ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 606 งุนงง (ต้น)

ตอนที่ 606 งุนงง (ต้น)

\​“​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ก็​แค่​ไป​ปีน​เขา​ด้วยกัน​”

​“​ไม่ได้​พูด​อะไร​เลย​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ซักไซ้

​“​ไม่ได้​พูด​อะไร​เลย​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เขา​ล้มเหลว​ใน​สนาม​สอบ​ ​ข้า​จะ​ไป​ถาม​เขา​เรื่อง​การบ้าน​ก็​คงจะ​ไม่ใช่​เรื่อง​กระมัง​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่ได้​ต้องการ​อะไร​มากมาย​ ​เพียงแค่​การกระทำ​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​สามารถ​ทำให้​เขา​มี​ความมั่นใจ​เต็มเปี่ยม​ได้​แล้ว

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ส่ายหน้า​แล้ว​ถอนหายใจ

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​สายตา​ของ​ภรรยา​ ​ก็​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​“​เจ้า​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​”

​“​ข้า​แค่​คิด​ว่า​ท่าน​โหว​เก่ง​ยิ่งนัก​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​พวกเรา​พูด​ไป​พันคำ​หมื่น​คำ​ ​ก็​ไม่​สู้​ท่าน​โหว​ที่​พา​ออก​ไป​เดิน​นอกเมือง​โดย​ไม่​พูด​อะไร​สัก​คำ​!​”​ ​ท่าทาง​เหมือน​หยอกล้อ​เขา​เล็กน้อย

นาง​อยาก​จะ​ใช้​ท่าทาง​ที่​ดูเหมือน​ผ่อนคลาย​เช่นนี้​บอก​ให้​เขา​ใส่ใจ​เด็ก​ๆ​ ​ให้​มากขึ้น​กระมัง​!

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พลาง​นอนลง​ ​“​รีบ​นอน​เถิด​ ​พรุ่งนี้​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะ​มี​ใคร​มา​อีก​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​เป่า​ตะเกียง

​ใน​ความมืด​ ​นาง​ได้​ซุก​ตัว​อยู่​ใน​อ้อมกอด​อัน​อบอุ่น

​******

​สือ​อี​เหนียง​ตื่นขึ้น​ยาม​เหม่า

​เมื่อ​หันหน้า​ไป​ก็​เห็น​ใบหน้า​ที่​กำลัง​หลับใหล​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

​นาง​อด​แอบมอง​เขา​อย่าง​เงียบๆ​ ​ไม่ได้

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​หลับใหล​สีหน้า​ดู​สงบนิ่ง​ ​ดู​อ่อน​กว่า​วัย​หลาย​ปี​ ​ที่​คิ้ว​ด้าน​ซ้าย​ของ​เขา​มี​ขน​สอง​เส้น​ที่​ยาว​มาก

​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​นึกถึง​การ​ชุมนุม​ใน​ตอนกลางคืน​ของ​มหาวิทยาลัย​ ​มี​เพื่อนร่วมชั้น​บอกว่า​ผู้ชาย​ขนคิ้ว​ยาว​มักจะ​กลัว​ภรรยา​…​พอคิด​ถึง​เรื่อง​นี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​อด​เม้มปาก​กลั้น​หัวเราะ​ไม่ได้

​บางที​เขา​อาจจะ​รู้สึก​ว่า​บรรยากาศ​รอบตัว​แปลก​ไป​ ​หรือ​อาจจะ​นอน​เต็มอิ่ม​แล้ว​ ​จู่ๆ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ลืมตา​ขึ้น​มา

​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​มอง​เขา​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​ก็​รู้สึก​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ​ราวกับว่า​เขา​บังเอิญ​เห็น​บางสิ่ง​ที่​ทำให้​เขา​มีความสุข​โดย​ไม่ได้ตั้งใจ​ ​ดวงตา​ของ​เขา​พลัน​เป็นประกาย

​“​เจ้า​ไม่ได้​เป็น​อะไร​ใช่​หรือไม่​”

​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​เขิน​เล็กน้อย​ ​รีบ​คว้า​มือ​ของ​เขา​ ​“​ข้า​สบายดี​!​”

“​จริง​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​นาง​ด้วย​รอยยิ้ม

​“​จริง​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​อึดอัด​เล็กน้อย​ ​ลุกขึ้น​นั่งราว​กับ​จะ​ปกปิด​อะไร​บางอย่าง

​ผ้าห่ม​สีน้ำเงิน​ไพลิน​ที่​ส่องแสง​สีน้ำเงิน​จางๆ​ ​เลื่อน​ลงมา​ ​เผย​ให้​เห็น​เรือนร่าง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ที่​มี​รอย​เขียว​ช้ำ​ ​แววตา​ของ​เขา​หม่นหมอง​ลง

​สือ​อี​เหนียง​รีบ​หัน​ข้าง​แล้ว​สวม​เสื้อชั้นใน​

​ผ้า​ดิ้น​สีเหลือง​นวล​ ​ช่วย​ขับ​ให้​ผิวขาว​ราว​หิมะ​ของ​นาง​ดู​นุ่มนวล​กระจ่าง​ตา

​สวี​ลิ่ง​อี๋​จับ​ที่​แขน​ของ​นาง​ ​ริมฝีปาก​อุ่นๆ​ ​ค่อยๆ​ ​ประทับ​ลง​บน​แผ่น​หลัง​ของ​นาง

​สือ​อี​เหนียง​พลัน​ตัว​แข็งทื่อ​ ​มือ​ที่​กำลัง​ผูก​เชือก​หยุดชะงัก

​“​ท่าน​โหว​…​”​ ​น้ำเสียง​ของ​สือ​อี​เหนียง​แหบ​พร่า​เล็กน้อย​ ​“​ประเดี๋ยว​สาวใช้​ก็​จะเข้า​มา​…​ปรนนิบัติ​…​ล้างหน้า​แล้ว​…​”

​“​ครู่เดียว​ก็​เสร็จ​แล้ว​!​”​ ​น้ำเสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี​แฝง​เอาไว้​ด้วย​ความ​เย้าหยอก​ ​ร่างกาย​แนบชิด​นาง​โดย​ไม่​เหลือ​ช่องว่าง​ใด

​******

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ตอน​ไป​คารา​วะ​ไท่​หู​หยิน​ ​มือ​และ​เท้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ยัง​อ่อนแรง​อยู่เล็ก​น้อย

​ไท่ฮู​หยิน​คิด​ว่า​สือ​อี​เหนียง​เหนื่อย​กับ​การ​จัดงาน​แต่ง​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​จึง​รีบ​ให้​ป้า​ตู้​ยก​ชา​โสมมา​ให้​นาง​ ​“​ถ้าหาก​จัดการ​ไม่ทัน​ ​ก็​ให้​ตาน​หยาง​มาช​่วย​เจ้า​ ​เรื่อง​ต้อนรับ​แขก​นาง​เชี่ยวชาญ​มาก​ที่สุด​แล้ว​ ​ใน​จวน​ก็​ไม่ได้​มี​คน​มาก​ ​พวก​เจ้า​ต้อง​ช่วยเหลือ​ซึ่งกันและกัน​ถึง​จะ​ถูก​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ขานรับ​อย่างนอบน้อม​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​แล้ว​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​ก็​คิด​เช่นนั้น​เหมือนกัน​ ​กำลัง​คิด​ว่า​จะ​บอก​กับ​น้อง​สะใภ้​ห้า​อย่างไร​ดี​ ​เฉิง​เกอ​ยัง​อายุ​ไม่​ถึง​หนึ่ง​ขวบ​เลย​ ​จึง​รู้สึก​ยาก​ที่จะ​เอ่ยปาก​”

​คำพูด​ของ​นาง​ไม่ได้​ขัด​กับ​สิ่ง​ที่นา​งคิด​เลย​แม้แต่น้อย

จำนวน​แขก​ที่มา​ใน​ครั้งนี้​และ​ยศ​บรรดาศักดิ์​ที่​ค่อนข้าง​ซับซ้อน​ของ​พวกเขา​นั้น​เกิน​ความคาดหมาย​ของ​นาง​ไปมาก​ ​ด้านนอก​มีพ​่​อบ​้าน​ไป๋​คอย​ดูแล​ ​นาง​จึง​ไม่ต้อง​เป็นกังวล​ ​แต่​นาง​กลับ​ต้อง​เป็น​คนดู​แล​สถานการณ์​โดยรวม​ของ​เรือน​ใน​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​อื่น​ ​คน​ของ​จวน​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​ ​เหลียง​เก๋อ​เหล่า​ ​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​ต่าง​ก็​ส่ง​ของขวัญ​มา​แสดงความยินดี​ ​หาก​บรรดาฮู​หยิน​ของ​พวกเขา​มา​ ​นาง​ก็​ต้อง​ไป​คอย​ดูแล​ด้วยตัวเอง​ไม่ใช่​หรือ​ ​แต่​ถ้าหาก​นาง​ไปดู​แลบร​รดาฮู​หยิน​เหล่านั้น​ ​แล้ว​ใคร​จะ​ดูแล​หวงฮู​หยิน​ ​ถังฮู​หยิน​ ​โจวฮู​หยิน​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​เล่า​ ​นอกจากนี้​ก็​ยัง​ต้อง​จัดเตรียม​อาหาร​ ​สุรา​ ​น้ำชา​ ​ขนม​ของ​เรือน​ใน​…​แม้ว่า​นาง​จะ​ไม่ต้อง​ลงมือทำ​เอง​ ​แต่​ก็​ต้อง​ออกคำสั่ง​ ​มอบ​ป้าย​คู่​ให้​บรรดา​ผู้ดูแล​หญิง​ไป​จัดการ​มา​ไม่ใช่​หรือ​ ​เดิมที​ส่วน​นี้​มีฮู​หยิน​สาม​คอย​ช่วยเหลือ​ ​แต่​ตอนนี้ฮู​หยิน​สามแยก​จวน​ออก​ไป​แล้ว​ ​ย่อม​ไม่​อาจ​ให้​นาง​มาช​่ว​ยงา​นนี​้​ได้​ ​ถ้าหาก​ตน​ไม่​เอ่ยปาก​ขอให้ฮู​หยิน​ห้ามา​ช่วย​ ​เกรง​ว่า​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ต่อให้​มีสา​มหัว​หก​แขน​ก็​คง​ไม่พอ​ใช้​

​สือ​อี​เหนียง​ยัง​ไม่ทัน​พูด​จบ​ ​เสียง​กระดิ่ง​เงิน​ก็​ดัง​มาจาก​ประตู​ ​“​แม้ว่า​จะ​เป็น​ลูกสะใภ้​ของ​พี่สะใภ้​สี่​ ​แต่​ก็​เป็น​หลาน​สะใภ้​ของ​ข้า​เช่นกัน​ ​ข้า​คิด​อยาก​จะ​ช่วย​พี่สะใภ้​สี่​อีก​แรง​หนึ่ง​อยู่​แล้ว​ ​แต่​ก็​กลัว​ว่า​พี่สะใภ้​สี่​จะ​รังเกียจ​ที่​ข้า​ไม่ได้​เป็น​คนละ​เอียด​อ่อน​ ​จึง​ไม่กล้า​เอ่ยปาก​ ​ในเมื่อ​พี่สะใภ้​สี่​ไม่รังเกียจ​ ​เช่นนั้น​ข้า​ก็​ไม่​เกรงใจ​แล้ว​!​”

​“​น้อง​สะใภ้​ห้า​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ลุกขึ้น​ทักทาย​ผู้มาเยือน​ ​“​หาก​เจ้า​พูด​เช่นนี้​ ​ข้า​ก็​วางใจ​แล้ว​!​”​ ​จากนั้น​ทั้งสอง​คน​ก็​ยิ้ม​พลาง​นั่งลง​ข้างๆ​ ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ปรึกษา​กัน​ว่า​จะ​ให้​สือ​อี​เหนียง​เป็น​คนต้อนรับ​บรรดาฮู​หยิน​ของ​เก๋อ​เหล่า​และ​รอง​เจ้ากรม​ ​ส่วนฮู​หยิน​ห้า​จะ​เป็น​คนต้อนรับ​โจวฮู​หยิน​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ส่วน​หวงฮู​หยิน​กับ​เจิ​้ง​ไท่จ​วิน​ก็​ให้​พามา​นั่ง​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ให้​จู๋​เซียง​รับผิดชอบ​เรื่อง​น้ำชา​ ​ป้า​ซ่ง​เป็น​คนรับ​ผิด​ชอบ​อาหาร​และ​สุรา​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้ฮู​หยิน​ห้า​ก็​อุทาน​ขึ้น​มา​ ​“​ไอ​๊​หยา​”​ ​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​แล้ว​จะ​เชิญ​งิ้ว​คณะ​ไหน​มา​เล่น​”

​ตามธรรม​เนียม​ทั่วไป​แล้ว​ ​หาก​จะ​เชิญ​คณะ​งิ้ว​มา​เล่น​ก็​ต้อง​ส่ง​คน​ไป​เลือก​เรื่อง​โดยเฉพาะ

​“​ข้า​เชิญ​คณะ​เจี​๋ย​เซียง​ตู้​ของ​ไป๋​ซี​เซียง​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จงใจรัก​ษา​ระยะห่าง​กับ​คณะ​เต​๋​ออิน​ปาน​ ​“​พวกเขา​มี​ละคร​ใหม่​มากมาย​”

​“​ห้องโถง​ที่​จัด​พิธี​งานแต่ง​ก็​ไม่ได้​เชิญ​แขก​ให้​มาช​มทิ​วทัศน​์​ยาม​ว่าง​ใน​ห้องโถง​ ​หา​อะไร​ใหม่​ๆ​ ​มาก​็​นับว่า​น่าสนใจ​ดี​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ถึงอย่างไร​ก็​ต้อง​มีท​่อ​นร​้​อง​เกี่ยวกับ​สามีภรรยา​ที่รัก​ใคร่​กัน​อยู่​แล้ว​”​ ​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​ข้าว​่า​เชิญ​คณะ​งิ้ว​ใหญ่​ทั้ง​สาม​คณะ​มา​ให้​หมด​เลย​ดี​หรือไม่​!​ ​จัด​เวที​ที่​ห้องโถง​เตี่ยน​ชุน​หนึ่ง​ที่​ ​และ​ที่​เรือน​นอก​อีก​หนึ่ง​ที่​ ​เชิญ​เสี่ยว​เฟิน​ฟัง​และ​เสี่ยว​เหลียน​จู​ที่​อายุ​สิบเอ็ด​สิบสอง​ปี​มา​ขับร้อง​ที่​ห้องโถง​เตี่ยน​ชุน​ ​ส่วน​ผู้​ที่​มีชื่อเสียง​อย่าง​ไป๋จ​วี​๋​ซวง​กับ​เซี่ยง​ซาน​หว่าน​ไป​ขับร้อง​ที่​เรือน​นอก​ ​คน​ของ​ห้อง​ซือ​ฝัง​จัดเตรียม​เงินราง​วัล​ไว้​หลาย​สิบ​ก้อน​ ​ใคร​ร้อง​ได้ดี​ก็​มอบให้​เป็น​รางวัล​หน้า​งาน​เลย​ ​ให้​ทั้ง​สาม​คณะ​แข่งขัน​กัน​บน​เวที​ ​ให้​ทุกคน​ได้​สนุกสนาน​!​”

​“​ความคิด​ของ​ท่าน​แม่​ดีมาก​จริงๆ​ ​เจ้าค่ะ​!​”​ ฮู​หยิน​ห้า​พยักหน้า​พลาง​พูด​อย่าง​เห็นด้วย​ ​“​เช่นนี้​ ​คน​เหล่านั้น​ก็​จะ​พยายาม​ร้อง​ให้​ดีที​่​สุด​เพื่อ​ชื่อเสียง​ของ​คณะ​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​ ฮู​หยิน​ห้า​ก็​รู้สึก​ตื่นเต้น​เล็กน้อย​ ​“​ครั้งนี้​ต้อง​ครึกครื้น​มาก​อย่างแน่นอน​”

​“​ก็​จัด​เพื่อให้​ครึกครื้น​อยู่​แล้ว​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​แม้ว่า​อวี​้​เกอ​จะ​สอบ​ไม่​ผ่าน​ ​แต่งาน​แต่ง​ครั้งนี้​ก็​ต้อง​จัด​อย่างยิ่ง​ใหญ่​!​ ​จะ​ทำให้​คนนอก​ดูถูก​เขา​เพราะ​พวกเรา​ไม่ได้​!​”

เดิมที​โลก​ใบ​นี้​ก็​มี​การ​แบ่งระดับ​ชั้น​กัน​อยู่​แล้ว

หาก​เป็น​เช่นนี้​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ก็​แค่​หา​ข้ออ้าง​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอยู​่​ที่​เรือน​ใน​ก็​พอแล้ว

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า

​“​เป็น​ท่าน​แม่​ที่​คิดได้​อย่าง​รอบคอบ​”​ ​นาง​ยิ้ม​พลาง​ถามฮู​หยิน​ห้า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​เชิญ​ป้า​สือ​มาช​่วย​จัดการ​การแสดง​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​เหล่านี้​ ​เจ้า​คิดเห็น​อย่างไรบ้าง​”

​พวกเขา​สอง​สามีภรรยา​ล้วน​ชอบ​ละคร​งิ้ว​ ​ป้า​สือ​ก็​เคย​ได้​ฟังได้​เห็น​มา​เยอะ​ ​เข้าใจ​เรื่อง​ละคร​งิ้ว​มากกว่า​คน​ทั่วไป

ฮู​หยิน​ห้า​ตอบ​ตกลง​ทันที

​พวก​นาง​ปรึกษา​กัน​เกี่ยวกับ​รายละเอียด​บางอย่าง​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เป็นเวลา​กลางวัน​แล้ว​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ให้​ทั้งสอง​คน​อยู่​ทานอาหาร​กลางวัน

​พอ​เดิน​ออกมา​ก็​พบ​กับ​ชิว​อวี​่

​“ฮู​หยิน​”​ ​นาง​ย่อเข่า​คำนับ​ ​“​ท่าน​เขยกับ​คุณหนู​เจ็ด​พาบุ​ตร​ชาย​มา​แสดงความยินดี​กับ​คุณชาย​น้อย​สอง​เจ้าค่ะ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ​อย่างมาก

เมื่อ​ไม่​กี่​วันก่อน​ที่​ตน​ส่ง​เทียบ​เชิญ​งานแต่ง​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ให้​ ​จู​อาน​ผิง​ก็​ไม่ได้​ตอบกลับ​อะไร​ ​ตน​ยัง​คิด​ว่า​เป่า​เกอ​ยัง​เล็ก​ ​พวกเขา​คง​ไม่ได้​มา​แล้ว

​“​ชี​เหนียง​มา​หรือ​!​”​ ฮู​หยิน​ห้า​เอง​ก็​ประหลาดใจ​มาก​เช่นกัน​ ​“​เมื่อ​สอง​วันก่อน​ที่​เขียนจดหมาย​มาถึง​ข้า​ก็​บอก​แค่​ว่า​เป่า​เกอ​เริ่ม​จำ​หน้า​คน​ได้​แล้ว​ ​ไม่เห็น​บอกว่า​จะ​มา​เยี​่​ยน​จิง​สัก​คำ​”​ ​พูด​ไป​พลาง​ยิ้ม​ไป​ ​“​มักจะ​เห็น​นาง​บอก​ใน​จดหมาย​ว่า​เป่า​เกอ​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​ ​ข้า​ยัง​ไม่เคย​เจอ​เลย​ ​ครั้งนี้​ต้อง​มอง​ให้​ละเอียด​สักหน่อย​แล้ว​”

​ทั้งสอง​คน​รีบ​สาวเท้า​ไป​ที่​เรือน​หลัก​

​ชี​เหนียง​ที่​เป็น​แม่​คน​แล้ว​ ​ร่างกาย​ยังคง​บอบบาง​ ​แต่​สีหน้า​ไม่ได้​มี​ความกังวล​เหมือน​เมื่อก่อน​อีกต่อไป​ ​ท่าทาง​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความเบิกบาน​ใจ​ราวกับ​เด็กสาว​ก็​มิ​ปาน​ ​ให้ความรู้​สึก​ราวกับว่า​ยัง​ไม่ได้​ออกเรือน​อย่างไร​อย่างนั้น

​ใน​อ้อมแขน​ของ​นาง​อุ้ม​ทารก​น้อย​อายุ​สาม​ถึง​สี่​เดือน​ ​ข้างๆ​ ​ยัง​มี​เด็กผู้ชาย​อายุ​ราว​ห้า​หก​ขวบ

​สือ​อี​เหนียง​แปลกใจ​อย่างมาก​ ​แม้ว่า​นาง​จะ​คาดเดา​สถานะ​ของ​เด็กชาย​ตัว​น้อย​ออก​ ​แต่​นาง​ก็​ยัง​อยาก​จะ​ยืนยัน​สักหน่อย​ ​ชี้​ไป​ที่​เด็กชาย​ตัว​น้อย​คน​นั้น​ ​“​นี่​คือ​?​”

​ชี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​นี่​คือ​บุตรชายคนโต​ของ​ข้า​ ​นาม​ว่า​จี้​เกอ​”​ ​จากนั้น​ก็​กำชับ​เด็ก​คน​นั้น​ว่า​ ​“​นี่​คือ​ท่าน​น้า​หญิง​สิบเอ็ด​ของ​เจ้า​ ​ส่วน​นี่​คือฮู​หยิน​ห้า​!​”

​เด็ก​คน​นั้น​กำ​มุม​เสื้อ​ของ​ชี​เหนียง​ไว้​แน่น​ ​เรียก​ทั้งสอง​คน​ด้วย​น้ำเสียง​แผ่วเบา

​ชี​เหนียง​เอ่ย​ขอโทษ​ขอ​โพย​ว่า​ ​“​เขา​เติบโต​ใน​ชนบท​ ​ไม่เคย​เห็น​โลก​ภายนอก​ ​ก็​เลย​จะ​ขี้อาย​บ้าง​เล็กน้อย​ ​หาก​เสียมารยาท​ก็​ต้อง​ขอให้​น้อง​หญิง​สิบเอ็ด​กับฮู​หยิน​ห้า​อย่า​ได้​ถือสา​!​”

​“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​ได้​เกรงใจ​พวกเรา​เช่นนี้​”​ ฮู​หยิน​ห้า​ยิ้ม​พลาง​สำรวจ​มอง​บุตรบุญธรรม​ของ​ชี​เหนียง​นาม​ว่า​จี้​เกอ​ผู้​นั้น​ ​“​เด็กเล็ก​ก็​กลัว​คนแปลกหน้า​กัน​ทั้งนั้น​แหละ​ ​โต​อีก​สักหน่อย​ประเดี๋ยว​ก็ดี​ขึ้น​ ​ที่นี่​ก็​ไม่ใช่​ต่างบ้านต่างเมือง​ ​พวกเรา​ก็​ไม่ใช่​คนอื่น​คน​ไกล​ ​ไม่ต้อง​คำนึงถึง​มารยาท​ก็​จะ​ไม่มี​การ​เสียมารยาท​”

​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้าไป​อุ้ม​เป่า​เกอ

​เด็กน้อย​ทั้ง​ขาว​ทั้ง​อ้วนท้วม​ ​ตัว​หนัก​อยู่​พอสมควร

​“​หลานชาย​หน้า​เหมือน​ท่าน​ลุง​ของ​เขา​ยิ่งนัก​”​ ​นาง​ยิ้ม​พลาง​พูดว่า​ ​“​หน้า​เหมือน​พี่​สาม​เจ็ด​ส่วน​ ​เหมือน​พี่เขย​เจ็ด​สาม​ส่วน​”

​เมื่อ​เป่า​เกอ​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​นาง​ก็​บิด​ตัว​ไปมา​ ​หันไป​มอง​ชี​เหนียง​ก่อน​จะ​ร้องไห้​ขึ้น​มา

​ชี​เหนียง​รีบ​เข้าไป​รับ​มา​ ​“​ข้า​อุ้ม​มาตั​้ง​แต่​เล็ก​จน​โต​ ​ไม่ยอม​ให้​ใคร​อุ้ม​ทั้งนั้น​ ​แม้แต่​พี่เขย​เจ็ด​ของ​เจ้า​ก็​ไม่ยอม​ให้​อุ้ม​”

ฮู​หยิน​ห้า​เห็น​ว่า​จี้​เกอ​เอง​ก็​หน้าตา​เหมือน​จู​อาน​ผิง​อยู่​สาม​ส่วน​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​แม้แต่​แม่​สามี​เจ้า​ก็​ไม่​ให้​อุ้ม​ใช่​หรือไม่​”

​ชี​เหนียง​เหลือบมองฮู​หยิน​ห้า​แล้ว​ยิ้ม​ ​เหมือน​จะ​บอกว่า​ ​‘​ยัง​ต้อง​ถาม​อีก​หรือ​’

ฮู​หยิน​ห้า​หัวเราะ​คิกคัก

​สิ่ง​ที่นาย​หญิง​ผู้เฒ่า​สกุล​จู​ต้องการ​มาก​ที่สุด​คือ​หลานชาย​ ​ถ้าหาก​ชี​เหนียง​เลี้ยง​ให้​บุตรชาย​ไม่ต้องการ​ท่าน​ย่า​ ​ไม่ต้อง​บอก​ก็​รู้​ว่านาย​หญิง​ผู้เฒ่า​สกุล​จู​ผู้​นั้น​จะ​ร้อนใจ​มาก​แค่ไหน

​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​เม้มปาก​กลั้น​หัวเราะ​ ​เชิญ​ทั้งสอง​คน​ไป​นั่ง​ที่​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ห้อง​ปีก​ทิตะ​วัน​ตก​ ​นาง​กับฮู​หยิน​ห้า​ให้​ของขวัญ​ต้อนรับ​จี้​เกอ​กับ​เป่า​เกอ​ ​เมื่อ​รู้​ว่า​ครอบครัว​ของ​ชี​เหนียง​พึ่ง​มาถึง​เมื่อวาน​ตอนบ่าย​ ​จากนั้น​ก็​พักผ่อน​อยู่​ที่​เรือนรับรอง​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ของ​ตัวเอง​ ​วันนี้​ตอนเช้า​ตรู่​จึง​ได้มา​ที่นี่​ ​ถาม​นาง​เกี่ยวกับ​การวางแผน​ใน​ช่วงนี้​ ​แล้ว​เรียก​บรรดา​เด็ก​ๆ​ ​มาทัก​ทาย​จี้​เกอ​กับ​เป่า​เกอ​

​เฉิง​เกอ​งอแง​จะ​เล่น​กับ​เป่า​เกอ​และ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ให้​ได้​ ​ก่อน​มาที​่​นี่​จิ​่น​เกอ​กับ​เซิน​เกอ​กำลัง​เล่น​เตะ​ลูก​หนัง​ไม่มี​ความอดทน​พอที่​จะ​นั่ง​ฟัง​ผู้ใหญ่​คุย​กัน​ ​เลย​ดึง​จี้​เกอ​ให้​ไป​เล่น​ข้างนอก​ด้วยกัน

​จี้​เกอ​ตกใจ​จน​หน้าขาว​ซีด​ ​ไป​หลบ​อยู่​หลัง​ชี​เหนียง​ไม่ยอม​ออกมา

​ชี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ช่วย​แก้ต่าง​ให้​จี้​เกอ​ ​“​เขา​เตะ​ลูก​หนัง​ไม่​เป็น​หรอก​!​”

​จิ​่น​เกอ​ไม่​คิด​เช่นนั้น​ ​“​ข้า​จะ​สอน​เขา​เอง​ขอรับ​ ​แม้แต่​ท่าน​แม่​ของ​ข้า​ก็​เล่น​เป็น​แล้ว​!​”

​ราวกับ​จะ​สื่อ​ว่า​สือ​อี​เหนียง​เป็น​คน​งุ่มง่าม​ก็​ไม่​ปาน

​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​กระแอม​เบา​ๆ​

​ชี​เหนียง​กับฮู​หยิน​ห้า​พากัน​หัวเราะ​อย่าง​ครื้นเครง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท