ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 615 โมโห (ต้น)

ตอนที่ 615 โมโห (ต้น)

“​แม้แต่​คน​ของ​ตัวเอง​พวกเขา​ยัง​จัดการ​ไม่ได้​ ​แล้วยัง​จะ​ทำ​อะไร​ได้​อีก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ทำ​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​“​ท่าน​ทำตาม​ที่​ข้า​บอก​เถิด​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​ท่าที​ที่​หนักแน่น

ไม่กล้า​ลังเล​ ​เขา​เดิน​ออก​ไปหา​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วยตัวเอง​

สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​พูดคุย​กับ​จู​อาน​ผิง​และ​เซ่าจ​้ง​หราน​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​เชิญ​เขา​ออกมา​เขา​ก็​แอบ​แปลกใจ​ ​ฟัง​ที่​ไป​ที่มา​ของ​เรื่องราว​แล้ว​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​เคร่งขรึม​ขึ้น​มา

“​ในเมื่อฮู​หยิน​สี่​พูด​เช่นนี้​ ​แล้ว​มัน​ไม่เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ของ​ลาน​ข้างนอก​ ​เจ้า​ก็​จัดการ​ตามที่ฮู​หยิน​สี่​บอก​เถิด​!​”

พ่อบ้าน​ไป๋​ได้​ฟัง​แล้วก็​ตกใจ​ ​เขา​ก้มหน้า​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ก็​หา​เจอ​แล้ว​ว่า​บ่าว​รับใช้​สอง​สาม​คน​นั้น​เป็น​คน​ของ​ใคร​ ​เขา​จับ​พวกเขา​มาที​่​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​ผู้ดูแล​นอนคว่ำ​บน​ตั่ง​ ​บ่าว​รับใช้​นอนคว่ำ​บน​พื้น​ ​นอน​เรียง​กัน​เป็นแถว​ ​จากนั้น​ก็​เฆี่ยน​ตามที่​สือ​อี​เหนียง​บอก​

มีเสียง​ดัง​ออกมา​จาก​นอก​ประตู​ฉุยฮ​วา​

ผู้ดูแล​สอง​สาม​คน​ ​บางคน​ก็​ไม่พูดไม่จา​ด้วย​ความอับ​อาย​ ​บางคน​ก็​เอะอะโวยวาย​อยาก​เจอ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​แล้วยัง​มี​คน​ตะโกน​ว่า​ ​“​เจ้า​เฆี่ยน​พวก​ข้า​ให้​ตาย​ไป​เลย​”

บรรดา​บ่าว​รับใช้​ต่าง​ก็​ตัวสั่น​เทา​ ​ยาม​ที่​ถูก​เฆี่ยน​ก็​ไม่กล้า​ปริปาก​พูด​อะไร​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​มี​ผู้ดูแล​เอะอะโวยวาย​ ​คน​หนึ่ง​จึง​เริ่ม​ร้องไห้​เสียงดัง​ขึ้น​มา​ ​ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​ตะโกน​ว่า​ ​“​ข้า​ถูก​ใส่ร้าย​ขอรับ​”

เอะอะโวยวาย​อยู่​หน้า​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​ทำเอา​คน​ทั้ง​จวน​สกุล​สวีต​กอก​ตกใจ​กัน​หมด​ ​บางคน​ส่ง​สาวใช้​มาสืบ​ว่า​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​ ​บางคน​ก็​เพียง​แอบมอง​อยู่​ไกลๆ​

สือ​อี​เหนียง​เรียก​ป้า​ซ่ง​มา​ ​ชี้​ไป​ที่​ป้า​รับใช้​สอง​คนที​่​เฝ้ายาม​วันนั้น​ ​“​คน​เช่นนี้​ไม่มี​ประโยชน์​อีกแล้ว​ ​ส่ง​พวก​นาง​ออก​ไป​จาก​จวน​ประเดี๋ยวนี้​”​ ​พูด​จบ​ก็​ยก​ยิ้ม​อย่าง​เย็นชา​ ​“​ในเมื่อ​พวก​เจ้า​ไม่​ฟัง​คำพูด​ของ​ข้า​ ​ข้า​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​ไว้หน้า​พวก​เจ้า​”

พวก​นาง​ทำงาน​ที่​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​มาทั​้ง​ชีวิต​ ​ประเดี๋ยว​ก็​จะ​ได้​กลับบ้าน​เกิด​แล้ว​ ​ไล่​พวก​นาง​ออก​ไป​ตอนนี้​ ​ต่อไป​พวก​นาง​จะ​มีชีวิต​เช่นไร

ป้า​รับใช้​สอง​คน​นั้น​คิดไม่ถึง​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​ไม่​เหลือ​ทาง​หนี​ที​ไล่​ให้​พวก​นาง​เลย​แม้แต่น้อย​ ​ได้ยิน​เช่นนี้​ ​พวก​นาง​ก็​คลาน​เข้าไป​ก้มหน้า​ตรงหน้า​สือ​อี​เหนียง​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​พวก​บ่าว​ผิด​เอง​ที่​ไม่รู้​ความ​ ​ทำให้เกิด​เรื่อง​ผิดพลาด​ที่​ใหญ่หลวง​แบบนี้​ ​ขอร้อง​ท่าน​เห็นแก่​ที่​พวก​บ่าว​เคย​รับใช้​ไท่ฮู​หยิน​ ​อภัย​ความผิด​ครั้งนี้​ให้​บ่าว​ ​ต่อไป​บ่าว​จะ​ตั้งใจ​รับใช้​ท่าน​และ​คุณชาย​น้อย​หก​อย่างสุดความสามารถ​เจ้าค่ะ​…​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่​รอ​ให้​นาง​พูด​จบ​ ​ก็​สะบัด​มือ​ให้​ป้า​ซ่ง​ ​ส่งสัญญาณ​ให้​นาง​รีบ​พา​พวก​นาง​ออก​ไป

“​ในเมื่อ​เจ้า​คือ​คนที​่​เคย​รับใช้​ไท่ฮู​หยิน​ ​เจ้า​ก็​น่าจะ​รู้ดี​ว่า​เรื่อง​อัน​ใด​ควร​ทำ​ ​เรื่อง​อัน​ใด​ไม่​ควร​ทำ​ ​แต่ว่า​พวก​เจ้า​กลับ​ไม่รู้​ผิด​ชอบ​ชั่ว​ดี​ ​เห็น​ว่า​ตัวเอง​เคย​รับใช้​ไท่ฮู​หยิน​ ​จึง​ทำตัว​เย่อหยิ่ง​ ​ไม่สน​ใจคำ​พูด​ของ​ข้า​ ​ไม่สน​ใจ​คุณชาย​น้อย​ทั้งสอง​คนเลย​แม้แต่น้อย​ ​ข้า​ต้อง​สั่งสอน​พวก​เจ้า​แทน​ไท่ฮู​หยิน​”

ในขณะที่​นาง​กำลัง​พูด​ ​ป้า​ซ่ง​ก็​พา​ป้า​รับใช้​อีก​สอง​คน​เข้ามา​ ​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​พูด​จบ​ ​พวก​นาง​ก็​เดิน​เข้ามา​จับ​ป้า​รับใช้​สอง​คน​นั้น​ออก​ไป​

จวน​สกุล​สวี​ราวกับ​กำลัง​ระเบิด​เป็น​โจ๊ก​ก็​ไม่​ปาน

“​นาง​จะ​ทำ​อะไร​”​ ฮู​หยิน​สอง​ขมวดคิ้ว​ ​“​ข้ามหน้าข้ามตา​ท่าน​โหว​จัดการ​ผู้ดูแล​ลาน​ข้างนอก​ ​ต่อไป​ยัง​จะ​แบ่ง​ลาน​ข้างนอก​ลาน​ข้างใน​ได้​เช่นไร​ ​บรรดา​ผู้ดูแล​เหล่านั้น​จะ​ฟัง​คำสั่ง​ใคร​ ​ความ​น่าเกรงขาม​ของ​ท่าน​โหว​อยู่​ที่ไหน​”

แต่ฮู​หยิน​ห้า​กลับหัว​เราะ

“​ไม่เลว​!​ ​บ่าว​รับใช้​ชั้นต่ำ​ ​รู้จัก​แต่​ประจบสอพลอ​เจ้านาย​ ​ไม่สน​ใจ​แม้แต่​ความปลอดภัย​ของ​เจ้านาย​ตัวเอง​”​ ​นาง​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​แต่ว่า​หาก​เป็น​เช่นนี้​ ​เกรง​ว่า​ผู้ดูแล​ลาน​ข้างนอก​คงจะ​ไม่พอใจ​นาง​ ​ข้า​คิดไม่ถึง​ว่า​ครั้งนี้​สือ​อี​เหนียง​จะ​ทำ​อะไร​บุ่มบ่าม​เช่นนี้​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​หันหน้า​กลับมา​ ​“​เรื่อง​ทุกอย่าง​มีทั​้ง​ข้อดี​และ​ข้อเสีย​ ​ถือโอกาส​ตอนที่​บุตรชาย​และ​ลูกสะใภ้​กลับ​สกุล​เดิม​สร้าง​ความ​น่าเกรงขาม​ของ​ตัวเอง​ต่อ​บรรดา​ผู้ดูแล​ ​แล้วยัง​ทำ​เรื่อง​ให้​มัน​ใหญ่โต​เช่นนี้​ ​เมื่อ​ลูกสะใภ้​กลับมา​ ​ไม่​อยากรู้​ก็​คงจะ​ยาก​ ​ต่อไป​หาก​ลูกสะใภ้​มา​เจอ​ตัวเอง​ ​ลูกสะใภ้​ก็​ต้อง​ทำ​อะไร​รอบคอบ​มากขึ้น​”

ชี​เหนียง​บอก​ให้​สาวใช้​ช่วย​เช็ดมือ​ให้​จี้​เกอ​ที่​ใบหน้า​เปรอะเปื้อน​ไป​ด้วย​เศษ​ขนม​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​น้อง​หญิง​สิบเอ็ด​ไม่ได้​เจ้าเล่ห์​เหมือน​ที่​เจ้า​พูด​ ​มัน​ก็​แค่​เป็นเรื่อง​บังเอิญ​ ​คน​เป็น​แม่​คน​ ​ใคร​เจอ​เรื่อง​เช่นนี้​ก็​คงจะ​โมโห​กัน​ทั้งนั้น​”

“​ก็​จริง​”​ ฮู​หยิน​ห้า​ยิ้ม​แล้ว​ถาม​ป้า​สือ​ ​“​เซิน​เกอ​เล่า​ ​อยู่​ที่ใด​”

ป้า​สือ​ยิ้ม​ ​“​บอกว่า​ไปหา​คุณชาย​น้อย​หก​เจ้าค่ะ​!​”

ฮู​หยิน​ห้า​พูด​ ​“​ไป​ตาม​เขา​กลับมา​ ​ไม่เห็น​หรือว่า​จี้​เกอ​อยู่​ที่นี่​”

ป้า​สือ​ตอบรับ

แต่​ชี​เหนียง​กลับ​ห้าม​นาง​ไว้​ ​“​จี้​เกอ​ขี้กลัว​ ​ปล่อย​เขา​ออก​ไป​เขา​ก็​ไม่กล้า​ไป​ไหน​ ​ให้​เขา​นั่ง​ฟัง​พวกเรา​พูดคุย​กัน​อยู่​ที่นี่​เถิด​”

ฮู​หยิน​ห้า​ถอนหายใจ​ ​“​จี้​เกอ​ของ​เจ้า​ช่าง​รู้ความ​ ​ไม่​เหมือน​ลูก​ๆ​ ​ของ​ข้า​ ​คน​หนึ่ง​ไม่เห็น​แม้แต่​เงา​ ​ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​พอ​ไม่​เจอ​หน้า​ข้า​ก็​ร้องไห้​งอแง​”

“​มารดา​รังแก​ทารก​น้อย​หรอก​หรือ​!​”

ฮู​หยิน​ห้า​ได้​ฟัง​แล้วก็​หัวเราะ​ ​นาง​เช็ดมือ​ให้​จี้​เกอ​ที่​ทาน​ขนม​อยู่​ข้างๆ​ ​อย่าง​รู้ความ​ ​พูดคุย​กับ​ชี​เหนียง​ ​รอสาว​ใช้​ที่​ออก​ไปดู​ความ​ครื้นเครง​ที่​เรือน​หลัก​กลับมา​รายงาน​

ไท่ฮู​หยิน​เป็นกังวล

นาง​นั่ง​มองดู​ต้น​การบูร​นอก​ห้อง​ที่​ยังคง​เขียวขจี​อยู่​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​ ​ไม่​พูด​อะไร​อยู่นาน​ด้วย​สีหน้า​ที่​คลุมเครือ

ป้า​ตู้​วาง​ถ้วย​ชา​ไว้หน้า​ไท่ฮู​หยิน​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​ท่าน​บอกว่าฮู​หยิน​สี่​ทำ​อะไร​รอบคอบ​ไม่ใช่​หรือ​เจ้า​คะ​ ฮู​หยิน​สี่​ไม่ใช่​คน​ไม่รู้​ความ​ ​ท่าน​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​หรอก​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​ถอนหายใจ​ ​ถือ​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ผ่อนคลาย​ลง​ ​“​นาง​ทำ​เช่นนี้​ ​ต่อไป​ผู้ดูแล​ลาน​ข้างนอก​คน​ไหน​จะ​กล้า​เข้าใกล้​จิ​่น​เกอ​…​”​ ​นาง​พูด​ ​“​แต่ว่า​เช่นนี้​ก็ดี​เหมือนกัน​ ​เด็กดี​ๆ​ ​จะ​ได้​ไม่​ถูก​คน​พวก​นั้น​ยุยง​ทำ​เรื่อง​ไม่ดี​”​ ​ถึงแม้ว่า​นาง​จะ​พูดว่า​เช่นนี้​ ​แต่​เมื่อ​นึกถึง​จิ​่น​เกอ​ที่​ร่าง​เริง​สดใส​ ​สายตา​ของ​นาง​ก็​มี​ความเศร้า​โศก​

เรื่อง​นี้​มัน​ละเอียดอ่อน​เกินไป

ป้า​ตู้​ไม่​พูด​อะไร

มีสาว​ใช้​รายงาน​ผ่าน​ม่าน​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​เก๋อ​จิน​ขอ​พบ​ท่าน​เจ้าค่ะ​!​”

ไท่ฮู​หยิน​และ​ป้า​ตู้​ตกใจ

*****

เสียงร้อง​เอะอะโวยวาย​ที่​หน้า​ประตู​ฉุยฮ​วาดัง​ไป​ทั่ว​ลาน​หลัก​ ​บรรดา​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ต่าง​ก็​หวาดกลัว​จน​ไม่กล้า​หายใจ​

จู๋​เซียง​เดินผ่าน​ทางเดิน​ใน​ลาน​หลัก​ด้วย​ท่าทาง​ที่​เคร่งขรึม​ ​จากนั้น​ก็​ยืน​มอง​อยู่​ใต้​ชายคา​ประตู​ฉุยฮ​วา​อย่าง​นิ่ง​สงบ

นาง​มองดู​ผู้ดูแล​และ​บ่าว​รับใช้​ที่​ถูก​เฆี่ยน​อย่าง​เย็นชา​ ​จากนั้น​ก็​ตะโกน​เสียงดัง​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ให้​ข้ามา​ถาม​พวก​เจ้า​ ​บ่าว​รับใช้​ลาน​ข้างนอก​บุก​เข้ามา​ลาน​หลัก​ ​ต่อล้อต่อเถียง​กับ​คุณชาย​น้อย​ห้า​ ​ยุยง​ให้​คุณชาย​น้อย​หก​เล่น​ประทัด​ ฮู​หยิน​ใส่ร้าย​พวก​เจ้า​เช่นนั้น​หรือ​”

ไม่ว่า​จะ​เป็น​ผู้​ถูก​เฆี่ยน​หรือ​คน​เฆี่ยน​ ​ล้วนแต่​ตกใจ​กับ​การปรากฏ​ตัว​ที่​กะทันหัน​ของ​นาง​ ​พวกเขา​มองดู​จู๋​เซียง​ที่​สวม​เสื้อกั๊ก​สีแดง​ดอกกุหลาบ​ ​หยุด​ร้องไห้​เอะอะโวยวาย​ ​บรรยากาศ​พลัน​เงียบสงัด​ราวกับ​ได้ยิน​เสียง​ลม​ที่​พัดผ่าน​มา

ทันใดนั้น​ก็​มี​ผู้ดูแล​คน​หนึ่ง​ได้สติ​กลับมา​ ​เขา​แก้ตัว​ ​“​วันนั้น​วุ่นวาย​ ​เรา​ต่าง​ก็​มีหน้า​ที่​ของ​ตัวเอง​…​”

จู๋​เซียง​พูด​ขัดจังหวะ​ผู้ดูแล​คน​นั้น​ทันที​ ​“​วุ่นวาย​?​ ​หน้าที่​ใน​จวน​ของ​เรา​ ​แบ่งแยก​ชัดเจน​ตลอด​ ​จะ​วุ่นวาย​ได้​เช่นไร​ ​หรือว่า​ยัง​มีเรื่อง​อัน​ใด​ที่ฮู​หยิน​ของ​ข้า​ไม่รู้​เช่นนั้น​หรือ​”

ผู้ดูแล​คน​นั้น​กลืน​คำพูด​ที่​ยัง​พูด​ไม่​จบ​ลง​ไป​ใน​ท้อง​ทันที

หาก​ยอมรับ​ว่า​ตอนนั้น​วุ่นวาย​ ​ความผิด​ก็​จะ​กลายเป็น​ของ​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​ด้วย​สถานะ​ของ​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​แน่นอน​ว่า​ท่าน​โหว​ไม่มีทาง​ทำ​อะไร​เขา​ ​แต่​พวกเขา​ไม่​เหมือนกัน​ ​การ​ที่​พวกเขา​เอะอะโวยวาย​เช่นนี้​ ​ก็​เพราะ​หวัง​ว่า​พ่อบ้าน​ไป๋​จะ​เห็นแก่​ที่​พวกเขา​เคารพ​พ่อบ้าน​ไป๋​มาต​ลอด​ ​หวัง​ว่า​พ่อบ้าน​ไป๋​จะ​ช่วย​พูด​ให้​พวกเขา​ต่อหน้า​ท่าน​โหว​และฮู​หยิน​

ทันใดนั้น​ก็​มี​ผู้ดูแล​อีก​คน​หนึ่ง​เบิกตา​ใส่​ผู้ดูแล​คน​นั้น​ ​จากนั้น​ก็​ช่วย​พูด​ ​“​แม่นาง​ ​พวก​ข้า​ไม่ได้​หมายความ​เช่นนั้น​ ​แต่​ตอนนั้น​พวก​ข้า​ยุ่ง​มาก​จริงๆ​…​”

จู๋​เซียง​สะบัด​มือ​ ​บอก​พวกเขา​ว่า​ไม่ต้อง​พูด​อะไร​อีกด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​“​คุณชาย​น้อย​สอง​แต่งงาน​ ​คนใน​จวน​ก็​ยุ่ง​กัน​ทั้งนั้น​ ​แต่​เหตุใด​บ่าว​รับใช้​ของ​พวก​เจ้า​ถึง​บุก​เข้ามา​ที่​ลาน​หลัก​ ​ไม่เห็น​บ่าว​รับใช้​ของ​คนอื่น​จะ​บุก​เข้ามา​?​ ฮู​หยิน​ให้​ข้ามา​ถาม​พวก​เจ้า​ ​ว่าที่​พวก​เจ้า​ร้องไห้​เอะอะโวยวาย​เช่นนี้​ ​เพราะ​คิด​ว่า​ตัวเอง​ไม่ผิด​อย่างนั้น​หรือ​”

บรรดา​ผู้ดูแล​พลัน​พูดไม่ออก​ทันที

สายตา​ของ​จู๋​เซียง​มอง​ไป​ยัง​คน​เฆี่ยน​ ​“ฮู​หยิน​บอกว่า​ ​คนที​่​ร้องไห้​เอะอะโวยวาย​ไม่ยอม​หยุด​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ถูก​เฆี่ยน​ ​แต่​ก็​ไม่มีทาง​รู้​ว่า​ตัวเอง​ทำ​อะไร​ผิด​ ​เฆี่ยน​เพิ่ม​อีก​ยี่สิบ​ที​!​”

ทันทีที่​นาง​พูด​เช่นนี้​ ​สีหน้า​ของ​ทุกคน​ก็​เปลี่ยนไป

มี​ผู้ดูแล​คน​หนึ่ง​พูดว่า​ ​“​แม่นาง​ ​อย่างน้อย​พวก​ข้า​ก็​เป็น​ผู้ดูแล​ที่​มีหน้ามีตา​…​”

“​มีหน้ามีตา​?​”​ ​จู๋​เซียง​แค่น​เสียง​เบา​ด้วย​สายตา​ที่​ดูถูก​ ​“​มีหน้ามีตา​ก็เพราะว่า​เจ้านาย​ ​หาก​ไม่มี​เจ้านาย​สนับสนุน​ ​คง​ไม่รู้​ว่า​หน้าตา​ของ​พวก​เจ้า​อยู่​ที่ไหน​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ชี้​ไป​ที่​ผู้ดูแล​คน​นั้น​ ​“​เฆี่ยน​เพิ่ม​อีก​ยี่สิบ​ที​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ไม่แยแส​ ​ทำให้​ทุกคน​หวาดกลัว

คน​เฆี่ยน​รีบ​ก้มหน้า​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​”

เสียง​แผ่น​ไม้​ที่​กระทบ​กับ​เสียง​ลม​ ​ทำให้เกิด​เพียง​เสียง​ ปัง​! ​และ​ไม่มี​เสียง​อะไร​แทรก​เข้ามา​อีก​เลย

จู๋​เซียง​หันหลัง​กลับ​ ​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้องโถง​ด้วย​ท่าที​อกผาย​ไหล่​ผึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​รู้สึก​ได้​ถึง​เหงื่อ​ที่​ออก​ท่วม​หลัง​ของ​ตัวเอง​

สือ​อี​เหนียง​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​ใน​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ​ ​กำลัง​มองดู​จิ​่น​เกอ​วาด​ไก่​อยู่​ข้างๆ​ ​ได้ยิน​เสียง​ ​แต่​สายตา​ของ​นาง​ก็​ยัง​มองดู​กระดาษ​เฉิง​ซิน​สีขาว​ ​ไม่ได้​เงยหน้า​ขึ้น​มาม​อง​จู๋​เซี่ยง

“​หยุด​ร้อง​แล้ว​หรือ​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​เรียบ​เฉย​

จู๋​เซียง​ย่อเข่า​คำนับ​แล้ว​ขานรับ

จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​เงยหน้า​มอง​มารดา​ ​สายตา​ของ​เขา​เป็นประกาย​ด้วย​ความสงสัย​ ​“​ท่าน​แม่​ขอรับ​ ​หาก​พวกเขา​ยัง​ร้อง​ต่อ​ ​ท่าน​แม่​จะ​เฆี่ยน​พวกเขา​เพิ่ม​หรือ​”

“​ใช่​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ลูบ​หัว​เขา​ ​“​อย่า​ด่วน​ตัดสินใจ​ ​แต่​หาก​ตัดสินใจ​ไป​แล้ว​ ​ไม่ว่า​จะ​เจอ​ปัญหา​อะไร​ ​ก็​ต้อง​ยืนหยัด​ต่อไป​”​ ​นาง​ก็​ชี้​ไป​ที่​ภาพวาด​ของ​เขา​ ​“​เหมือน​เมื่อ​ครู่​เจ้า​ไม่รู้​ว่า​จะ​วาด​อะไร​ ​แต่​เมื่อ​ตัดสินใจ​แล้ว​ว่า​จะ​วาด​ไก่​ ​เช่นนั้น​ก็​ต้อง​วาด​มัน​ให้​สำเร็จ​ ​จะ​วาด​แค่​ตัว​และ​หัว​ของ​ไก่​ ​แต่กลับ​ไม่​วาด​เท้า​ของ​มัน​เพราะ​เรื่อง​อื่น​ไม่ได้​”

จิ​่น​เกอ​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พยักหน้า​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​จะ​วาด​ไก่​ให้​เสร็จ​”​ ​เขา​ก้มหน้า​ลง​วาด​ไก่​ทั้งตัว

มีสาว​ใช้​เดิน​เข้ามา​รายงาน​ด้วย​ความหวาดกลัว​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​สี่​เอ๋อร​์​ขอ​พบ​ท่าน​เจ้าค่ะ​!​”

เพราะว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​แต่งงาน​ ​อาจารย์​จ้าว​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​หยุด​เรียน​สาม​วัน​ ​ยามเช้า​สวี​ซื่อ​เจี้ยมา​คารวะ​สือ​อี​เหนียง​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​เขา​ ​เขา​บอกว่า​วันนี้​ยาม​บ่าย​จะ​ไป​ฝึก​เขียนหนังสือ​ที่​เรือน​ของ​สวี​ซื่อ​จุน

ตอนนี้​ ​สี่​เอ๋อร​์​ต้อง​อยู่​รับใช้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไม่ใช่​หรือ​ ​ไม่รู้​ว่านา​งมา​หา​ตัวเอง​ทำไม

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ช้าๆ​ ​“​ให้​นาง​เข้ามา​”

“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​!​”​ ​สี่​เอ๋อร​์​หน้าซีด​ ​นาง​พูด​ตะกุกตะกัก​ ​“​คุณชาย​น้อย​ห้า​ ​คุณชาย​น้อย​ห้า​ก่อเรื่อง​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

ใน​บรรดา​ลูก​ๆ​ ​ทั้งหมด​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไร้เดียงสา​มาก​ที่สุด​ ​มี​แค่​อาหาร​เขา​ก็​พอใจ​แล้ว​ ​ใคร​เย็นชา​หรือว่า​ห่างเหิน​กับ​เขา​ ​เขา​ก็​ไม่​คิดเล็กคิดน้อย​ ​ไม่​เหมือน​สวี​ซื่อ​อวี​้​ที่​ชอบ​คิดมาก​ ​และ​สวี​ซื่อ​จุน​ที่​อ่อนไหว​ง่าย​ ​แล้วก็​ไม่​เหมือน​จิ​่น​เกอ​ที่​ดื้อรั้น​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​ไม่​ค่อย​ขัดแย้ง​กับ​ใคร

เขา​ก่อเรื่อง​?

ก่อเรื่อง​อะไร​…

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท