ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 625 ความแตกต่าง (กลาง)

ตอนที่ 625 ความแตกต่าง (กลาง)

ฉั​งอาน​ ​บุตรชายคนโต​ของ​ปินจ​วี​๋​ ​ไท่ฮู​หยิน​เป็น​คน​ตั้งชื่อ​ให้​เขา​ ​อายุ​มากกว่า​จิ​่น​เกอ​หนึ่ง​ปี​ ​หน้าตา​เหมือนว่าน​ต้า​เสี่ยน​ ​คิ้ว​ตาคม​คาย​ ​แต่​ผิว​ของ​เขา​คล้ำ​นิดหน่อย​ ​เมื่อ​เทียบ​กับ​เด็ก​ใน​วัย​เดียวกัน​ ​เขา​ถือว่า​เป็น​เด็ก​ที่​มี​รูปร่าง​สูงใหญ่​ ​เขา​เม้มปาก​แล้ว​กอด​แขน​ฉัง​ซุ่น​ ​น้องชาย​อายุ​สาม​ขวบ​ของ​ตัวเอง​แน่น​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ดู​ตึงเครียด​ ​ไม่​ร่าเริง​เหมือน​ตอนที่​มาคา​รวะ​สือ​อี​เหนียง​ครั้งก่อน​

“​เกิด​อะไร​ขึ้น​”​ ​สือ​อี​เหนียง​กวักมือ​เรียก​ฉั​งอาน​และ​ฉัง​ซุ่น​ ​“​ปีก่อน​ยัง​ป้อน​อาหาร​นก​กับ​สุย​เฟิ​งอยู​่​เลย​ ​เหตุใด​ปีนี​้​ถึง​ไม่​พูด​อะไร​แล้ว​ล่ะ​!​”

ช่วง​ขึ้นปีใหม่​ของ​ทุกปี​ ​นาง​มักจะ​ยุ่ง​อยู่​ตลอด​ ​ปินจ​วี​๋​ ​หู่​พั่ว​และ​คนอื่นๆ​ ​จะ​รอ​ให้​ถึง​วันที่​สิบ​เดือน​หนึ่ง​ ​หลัง​เทศกาล​โคมไฟ​ถึง​จะ​มาคา​รวะ​สือ​อี​เหนียง​ ​แล้วก็​เพราะว่า​ฉัง​ซุ่น​ ​ทุกครั้งที่​ปินจ​วี​๋​มาคา​รวะ​สือ​อี​เหนียง​ ​นาง​มักจะ​พาบุ​ตร​ทั้งสอง​คน​มาด​้วย​

“​เขา​มักจะ​ไป​เก็บ​ฟืน​ ​ไล่​จับ​แมลง​กับ​พ่อ​สามี​เจ้าค่ะ​ ​นิสัย​เลย​สุขุม​ขึ้น​เรื่อยๆ​”​ ​ปินจ​วี​๋​ลูบ​หัว​บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​แล้ว​พูด​กับ​เขา​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​ยัง​ไม่​รีบ​ไป​ก้มหัว​ให้ฮู​หยิน​อีก​”

ฉั​งอาน​หน้าแดง​ก่ำ​ด้วย​ความ​เขินอาย​ ​เขา​พา​ฉัง​ซุ่น​เดิน​ไป​ก้มหัว​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่กลับ​ถูก​สือ​อี​เหนียง​ห้าม​เอาไว้​ ​“​เมื่อ​ครู่​คารวะ​แล้ว​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ก้มหัว​อีกครั้ง​”​ ​จากนั้น​ก็​หยิบ​ลูกกวาด​ให้​พวกเขา​สอง​พี่น้อง​แล้ว​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​จะ​ไป​เล่น​กับ​สุย​เฟิง​ที่​สวนดอกไม้​หรือไม่​”​ ​นาง​มองดู​ฉัง​ซุ่น​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​ฉั​งอาน

เขา​ตัวเล็ก​ ​หน้าแดง​ ​แววตา​สดใส​ ​ท่าทาง​มีชีวิตชีวา​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ปินจ​วี​๋​ดูแล​เด็ก​คน​นี้​เป็น​อย่างดี​

ฉัง​ซุ่น​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​สายตา​เป็นประกาย​ ​เขา​เบิกตา​กว้าง​มอง​พี่ชาย​ตัวเอง​ด้วย​ท่าที​ที่​อยาก​ไป​

ฉั​งอา​นลัง​เลอ​ยู่​ครู่หนึ่ง​ ​เขา​ส่ายหน้า​ให้​ฉัง​ซุ่น​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​เงยหน้า​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​มีท​่า​ที​เขินอาย​ ​แต่กลับ​พูดเสี​ยง​ดัง​ฟัง​ชัด​ ​“​เรียนฮู​หยิน​ ​บ่าว​และ​น้องชาย​จะ​อยู่​กับ​ท่าน​แม่​ที่นี่​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

อาจจะ​เป็นเพราะว่า​เขา​เติบโต​ที่​ไร่​ ​ฉั​งอาน​เลย​ชอบ​ไป​เล่น​ที่​สวนดอกไม้​หลัง​จวน​สกุล​สวี​เป็นอย่างมาก​ ​โดยเฉพาะ​ที่​สุย​เฟิง​ ​เขา​เลี้ยงสัตว์​เล็ก​ไว้​มากมาย​ ​ทุกครั้งที่​ฉั​งอา​นมา​เขา​มักจะ​ไป​อยู่​กับ​สุย​เฟิง​ตั้ง​นาน​ ​จนกระทั่ง​ปินจ​วี​๋​ไป​เรียก​เขา​ ​เขา​ถึง​ได้​กลับ​ไป​กับ​มารดา​ด้วย​ท่าทาง​อาลัยอาวรณ์​

ปินจ​วี​๋​นึกถึง​ฉัง​ซุ่น​ ​นาง​คิด​ว่า​สือ​อี​เหนียง​มี​อะไร​จะ​พูด​กับ​นาง​ ​ถึงแม้ว่า​หู่​พั่ว​จะ​อยู่​ที่นี่​ ​แต่​นาง​ก็​ไล่​บุตรชาย​ตัวเอง​ออก​ไป​ ​“​ในเมื่อฮู​หยิน​บอก​ให้​พวก​เจ้า​ไป​ ​พวก​เจ้า​ก็​ไป​เถิด​ ​แต่​จำ​เอาไว้​ว่า​อย่า​ทะเลาะ​กับ​สุย​เฟิง​ ​ต้อง​ดูแล​น้อง​ ​อย่า​ปล่อย​ให้​น้อง​ทำ​สิ่งของ​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​พัง​”

ฉั​งอาน​ได้ยิน​แล้วก็​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​อย่าง​สุภาพ​ ​พาน​้​อง​ชาย​โค้ง​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​ออก​ไป​กับ​สาวใช้​น้อย​

สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​สาวใช้​ยก​เก้าอี้​มา​ให้​ปินจ​วี​๋​ ​ถาม​นาง​ว่า​คลอด​เมื่อไร​ ​สบายดี​หรือไม่​ ​พูดคุย​กัน​เรื่อง​ทั่วไป​

ปินจ​วี​๋​จึง​รู้ทัน​ที​ว่า​ตัวเอง​คิดผิด

ฮู​หยิน​แค่​กลัว​ว่า​ลูก​ๆ​ ​จะ​อึดอัด​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​นาง

ทันใดนั้น​นาง​ก็​รู้สึก​ไม่สบายใจ​

ฮู​หยิน​ใจดี​กับ​พวกเขา​ ​เพราะฮู​หยิน​เป็น​คน​มี​เมตตา​ ​หาก​พวกเขา​ไม่รู้​จัก​ผิด​ชอบ​ชั่ว​ดี​ ​คิด​ว่า​ตัวเอง​สามารถ​ทำ​อะไร​ต่อหน้า​เจ้านาย​ก็ได้​ ​คนอื่น​เห็น​เช่นนี้​ ​ไม่เพียงแต่​จะ​หัวเราะเยาะ​ว่าฮู​หยิน​ไม่รู้​จัก​สั่งสอน​คน​ของ​ตัวเอง​ ​แล้วยัง​จะ​หัวเราะเยาะ​ว่า​พวกเขา​เย่อหยิ่ง​ ​ไม่​หัด​ดูตัว​เอง​

ต้องหา​ทาง​เรียก​บุตร​ทั้งสอง​คน​กลับมา

บุตรชาย​ของ​ตน​โต​ใน​ป่า​เขา​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เลี้ยง​นก​เลี้ยง​สุนัข​เก่ง​ ​แต่ว่า​สิ่งของ​ใน​สวนดอกไม้​หลัง​จวน​คือ​สิ่งของ​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​ ​หาก​คุณชาย​น้อย​หก​ไม่​พยักหน้า​อนุญาต​ ​พวกเขา​แตะต้อง​อะไร​ตามอำเภอใจ​ ​คงจะ​ไม่​เป็นการ​ดี​

ขณะที่​นาง​กำลัง​ครุ่นคิด​ ​ก็ได้​ยิน​เสียง​อยากรู้อยากเห็น​ของ​จิ​่น​เกอ​ดัง​เข้ามา​จาก​นอก​หน้าต่าง​ ​“​เจ้า​คือ​ฉั​งอาน​ไม่ใช่​หรือ​ ​เหตุใด​ถึง​มายื​นอยู​่​ใต้​ชายคา​เรือน​ของ​ข้า​ได้​”

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็ได้​ยิน​เช่นกัน

ทุกคน​คิดไม่ถึง​ว่า​เด็ก​สอง​คน​นี้​ไม่ได้​ไป​สวนดอกไม้​หลัง​จวน​ ​แต่กลับ​ยืน​อยู่​ใต้​ชายคา​ ​พวก​นาง​จึง​เอียงหู​ฟัง​ ​อยาก​ฟัง​ว่า​ฉั​งอาน​จะ​ตอบ​เช่นไร​

ทันใดนั้น​ ​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​ก็​เงียบสงัด​จนได้​ยิน​เสียง​เข็ม​ตก

“​มารดา​ของ​บ่าว​มาคา​รวะฮู​หยิน​ขอรับ​”​ ​ฉั​งอา​นพู​ดอย​่าง​นิ่ง​สงบ​ ​เสียง​ไม่เบา​และ​ไม่​ดัง​จน​เกินไป​ ​แล้วยัง​ฉะฉาน​ ​“ฮู​หยิน​กับ​มารดา​ของ​บ่าว​กำลัง​พูดคุย​กัน​ ​พวกเรา​จึง​มายื​นร​อนา​งอยู​่​ตรงนี้​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​ ​บ่าว​คารวะ​ท่าน​ขอรับ​!​”

สือ​อี​เหนียง​รีบ​หันไป​มอง​นอก​หน้าต่าง​ ​ก็​เห็น​ฉั​งอา​นพา​ฉัง​ซุ่น​คารวะ​จิ​่น​เกอ

จิ​่น​เกอ​ไม่สน​ใจ​ ​เขา​จับมือ​ฉั​งอาน​ด้วย​ความดีใจ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​มา​ได้​ถูก​เวลา​พอดี​!​ ​ข้า​กับ​น้อง​เจ็ด​อยาก​เตะ​ลูก​หนัง​ ​พี่​สี่​ออก​ไป​กับ​ท่าน​พ่อ​แล้ว​ ​ส่วน​พี่​ห้า​ต้อง​ฝึก​เขียน​ตัวหนังสือ​ ​เจ้า​ไป​เล่น​กับ​พวก​ข้า​เถิด​!​”​ ​พูด​จบ​เขา​ก็​จะ​ลาก​ตัว​ฉั​งอา​นอ​อก​ไป

แต่​ฉั​งอา​นก​ลับ​สะบัด​มือ​จิ​่น​เกอ​ ​โค้ง​คำนับ​แล้ว​พูด​ปฏิเสธ​ว่า​ ​“​บ่าว​เตะ​ลูก​หนัง​ไม่​เป็น​ ​บ่าว​คอย​เก็บ​ลูก​หนัง​ให้​คุณชาย​น้อย​หก​ดีกว่า​ขอรับ​!​”

จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​เบิกตา​กว้าง​ ​“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​เตะ​ลูก​หนัง​ไม่​เป็น​ ​ครั้งก่อน​เจ้า​ยัง​ไป​เตะ​ลูก​หนัง​กับ​ข้า​อยู่​เลย​ไม่ใช่​หรือ​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​ท่าทาง​เหมือน​นึก​อะไร​ขึ้น​มา​ได้​ ​“​เจ้า​กลับบ้าน​แล้ว​ไม่มี​ลูก​หนัง​เตะ​ใช่​หรือไม่​ ​ดังนั้น​เจ้า​เลย​ลืม​ ​ไม่เป็นไร​ ​ประเดี๋ยว​ข้าม​อบ​ลูก​หนัง​ให้​เจ้า​ลูก​หนึ่ง​ ​ให้​เจ้า​นำ​กลับ​ไป​ฝึก​เตะ​ที่​บ้าน​ ​เมื่อ​เจ้า​มาคา​รวะ​มารดา​ของ​ข้า​อีกครั้ง​ ​เจ้า​ก็​จะ​ได้​ไป​เตะ​ลูก​หนัง​กับ​ข้า​”​ ​ยิ่ง​พูด​เขา​ก็​ยิ่ง​คิด​ว่าความ​คิด​ของ​ตัวเอง​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ​เขา​รีบ​พูด​กับ​หวง​เสี่ยว​เหมา​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​“​ไป​นำ​ลูก​หนัง​มา​ให้​ฉั​งอาน​เร็ว​เข้า​!​”

ฉั​งอาน​ตกใจ

หวง​เสี่ยว​เหมา​ขานรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

ฉั​งอา​นม​อง​ดู​แผ่น​หลัง​ของ​หวง​เสี่ยว​เหมา​แล้ว​ขยับ​มุม​ปาก​ ​แต่​สุดท้าย​กลับ​ไม่​พูด​อะไร​ ​เขา​พูด​ขอบคุณ​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ​

จิ​่น​เกอ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ตอนนี้​เจ้า​ไป​เตะ​ลูก​หนัง​กับ​ข้า​ได้​แล้ว​ใช่​หรือไม่​”

แต่​ฉั​งอาน​ยังคง​ส่ายหน้า​เบา​ๆ​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​ ​บ่าว​ต้อง​รอมา​รดา​อยู่​ตรงนี้​ขอรับ​!​”

“​บอก​ให้​สาวใช้​น้อย​ไปรา​ยงา​นก​็​ได้​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​หมด​ความอดทน

ฉั​งอา​นพูด​ ​“​บ่าว​ยัง​ต้อง​ดูแล​น้องชาย​อีก​ขอรับ​!​”

จิ​่น​เกอ​จึง​เรียก​อาจิน​ที่อยู่​ข้างหลัง​ ​“​เจ้า​ช่วย​ฉั​งอาน​ดูแล​ฉัง​ซุ่น​!​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​ไป​เร็ว​ ​น้อง​เจ็ด​กำลัง​รอ​อยู่​ที่​สวนดอกไม้​หลัง​จวน​!​”

ฉั​งอาน​สะบัด​มือ​จิ​่น​เกอ​อีกครั้ง​ ​“​บ่าว​ไป​ไม่ได้​ขอรับ​!​”

จิ​่น​เกอ​เบิกตา​กว้าง​แล้ว​มอง​ฉั​งอาน​ด้วย​สีหน้า​ที่​ตกใจ

เขา​โตมา​จนถึง​ทุกวันนี้​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​มี​คน​ปฏิเสธ​เขา​แบบนี้​

ฉั​งอา​นก​้​มห​น้า​ลง

ฉัง​ซุ่น​เกรงกลัว​จิ​่น​เกอ​ ​รีบ​เดิน​ไป​หลบ​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​พี่ชาย​ตัวเอง

ฉั​งอา​นก​อด​ฉัง​ซุ่น​แล้ว​พูด​ปลอบ​เขา​

“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​เด็ก​คน​นี้​ ​ถูก​พ่อ​สามี​สั่งสอน​จน​ดื้อรั้น​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ปินจ​วี​๋​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​เตียง​เตา​หน้าแดง​ก่ำ​ ​นาง​รีบ​พูด​ด้วย​ความรู้สึกผิด​ ​“​บ่าว​จะ​ออก​ไป​บอก​เขา​ประเดี๋ยวนี้​”

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ดังนั้น​ก็​ตกใจ​ ​รีบ​โบกมือ​ห้าม​ปินจ​วี​๋​ ​“​ไม่เป็นไร​!​”​ ​นาง​อยาก​ดู​ว่า​ประเดี๋ยว​ฉั​งอาน​จะ​ทำ​อย่างไร​ต่อ​

“​เจ้า​ ​เจ้า​ ​เจ้า​…​”​ ​จิ​่น​เกอ​โมโห​จน​หน้าแดง​ ​“​ข้า​ออกปาก​ชวน​เจ้า​ไป​เล่น​กับ​ข้า​ ​แต่​เจ้า​กลับ​ปฏิเสธ​…​”​ ​เขา​ถาม​ฉั​งอาน​ด้วย​ความโมโห​ ​“​เจ้า​จะ​ไป​หรือไม่​ไป​”

ทำท่า​ที​ราวกับว่า​ ​หาก​เจ้า​ไม่​ไป​ ​เจ้า​เห็นดี​แน่

ฉั​งอา​นพูด​เบา​ๆ​ ​“​ปู่​ของ​บ่าว​บอกว่า​ ​มาคา​รวะฮู​หยิน​ต้อง​ปฏิบัติตาม​กฎเกณฑ์​ ​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​ไม่ได้​ ​วิ่ง​ไปร​อบ​ๆ​ ​ก็​ไม่ได้​…​”

จิ​่น​เกอ​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​พวก​นี้​ ​ไม่​รอ​ให้​ฉั​งอา​นพูด​จบ​ ​ก็​จับจ้อง​ฉั​งอาน​แล้ว​ถาม​ว่า​ ​“​เจ้า​จะ​ไป​หรือไม่​ไป​”​ ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ดู​ขึงขัง

ท่าน​แม่​เคย​บอกว่า​ ​หาก​เจอ​กับ​คุณชาย​น้อย​หก​ต้อง​เคารพ​เชื่อฟัง​เขา​!

สีหน้า​ของ​ฉั​งอาน​เริ่ม​ปรากฏ​ความลังเลใจ​

จิ​่น​เกอ​กระทืบเท้า​พลาง​ตะโกน​ใส่​หลิว​เอ้อร​์​อู่​ ​“​จับ​เขา​เฆี่ยน​สิบ​ที​!​ ​ดู​ว่า​เขา​ยัง​จะ​ไม่​ฟัง​คำสั่ง​ของ​ข้า​หรือไม่​!​”

ไม่ต้อง​พูดถึง​หลิว​เอ้อร​์​อู่​ ​แม้แต่​คนใน​ห้อง​ก็​ยัง​ตกใจ​กับ​คำพูด​ของ​จิ​่น​เกอ

ปินจ​วี​๋​รีบ​พูดว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​บ่าว​จะ​ออก​ไป​ขอขมา​คุณชาย​น้อย​หก​ประเดี๋ยวนี้​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​ห้าม​นาง​เอาไว้​อีกครั้ง​ ​“​เรื่อง​ของ​เด็ก​ๆ​ ​ปล่อย​ให้​พวกเขา​จัดการ​เอง​เถิด​ ​ผู้ใหญ่​อย่าง​เรา​อย่า​เข้าไป​ยุ่ง​เลย​!​”​ ​นาง​ยังคง​นั่ง​ฟัง​อยู่​ตรงนั้น

ปินจ​วี​๋​มอง​ไป​ที่​หู่​พั่ว​ด้วย​สายตา​ขอความช่วยเหลือ

หู่​พั่ว​ก็​ไม่รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​หมายความว่า​อะไร​ ​นาง​โบกมือ​ให้​ปินจ​วี​๋​อย่าง​ไม่มีทาง​เลือก

ปินจ​วี​๋​ไม่กล้า​ปริปาก​พูด​อะไร​อีก​ ​นาง​ยืน​อยู่​ข้าง​สือ​อี​เหนียง​อย่าง​เป็นกังวล

หลิว​เอ้อร​์​อู่​ตกใจ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ไม่นาน​ก็ได้​สติก​ลับ​มา​ ​เขา​ขยิบตา​ให้​หวง​เสี่ยว​เหมา​แล้ว​ขานรับ​เสียงดัง​ ​พับ​แขน​เสื้อ​ตัวเอง​ขึ้น​ช้าๆ​ ​แล้ว​ตะโกน​เสียงดัง​ ​“​ใคร​บอก​ให้​เจ้า​ไม่​ฟัง​คำสั่ง​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​”

หวง​เสี่ยว​เหมา​ก็​เข้าใจ​ในทันที

ที่นี่​คือ​ใต้​หลังคาเรือนฮู​หยิน​ ​พวกเขา​เสียงดัง​เช่นนี้​ ฮู​หยิน​ได้ยิน​ก็​ต้อง​ออกมา​แน่นอน​ ​ถึง​ตอนนั้น​จะ​จัดการ​อย่างไร​ ​ก็​ให้ฮู​หยิน​เป็น​คน​ตัดสินใจ​

เขา​เลย​พับ​แขน​เสื้อ​ตัวเอง​ตาม​หลิว​เอ้อร​์​อู่​แล้ว​ตะโกน​เสียงดัง​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​บอก​ให้​เจ้า​ไป​เล่น​ด้วย​ ​เพราะ​เห็นแก่หน้า​เจ้า​ ​แต่​เจ้า​กลับ​กล้า​ปฏิเสธ​คุณชาย​น้อย​หก​ ​ต้อง​จับ​พวก​เจ้า​มัด​แล้ว​เฆี่ยน​สัก​สิบ​ที​”

กังวล​มากเกินไป​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่​ดี

ปินจ​วี​๋​แอบ​ตำหนิ​พ่อ​สามี​ตัวเอง​ใน​ใจ

สั่งสอน​หน้าที่​อะไร​ให้​ฉั​งอาน​ทั้งวัน​ ​เล่น​กับ​คุณชาย​น้อย​หก​ก็​คือ​หน้าที่​ของ​เขา​ไม่ใช่​หรือ​ ​หาก​เขา​ถูก​เฆี่ยน​สิบ​ที​จริงๆ​…

คิด​เช่นนี้​นาง​ก็​เจ็บปวด​หัวใจ​ราวกับ​ถู​ดมี​ดก​รีด​ ​น้ำตา​เริ่ม​คลอ​เบ้า​ ​แต่​หาง​ตากลับ​เหลือบ​ไป​เห็นฮู​หยิน​ ​นาง​จึง​ไม่กล้า​ร้องไห้

หู่​พั่ว​เห็น​เช่นนี้​ก็​เดิน​เข้าไป​ดึง​แขน​เสื้อ​ปินจ​วี​๋​เบา​ๆ​ ​แล้ว​ชี้​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​ที่นั่ง​อยู่​บน​เตียง​เตา​ ​นาง​สะบัด​มือ​แล้ว​ยิ้ม​เงียบๆ

สายตา​ของ​ปินจ​วี​๋​มี​ความ​สับสน

หู่​พั่ว​เห็น​เช่นนี้​ก็​ถอนหายใจ

ปินจ​วี​๋​คน​นี้​ ​ไม่​ค่อย​มีไหวพริบ​สัก​เท่าไร

หู่​พั่ว​จึง​กระซิบ​เบา​ๆ​ ​“ฮู​หยิน​จะ​ปล่อย​ให้​ฉั​งอาน​ถูก​เฆี่ยน​ได้​เช่นไร​!​”

คำพูด​ประโยค​เดียว​ทำให้​ปินจ​วี​๋​ได้สติ​กลับมา​ ​ปินจ​วี​๋​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​จากนั้น​ก็​เขย่ง​เท้า​มองออก​ไป​ตาม​สือ​อี​เหนียง

หวง​เสี่ยว​เหมา​และ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​เอะอะโวยวาย​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ห้อง​หลัก​ก็​ไม่มี​การเคลื่อนไหว​อะไร​ ​พวกเขา​สอง​คน​เป็นกังวล​ขึ้น​มา​ ​แต่​ก็​ไม่กล้า​ทำตาม​ที่​จิ​่น​เกอ​สั่ง​ ​เขา​เดิน​เข้าไป​บิด​แขน​ฉั​งอาน​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​ยอมรับผิด​เถิด​ ​คุณชาย​น้อย​หก​ไม่ใช่​คน​ไม่มีเหตุผล​!​”

ฉั​งอา​นมี​สีหน้า​ไม่สบายใจ​ ​ฉัง​ซุ่น​เห็น​เช่นนี้​ก็​กอด​เอว​พี่ชาย​ตัวเอง​แล้ว​ร้องไห้​ ​เขา​ร้องไห้​พร้อมกับ​เตะ​หวง​เสี่ยว​เหมา​และ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​ ​“​อย่า​รังแก​พี่ชาย​ของ​ข้า​ ​อย่า​รังแก​พี่ชาย​ของ​ข้า​!​”

แต่​โชคดี​ที่​ฉัง​ซุ่น​มักจะ​ถูก​ปินจ​วี​๋​ตามใจ​จน​เคยตัว​ ​เขา​แรง​ไม่​มาก​นัก​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​หวง​เสี่ยว​เหมา​และ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​ไม่เพียงแต่​จับ​พวกเขา​ไม่ได้​ ​แล้ว​ตัวเอง​ยัง​จะ​ถูก​เตะ​จน​เจ็บตัว​

ฉั​งอา​นรีบ​เรียก​น้องชาย​ตัวเอง​ ​“​ห้าม​เตะ​คนอื่น​!​ ​ไม่เช่นนั้น​จะ​ไม่​พา​เจ้า​ออก​ไปเที่ยว​อีก​!​”

ฉัง​ซุ่น​ร้องไห้​เสียงดัง

จิ​่น​เกอ​มองดู​ฉั​งอา​นที​่​ยอม​ปล่อย​ให้​หวง​เสี่ยว​เหมา​และ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​บิด​แขน​ตัวเอง​ ​แล้วก็​มองดู​ฉัง​ซุ่น​ที่​ร้องไห้​ ​สีหน้า​ของ​เขา​เริ่ม​ลังเล​ ​“​เจ้า​…​หาก​เจ้า​ตอบ​ตกลง​ว่า​จะ​ไป​เล่น​กับ​ข้า​ ​ข้า​จะ​ไม่​ให้​พวกเขา​เฆี่ยน​เจ้า​!​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​รู้สึก​ผิด

ถึงแม้ว่า​ฉั​งอาน​จะ​เป็น​บุตร​ของ​บ่าว​รับใช้​ ​แต่​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​รู้ดี​ว่าว​่าน​ต้า​เสี่ยน​เป็น​ผู้ดูแล​ที่​มีหน้ามีตา​ใน​จวน​ ​ปินจ​วี​๋​มารดา​ของ​เขา​ก็​เคย​รับใช้​สือ​อี​เหนียง​มาก​่อน​ ​ลุง​คนที​่​สอง​เป็น​ผู้ดูแล​ไร่​ของ​สกุล​สวีที​่​เป่า​ติ้ง​ ​แต่งงาน​กับ​หลานสาว​ของ​ผู้ดูแล​จ้าว​ฝ่าย​รายงาน​ ​ส่วน​อา​หญิง​ของ​เขา​ก็​เป็น​บ่าว​รับใช้​ใน​เรือน​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​แล้ว​อีก​อย่าง​ ​ครอบครัว​สกุล​ว่าน​ก็​ยัง​เป็น​ครอบครัว​อ่อนน้อม​ถ่อมตน​ ​ทุกคน​ล้วน​ชื่นชอบ​พวกเขา​ ​ฉั​งอาน​และ​ฉัง​ซุ่น​จึง​มีหน้ามีตา​มากกว่า​เด็ก​ทั่วไป​ ​ไม่เคย​มี​ใคร​ทำ​เช่นนี้​กับ​พวกเขา​ ​จิ​่น​เกอ​จึง​รู้สึก​หวาดกลัว​

“​ปู่​ของ​บ่าว​ไม่​ให้​บ่าว​เล่น​กับ​คุณชาย​น้อย​หก​ขอรับ​!​”​ ​ฉั​งอา​นพูด​เสียง​เบา​ ​“​บอกว่า​สถานะ​เรา​แตกต่าง​กัน​ ​ต้อง​ปฏิบัติตาม​กฎเกณฑ์​…​หาก​ไม่มี​กฎเกณฑ์​ ​ทำ​อะไร​ก็​ไม่มีทาง​สำเร็จ​…​”​ ​เขา​พูด​คำพูด​ของ​ว่าน​อี้​จง​อีกครั้ง​ ​จิตใจ​ของ​เขา​ค่อยๆ​ ​หนักแน่น​ขึ้น​ ​“​ให้​บ่าว​ช่วย​คุณชาย​น้อย​หก​เก็บ​ลูก​หนัง​ดีกว่า​ขอรับ​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท