ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 598 รัก (กลาง)

ตอนที่ 598 รัก (กลาง)

​ก่อน​งานเลี้ยง​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​หนึ่ง​วัน​ ​ฝน​ได้​ตกลง​มาตอ​นก​ลาง​คืน

​พอ​ถึง​กลางดึก​ฝน​ก็​หยุด​ตก​ ​เมื่อ​ตื่นขึ้น​ใน​เช้า​วัน​ต่อมา​ ​ใบไม้​ที่​ถูก​ชะล้าง​ด้วย​น้ำฝน​นั้น​ดู​เป็นประกาย​มีชีวิตชีวา​ ​สีเขียว​ขจี​และ​อากาศ​ก็​สดชื่น​กว่า​ปกติ​ ​เมื่อ​พระอาทิตย์​ขึ้น​ดอกบัว​ก็​จะ​เบ่งบาน​ ​นำพา​กลิ่นหอม​โชย​ไป​ทั่วทั้ง​จวน​ ​พลอย​ทำให้​คนที​่​ได้กลิ่น​รู้สึก​สดชื่น​แจ่มใส

​“​เลือก​วัน​ได้ดี​จริงๆ​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​มองออก​ไปนอก​หน้าต่าง​ ​ยิ้ม​พลาง​หันมา​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ ​“​แขก​ที่​จุน​เกอ​เชิญ​มา​ ​ถึง​ครบ​หมด​แล้ว​หรือยัง​”

​“​มาถึง​ครบ​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รับ​ถ้วย​ชา​จาก​สาวใช้​น้อย​มา​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​คุณชาย​สกุล​หวัง​บุตรชาย​ของ​ใต้เท้า​หวัง​ลี่​นาม​ว่า​หวัง​อวิ​่น​ ​คุณชาย​สกุล​โต้ว​บุตรชาย​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​นาม​ว่า​โต้​วจิ​้​ง.​..​”​ ​นาง​เล่า​รายละเอียด​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง​ ​“​จัด​ที่​ศาลา​ริมน้ำ​ฉุย​หลุน​ ​ที่นั่น​อากาศ​เย็นสบาย​ ​เหมาะสำหรับ​ชมด​อก​บัว​และ​ตกปลา​ ​จุน​เกอ​ได้​ชวน​เจี​้ย​เกอ​มาดู​แล​แขก​ด้วยกัน​ ​ข้า​ให้​ห้องครัว​เตรียม​เครื่องเคียง​แปด​อย่าง​และ​อาหาร​สิบสอง​จาน​ ​นอกจาก​เนื้อไก่​ ​เป็ด​ ​และ​ปลา​แล้ว​ ​ยัง​ให้​คน​ส่ง​ม้าเร็ว​ไป​นำ​พืช​แปด​เซียน​สดๆ​ ​มาจาก​หนาน​จิง​อีกด้วย​ ​ทาน​คู่​กับ​น้ำแข็ง​เป็น​ของ​ล้างปาก​ได้​อย่างดี​”

​ไท่ฮู​หยิน​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​จุน​เกอ​ชวน​เจี​้ย​เกอ​มาต​้อ​นรับ​แขก​ด้วยกัน​หรือ​”​ ​น้ำเสียง​แฝง​เอาไว้​ด้วย​ความ​ไม่เห็นด้วย

​สือ​อี​เหนียง​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ทั้งสอง​คนสนิท​กัน​มาตั​้ง​แต่​ยัง​เล็ก​ ​จุน​เกอ​ก็​เอาแต่​ขอร้อง​เรื่อง​นี้​ ​ข้า​คิด​ว่า​พี่น้อง​สอง​คน​ได้​อยู่​ด้วยกัน​ ​ก็​จะ​ได้​ช่วยดูแล​ซึ่งกันและกัน​ ​จึง​ได้​ตอบ​ตกลง​เจ้าค่ะ​”

​ไท่ฮู​หยิน​เพียงแต่​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ​โอบ​จิ​่น​เกอ​ที่นั่ง​ฟัง​ผู้ใหญ่​คุย​กัน​อย่างว่า​ง่าย​ ​“​ปีนี​้​พี่​สี่​จัดงาน​เลี้ยง​ที่​สวน​หลัง​จวน​ ​เจ้า​อยาก​ไป​หรือไม่​”

​จิ​่น​เกอ​ส่ายหน้า​ ​“​ข้า​จะ​ปลูก​แมลง​ขอรับ​!​”

​“​ปลูก​แมลง​?​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความสงสัย

​สือ​อี​เหนียง​รีบ​บอก​ไท่ฮู​หยิน​เรื่อง​ไส้เดือน

​ไท่ฮู​หยิน​คิด​มา​เสมอ​ว่า​เด็กผู้ชาย​ไม่​ควร​เลี้ยง​อย่าง​ประคบประหงม​ ​เด็ก​ที่​โตมา​เช่นนี้​ไม่เพียงแต่​จะ​แข็งแรง​ ​ซ้ำ​ยัง​มี​ความกล้า​ ​เมื่อ​เจอ​ลมพายุ​ก็​จะ​สามารถ​ต้านทาน​ได้​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​บรรดา​พี่น้อง​ตอน​เด็ก​ๆ​ ​ก็​ถูก​เลี้ยง​มา​แบบนี้​เช่นกัน

​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​สีหน้า​ดู​ผ่อนคลาย​กว่า​เดิม​ไม่น้อย​ ​หอม​แก้ม​จิ​่น​เกอ​หนึ่ง​ที​ ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​จิ​่น​เกอ​ของ​พวกเรา​ฉลาด​มาก​จริงๆ​ ​รู้จัก​ปลูก​แมลง​ด้วย​!​”

​จิ​่น​เกอ​ยิ้ม​กว้าง

​ไท่ฮู​หยิน​กำชับ​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​จำไว้​ว่า​ให้​คนใช้​จาน​ผลึก​แก้วใส​่​พืช​แปด​เซียน​ ​ความสด​ใส​ของ​ผลึก​แก้ว​จะ​ยิ่ง​ทำให้​ดู​สวยงาม​น่า​ทาน​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​จาน​กระเบื้อง​ที่​ใส่​อาหาร​อื่นๆ​ ​ก็​ต้อง​ประณีต​เช่นกัน​”

​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​คำพูด​ของ​ไท่ฮู​หยิน​มีบา​งอย​่าง​แอบแฝง​ ​คิดทบทวน​บทสนทนา​เมื่อ​ครู่​ใน​หัว​อย่างรวดเร็ว​ ​อด​แอบ​คาดเดา​ไม่ได้​ว่า​ ‘​หรือว่า​จะ​หมายถึง​เจี​้ย​เกอ​ ​คิด​ว่า​ไม่เหมาะสม​ที่​เขา​จะ​ออก​ไป​พบปะ​สังสรรค์​กับ​จุน​เกอ​ ​หรือ​กลัว​ว่า​เจี​้ย​เกอ​ยัง​ไม่เคย​มีประสบการณ์​ใน​ด้าน​นี้​แล้ว​จะ​ทำให้​จุน​เกอ​เสียหน้า​’

​แต่​เรื่อง​นี้​ไม่​อาจ​ถาม​ได้​อย่างชัดเจน​ ​นาง​เพียงแต่​ยิ้ม​พลาง​รับปาก​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​ถ่ายทอด​คำสั่ง​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ลง​ไป​ ​หลังจากที่​กล่าว​ลา​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​ ​ก็​รีบ​ให้​จู๋​เซียง​ไป​สืบ​ดู​ที่​ศาลา​ริมน้ำ​ฉุย​หลุน​ ​“​…​ดู​สิว​่า​ด้าน​นั้น​ขาดเหลือ​อะไร​หรือไม่​ ​มี​คน​คอย​ปรนนิบัติ​เพียบพร้อม​หรือไม่​ ​คุณชาย​น้อย​ห้า​กำลัง​ทำ​อะไร​”

​จู๋​เซียง​รีบ​ไป​ที่​ศาลา​น้ำ​ฉุย​หลุน​ทันที

​สือ​อี​เหนียง​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​กลับ​เรือน​ ​แก้ไข​ให้​เขา​พูด​คำ​ว่า​ ​‘​เลี้ยง​แมลง​’​ ​ให้​ถูกต้อง​ ​จากนั้น​ก็​กำชับ​ชิว​อวี​่​หากะ​ละ​มัง​ที่​ใช้ไม่ได้​แล้ว​หรือ​มี​รู​เอา​ไป​ให้​หวง​เสี่ยว​เหมา​ ​ให้​หวง​เสี่ยว​เหมา​กับ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​ไป​ขุด​ดิน​หา​ไส้เดือน​ที่​สวน​กับ​จิ​่น​เกอ

​จิ​่น​เกอ​วิ่ง​ไป​กับ​บ่าว​รับใช้​ทั้งสอง​คน​อย่าง​มีความสุข

​จู๋​เซียง​ยิ้ม​พลาง​รายงาน​ว่า​ ​“​เก๋อ​จิน​พา​ปี้​หลัว​ ​อวี​่ฮ​วา​และ​คนอื่นๆ​ ​ที่​รับใช้​อยู่​ใน​เรือน​คุณชาย​น้อย​สี่​ไป​ปรนนิบัติ​ที่​ศาลา​ริมน้ำ​ ​ตอนที่​ทุกคน​กำลัง​เล่น​กัน​อย่างสนุกสนาน​ ​คุณชาย​น้อย​สกุล​หวัง​ได้​วาดภาพ​หนึ่ง​ภาพ​ ​ส่วน​คุณชาย​น้อย​สกุล​หลี​่​ก็​ประพันธ์​กลอน​ห้า​ประกอบด้วย​ ​ตอนที่​บ่าว​ไป​ถึง​ ​คุณชาย​น้อย​ห้า​กำลัง​ถือ​กระดาษ​ให้​ทุกคน​ดู​เจ้าค่ะ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​คุณชาย​น้อย​ห้า​ดูท่าทาง​เป็น​อย่างไร​”

​จู๋​เซียง​นึก​ไป​พลาง​พูด​ไป​ว่า​ ​“​ดู​มั่นใจ​มาก​เจ้าค่ะ​ ​ซ้ำ​ยัง​คอย​พูดคุย​อยู่​ข้างๆ​ ​คุณชาย​น้อย​สกุล​โต้​วอ​ย่าง​สนุกสนาน​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เจ้า​ส่ง​สาวใช้​น้อย​ไปดู​คุณชาย​น้อย​ห้า​เป็นพักๆ​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​ออกมา​พบปะ​สังสรรค์​กับ​แขก​ ​แม้ว่า​จะ​มีคุณ​ชายน้อย​สี่​อยู่​ด้วย​ ​แต่​ข้า​ก็​ยัง​ไม่​ค่อย​วางใจ​”

​จู๋​เซียง​ยิ้ม​พลาง​รับคำ​ ​หันไป​ชี้​สาวใช้​น้อย​ที่​ดู​มีไหวพริบ​คน​หนึ่ง

​มีสาว​ใช้​น้อย​ยิ้ม​พลาง​เข้ามา​รายงาน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​สกุล​จู​ที่​เกา​ชิง​ได้​ส่ง​ผู้ดูแล​ให้​ส่ง​เทียบ​เชิญ​มา​ให้ท่าน​โหว​ ​นาย​หญิง​จู​ได้​ส่ง​ป้า​รับใช้​คนสนิท​ให้​ตาม​รถม้า​มาด​้วย​โดยเฉพาะ​ ​อยาก​จะเข้า​มาคา​รวะ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ท่าน​ ​และฮู​หยิน​ห้า​เจ้าค่ะ​”

​ใบหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ปรากฏ​รอยยิ้ม​แห่ง​ความสุข​ ​นับวัน​ดูแล​้ว​ ​ชี​เหนียง​ก็​คงจะ​คลอด​แล้ว​ ​“​เชิญ​คน​เหล่านั้น​เข้ามา​เถิด​”

​สาวใช้​น้อย​ตอบรับ​อย่างนอบน้อม​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​แล้ว​พา​ป้า​รับใช้​คนสนิท​ของ​ชี​เหนียง​เข้ามา

​ป้า​รับใช้​ผู้​นั้น​แต่งตัว​เรียบร้อย​ ​เห็นได้ชัด​ว่านาง​ถูก​พา​ไป​ล้างหน้าล้างตา​ก่อน​จะ​มาที​่​นี่

​“​ยินดี​กับฮู​หยิน​ด้วย​ ​ยินดี​กับฮู​หยิน​ด้วย​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​คุกเข่า​ต่อหน้า​สือ​อี​เหนียง​ ​ใบหน้า​แดงก่ำ​ ​สีหน้า​เผย​ให้​เห็น​ความตื่นเต้น​ที่​ปิด​ไม่อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​“​นาย​หญิง​ของ​พวกเรา​ได้รับ​คำ​อวยพร​ของ​ท่าน​และฮู​หยิน​ห้า​ ​จึง​ได้​ให้กำเนิด​บุตรชาย​ตัว​อ้วนท้วม​เจ้าค่ะ​”

ให้กำเนิด​บุตรชาย​ ​ในที่สุด​ชี​เหนียง​ก็​จะ​ยืน​อยู่​ใน​สกุล​จู​ได้​อย่างมั่นคง​แล้ว

​สือ​อี​เหนียง​ดีใจ​กับ​ชี​เหนียง​อย่างมาก​ ​ให้รางวัล​ป้า​รับใช้​ผู้​นั้น​ ​ถาม​สถานการณ์​ของ​ชี​เหนียง​อย่างละเอียด​ ​รู้​ว่า​แม้ว่า​ตอน​คลอด​จะ​มี​การเปลี่ยนแปลง​เกิดขึ้น​ ​แต่ว่า​ทั้ง​แม่​และ​เด็ก​ก็​ปลอดภัย​ทั้งคู่​ ​นาง​พา​ป้า​รับใช้​ผู้​นั้น​ไป​พบ​ไท่ฮู​หยิน​ก่อน​ ​แล้ว​จากนั้น​ก็​พา​ไปหาฮู​หยิน​ห้า

ฮู​หยิน​ห้า​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​หัวเราะ​ออกมา​ทันที​ ​ให้เงิน​เป็น​รางวัล​แก่​ป้า​รับใช้​ผู้​นั้น​ ​แล้ว​ให้​คน​พานาง​ไป​พักผ่อน​ ​จากนั้น​ก็​อด​ยิ้ม​ไม่ได้​ ​“​เสียดาย​ที่​ไม่ได้​ถาม​สถานการณ์​จาก​ป้า​รับใช้​ผู้​นั้น​อย่างละเอียด​ ​ข้า​เดา​ว่า​ท่าทาง​ของ​จู​อาน​ผิง​และ​มารดา​ของ​เขา​คงจะ​ต้อง​น่าดู​มาก​แน่ๆ​ ​โดยเฉพาะ​มารดา​ของ​เขา​ ​ข้า​จะ​รอดู​ว่า​ครั้งนี้​นาง​จะ​ทำ​อย่างไร​ต่อ​”​ ​พูด​จบ​ก็​ตะโกนเรียก​เหอ​เซียง​ให้​ช่วย​นาง​เตรียม​หมึก​และ​พู่กัน​ ​“​ข้า​จะ​เขียนจดหมาย​ถามไถ่​สถานการณ์​ทาง​นั้นแล​้ว​ให้​ป้า​รับใช้​ผู้​นั้น​นำ​กลับ​ไป​ด้วย​”​ ​ท่าทาง​ตื่นเต้น​เป็นอย่างมาก

​สือ​อี​เหนียง​กับฮู​หยิน​ห้า​รู้จัก​กัน​มา​หลาย​ปี​แล้วก็​พอ​เข้าใจ​นิสัย​ของ​นาง​ไม่​มาก​ก็​น้อย​ ​นาง​เอง​ก็​นึก​อยากรู้​เช่นกัน​ ​ดังนั้น​จึง​อด​ยิ้ม​ไม่ได้​ ​ทั้งสอง​คน​ปรึกษา​กัน​พลาง​เขียนจดหมาย​ส่ง​ไป​เกา​ชิง

​เมื่อ​กลับมา​ถึง​เรือน​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​กลับมา​แล้ว​ ​นั่ง​เหงื่อ​ท่วม​ตัว​กรอก​ดิน​อยู่​ใต้​ชายคา​เรือน​ ​นำ​ไส้เดือน​ใส่​ใน​กะละมัง​ที่​เต็มไปด้วย​ดิน​ ​ดู​ยุ่ง​เป็นอย่างมาก

​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ ​เขา​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มา​แล้ว​ตะโกนเรียก​ ​“​ท่าน​แม่​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ก้มหน้าก้มตา​ทำงาน​ของ​ตัวเอง​ต่อ

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​เข้าไป​ใน​เรือน

​ไม่นาน​นาง​ก็ได้​ยิน​เสียง​อัน​ไพเราะ​ของ​จิ​่น​เกอ​ตะโกนเรียก​ ​“​ท่าน​พ่อ​”​ ​จึง​รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​แล้ว​ ​กำชับ​สาวใช้​ให้​จัด​อาหารกลางวัน​แล้ว​ออก​ไป​ต้อนรับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

​สวี​ลิ่ง​อี๋​นั่งคุกเข่า​อยู่​ข้างๆ​ ​จิ​่น​เกอ​ ​กำลัง​มอง​จิ​่น​เกอ​ด้วย​ท่าทาง​อ่อนโยน​ ​ตั้งใจฟัง​เสียงใส​ๆ​ ​ของ​จิ​่น​เกอ​ที่​กำลัง​พูดถึง​วิธีการ​เลี้ยง​แมลง​ ​หวง​เสี่ยว​เหมา​กับ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​ยืน​กุมมือ​อยู่​ไกลๆ​ ​ติด​กำแพง

​เมื่อ​เห็น​พ่อ​ลูก​อยู่​ด้วยกัน​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​หยุด​ฝีเท้า​ ​มุม​ปาก​ยกขึ้น​อย่าง​ไม่รู้​ตัว​ ​สีหน้า​อัน​อบอุ่น​และ​อ่อนโยน​ได้​เผยอ​อก​มา

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้าใจ​อย่างรวดเร็ว​ว่า​บุตรชาย​ของ​เขา​จะ​ทำ​อะไร​ ​เขา​หัวเราะ​เสียงดัง​ ​สายตา​เผย​ให้​เห็น​ความสนใจ​ของ​ผู้ใหญ่​ที่​กำลัง​มอง​เด็ก​ไร้เดียงสา

​จิ​่น​เกอ​กำพลั​่ว​เล็ก​ๆ​ ​ไว้​ใน​มือ​แน่น​ ​จ้อง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตาโต​ ​ดูเหมือนว่า​จะ​ไม่พอใจ​ที่​เขา​หัวเราะ​เช่นนี้

​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​รู้สึก​สนุก​ ​เข้าไป​อุ้ม​จิ​่น​เกอ

​จิ​่น​เกอ​กลับ​ถอยหลัง​ไป​สอง​สาม​ก้าว​เพื่อ​หลบเลี่ยง​อ้อมกอด​ของ​เขา​ ​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​สีหน้า​ไม่พอใจ

​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ไม่ดี

บางครั้ง​สิ่ง​ที่​ผู้ใหญ่​เห็น​ว่า​เป็นเรื่อง​ตลก​กลับเป็น​สิ่ง​ที่​สำคัญ​ที่สุด​สำหรับ​เด็ก

นาง​รีบ​เดิน​เข้าไป​ ​คิด​จะ​คลี่คลาย​สถานการณ์​ให้​ทั้งสอง​คน

​สวี​ลิ่ง​อี๋​คิด​ว่า​เวลา​ที่​เด็กน้อย​ทำท่า​ทาง​เหมือน​ผู้ใหญ่​นั้น​น่าสนใจ​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​สีหน้า​ของ​บุตรชาย​ ​เขา​ก็​รู้ทัน​ที​ว่า​ท่าทาง​ของ​ตัวเอง​ได้​ทำร้าย​จิ​่น​เกอ​เข้า​แล้ว​ ​จึง​รีบ​หุบ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​เลี้ยง​ไว้​ใน​กะละมัง​เช่นนี้​ไม่ได้​หรอก​ ​หาก​มัน​ปีน​หนี​จะ​ทำ​อย่างไร​”

​สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​อย่าง​โล่งอก​ ​หยุด​ฝีเท้า​ลง

​จิ​่น​เกอ​ไม่ใช่​เด็ก​ที่​โมโห​รุนแรง​ ​ถูก​คำพูด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดึงดูด​ไป​ทันที​ ​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​วิ่ง​เข้าไป​ใน​เรือน

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พึ่ง​จะ​สังเกตเห็น​สือ​อี​เหนียง​ ​เขา​ยิ้ม​พลาง​ยืน​ขึ้น​ ​ถาม​นาง​อย่าง​อ่อนโยน​ว่า​ ​“​ร้อน​หรือไม่​”

​“​ข้า​อยู่​ใน​เรือน​ตลอด​ ​ไม่​ร้อน​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ย่อเข่า​คำนับ​ ​“​ท่าน​โหว​เข้าไป​พัก​ใน​ห้อง​เถิด​!​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​จะ​ไป​ตัก​น้ำ​มา​ให้ท่าน​โหว​ล้างหน้า​”

​ขณะที่​กำลัง​พูด​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​วิ่ง​ออกมา​จาก​ใน​ห้อง

​เขา​อาจา​นร​อง​ผลไม้​ทรง​สูง​ไป​ปิด​ไว้​บน​กะละมัง​เลี้ยง​ไส้เดือน​ ​จากนั้น​ก็​ปรบมือ​ ​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​ความภาคภูมิใจ​ ​“​เช่นนี้​มัน​ก็​หนี​ไม่ได้​แล้ว​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​อด​ยิ้ม​ไม่ได้​ ​“​แม้ว่า​มัน​จะ​หนี​ไม่ได้​แล้ว​ ​แต่ว่า​มัน​จะ​หายใจไม่ออก​จนตาย​เอา​ได้​!​”

​จิ​่น​เกอ​จ้องมอง​กาละ​มัง​ ​แล้ว​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สุดท้าย​สายตา​ก็​ไป​หยุด​อยู่​ที่​สือ​อี​เหนียง

​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไม่รู้​ว่า​ไส้เดือน​จะ​ขาด​อากาศ​หายใจ​ตาย​หรือไม่​ ​แต่​ก็​คิด​ว่า​เป็นไปได้​ ​แล้ว​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​เป็น​คนพูด​ออกมา​เอง​ ​จึง​พยักหน้า​ให้​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ​

​จิ​่น​เกอ​จึง​เบะ​ปาก​ด้วย​ความเสียใจ

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้าไป​อุ้ม​บุตรชาย​ทันที​ ​“​เอาเถิด​ ​พวกเรา​ให้​แม่​ของ​เจ้า​หา​ตาข่าย​ถี่ๆ​ ​มาค​ลุม​ไว้​ด้านบน​ก็ได้​แล้ว​!​”

​จิ​่น​เกอ​ตา​เป็นประกาย​ทันที​ ​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​รีบ​ช่วย​ข้า​หา​ตาข่าย​หน่อย​ขอรับ​ ​ไม่เช่นนั้น​ไส้เดือน​ของ​ข้า​ก็​จะ​หนี​ไป​หมด​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ใช้​ผ้าเช็ดหน้า​เช็ด​เหงื่อ​ที่​หน้าผาก​ของ​บุตรชาย​ด้วย​ความ​เอ็นดู​ ​เดินตาม​หลัง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​ที่​ห้องโถง​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ได้​สิ​ ​ข้า​จะ​ช่วย​หา​ตาข่าย​ให้​เจ้า​ประเดี๋ยวนี้​”

​จิ​่น​เกอ​ดิ้น​ไปมา​จะ​ลง​จาก​อ้อมแขน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พลาง​พูด​กับ​หวง​เสี่ยว​เหมา​กับ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​คอย​เฝ้า​ไว้​ ​อย่า​ให้​ไส้เดือน​ของ​ข้า​หนี​ออก​ไป​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​หยุด​ฝีเท้า​ลง

​บ่าว​รับใช้​ทั้งสอง​เหลือบมอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​ความกลัว​ ​รีบ​ตอบ​พร้อมกัน​ว่า​ ​“​ขอรับ​”

​จิ​่น​เกอ​หยุด​ดิ้น​ไปมา​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​ได้​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​เข้า​ห้อง​ไป

​สือ​อี​เหนียง​เรียก​สาวใช้​น้อย​เข้ามา​ปรนนิบัติ​คุณชาย​ทั้งสอง​ล้างหน้า​และ​เปลี่ยน​ชุด​ ​แล้วไป​หา​ตาข่าย​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ที่​ใต้​ชายคา​เรือน​กับ​จิ​่น​เกอ​ที่​ล้างหน้าล้างตา​เสร็จ​แล้ว

​หวง​เสี่ยว​เหมา​กับ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​ยืน​เฝ้า​อยู่​ตรงนั้น​ตลอด

​จิ​่น​เกอ​กับ​บ่าว​รับใช้​ทั้งสอง​คน​ช่วยกัน​เอา​ตาข่าย​ปิด​กะละมัง​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​ทานอาหาร​กลางวัน

​พอทา​นอา​หาร​กลางวัน​แล้ว​ ​เขา​ก็​วิ่ง​กลับ​ไปดู​ไส้เดือน​อีก​ ​“​เสี่ยว​เหมา​ ​เอ้อร​์​อู่​ ​พวก​เจ้า​ลอง​นับ​ดู​สิว​่า​มี​ไส้เดือน​หนี​ไป​หรือไม่​!​”

​เด็ก​ทั้งสอง​คน​นั้น​กำลังจะ​เท​ดิน​ใน​กระถาง​ออกมา​นับ​ไส้เดือน

​สือ​อี​เหนียง​รีบ​ห้าม​ไว้​ ​“​เจ้า​ดู​วิธีการ​ปลูก​ดอกไม้​ของ​สะใภ้​หลี​่​ถิง​สิ​ ​นำ​เมล็ด​ไป​ปลูก​ไว้​ใน​ดิน​แล้วก็​เพียงแค่​รดน้ำ​ ​จากนั้น​ผ่าน​ไป​ไม่​กี่​วัน​ต้นกล้า​ก็​จะ​งอก​ขึ้น​มา​เอง​ ​หาก​เจ้า​เท​ดิน​ออกมา​แล้ว​เอา​ใส่​เข้าไป​ใหม่​ซ้ำๆ​ ​เช่นนี้​ ​ไส้เดือน​จะ​เติบโต​ได้​อย่างไร​!​ ​”

​จิ​่น​เกอ​พยักหน้า​ ​แม้ว่า​เขา​จะ​ล้มเลิก​ความคิด​ที่จะ​เท​ดิน​ออกมา​นับ​ไส้เดือน​ ​แต่กลับ​กำชับ​หวง​เสี่ยว​เหมา​กับ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​จำไว้​ว่า​ทุกวัน​ตอนเช้า​ต้อง​มาร​ดน​้ำ​ไส้เดือน​ด้วย​”

บุตรชาย​ข้า​ช่าง​น่ารัก​เกินไป​แล้ว​!

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​หอม​แก้ม​บุตรชาย​หนึ่ง​ที​ ​จากนั้น​ก็​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​นอน​กลางวัน

​******

​เมื่อถึง​ยาม​บ่าย​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เล่านิทาน​ให้​จิ​่น​เกอ​ฟัง

​พอ​เล่า​จบ​แล้ว​จิ​่น​เกอ​ก็​วิ่ง​ออก​ไปดู​ไส้เดือน​ที่​เขา​เลี้ยง​ไว้​ใต้​ชายคา​ ​แล้วยัง​ถาม​หวง​เสี่ยว​เหมา​กับ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​ที่​ยืน​เฝ้า​อยู่​ว่า​ ​“​มัน​โต​ขึ้น​หรือยัง​”

​หวง​เสี่ยว​เหมา​กับ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​ส่ายหน้า​ ​หวง​เสี่ยว​เหมา​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​จะ​โต​เร็ว​ขนาด​นั้น​ได้​อย่างไร​!​ ​อย่างน้อย​ก็​ต้อง​ใช้เวลา​สี่​ถึง​ห้าวั​นข​อรับ​”

​จิ​่น​เกอ​ผิดหวัง​เล็กน้อย​ ​นั่ง​ฟัง​นิทาน​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​เงียบๆ​

​จู๋​เซียง​เดิน​เข้ามา​ ​นาง​ส่งสายตา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​“ฮู​หยิน​ ​เมื่อ​ครู่​คุณชาย​น้อย​ห้า​พึ่ง​จะ​กลับ​เรือน​ของ​ตัวเอง​เจ้าค่ะ​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท