ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 624 ความแตกต่าง (ต้น)

ตอนที่ 624 ความแตกต่าง (ต้น)

ถึงแม้ว่า​คำตอบ​นี้​จะ​มี​ช่องโหว่​ ​แต่​ใน​ฐานะ​เด็ก​อายุ​หก​ขวบ​ ​ถือว่า​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​!

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​ถาม​เขา​ต่อ​ ​แต่กลับ​พูดว่า​ ​“​รีบ​ไป​ให้​หง​เหวิ​นล​้าง​หน้า​ล้าง​ตา​ให้​เจ้า​ ​แม่​ของ​เจ้า​ยัง​มีเรื่อง​จะ​พูด​กับ​เจ้า​อีก​!​”

จิ​่น​เกอ​ถือ​กล่อง​เดินตาม​หง​เหวิน​ไป​อย่าง​มีความสุข​ ​สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูด​ ​“​ท่าน​โหว​ ​เหตุใด​ถึง​สอน​เขา​เช่นนี้​เล่า​ ​ข้า​รู้​ว่า​ท่าน​อยาก​ให้​จิ​่น​เกอ​โต​ขึ้น​ ​แต่ว่า​เขา​ยัง​เด็ก​ ​ยัง​ไม่ได้​เรียนหนังสือ​ ​เขา​ยัง​ไม่รู้​ผิด​ถูก​อะไร​ ​หาก​เขา​รู้จัก​แค่​วิธี​เอาชนะ​ ​เขา​ก็​คงจะ​รู้จัก​ทำ​อะไร​แค่​ผิวเผิน​ ​คำพูด​ที่ว่า​ ​มีความรู้​ใน​เรื่อง​ต่างๆ​ ​คือ​ความรู้​ ​แต่​เข้าใจ​ผู้คน​ก็​ถือเป็น​ความรู้​อย่างหนึ่ง​เช่นกัน​ ​เรื่องราว​บน​โลก​ใบ​นี้​ ​ล้วนแต่​ขึ้นอยู่กับ​มนุษย์​ ​รู้​วิธี​เข้ากับ​ผู้คน​ ​ใจดี​มี​เมตตา​ต่อ​ผู้อื่น​ ​ถึง​จะ​ได้รับ​ความช่วยเหลือ​จาก​สหาย​ ​เอาชนะ​ความยากลำบาก​และ​ประสบความสำเร็จ​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​ท่าน​โหวก​็​คงจะ​ไม่​พา​จุน​เกอ​ไป​สังสรรค์​ด้วย​ทุกที่​กระมัง​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​เลิก​คิ้ว​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้า​จะ​รู้เรื่อง​พวก​นี้​ด้วย​”​ ​พูด​จบ​ก็​เปลี่ยน​น้ำเสียง​ ​“​แต่ว่า​สิ่ง​ที่​อาจารย์​สอน​ล้วนแต่​เป็นหลัก​การ​ทั่วไป​ ​วางแผนการ​รบ​บน​กระดาษ​ ​ไม่เพียงแต่​พูด​ง่าย​ทำ​ยาก​ ​แล้วยัง​มีบา​งอย​่าง​ที่​นำมาใช้​ใน​ชีวิตจริง​ไม่ได้​ ​มัน​อาจจะ​ไม่​ง่าย​เหมือน​การเรียนรู้​วิธี​เข้ากับ​ผู้คน​ ​ใจดี​มี​เมตตา​ต่อ​ผู้อื่น​เหมือน​ที่​เจ้า​พูด​”​ ​พูด​จบ​เขา​ก็​หัวเราะ​ ​“​บอก​ให้​สาวใช้​ตัก​น้ำ​เข้ามา​เถิด​ ​ข้า​เห็น​ว่า​เจ้า​มีบา​งอย​่าง​จะ​พูด​กับ​จิ​่น​เกอ​ ​นี่​ก็​ดึก​มาก​แล้ว​ ​พวก​เจ้า​สอง​คนพูด​คุย​กัน​เสร็จ​ ​เรา​ก็​รีบ​พักผ่อน​เถิด​!​”

เขา​ไม่​อยาก​พูด​อะไร​อีก

แทนที่จะ​พูดคุย​กับ​คนที​่​มี​ความคิด​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ​ไม่​สู้​สั่งสอน​บุตรชาย​ให้​ดีดี​กว่า​

สือ​อี​เหนียง​ขานรับ​แล้ว​เรียก​สาวใช้​เข้ามา​รับใช้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ล้างหน้าล้างตา​ ​ตัวเอง​ออก​ไปหา​จิ​่น​เกอ​ที่​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ

จิ​่น​เกอ​พึ่ง​จะ​ล้างหน้าล้างตา​เสร็จ​ ​เขา​เปลือย​เท้าเปล่า​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เข้ามา​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​ยืน​ ​“​ท่าน​แม่​ขอรับ​!​”​ ​เท้า​ที่​ขาว​และ​นุ่ม​กระโดดโลดเต้น​อยู่​บน​ผ้าห่ม​สีแดง

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​ไป​นั่ง​บน​เตียง​ ​จิ​่น​เกอ​พุ่ง​เข้ามา​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​สือ​อี​เหนียง​เหลือบตา​มอง​หมอน​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​เห็น​กล่อง​เครื่องเขียน​ไม้​หวง​หยาง​ที่นา​งม​อบ​ให้​เขา​วาง​อยู่​ข้าง​หมอน​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​กว้าง​

“​ท่าน​แม่​”​ ​จิ​่น​เกอ​ออดอ้อน​มารดา​ของ​ตัวเอง​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​หยิบ​สมุดภาพ​วาด​ออกมา​จาก​หัว​เตียง​ ​“​เล่านิทาน​ขอรับ​!​”

สือ​อี​เหนียง​รับ​สมุดภาพ​วาด​มา​ ​ลูบ​หัว​บุตรชาย​ที่นั่ง​ฟัง​อย่าง​รู้ความ​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​วันนี้​เรา​ไม่​เล่านิทาน​ ​เรา​พูดคุย​กัน​ดี​หรือไม่​”

จิ​่น​เกอ​งุนงง

สือ​อี​เหนียง​ถอด​รองเท้า​ขึ้นไป​บน​เตียง​ ​บอก​ให้​หง​เหวิน​หยิบ​หมอน​มาส​อง​ใบ​ ​จากนั้น​ก็​เอน​ตัว​พิง​หมอน

จิ​่น​เกอ​ยิ้มอยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​ถาม​เขา​เสียง​เบา​ ​“​ดึก​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​เหตุใด​เจ้า​ถึง​จะ​ไปหา​เซิน​เกอ​ให้​ได้​”

จิ​่น​เกอ​ยิ้ม​แต่​ไม่​ตอบ​อะไร

สือ​อี​เหนียง​เกา​ใต้​รักแร้​ของ​เขา

จิ​่น​เกอ​หัวเราะ​กลิ้ง​อยู่​บน​เตียง​ ​แล้วยัง​เกา​ใต้​รักแร้​ของ​มารดา​คืน

สอง​แม่​ลูก​หัวเราะ​เสียงดัง​อยู่​บน​เตียง​ครู่หนึ่ง​ ​จิน​เกอ​นอน​ซบ​อยู่​บน​แขน​ของ​นาง​

สือ​อี​เหนียง​จับ​ไหล่เขา​ ​“​เร็ว​เข้า​ ​เจ้า​ยัง​ไม่​ตอบคำถาม​ข้า​เลย​!​”

จิ​่น​เกอ​เม้มปาก​ยิ้ม​ ​“​หาก​น้อง​เจ็ด​เห็น​กล่อง​เครื่องเขียน​ของ​ข้า​ ​เขา​ต้อง​อิจฉา​อย่างแน่นอน​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​ท่าที​ที่​พอใจ​

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ต่อจากนั้น​เล่า​”

จิ​่น​เกอ​ไม่เข้าใจ​ว่า​ต่อจากนั้น​คือ​อะไร

สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​เจ้า​บอกว่า​เจ้า​อยาก​ให้​เซิน​เกอ​อิจฉา​ ​ข้า​จึง​อยากรู้​ว่า​ ​หาก​เซิน​เกอ​อิจฉา​เจ้า​ ​แล้ว​เจ้า​จะ​ทำ​เช่นไร​ต่อ​”

จิ​่น​เกอ​ไม่เคย​คิดถึง​เรื่อง​นี้​มาก​่อน​ ​เขา​ครุ่นคิด​อยู่นาน​ ​ก่อน​จะ​พูดว่า​ ​“​หาก​เขา​อยากได้​กล่อง​เครื่องเขียน​ของ​ข้า​ ​เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​กล่อง​เครื่องเขียน​ของ​ข้า​เป็น​ของดี​ขอรับ​!​”

“​แต่​หาก​เป็น​เช่นนี้​ ​เซิน​เกอ​ก็​จะ​อยากได้​ใช่​หรือไม่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม

จิ​่น​เกอ​พยักหน้า

สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​เช่นนั้น​เขา​ก็​ต้อง​ไป​ขอที​่​ท่าน​อาสะใภ้​ห้า​ของ​เจ้า​!​”

จิ​่น​เกอ​พยักหน้า​อีกครั้ง

“​ข้า​สั่งทำ​กล่อง​เครื่องเขียน​นี้​มาจาก​ร้าน​ตัว​เป่า​เก๋อ​โดยเฉพาะ​ ​ถึงแม้ว่า​ท่าน​อาสะใภ้​ห้า​ของ​เจ้า​จะ​ส่ง​คน​ไป​ซื้อ​ที่​ร้าน​ตัว​เป่า​เก๋อ​ ​ให้​ร้าน​ตัว​เป่า​เก๋อ​ทำ​กล่อง​เครื่องเขียน​ที่​เหมือน​ของ​เจ้า​อีก​ชุด​หนึ่ง​ ​อย่างน้อย​ก็​ต้อง​ใช้เวลา​สอง​สาม​วัน​ ​หาก​เซิน​เกอ​อดทน​รอ​ไม่ไหว​ ​เขา​ก็​จะ​เอะอะโวยวาย​ใส่​ท่าน​อาสะใภ้​ห้า​ ​เจ้า​คิด​ว่า​มัน​จะ​เป็น​เช่นนี้​หรือไม่​”

“​ขอรับ​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​พยักหน้า​อีกครั้ง

“​ท่าน​อาสะใภ้​ห้า​ของ​เจ้า​ต้อง​สอน​พี่​หญิง​สอง​เย็บปักถักร้อย​ ​แล้วยัง​ต้อง​ดูแล​น้อง​แปด​ของ​เจ้า​อีก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​กลาง​ค่ำ​กลางคืน​ ​น้อง​เจ็ด​ของ​เจ้า​เอะอะโวยวาย​ ​ท่าน​อาสะใภ้​ห้า​ของ​เจ้า​หาก​ล่อง​เครื่องเขียน​มา​ให้​เขา​ไม่ได้​ ​นาง​คงจะ​ไม่สบายใจ​ ​แล้วยัง​จะ​ตำหนิ​น้อง​เจ็ด​ของ​เจ้า​…​”

นาง​ยัง​พูด​ไม่​จบ​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​ลุกขึ้น​มานั​่ง​แล้ว​พูดเสี​ยง​ดัง​ ​“​ครั้งก่อน​น้อง​เจ็ด​อุ้ม​ไก่ฟ้า​สีทอง​ของ​ข้า​ไป​ ​ท่าน​อาสะใภ้​ห้า​รู้​เข้า​ ​ก็​บอกว่า​ไก่ฟ้า​สีทอง​ของ​ข้า​อุจจาระ​ไป​ทั่ว​ ​น้อง​แปด​ไป​เหยียบ​โดน​เข้า​ ​เขา​ร้องไห้​แม้แต่​รองเท้า​ก็​ไม่เอา​แล้ว​ ​ท่าน​อาสะใภ้​ห้า​เลย​ตำหนิ​น้อง​เจ็ด​ ​แล้วยัง​บอกอี​กว่า​ ​หาก​น้อง​เจ็ด​อุ้ม​ไก่ฟ้า​สีทอง​กลับมา​อีก​ ​นาง​จะ​ฟ้อง​ท่าน​อา​ห้า​ ​บอก​ให้ท่า​นอา​ห้า​ตีน​้​อง​เจ็ด​ขอรับ​”​ ​เขา​พูด​ราวกับ​กำลัง​ฟ้อง​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​กลั้น​หัวเราะ​ ​“​ในเมื่อ​เจ้า​รู้​ ​แล้ว​เจ้า​ยัง​จะ​นำ​กล่อง​เครื่องเขียน​ไป​โอ้อวด​เซิน​เกอ​อีก​หรือ​!​”

จิ​่น​เกอ​ทำ​สีหน้า​ตกใจ

สือ​อี​เหนียง​ถือโอกาส​นี้​สั่งสอน​ ​“​เซิน​เกอ​เป็น​น้อง​ของ​เจ้า​ ​ปกติ​เขา​ไม่เคย​อยู่​ห่าง​จาก​ตัว​เจ้า​ ​เจ้า​มี​ของดี​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​รู้​ว่า​เขา​จะ​ต้อง​อยากได้​ ​เจ้า​ก็​ควร​แบ่งปัน​เขา​ ​หรือ​ให้​แม่​ช่วย​สั่งทำ​มา​ให้​เซิน​เกอ​อีก​ชุด​หนึ่ง​ ​แต่​ไม่​ควร​ให้​เขา​ถูก​ท่าน​อาสะใภ้​ห้า​ตำหนิ​เพราะ​เจ้า​ ​นี่​ไม่ใช่​สิ่ง​ที่​คนที​่​เป็น​พี่ชาย​พึงกระทำ​!​”

จิ​่น​เกอ​ก้มหน้าก้มตา

“​เรื่อง​นี้​ ​ข้า​เอง​ก็​ผิด​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​โอบกอด​จิ​่น​เกอ​ ​“​ข้า​คิด​เพียงแต่ว่า​จิ​่น​เกอ​กำลังจะ​เรียนหนังสือ​ ​แต่กลับ​ไม่ได้​คิด​ว่า​เซิน​เกอ​จะ​อยากได้​กล่อง​เครื่องเขียน​ของ​เจ้า​ ​เช่นนั้น​ ​เรา​นำ​กล่อง​เครื่องเขียน​นี้​เก็บ​ไว้​ใน​หีบ​ก่อน​ดี​หรือไม่​ ​แม่​สั่ง​ให้​อาจารย์​ที่​ร้าน​ตัว​เป่า​เก๋อ​ทำ​เพิ่ม​อีก​ชุด​หนึ่ง​ ​รอ​ให้​ของ​มาถึง​แล้ว​ ​เจ้า​ค่อย​นำ​ไป​ให้​เซิน​เกอ​ ​พวก​เจ้า​จะ​ได้​มี​กัน​คนละ​ชุด​ ​เจ้า​คิด​ว่า​ดี​หรือไม่​!​”

“​ดี​ขอรับ​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​พูดเสี​ยง​ดัง

“​จิ​่น​เกอ​ของ​เรา​เป็น​พี่ชาย​ที่​ดี​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​หอม​แก้ม​เขา

จิ​่น​เกอ​ยิ้ม​ ​จากนั้น​ก็​หุบ​ยิ้ม​แล้ว​ดึง​แขน​เสื้อ​สือ​อี​เหนียง​อย่างเบามือ​ ​มองดู​สีหน้า​ของ​นาง​อย่างระมัดระวัง​ ​เขา​พูด​ตะกุกตะกัก​ ​“​ไม่​แกะสลัก​รูป​ลิง​น้อย​ได้​หรือไม่​…​รูป​ลิง​น้อย​เป็น​ของ​ข้า​…​”

สือ​อี​เหนียง​อด​หัวเราะ​ไม่ได้

ทุกอย่าง​ต้อง​ค่อยๆ​ ​เป็น​ค่อยๆ​ ​ไป​ ​จิ​่น​เกอ​ทาน​คนเดียว​จน​เคยชิน​ ​แต่​เขา​ทำ​เช่นนี้​ได้​ ​ก็​ถือว่า​เป็นการ​พัฒนา​ครั้ง​ใหญ่​แล้ว

“​ได้​สิ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​มอง​เขา​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​เรา​จะ​แกะสลัก​เป็นตัว​อะไร​ให้​เซิน​เกอ​ดี​”

เมื่อ​ครู่​มารดา​บอกว่า​ให้​เขา​ยอม​น้องชาย​ตัวเอง​ ​แต่​เขา​กลับ​ไม่ยอม​ให้​น้องชาย​ตัวเอง​แกะสลัก​รูป​ลิง​เหมือน​เขา​…​จิ​่น​เกอ​เลย​กลัว​ว่านาง​จะ​โกรธ​ ​เขา​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ตอบ​ตกลง​อย่าง​มีความสุข​ ​เลย​สายตา​เป็นประกาย​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ด้วย​ความสนใจ​ ​ ​“​แกะสลัก​รูป​แมว​ขอรับ​ ​น้อง​เจ็ด​ชื่นชอบ​แมว​…​แล้ว​เขา​ก็​ชอบ​สุนัข​ ​แกะสลัก​รูป​สุนัข​ด้วย​ขอรับ​…​”

สือ​อี​เหนียง​ปรึกษา​กับ​จิ​่น​เกอ​ตั้ง​นาน​ ​สุดท้าย​ก็​ตัดสินใจ​แกะสลัก​รูป​เสือ​ให้​เซิน​เกอ​ ​สือ​อี​เหนียง​กล่อม​จิ​่น​เกอ​นอนหลับ​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง​

“​พูด​เรื่อง​อัน​ใด​กัน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​รอนาง​ตั้ง​นาน

“​ไม่มี​อะไร​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เล่า​ที่​ไป​ที่มา​ของ​เรื่องราว​ให้​เขา​ฟัง​

สวี​ลิ่ง​อี๋​คิด​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จัดการ​ได้​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ​เขา​พูด​ ​“​พรุ่งนี้​เช้า​ก็​บอก​ให้​ผู้ดูแล​ไป​บอก​ที่​ร้าน​ตัว​เป่า​เก๋อ​ ​บอก​ให้​พวกเขา​เร่งมือ​ทำให้​หน่อย​ ​เรา​จ่าย​เงิน​เพิ่ม​ให้​พวกเขา​ก็ได้​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ขานรับ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถามถึง​เรื่อง​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​สัมภาระ​ของ​พวกเขา​จัดการ​เรียบร้อย​แล้ว​หรือยัง​ ​ต้อง​เพิ่ม​ผู้ติดตาม​อีก​สัก​สอง​สาม​คน​หรือไม่​”

อีก​สาม​วัน​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​จะ​ออกเดินทาง​ไป​เล่อ​อาน​แล้ว​ ​ส่วน​เซี่ยง​ซื่อ​อยู่​รับใช้​พ่อแม่​สามี​ที่​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​

“​วันนี้​ข้า​ไปดู​มา​แล้ว​ ​เก็บของ​ทุกอย่าง​เรียบร้อย​ดี​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​สำหรับ​ผู้ติดตาม​ของ​อวี​้​เกอ​…​”​ ​นาง​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​เหวิน​จู๋​ ​สาวใช้​ใน​เรือน​ของ​อวี​้​เกอ​ ​ท่าน​โหว​จำได้​หรือไม่​”

“​เหวิน​จู๋​?​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​มี​ความ​คาดเดา​ ​“​สาวใช้​ที่​เรือน​ของ​อวี​้​เกอ​?​”​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​จำ​ไม่ได้

“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​ตอน​ขึ้นปีใหม่​ภรรยา​ของ​อวี​้​เกอ​มาบ​อก​ข้าว​่า​ ​เหวิน​จู๋​คอย​รับใช้​อวี​้​เกอ​มาต​ลอด​ ​นาง​อยาก​ให้​เหวิน​จู๋​ติดตาม​อวี​้​เกอ​ไป​เล่อ​อาน​ ​แต่ว่า​เหวิน​จู๋​ไม่​เด็ก​แล้ว​ ​นาง​ปรึกษา​กับ​อวี​้​เกอ​ ​อยาก​ให้​เหวิน​จู๋​แต่งงาน​กับ​มั่ว​จู๋​ ​บ่าว​รับใช้​ของ​อวี​้​เกอ​ ​จึง​มาถาม​ความคิดเห็น​ของ​ข้า​ ​ข้า​ให้​พวกเขา​ตัดสินใจ​กันเอง​ ​สอง​สาม​วันก่อน​ ​ภรรยา​ของ​อวี​้​เกอ​จึง​เลือก​ฤกษ์งาม​ยาม​ดี​ ​ให้​พวกเขา​สอง​คน​แต่งงาน​กัน​ ​แล้ว​เตรียมตัว​ติดตาม​อวี​้​เกอ​ไป​เล่อ​อาน​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ตอนนี้​อวี​้​เกอ​แต่งงาน​แล้ว​ ​เขา​เป็นผู้ใหญ่​แล้ว​ ​เรื่อง​ใน​เรือน​ต้อง​ให้​ภรรยา​ของ​เขา​เป็น​คน​ช่วยดูแล​ ​เรา​ไม่ต้อง​เข้าไป​ยุ่ง​หรอก​ ​ท่าน​โหวก​็​ต้อง​ค่อยๆ​ ​ทำความ​คุ้นเคย​นะ​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​ ​เขา​ตบ​ก้น​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​รีบ​ไป​ล้างหน้าล้างตา​แล้ว​รีบ​พักผ่อน​เถิด​!​”

สือ​อี​เหนียง​ลุกขึ้น​ ​นาง​เบิกตา​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ไป​ยัง​ห้อง​ชำระ

*****

วัน​ต่อมา​ ​หู่​พั่ว​เข้ามา​คารวะ​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​จับมือ​นาง​ ​สำรวจ​มอง​นาง​ตั้งแต่​หัว​จรด​เท้า

นาง​อวบ​ขึ้น​ไม่น้อย​ ​ทำให้​รูปร่าง​ของ​นาง​ดู​มีน้ำมีนวล​มากยิ่งขึ้น​ ​ราวกับ​ดอกไม้​ที่​เบ่งบาน​สะพรั่ง​และ​เต็มไปด้วย​กลิ่นหอม​เย้ายวน​ของ​ผู้ใหญ่

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​บุตร​ของ​เจ้า​พึ่ง​จะ​อายุ​หนึ่ง​ขวบ​ ก​่​วน​ชิง​ยอมให้​เจ้า​กลับมา​ด้วย​หรือ​”

หู่​พั่ว​หน้าแดง​ ​นาง​พูด​ ​“​เรา​ตกลง​กันตั​้ง​แต่ง​ตอนที่​บ่าว​แต่งงาน​แล้ว​ ​เขา​ไม่มีทาง​ไม่​ยินยอม​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ

หู่​พั่ว​หน้าแดง​ยิ่งกว่า​เดิม

สือ​อี​เหนียง​จับมือ​นาง​เข้าไป​ใน​ห้อง

“​เจ้า​อย่า​ทำให้​ความสัมพันธ์​ของ​เจ้า​และก​่​วน​ชิง​ต้อง​มีปัญหา​เพราะ​เรื่อง​นี้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ ​“​ตอนนั้น​คือ​ตอนนั้น​ ​ตอนนี้​คือ​ตอนนี้​ ​อะไร​ก็​เทียบ​กับ​การ​ที่​พวก​เจ้า​มีชีวิต​ที่​ดี​ไม่ได้​!​”

“​บ่าว​รู้​เจ้าค่ะ​!​”​ ​หู่​พั่ว​ได้ยิน​แล้ว​น้ำ​ใส​ๆ​ ​รื้น​เต็ม​ขอบตา​

ฮู​หยิน​เป็น​คน​ไม่เคย​ลืม​มิตรภาพ​เก่า​ ​สาวใช้​ที่​ติดตามฮู​หยิน​มาจาก​อวี​๋​หัง​ก็​ล้วนแต่​ไม่​อยาก​จากฮู​หยิน​ไป​ ​จู๋​เซียง​ไม่​เด็ก​แล้ว​ ​หาก​นาง​ยัง​ไม่​แต่งงาน​คงจะ​ไม่ดี​ ​ได้ยิน​ว่า​คนที​่​มาสู่​ขอ​ ​คนที​่​ฐานะ​แย่​ที่สุด​คือ​ผู้ดูแล​น้อย​ของ​จวน​สกุล​สวี​ ​จะ​ให้​จู๋​เซียง​อยู่​กับ​สือ​อี​เหนียง​ต่อไป​ไม่ได้​แล้ว​ ​ตอนนี้​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ทำงาน​ที่​ห้อง​ซือ​ฝัง​ ​ปินจ​วี​๋​ก็​กำลัง​ตั้งครรภ์​ ​แล้วยัง​รับ​เด็ก​ที่​ถูก​ทอดทิ้ง​มา​เลี้ยง​เป็น​บุตรบุญธรรม​ ​นาง​ไม่มีทาง​ได้​เข้ามา​ทำงาน​ใน​จวน​แล้ว​ ​ถึงแม้ว่า​ตอนนี้ฮู​หยิน​จะ​ไม่​เหมือน​เมื่อก่อน​ ​แต่​ใน​ใจ​ของ​ตน​ ​ไม่ว่าฮู​หยิน​จะ​แข็งแกร่ง​แค่ไหน​ ​ก็​ต้อง​มี​คนดู​แล​ ​ตน​ไม่ได้​อยู่​กับฮู​หยิน​แล้ว​จะ​วางใจ​ได้​เช่นไร​

“​บ่าว​อยาก​มา​เอง​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ระบาย​ความทุกข์​ ​“​ท่าน​ไม่รู้​ว่า​เลี้ยงลูก​เหนื่อย​แค่ไหน​ ​ทำ​อะไร​ก็​ร้องไห้​ ​พึ่ง​จะ​ป้อน​นม​ไป​ก็​อาเจียน​ออกมา​ ​พึ่ง​จะ​ซัก​เสื้อผ้า​ก็​ฉี่​ ​ยัง​ไม่ทัน​เปลี่ยน​ผ้าอ้อม​ ​เขา​ก็​ร้องไห้​เอะอะโวยวาย​จะ​ดื่ม​นม​อีก​…​เหนื่อย​กว่า​ทำไร่​เสียอีก​ ​บ่าว​หวัง​ว่าฮู​หยิน​จะ​เรียก​บ่าว​เข้ามา​ที่​จวน​ทุกวัน​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​พูด​อีกว่า​ ​“​หาก​ท่าน​ยัง​ไม่​ส่ง​คน​ไป​เรียก​บ่าว​ ​บ่าว​คงจะ​ต้อง​เข้ามา​เสนอตัว​ให้ท่าน​เอง​แล้ว​กระมัง​!​”

“​ทำไร่​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ขบขัน​ ​นาง​หยอกล้อ​หู่​พั่ว​ ​“​เจ้า​ไป​ทำไร่​ตั้งแต่​เมื่อไร​ ​ข้า​จะ​ไม่รู้​ได้​เช่นไร​ว่าการ​เลี้ยงลูก​เหนื่อย​แค่ไหน​ ​เช่นนั้น​จิ​่น​เกอ​จะ​เติบโต​มา​ได้​อย่างไรเล่า​”

“​ตอน​เด็ก​ๆ​ ​บ่าว​เคย​ทำไร่​เจ้าค่ะ​!​”​ ​หู่​พั่ว​พูด​ ​“​เก็บ​ฝ้าย​ใน​ไร่​ ​ตากแดด​ร้อน​จน​อยาก​ตาย​ไป​เสีย​จะ​ดีกว่า​ ​ต่อมา​ได้มา​อยู่​ที่​อวี​๋​หัง​ ​บ่าว​จึง​สาบาน​กับ​ตัวเอง​ว่า​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​จะ​ไม่​กลับ​ไป​ทำไร่​อีกแล้ว​ ​ถึงอย่างไร​ก็​ต้อง​มีหน้า​ที่​การงาน​ที่​ดี.​..​”

พวก​นาง​สอง​คนพูด​คุย​เรื่อง​ใน​อดีต​ ​พลอย​ทำให้​พวก​นาง​อารมณ์ดี​ขึ้น​ไม่น้อย

จากนั้น​ปินจ​วี​๋​ ​บุตรชายคนโต​ฉั​งอาน​ ​และ​ฉัง​ซุ่น​บุตรชาย​ที่​รับ​มา​เลี้ยง​มาคา​รวะ​สือ​อี​เหนียง​

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท