ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 586 พรหมลิขิต (กลาง)

ตอนที่ 586 พรหมลิขิต (กลาง)

สวี​ลิ่ง​อี๋​กระแอม​ ​สือ​อี​เหนียง​ถึง​ได้สติ​กลับมา

พวกเขา​สอง​คน​รีบ​นั่ง​ตัวตรง

สวี​ลิ่ง​อี๋​ถาม​บุตรชาย​ ​“​ใคร​ทะเลาะ​กัน​หรือ​”

จิ​่น​เกอ​เอียง​หัว​ ​มองดู​บิดา​กับ​มารดา​ที่​มีท​่า​ทีนิ​่ง​สงบ​“​ท่าน​พ่อ​กับ​ท่าน​แม่​ขอรับ​…​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​สีหน้า​ที่​สับสน

สวี​ลิ่ง​อี๋​กวักมือ​เรียก​บุตรชาย

จิ​่น​เกอ​วิ่ง​เข้าไป

สวี​ลิ่ง​อี๋​อุ้ม​เขา​ขึ้น​มา​ ​ยิ้ม​แล้ว​ถาม​ว่า​ ​“​พ่อ​กับ​แม่​ทะเลาะ​กันตั​้ง​แต่​เมื่อไร​”

“​เมื่อครู่นี้​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​เบิกตา​กว้าง

“​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​อะไร​คือ​ทะเลาะ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถาม​เขา

จิ​่น​เกอ​พยักหน้า​ ​“​สุย​เฟิง​ทะเลาะ​!​ ​เขา​ทะเลาะ​กับ​ฉั​งอา​นข​อรับ​!​”

สุย​เฟิง​ทะเลาะ​กับ​ฉั​งอาน​เมื่อไร​ ​แล้ว​เขา​จะ​ทะเลาะ​กับ​ฉั​งอาน​ได้​อย่างไร

สือ​อี​เหนียง​ไม่เข้าใจ

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​ถาม​จิ​่น​เกอ​ ​“​พวกเขา​ทะเลาะ​กัน​อย่างไร​”

จิ​่น​เกอ​ทำท่า​กด​ตัว​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​แบบนี้​ขอรับ​!​”

“​เช่นนั้น​เมื่อครู่นี้​ ​พ่อ​กับ​แม่​ของ​เจ้า​ทำ​แบบ​นั้น​หรือ​”

จิ​่น​เกอ​ครุ่นคิด​ ​จากนั้น​ก็​ส่ายหน้า

“​เช่นนั้น​เหตุใด​เจ้า​ถึง​บอกว่า​พ่อ​กับ​แม่​ทะเลาะ​กัน​เล่า​”

จิ​่น​เกอ​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สีหน้า​ขอความช่วยเหลือ

เจ้า​หมอนี​่​ ​แม้แต่​ลูก​ตัวเอง​ก็​ยัง​กลั่นแกล้ง​!

สือ​อี​เหนียง​แอบ​บ่น​ใน​ใจ​ ​นาง​รีบ​เข้าไป​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ ​“​จิ​่น​เกอ​มา​ให้​แม่​เล่านิทาน​ให้​ฟัง​เช่นนั้น​หรือ​”​ ​นาง​ถาม​เขา​อย่าง​อ่อนโยน

จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พยักหน้า​ ​“​ให้ท่าน​แม่​เล่านิทาน​ขอรับ​!​”

“​ได้​เลย​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​อุ้ม​เขา​ลงมา​จาก​เตียง​ ​“​เรา​ไป​เล่านิทาน​กัน​เถิด​!​”

จิ​่น​เกอ​ยิ้ม​ด้วย​ความดีใจ

สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ที่​แอบ​ฟัง​อยู่​ได้ยิน​ดังนั้น​ต่าง​ก็​พากัน​แยกย้าย​ไป​ ​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​เดิน​ออกมา​ ​พวก​นาง​ก็​ยืน​กุมมือ​ก้มหน้า​ด้วย​ความเคารพ

สือ​อี​เหนียง​กลับมา​ที่​ห้อง​ยาม​ไฮ​่

“​เหตุใด​ถึง​กลับมา​ดึก​เช่นนี้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอน​ตัว​อ่านหนังสือ​บน​เตียง​อยู่​คนเดียว​ ​“​จิ​่น​เกอ​ดื้อ​หรือ​”

“​ไม่ใช่​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เบิกตา​กว้าง​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​เอาแต่​ถาม​ข้าว​่า​อะไร​คือ​ทะเลาะ​กัน​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบ​เพียง​ ​“​อืม​”​ ​อย่าง​นิ่งเฉย​ ​จากนั้น​ก็​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​แค่​กลัว​ว่า​เจ้า​จะ​เสียหน้า​”​ ​จากนั้น​ก็​มองดู​ม้วน​หนังสือ​ใน​มือ​อีกครั้ง​ ​ทำท่า​ที​ตั้งใจ​อ่านหนังสือ

สือ​อี​เหนียง​ไม่พอใจ

โชคดี​ที่​แค่​ล้อเล่น​กัน​ ​หาก​ทะเลาะ​กัน​ขึ้น​มา​จริงๆ​…​คงจะ​เสียหน้า​น่าดู​!

คิด​เช่นนี้​แล้ว​ ​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูด​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​จริงๆ​ ​เลย​ ​ใคร​กัน​แน่​ที่​ไม่ยอม​ปล่อย​”​

สวี​ลิ่ง​อี๋​แสร้งทำ​เป็น​ไม่ได้​ยิน​ ​จากนั้น​ก็​พูด​เรื่อง​แต่งงาน​ที่​เหลียงฮู​หยิน​พูดถึง​ ​“​ในเมื่อ​คิด​ว่า​แม่นาง​ของ​ตัวเอง​หน้าตา​สวยงาม​ ​ไม่​อยาก​ให้​แต่งงาน​กับ​ใคร​ ​แล้วยัง​ถือโอกาส​ตอนที่​สกุล​เหลียง​คลอด​หลานชาย​มา​เยี​่​ยน​จิง​ ​ข้า​คิด​ว่า​พวกเขา​คงจะ​มีแผน​การ​ ​หาก​ไม่ใช่​ความคิด​ของ​สามี​นาง​ ​เช่นนั้น​ก็​แสดงว่า​เป็นความ​คิด​ของ​เหลียงฮู​หยิน​คน​นั้น​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ไป​เจอ​นาง​ก็ได้​!​”

สือ​อี​เหนียง​ก็​คิด​เช่นนี้​เหมือนกัน​ ไม่เช่นนั้น​ ​นาง​คง​ไม่​แกล้ง​หยอกล้อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​แต่กลับ​ถูก​สวี​ลิ่ง​อี๋​หยอกล้อ​กลับ​!

“​ข้า​รู้​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​ตอบรับ​แล้ว​ปล่อย​ม่าน​เตียง​ลง

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​เขา​ถาม​นาง​อย่าง​เคร่งขรึม​ว่า​ ​“​อ้อ​ใช่​ ​เจ้า​อธิบาย​คำ​ว่า​ทะเลาะ​ให้​จิ​่น​เกอ​ฟัง​อย่างไร​หรือ​!​”

สือ​อี​เหนียง​คิดไม่ถึง​ว่า​เขา​จะ​ถาม​เรื่อง​นี้​ ​นาง​แปลกใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​มุม​ปาก​ ​“​หรือว่า​ ​เรา​ลอง​ทะเลาะ​กัน​ดูดี​หรือไม่​”

*****

เรื่องราว​เป็นไปตาม​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​คาดคิด​ไว้

ตั้งแต่งาน​เลี้ยง​ฉลอง​ที่​สวี​ซื่อ​อวี​้​สอบผ่าน​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ​สิ้นสุดลง​ ​ก็​มี​หลาย​สกุลมา​พูดเป็นนัย​ว่า​อยาก​แต่งงาน​กับ​สกุล​สวี​ ​เมื่อก่อน​มี​ข้ออ้าง​ว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่มี​ชื่อเสียง​ ​แต่​ตอนนี้​ไม่มี​ข้ออ้าง​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​รู้สึก​ลำบากใจ​

นาง​ไม่เคย​เจอ​บุตรสาว​ของ​ภรรยา​เอก​สกุล​ใหญ่​สกุล​โต​ ​เลย​แทบ​ไม่รู้​จัก​ใคร​สัก​คน​ ​แต่ว่า​คนอื่น​กลับ​รู้จัก​ครอบครัว​นาง​เป็น​อย่างดี​ ​เพราะว่า​เป็น​บุตรสาว​ที่​เลี้ยง​อยู่​ใน​จวน​ ​จะ​สืบ​เรื่อง​อัน​ใด​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย​ ​จึง​ทำให้​นาง​รู้สึก​ไม่​มั่นใจ

เมื่อ​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ว่า​ต่อไป​สวี​ซื่อ​อวี​้​ต้อง​ย้ายออก​ไป​อยู่​ข้างนอก​ ​นาง​จึง​อยาก​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​แต่งงาน​กับ​ภรรยา​ที่​มี​ความสามารถ​

และ​ในขณะนี้​เอง​ ​ฟังฮู​หยิน​ก็​พาบุ​ตร​ชาย​มาที​่​เยี​่​ยน​จิง​

ตามธรรม​เนียม​แล้ว​ ​นาง​ต้อง​ไป​คารวะฮู​หยิน​สาม​ก่อน​

ไท่ฮู​หยิน​รู้​เช่นนี้​ก็​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​นาง​พูด​กับ​ป้า​ตู้​ ​“​ดูเหมือนว่า​ ​คน​ของ​เรา​คงจะ​ถูก​กำ​ไว้​ใน​มือ​แล้ว​”

ป้า​ตู้​กำลัง​นั่ง​ตัด​เล็บเท้า​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ตราบใดที่​มีชีวิต​ที่​ดี​ ​ใคร​จะ​ถูก​กำ​อยู่​ใน​มือ​ก็​ไม่ใช่​เรื่องสำคัญ​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​ ​“​ก็​จริง​ ​ตอนนี้​พวกเขา​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​ตรอก​ซาน​จิ​่ง​แล้ว​ ​ข้า​ไม่เห็น​พวกเขา​ก็​ไม่​เป็นกังวล​ ​แค่​มี​คนที​่​รู้ความ​ดูแล​เรื่อง​ใน​จวน​ก็​พอ​!​”

ป้า​ตู้​ยิ้ม​แต่​ไม่​พูด​อะไร​ต่อ​ ​นาง​รับใช้​ไท่ฮู​หยิน​พักผ่อน

เช้า​วัน​ต่อมา​ ฮู​หยิน​สาม​ก็​พา​ฟังฮู​หยิน​มาคา​รวะ​ไท่ฮู​หยิน

ฟังฮู​หยิน​รูปร่าง​ไม่​สูง​ ​หน้าตา​สวยงาม​ ​สายตา​อ่อนโยน​ ​ดู​เป็น​ผู้หญิง​ธรรมดา​คน​หนึ่ง​ ​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​แอบ​พึมพำ​ใน​ใจ​

หาก​เจอ​นาง​ที่อื่น​ ​ตน​คง​คิดไม่ถึง​ว่า​ฟังฮู​หยิน​จะ​เป็น​คน​นี้​ ​ดูเหมือนว่า​ฟัง​ซื่อ​จะ​ไม่​เหมือน​บิดา​แต่กลับ​เหมือน​มารดา​เสียมา​กก​ว่า

น้องชาย​ของ​ฟัง​ซื่อ​อายุ​เพียง​สิบ​ขวบ​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ดู​มีมา​รยาท​ ​แต่​สายตา​ของ​เขา​กลับ​มี​ความอยากรู้​อยาก​เห็น​ซุกซน​ราวกับ​เด็กน้อย​ ​ทำให้​เขา​ดู​น่ารักน่าชัง

ไท่ฮู​หยิน​เห็น​เช่นนี้​ก็​ชื่นชอบ​เขา​ ​นาง​จับมือ​เขา​มาถาม​ว่า​กี่​ขวบ​แล้ว​ ​เรียนหนังสือ​แล้ว​หรือยัง​ ​ปกติ​ชอบ​ทำ​อะไร​…​แล้วยัง​บอก​ให้​คน​ไป​เชิญ​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​คนอื่นๆ​ ​มา​พบ​แขก

ฟังฮู​หยิน​เจอ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​ทำ​สีหน้า​พอใจ​ ​ชื่นชม​เขา​สอง​สาม​ประโยค​ ​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​แล้ว​ ​ฟัง​จี้​น่าจะ​เล่าเรื่อง​ดี​ๆ​ ​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ให้​พวกเขา​ฟัง​ไม่น้อย​

สวี​ซื่อ​จุน​แก่​กว่า​คุณชาย​น้อย​สกุล​ฟัง​แค่​หนึ่ง​ปี​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอา​ยุ​น้อยกว่า​คุณชาย​น้อย​สกุล​ฟัง​หนึ่ง​ปี​ ​พวกเขา​จึง​สนิทสนม​กัน​อย่างรวดเร็ว​ ​สำหรับ​จิ​่น​เกอ​และ​เซิน​เกอ​ที่​ยัง​เด็ก​ ​แม่นม​ของ​พวกเขา​อุ้ม​มาคา​รวะ​ฟังฮู​หยิน​จากนั้น​ก็​อุ้ม​กลับ​ไป​ที่​เรือน​แล้ว

ไท่ฮู​หยิน​เชิญ​ฟังฮู​หยิน​อยู่​ทานอาหาร​กลางวัน​ ​ฟังฮู​หยิน​ก็​ไม่ได้​ปฏิเสธ​ ​แต่​เมื่อ​ทานอาหาร​กลางวัน​เสร็จ​ ​นาง​ก็​อ้างว่า​ไม่​รบกวน​ไท่ฮู​หยิน​นอน​กลางวัน​ ​แล้ว​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา​

สือ​อี​เหนียง​ออก​ไป​ส่ง​ฟังฮู​หยิน​สอง​แม่​ลูก​และฮู​หยิน​สาม​ที่​ประตู​ฉุยฮ​วา​

เมื่อ​นาง​กำลังจะ​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ ​ก็​มีบ​่า​วรับ​ใช้​วิ่ง​หอบ​เข้ามา​

เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ ​เขา​ก็​โค้ง​คำนับ​ ​“ฮู​หยิน​สี่​ขอรับ​ ​บ่าว​กำลังจะ​ไป​ส่ง​เทียบ​ขอ​พบ​ให้ฮู​หยิน​สอง​ที่​เรือน​เสา​หวา​ขอรับ​!​”

สือ​อี​เหนียง​แปลกใจ

ฮู​หยิน​สอง​ไม่​ค่อย​ออก​ไป​ไหน​ ​ไม่รู้​ว่า​ใคร​ส่ง​เทียบ​มา​ขอ​เจอ​กับฮู​หยิน​สอง

นาง​แอบ​สังเกต​ดูก​็​เห็น​ว่า​คนที​่​ส่ง​เทียบ​มา​ให้ฮู​หยิน​สอง​คือ​นาย​หญิง​เกา

“​พวก​เจ้า​เป็น​อะไร​กัน​”​ ​เมื่อ​นาย​หญิง​เกา​เจอฮู​หยิน​สอง​นาง​ก็​ยิ้ม​ ​“​ไม่​กี่​วันก่อน​ที่​โหร​วจิ​่น​แต่งงาน​ออกเรือน​ไป​ยังดี​ๆ​ ​กัน​อยู่​เลย​ ​เหตุใด​ไป​ที่​จวน​เจ้า​แล้ว​พี่สะใภ้​ของ​เจ้า​ถึง​ได้​แอบ​กลับมา​ร้องไห้​”

ฮู​หยิน​สอง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ขมวดคิ้ว

ตน​ไม่​ชอบ​ให้​นาย​หญิง​เซี่ยง​พูดถึง​สกุล​เซี่ยง​ต่อหน้า​คน​สกุล​เดิม​ของ​นาง​มาก​ที่สุด​

แต่​นาง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ตอบโต้​ ​นาย​หญิง​เกา​ก็​ถอนหายใจ​ ​“​พวก​เจ้า​นะ​พวก​เจ้า​ ​จะ​ให้​ข้า​พูด​เช่นไร​ ​คน​หนึ่ง​ปากแข็ง​ใจอ่อน​ ​เรื่อง​ที่​ควร​จัดการ​ไม่เคย​ปฏิเสธ​ ​แต่​เรื่อง​ที่​ไม่​ควร​จัดการ​ ​ก็​จัดการ​ได้​อย่างเหมาะสม​ ​แล้วยัง​ไม่ยอมรับ​ ​ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​ถูก​เอาอกเอาใจ​ตั้งแต่​เด็ก​ ​พูด​อะไร​ตรงไปตรงมา​ ​แม้แต่​พูดอ้อมค้อม​ก็​ยัง​พูด​ไม่​เป็น​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​ ​คนนอก​อย่าง​ข้า​ ​ไม่​ควร​เข้ามา​ยุ่ง​เรื่อง​ของ​พวก​เจ้า​ ​เมื่อก่อน​ ​ข้า​ก็​แค่นั​่​งดู​อยู่​ข้างๆ​ ​พูดถึง​พี่สะใภ้​เจ้า​ลับหลัง​ ​แต่​ครั้งนี้​ ​ข้า​ทน​ดูไม่ได้​จริงๆ​!​”

เป็น​คน​เริ่ม​พูด​ก่อน​!

คิด​เช่นนี้​ ​แต่​นาง​กลับ​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​อย่าง​นิ่งเฉย​

นาย​หญิง​เกา​รู้​ว่า​คุณหนู​สกุล​เซี่ยง​คน​นี้​ไม่ใช่​คนธรรมดา​ ​นาง​ไม่พอใจ​กับ​ท่าที​ที่​ไม่สน​ใจ​อะไร​ของฮู​หยิน​สอง​ ​สีหน้า​ของ​นาย​หญิง​เกา​เคร่งขรึม​ขึ้น​ ​นาง​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​ไม่​พูด​เรื่อง​อื่น​ ​แต่​พูด​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​คุณชาย​น้อย​สอง​สกุล​สวี​และ​โหรว​เน่อ​ของ​เรา​ดีกว่า​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​พวก​เจ้า​ก่อเรื่อง​ ​มัน​จะ​มี​จุดจบ​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​ ​คุณชาย​น้อย​สอง​สกุล​สวี​นั่น​ไม่​ทุกข์ร้อน​ ​เพราะ​เขา​เป็น​ผู้ชาย​ ​ค่อยๆ​ ​เลือก​เอา​ก็ได้​ ​แต่กลับ​ทำให้​โหรว​เน่อ​ของ​เรา​เสียเวลา​!​”

ฮู​หยิน​สอง​ได้​ฟัง​แล้วก็​เลิก​คิ้ว

ตอนแรก​พี่สะใภ้​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ถูก​ดูถูก​ ​ตำหนิ​นาง​ว่า​เข้ามา​ยุ่ง​เรื่อง​ใน​จวน​ ​ไม่ว่า​อะไร​ก็​ปฏิเสธ​ ​ตอนนี้​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​โหรว​เน่อ​ไม่ได้​ดั่ง​ใจ​แต่กลับ​มา​โทษ​นาง​!

หัว​ของฮู​หยิน​สอง​หมุน​อย่างรวดเร็ว

ปกติ​นาง​ไม่​ค่อย​ไปมาหาสู่​กับ​นาย​หญิง​เกา​ ​ความสัมพันธ์​ของ​พวก​นาง​ ​หาก​ไม่มี​เรื่อง​อัน​ใด​ก็​ไม่​ไปมาหาสู่​กัน​ ​แต่​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​พูดถึง​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​โหรว​เน่อ​ ​หรือว่า​…

คิด​เช่นนี้​ ​สีหน้า​ของฮู​หยิน​สอง​ก็​เปลี่ยนไป

สกุล​สวี​ไม่ใช่​สกุล​ชาวไร่ชาวนา​ ​ที่​อยาก​จะ​มา​พูด​เรื่อง​แต่งงาน​ก็​มา​พูด​ ​ไม่​อยาก​พูด​ก็​เอะอะโวยวาย​

ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ที่​ตอนนี้​สวี​ซื่อ​อวี​้​สอบผ่าน​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ก็​ไม่อยู่​แล้ว​ ​อนาคต​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ยัง​อีก​ยาว​ไกล​ ​และ​ถึงแม้ว่า​ต่อให้​ตอนนี้​สวี​ซื่อ​อวี​้​จะ​ไร้​ชื่อเสียง​ ​และ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​ตน​ก็​ไม่มีทาง​ทำ​เรื่อง​ที่​ทำให้​สกุล​สวี​อับอาย​ขาย​ขี้​หน้า​เช่นนั้น​อีก​!

“​เมื่อก่อน​นาย​หญิง​เกา​ไม่​ค่อย​สนใจ​เรื่อง​ของ​พี่สะใภ้​ ​เพราะ​ไม่เข้าใจ​สถานการณ์​”​ ฮู​หยิน​สอง​พูดตรงไปตรงมา​ ​“​ตอนแรก​พี่สะใภ้​คิด​ว่า​ข้า​พูด​เรื่อง​แต่งงาน​นี้​ ​ทำให้​นาง​อับอาย​ ​ไม่ว่า​เช่นไร​ก็​ไม่เห็นด้วย​ ​เพราะ​เรื่อง​นี้​ ​ไท่ฮู​หยิน​เอง​ก็​ไม่สบายใจ​ ​แม้แต่​น้อง​สะใภ้​สี่​ ​เกรง​ว่า​จนถึง​ตอนนี้​คง​ยัง​จะ​โทษ​ว่า​ข้า​ทำตัว​ไม่เหมาะสม​ ​แต่​ทำไม​ข้า​ฟัง​ดูแล​้​วรู​้​สึก​ว่านาย​หญิง​เกา​กำลัง​ตำหนิ​นาง​ ​หาก​พี่สะใภ้​ของ​ข้า​รู้​ ​เกรง​ว่านา​งคง​จะ​ไม่พอใจ​นาย​หญิง​เกา​ ​คิด​ว่านาย​หญิง​เกา​ไม่เห็น​หัว​นาง​ ​อยาก​ให้​บุตรสาว​ของ​นาง​แต่งงาน​กับ​สกุล​เช่นนี้​…​”

นาย​หญิง​เกา​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​คิด​ว่า​ตัวเอง​มา​ไกล่เกลี่ย​ ​ไม่ได้​มาหา​เรื่อง​ทะเลาะ​ ​จึง​รีบ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​คุณหนู​พูด​ถูก​ ​แต่ว่า​ ​คุณหนู​อาจจะ​อยู่​คนเดียว​นาน​เกินไป​ ​ทำ​อะไร​ก็​ทำ​คนเดียว​ ​ลืม​ปรึกษา​กับ​พี่สะใภ้​ของ​เจ้า​…​”​ ​นาง​พูดถึง​เหตุผล​ที่​ทำไม​ตอนนั้น​นาย​หญิง​เซี่ยง​ถึง​ไม่เห็นด้วย​ ​“​ไม่เช่นนั้น​ ​ด้วย​มิตรภาพ​ของ​สอง​สกุล​ ​ก็​คงจะ​แต่งงาน​กัน​ไป​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​ยัง​จะ​รอ​จนถึง​วันนี้​เช่นนั้น​หรือ​”​ ​นาง​ยิ้ม​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​เด็ก​สอง​คน​นี้​ช่าง​มี​วาสนา​ต่อกัน​เสีย​จริง​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​เหตุใด​ถึง​ผ่าน​ไป​ตั้ง​สอง​สาม​ปี​ ​พวกเขา​กลับ​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน​สัก​คน​?​”

การคาด​เดา​ใน​ใจ​ได้รับ​การ​ยืนยัน​ ฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​อย่าง​เย็นชา​ ​นาง​ขี้เกียจ​ที่จะ​พูด​กับ​นาย​หญิง​เกา​ไปมา​กก​ว่านี​้​เลย​นั่ง​ฟัง​อย่าง​เหม่อลอย​

นาย​หญิง​เกา​ก็​ไม่ยอม​แพ้​ ​นาง​ถอนหายใจ​แล้ว​พูด​ต่อ​ ​“​เจ้า​ก็​รู้จัก​นิสัย​พี่สะใภ้​ของ​เจ้า​ดี​ ​สอง​สาม​ปีนี​้​ใต้เท้า​เซี่ยง​รับ​ตำแหน่ง​ ​นาง​วิ่ง​ตาม​ไปดู​แล​ใต้เท้า​เซี่ยง​ทุกที​ ​ลำบาก​ไม่น้อย​ ​เลี้ยงลูก​สอง​สาม​คนจน​โต​ ​ตอนแรก​มีเรื่อง​ของ​อี้จ​ยา​ ​ต่อมา​มีเรื่อง​ของ​โหรว​เน่อ​ ​ทำให้​นาง​สับสน​ ​แม้แต่​พูดจา​ต่อหน้า​คนอื่น​ก็​ยัง​ไม่มี​ความมั่นใจ​ ​เจ้า​ไม่รู้​ ​งานเลี้ยง​ที่​จวน​เมื่อ​สอง​วันก่อน​ ​นาง​ถูก​ลูกพี่ลูกน้อง​ของ​ข้า​เยาะเย้ย​ ​หาก​เป็นปกติ​ ​พี่สะใภ้​ของ​เจ้า​ยอม​คน​ได้ที่​ไหน​กัน​ ​แต่​ครั้งนี้​นาง​กลับ​ไม่​พูด​อะไร​สัก​คำ​ ​เพียง​พา​โหรว​เน่อ​และ​อี้จ​ยาก​ลับ​จวน​ ​กลับ​ไป​ถึง​เรือน​ก็​ร้องไห้

ตอนนั้น​โหรว​เน่​อก​็​อยู่​ใน​เหตุการณ์​ ​เกิดเรื่อง​เช่นนี้​ขึ้น​ ​นาง​ก็​ปลอบใจ​พี่สะใภ้​ของ​เจ้า​ตลอด

ล้วนแต่​บอกว่า​โหรว​เน่อ​เป็น​คน​สุขุม​ ​แต่​ไม่ว่า​จะ​สุขุม​แค่ไหน​ ​นาง​ก็​เป็น​แค่​แม่นาง​ที่​อายุ​สิบ​เจ็ดสิบ​แปด​ปี​ ​ข้า​ไม่เชื่อ​ว่านาง​จะ​ไม่​เสียใจ​เลย​แม้แต่น้อย​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​งานเลี้ยง​ฉลอง​ของ​คุณชาย​น้อย​สอง​วันนั้น​ ​ทำไม​ไม่ว่า​ถึงอย่างไร​นาง​ก็​ไม่ยอม​ออก​ไป​ไหน​ ​เพราะ​นาง​กลัว​ว่า​คนอื่น​จะ​หัวเราะเยาะ​เอา​ได้​!​”

แม้ฮู​หยิน​สอง​กับ​พี่สะใภ้​ของ​ตัวเอง​จะ​ไม่​ค่อย​เป็นมิตร​กัน​ ​แต่​นาง​ก็​รักใคร่​เอ็นดู​หลานชาย​หลานสาว​จาก​ใจจริง

เมื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​นาง​ก็​เงียบ​ไป

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท