า​เขา​ทางขวา​เขียวชอุ่ม​ ​ดอกไม้​ฤดูใบไม้ผลิ​ทางซ้าย​ดู​ยุ่งเหยิง​แต่กลับ​มีชีวิตชีวา​ ​ป่า​เขา​หลัง​ฝนตก​ ​มีเสียง​นก​ร้อง​ดัง​ออกมา​เป็นครั้งคราว​ ​เดินผ่าน​ดอกไม้​ฤดูใบไม้ผลิ​ไป​ ​สามารถ​มองเห็น​นกยูง​ที่​จิ​่น​เกอ​เลี้ยง​ไว้​ใน​ลาน​ลี่​จิ​่ง​เซ​วี​ยน​กำลัง​เดินเล่น​อยู่​ใน​ลาน

สือ​อี​เหนียง​ซบ​อยู่​บน​แผ่น​หลัง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

ไหล่​ที่​กว้าง​ ​ก้าวเดิน​ที่​เชื่องช้า​แต่​มั่นคง​…

นาง​หลับตา​ลง​ด้วย​ความสบายใจ​ ​วาง​หัว​ของ​ตัวเอง​ลง​บน​ไหล่​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

*****

ศาลา​ชุน​เหยี​่​ยน​ลม​ค่อนข้าง​แรง

สวี​ลิ่ง​อี๋​อุ้ม​สือ​อี​เหนียง​ไป​นั่งลง​บน​เบาะ​รอง​นั่ง

เมื่อ​ลม​พัดผ่าน​มา​ ​เสื้อผ้า​ของ​พวกเขา​ก็​พลิ้วไหว​ทำให้เกิด​เสียง

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​ถือโอกาส​พูดคุย​กับ​นาง

“​เรื่อง​แม่สื่อ​ของ​เจ้า​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่​ค่อย​ได้ยิน​ ​นาง​จึง​ต้อง​ขยับ​หน้า​เข้าไป​ใกล้​ๆ​ ​เขา

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​ฉวยโอกาส​สูด​ลมหายใจ​เข้า​ลึก​ตรง​ซอก​คอนาง​ ​ราวกับ​กำลัง​ดมกลิ่น​หอม​บน​ตัวนาง​ ​ทำให้​นาง​ตกใจ​จน​กระโดด​ออกห่าง​จาก​ตัว​เขา​

“​ไม่เลว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​ยืน​เม้มปาก​ห่าง​จาก​เขา​ประมาณ​ห้า​ก้าว​ ​“​ทาง​ฝั่ง​ของ​กานฮู​หยิน​ ​โจวฮู​หยิน​ ​แล้วยัง​มี​ถังฮู​หยิน​และ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​…​ข้า​ขอร้อง​ให้​พวก​นาง​ช่วยดูแล​ ​เรื่อง​ข่าวลือ​ดวง​พิฆาต​ภรรยา​ของ​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​สกุล​เซี่ยง​ ​ข้า​ก็​บอก​พวก​นาง​เรียบร้อย​แล้ว​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยื่นมือ​ออก​ไป​…​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ถอยหลัง​หนี​…​แต่​นาง​ก็​เร็ว​สู้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​ ​นาง​ถูก​ดึง​กลับ​เข้ามา​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา​อีกครั้ง

“​พวก​นาง​ยัง​ไม่​ให้​คำตอบ​เจ้า​หรือ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​กระซิบ​ข้าง​หู​นาง

เจ้า​หมอนี​่​ ​ขี้​แกล้ง​จริง​เชียว​!

ถึงแม้ว่า​นาง​จะ​ไม่ยอม​แสดง​ความ​สนิทสนม​กัน​ใน​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​แต่​นาง​ก็​เชื่อ​ว่า​เขา​ทำ​อะไร​ไม่ได้​

สือ​อี​เหนียง​สูด​ลมหายใจ​เข้า​ลึก​ ​พยายาม​ไม่สน​ใจ​การกระทำ​ของ​เขา​ ​ทำให้​ตัวเอง​สงบสติอารมณ์​ลง​โดยเร็ว​ที่สุด

“​ตอนนี้​ข้า​รู้​แล้ว​ว่า​ทำไม​นาย​หญิง​เซี่ยง​ถึง​ลำบากใจ​เช่นนั้น​!​”​ ​นาง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​คนที​่​มีความรู้​น้อย​ได้ยิน​เช่นนั้น​ ​แน่นอน​ว่า​พวกเขา​ต้อง​หลบเลี่ยง​ ​ส่วน​คนที​่​ไม่เชื่อ​เรื่อง​พวก​นี้​ก็​กลับ​กลัว​ว่า​หาก​ให้​บุตรสาว​ตัวเอง​แต่งงาน​เข้าไป​แล้ว​จะ​ถูก​ลือ​ว่า​หวัง​สูง​ ​ทำให้​บุตรสาว​ตัวเอง​เสื่อมเสีย​ชื่อเสียง​…​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​นึกถึง​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ขึ้น​มา​ ​“​ท่าน​โหว​เจ้า​คะ​ ​เรื่อง​ของ​อวี​้​เกอ​ ​ข้า​คิด​ว่า​เรา​ควรจะ​เตรียมการ​ได้​แล้ว​กระมัง​!​”

ทันทีที่​พูด​จบ​ ​บรรยากาศ​ก็​ตึงเครียด​ขึ้น​มาทัน​ที

สวี​ลิ่ง​อี๋​นั่ง​ตัวตรง​ ​ปล่อย​ให้​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​ตัวเอง

“​เจ้า​หมายความว่า​?​”

สือ​อี​เหนียง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​หาก​เขา​สอบ​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ​ผ่าน​ก็​คง​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​ ​แต่ว่า​เรา​ก็​ต้องเต​รี​ยม​พร้อม​ ​วางแผน​ให้​เขา​ล่วงหน้า​ด้วย​!​”

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับหัว​เราะ​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​เกรง​ว่า​เจ้า​คงจะ​ต้อง​เลือก​ลูกสะใภ้​จน​ตาลาย​!​”

สือ​อี​เหนียง​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​ความแปลกใจ​

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท